Skip to main content

เมื่อปลายปีที่แล้ว (2 ธันวาคม 2551)ได้ฤกษ์เปิดตัวหนังสือ GENDER ออกเผยแพร่เพื่อประชาชน เพื่อการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์ ทั้งชายจริง หญิงแท้และโดยเฉพาะกลุ่มหลากหลายทางเพศ ซึ่งจัดพิมพ์โดย สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดเพราะเนื้อหาสาระคับเล่มเต็มไปด้วยความรู้ และบันเทิงเชิงวิชาการที่ผสมผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ สังคมวิทยา และมานุษยวิทยา ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น ผลงานของ นางกัลยา ลักษณเกียรติ, นางวินิดา ชวนางกูร, น.ส.เพลินพิศ พรหมมะลิ, นางนภาพร วิบูลยานนท์, นายภักดี ศรีสุวรรณ, นายสุเชษฐ นาคเอี่ยม และนายบุญยะฤทธิ์ มาบกลาง

งานนี้เค้าเปิดตัวอย่างอลังการ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยวันนั้นนายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ Gender: ความหลากหลายทางเพศซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของการรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก (1 ธันวาคม 2551) ว่า กรมควบคุมโรคได้จัดทำแผนยุทธ์ศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ.2550-2554 โดยเน้นการบูรณาการป้องกัน ดูแล รักษา และลดผลกระทบในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย เพื่อลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่งจากที่เคยคาดประมาณ ไว้ ซึ่งจำเป็นจะต้องสร้างกระบวนการที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศที่ ปลอดภัยในการป้องกันเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่ยั่งยืน โดยบูรณาการรูปแบบวิธีการดำเนินการต่างๆ ทั้งการให้องค์ความรู้เชิงวิชาการ การทำงานเชิงสังคมทุกรูปแบบ การให้คำปรึกษาแนะนำทางโทรศัพท์ การช่วยเหลือด้านกฎหมาย สิทธิทางสังคม การพัฒนาศักยภาพของตนเองและผู้ทำงานเกี่ยวกับชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย โดยการสร้างสื่อที่มีสาระเนื้อหาที่ตรงใจภายใต้ฐานคิดและช่องทางการสื่อสาร ความรู้ด้านสุขภาพ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายซึ่งมีวิถีเฉพาะ อีกทั้งยังถูกตีตราและซ่อนเร้น

นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการศึกษาต่างๆทั่วโลก พบว่าประมาณร้อยละ 2-10 ของผู้ชาย เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ที่สำคัญมีหลายเหตุผลที่อธิบายได้ว่า ทำไมชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย อาจมีความต้องการทางเพศสูงชายรักหญิงหรือมากกว่าหญิง โดยที่บางคนอาจเลือกมีความสัมพันธ์แบบเปิด คือการที่ต่างคนต่างสามารถมีเซ็กส์กับคนอื่น โดยคู่ที่มีความสัมพันธ์แบบเปิดนี้มักใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ด้วยกัน ขณะที่คู่ที่รักเดียวใจเดียวมักจะหยุดใช้ถุงยางอนามัยเมื่อคบกันไประยะหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายแอบไปมีความสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ป้องกันกับคนอื่น
 

 


ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมี แนวโน้มสูงขึ้นในปีพ.ศ.2546 ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครพบอัตราการติดเชื้อเอชไอวีร้อยละ 17.3 และเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 28.3 และ 30.7 ในปีพ.ศ. 2548 และ 2550 นอกจากนี้การสำรวจในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่และภูเก็ต พบว่าการติดเชื้อเอชไอวีก็มีอัตราสูงขึ้นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมีอัตราการใช้ถุงยางอนามัย กับคู่ฉาบฉวย หรือคนรักต่ำกว่าร้อยละ 50 และกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่ทำการเฝ้าระวังนี้ ยังมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันเอดส์ค่อนข้างต่ำอีกด้วย สะท้อนให้เห็นได้ว่ากลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายนอกจากจะมีความสำคัญใน เชิงสังคมแล้ว ยังมีความสำคัญในมิติเชิงสุขภาพด้วยโดยเฉพาะในด้านโรคเอดส์


ทางด้านแพทย์หญิงพัชรา ศิริวงศ์รังสรร ผู้อำนวยการโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กล่าวเพิ่มเติม ว่า การทำโครงการเสริมสร้างความเข้าใจในสุขภาวะทางเพศสำหรับชายที่มีเพศสัมพันธ์ กับชาย ภายใต้บริบทของการสื่อสารผ่านตัวหนังสือในลักษณะของการเล่าเรื่อง และพูดคุยด้วยภาษา และวิถีเฉพาะของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายเพื่อสร้างความเข้าใจ และสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากเอดส์และโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตหนังสือกึ่งนิตยสารเชิงวิชาการที่ผสมผสานความรู้ ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพสังคมวิทยารวมถึงมานุษวิทยาที่ตั้งใจนำเกร็ดความรู้ สู่กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศให้รู้เท่าทันเอดส์ เนื้อหาสาระประกอบด้วยการพูดคุยในลักษณะการเล่าเรื่องและโน้มนำสู่การ ปฏิบัติเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยผ่านประสบการณ์ตรงอย่างเข้าใจของผู้ มีวิถีการดำเนินชีวิตเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย พร้อมสอดแทรกความรู้เพื่อ การเพื่อการป้องกันโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จำนวน 15,000 เล่ม ซึ่งหนังสือ Gender จะเป็นคู่มือ เป็นเกราะป้องกันที่ดี เป็นแหล่งความรู้ ความเข้าใจ และเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญที่เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศชาย เพศหญิง เพศที่สาม จะได้ร่วมมือ ร่วมใจกัน ร่วมสร้างพลังเพื่อป้องกันโรคเอดส์ให้หมดไปจากประเทศไทยและโลกของในอนาคต

 

 

 

ในวันเปิดตัวหนังสือ Gender ได้มีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากวง Ten Eleven การแสดงคาบาเร่ย์โชว์จากทีมคุณนก ยลลดา เกริก-ก้อง สวนยศ การแสดงละครสะท้อนเกย์ โดยกลุ่มดอกไม้แห่งความบันเทิง และการเดินสายประชา- สัมพันธ์ในรูปแบบ Road Show และแจกหนังสือตามสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของกลุ่มชายที่มีเพศ- สัมพันธ์กับชาย เช่น สถานบริการ สถานบันเทิง สถานออกกำลังกาย รวม 5 วัน โดยมีบุคคลในวงการมากันอย่างคับคั่ง


Gender เป็นหนังสือที่น่าอ่าน และเข้าใจได้ง่าย เข้าถึงทุกเพศ
ไม่ว่าจะเป็นเพศชาย เพศหญิง หรือเพศที่สาม แต่ละเรื่องน่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับคุณด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ขอยกตัวอย่างบางตอนเด็ด ๆ ที่กล่าวถึง อาทิ


ประวัติศาสตร์ ‘เกย์' ในไทย


คุณจะได้ทราบว่าประวัติศาตร์เกย์ในเมืองไทยเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกใบ้นิดนึงเค้าเล่าว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ รัชกาลที่ 3 กล่าวไว้ว่า พฤติกรรมรักร่วมเพศของกรมหลวงรักษ์รณเรศ เสนาบดีผู้ใหญ่ว่าเป็นผู้รักสองเพศ แต่นิยมชายมากกว่า เพราะไม่ยุ่งเกี่ยวกับภรรยาอีกเลยตั้งแต่คลุกคลีกับนายละครที่เป็นผู้ชาย ส่วนที่วัดคงคาราม จ.ราชบุรี มีจิตรกรรมฝาหนังแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับรักร่วมเพศเช่นกัน การเริ่มต้นใช้คำว่า ‘เกย์' ในสังคมไทนมีขึ้นครั้งแรกในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยเมื่อเดือน ต.ค. พ.ศ.2508 แต่ในด้านของความหมายนั้น หมายถึง กลุ่มชายรักชาย


ทำไมเราถึงเป็นเกย์


ซีโมน เดอ โบวัวร์ กล่าวไว้ในหนังสือ The Secound Sex ว่า "ผู้หญิงไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง แต่ถูกทำให้กลายเป็นผู้หญิง" เช่นถ้าเราให้ความหมายของ ‘สี' ว่าผู้หญิงต้องคู่กับสีชมพู ส่วนผู้ชายต้องคู่กับสีฟ้า แล้วเราปล่อยเด็กผู้หญิงสักคนไว้ที่เกาะแห่งหนึ่งซึ่งไม่เคยรับรู้การให้ความหมายของสีเหล่านี้เลย แน่นอนว่าเธอจะไม่เข้าใจเลยว่าสีชมพูเกี่ยวอะไรกับ ‘ความเป็นหญิง' ตัวของเราจึงเป็นผลผลิตทางชีววิทยาและสังคมที่หลอมรวมให้เป็นตัวเป็นตนเป็นคนแบบนี้ขึ้นมา

โลกของเกย์กับไซเบอร์สเปซ


ในโลกของเกย์ อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิต สังคม และวัฒนธรรมอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน แต่ไหนแต่ไร ชีวิตของเกย์ เป็นชีวิตที่ต้องเดินไปในทางแตกต่างจากจารีตประเพณี ซึ่งเป็นขวากหนามปิดกั้นความคิดอารมณ์และความปรารถนา อินเตอร์เน็ตทำให้เกย์รู้ว่าจะข้ามพ้นขวากหนามไปได้อย่างไร ทำให้รู้ว่าสังคมของพวกเขากว้างมากแค่ใหน และมีเกย์อีกจำนวนมากมายในโลกนี้ที่กำลังค้นหากันและกัน

นักบริโภคนิยมในเว็บไซต์เกย์


นักการตลาดยุคใหม่ค้นพบว่ากลุ่มเกย์เป็นลูกค้าสำคัญ และการโฆษณาสินค้าในเว็บไซต์เกย์ก็เป็นช่องทางใหม่ในการหารายได้ของนายทุน จากสมมุติฐานที่ว่าเกย์เป็นผู้บริโภคที่มีศักยภาพ เพราะเป็นผู้มีการศึกษามีรายได้สูง ชอบเทคโนโลยี ใช้อินเตอร์เน็ต มีรสนิยมการบริโภคสินค้าที่ทันสมัย และแน่นอนพวกเขาใช้ชีวิตโสด ไม่มีลูกเป็นภาระผูกพันระยะยาวปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดการแข่งขันทางการตลาดในเว็บไซต์เกย์อย่างแพร่หลาย


ไซเบอร์สเปซกับการเปิดเผยตัว


หากอินเตอร์เน็ตเป็นมากกว่าชองทางสื่อสารของเกย์ เราอาจคิดว่ามันจะเป็นอะไรได้อีก การมีชีวิตแบบเกย์ไม่ว่ายุคสมัยใด คือการแสวงหาตัวตน อินเตอร์เน็ตกลายเป็นพื้นที่เพื่อการแสวงหาตัวตนของเกย์ในยุคดิจิตอล ผู้ชายบางคนเข้าเว็บไซต์เกย์เพื่อที่จะหาเพื่อนที่มีจิตใจคล้ายๆกัน เพราะรู้สึกปลอดภัย ส่วนใหญ่คนประเภทนี้เชื่อว่าสังคมภายนอกยังไม่ยอมรับเกย์ โดยเฉพาะครอบครัวและคนรอบข้าง คนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตเหมือนผู้ชายทั่วไป บางคนมีแฟนเป็นผู้หญิง

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ชองชายกับชาย


ไม่จำเป็นเสมอไปว่าคนที่ดูแมนต้องเป็นฝ่ายรุกและคนที่ดูตุ้งติ้งต้องเป็นฝ่ายรับ การทำออรัลเซ็กซ์มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเอดส์ เริม ซิฟิลิส และหนองในได้พอๆกับการสอดไส่เช่นกันหากเจ้าของปากมีแผลที่ปากและคอ และมีการหลั่งในปาก ฉะนั้น เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่คุณต้องระวังและคิดให้มาก หากคุณยังไม่พร้อม


หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคุณจะรู้ซึ้งและเข้าใจเพศพิเศษมากขึ้น สำหรับใครที่สนใจอยากได้หนังสือเล่มนี้ สามารถติดต่อรับฟรี (ย้ำอีกครั้งเผื่ออ่านข้ามว่า เล่มนี้ฟรีฮ่ะ) ได้ที่สำนักงานเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ 0-296-59567 หรือติดต่อขอรับด้วยตนเองที่ องค์กรบางกอกเรนโบว์ ซอยประดิพัทธ์ 21 เบอร์โทรศัพท์ 0-261-85635 หากใครที่อยู่ต่างจังหวัด คุณสามารถรับฟรีได้เช่นกันโดยส่งค่าEMS จำนวนเงิน 20 มาด้วยรับรองถึงแน่เจ้าค่ะ โอกาสดี ๆ หนังสือเด่น ๆ เช่นนี้พลาดไม่ได้ อย่างน้อยอ่านเสร็จแล้วก็นำไปบริจาคห้องสมุดเป็นวิทยาทานสำหรับบุคคลทั่วไปได้กุศลอีกด้วย


(ปล ของ ปล ขอบคุณข้อมูลบางส่วนและความร่วมมือจากองค์กรบางกอกเรนโบว์ และสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…