Skip to main content

ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ

\\/--break--\>

 

 

เรื่องมีอยู่ว่า

เหตุเกิดที่ห้องนอนของสามีภรรยาคู่หนึ่งกลางดึกของวันที่ไม่เป็นใจ แสงสลัว ๆ ของโคมไฟหัวเตียงทำให้เห็นภาพของร่างชายคนหนึ่งที่เป็นแขกรับเชิญในห้องนอนส่วนตัวของสามีภรรยาคู่นี้โดยไม่ได้คาดหวัง ชายแปลกหน้าที่สวมใส่ชุดที่สังเกตุสถานที่มาของชายคนนี้ได้ดีทีเดียว นั่นคือ “นักโทษชายแหกคุก” หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกเป็นเวลานานหลายปี ด้วยความจำเป็นเขาต้องหนีเข้าบ้านหลังหนึ่งเพื่อจะหาเงินและปืน แต่กลับพบกับสามีภรรยาที่กำลังร่วมทำการบ้านซึ่งกันและกัน ทันใดนั้นนักโทษชายคนนี้ก็สั่งให้ผู้ชายออกจากเตียงและมัดไว้กับเก้าอี้ ขณะที่เขามัดผู้หญิงไว้กับเตียง จึงถือโอกาสยื่นหน้าไปที่ซอกคอของหญิงคนนั้น เหมือนสัญญาณการร่วมรักจักเกิดขึ้น จากนั้นเขาก็กุลีกุจอลุกขึ้น เข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน

 

ขณะนั้นเองสามีก็กล่าวกับภรรยาว่า :

'ที่รักฟังนะ.. ชายคนนั้นเป็นนักโทษหนีคุก ดูที่เสื้อเขาซิ!

เขาอยู่ในคุกหลายปีและไม่เคยเจอผู้หญิงเลย ผมเห็นเค้าจูบที่คอคุณ

ถ้าเขาต้องการเซ็กซ์ อย่าขัดขืน หรือบ่นอะไร ทำอย่างที่เขาบอก

ชายคนนี้อันตรายมาก ถ้าทำให้เค้าโกรธ เราอาจจะถูกฆ่า เข้มแข็งไว้นะที่รัก ผมรักคุณ'

 

ภรรยาเค้ากลับตอบว่า : 'เขาไม่ได้จูบที่คอฉันหรอกที่รัก

เขาแค่กระซิบกับฉันว่าเขาเป็นเกย์ เค้าคิดว่าคุณน่ารัก และถามว่า

เรามีวาสลีน ครีมหล่อลื่นมั้ย? ฉันก็ตอบเค้าไปว่า อยู่ในห้องน้ำ เข้มแข็งไว้นะที่รัก ฉันก็รักคุณเหมือนกัน'

 

หลังจากนักโทดเข้าไปในห้องน้ำไม่เจอวาสลีน ( เพราะว่าสามีภรรยาคู่นี้ใช้หมดไปแล้วเมื่อวานอันเนื่องจากริมฝีปากแห้งผิดปกติ ยิ่งช่วงนี้ฤดูหนาวซะด้วย ริมฝีปากแตกเป็นผุยผง ) หลังจากที่เขามองหาแต่ไม่เจอ ทันใดนั้นเค้าจึงคว้าเอายาสีฟันมาแทน

 

สามีก็เลย...งานเข้า !!!

 

ในที่สุด สามีก็กลายเป็นภรรยาของนักโทษ และแล้วเรื่องนี้ก็จบลง ด้วยสามีติดใจนักโทษกลายเป็นเกย์ หนีตามนักโทษไปสุดล่าฟ้าเขียว ใช้ชีวิตในชนบทอย่างมีความสุข ยิ่งกว่าหนังเรื่อง “แตก หลัง เขา” หรือ Brokeback Mountain

 

ส่วนภรรยา คับแค้นใจมาก เจ็บปวดหัวใจเป็นยิ่งนัก ด้วยความโมโห อยากจะขอเจออีกสักครั้งเพื่อขอเคลียร์ เลยไปตามหาอดีตสามีเเละนักโทษคนนั้น สุดล่าฟ้าเขียว (เช่นกัน)..ซึ่งโลกก้อไม่ได้กว้างเกินไปสำหรับเธอ.. (ออกจะน้ำเน่าติดจอนิ๊ด ๆ นะฮ้า)

 

แน่นอนที่สุดเธอเจอสามี(เก่า) กำลังจ่ายตังค์ค่าวาสลีนที่เคาน์เตอร์ในร้านสะดวกซื้อชื่อดัง เธอจึงตรงเข้าไปยังหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับมาดนักสืบสาวพราวเสน่ห์ “ขอหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง” คาดว่าน่าจะเป็นของเกจิ อาจารย์ชื่อดัง ที่เป็นนักคิด นักเขียน เลื่องชื่อของเมืองไทยพร้อมกับควัก 11 มม.มาจ่อยิง ขมับ สามี(เก่า)ของเธอ ก่อนจะยิงเธอถามเค้าว่า

ช้านแค่อยากได้ยินจากปากของคุณเท่านั้นเองว่า คุณได้หลังแล้วลืมหน้าขนาดนี้เชียวเหรอคะ”

ด้วยความโชคดีของสามี ยังมีบุญมาหนุนนำ ทำให้กระสุนโดนแว่นตาเหล็กเด้งกระดอนเสียงสะท้อนก้องเจ็ดป่าช้า เค้ารอดได้ครั้งนี้

 

ทันใดนั้นสายตรวจเข้ามาหลังเกิดเหตุทันที เธอมอบตัวให้กับตำรวจ พร้อมน้ำตาไหลเต็มหน้าอย่างไม่หยุด และสองมือที่เปื้อนด้วยเลือกสาดกระเด็น เธอพร่ำบ่นแต่ว่าเธอเสียใจที่ทำไปโดยไม่คิด จิตไม่ได้กรอง 

 

สุดท้ายเธอต้องติดคุกอันหลีกหนีกฎหมายบ้านเมืองไม่ได้ โทษฐานเจตนาฆ่า.. ไม่มีใครเป็นแพะเหมือนในโลกของความเป็นจริง ..เเละเธอก็ได้ค้นพบว่า..ที่จริงเเล้ว ตัวเธอเองก็มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน (ที่ไม่ใช่เบนโล) ไม่ใช่น้อย ... “รักแท้แพ้ใกล้ชิด” เธอค้นพบแล้วว่า เสียงหัวใจของเธอเรียกร้อง มองหา... “ทอม” เธอชอบทอมที่อยู่ในคุกมาก..ยิ่งทอมหน้าหื่น ๆ สันดานโหดๆ เธอติดใจยิ่งนัก

 

สามีเก่าของเธอใช้ชีวิตอยู่กับชายที่หนีออกจากคุก อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะเกรงว่า อดีตศรีภรรยาจะมาไล่ล่าชีวิตคืน

 

 

9 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก สามีและนักโทษแหกคุก จึงไปเปลี่ยนชื่อและนามสกุล พร้อมกับไปพึ่งพาความหล่อและสวยเลือกได้ โดยอาศัยมีดหมอ ผ่าตัดหมดทุกส่วนของร่างกาย จากสีผิวเกรียมเป็นขาวดังปุยนุ่น ยิ่งกว่าไมเคิ้ล แจ็คสันเสียอีก

 

ผ่าอะไรบ้าง

ผ่าหมดล่ะฮ่ะ

ตั้งแต่หน้า...ไปจนถึง...

ผ่ายังไง ผ่ายันฮี ก็บอกแล้วผ่าถึงยันฮี ผ่าตั้งแต่หน้า...ยัน ...ฮี

 

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาจึงไปติดต่อขออนุญาตรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงดู

9 ปีผ่านไป ไวเหมือนกันแต่ไม่อยากโกหกซ้ำซ้อน

 

เหมือนมีกรรมตามสนอง เขาและเขาทั้งสอง สร้างกรรมทำร้ายจิตใจผู้หญิงไว้มาก

ฮอร์โมน และผลข้างเคียงของยาที่ทาน เพื่อศัลยกรรมกาย ทำให้ชายสองคนนี้มีปัญหาทางจิต

เห็นเด็กบุญธรรมที่นำมาเลี้ยงเหมือนหมูหัน ทั้งฆ่าและหั่นศพและวิญญาณของเด็กน้อยตามหลอกหลอน จนพวกเขาทั้งสอง อยู่ไม่ได้ต้องไปมอบตัว ที่สถานีตำรวจภูธร พวกเค้าจึงเข้าคุก และแล้วทั้งสองก็หนีออกจากคุก โดยเริ่มต้นขึ้นบ้านเพื่อไปปล้นเอาตังค์และปืน...


เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่อยากแต่งต่อแล้วฮ่า

 

นวนิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... บ้าเหรอตัวเอง ดูแลตัวเองด้วยนะ สิ่งที่คุณเห็นอาจจะคิดว่าใช่ สิ่งที่ซ่อนไว้คุณอาจจะไม่รู้ อย่าดูคน หรือดูชายแค่ภายนอก และที่สำคัญ...ที่สุดเลยนะฮะ อย่าเห็นผู้ชายดีกว่าคุณงามความดี ทำอะไรโดยไม่คิด ผลผิดก็ตกเป็นกรรมที่ต้องตามสนอง ขอติงนิ๊ดนึงว่า ถ้าคนรักของเราเค้าเปลี่ยนไปจริง ๆ ...อย่าได้ง้อ ขออย่าได้รื้อรั้งเค้าไว้ เพราะเราจะได้แต่กายแต่ใจเค้าไม่กลับมา เพราะต้องเข้าใจว่าโลกที่หมุนในทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ จงยอมรับสภาพความเป็นจริง ใช้สติและปัญญา แก้ปัญหา อย่าทำผิดกฎหมาย หากทำผิดแล้วไซร้ เคราะห์ร้ายจักตามมาพาไปกินข้าวแดง

 

ชาน่าเรียบเรียงเรื่องโดยได้แรงบันดาลใจจาก fw mail และการสนองนิ๊ดส์ส่วนบุคคล

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…