Skip to main content

ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ

\\/--break--\>

 

 

เรื่องมีอยู่ว่า

เหตุเกิดที่ห้องนอนของสามีภรรยาคู่หนึ่งกลางดึกของวันที่ไม่เป็นใจ แสงสลัว ๆ ของโคมไฟหัวเตียงทำให้เห็นภาพของร่างชายคนหนึ่งที่เป็นแขกรับเชิญในห้องนอนส่วนตัวของสามีภรรยาคู่นี้โดยไม่ได้คาดหวัง ชายแปลกหน้าที่สวมใส่ชุดที่สังเกตุสถานที่มาของชายคนนี้ได้ดีทีเดียว นั่นคือ “นักโทษชายแหกคุก” หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกเป็นเวลานานหลายปี ด้วยความจำเป็นเขาต้องหนีเข้าบ้านหลังหนึ่งเพื่อจะหาเงินและปืน แต่กลับพบกับสามีภรรยาที่กำลังร่วมทำการบ้านซึ่งกันและกัน ทันใดนั้นนักโทษชายคนนี้ก็สั่งให้ผู้ชายออกจากเตียงและมัดไว้กับเก้าอี้ ขณะที่เขามัดผู้หญิงไว้กับเตียง จึงถือโอกาสยื่นหน้าไปที่ซอกคอของหญิงคนนั้น เหมือนสัญญาณการร่วมรักจักเกิดขึ้น จากนั้นเขาก็กุลีกุจอลุกขึ้น เข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน

 

ขณะนั้นเองสามีก็กล่าวกับภรรยาว่า :

'ที่รักฟังนะ.. ชายคนนั้นเป็นนักโทษหนีคุก ดูที่เสื้อเขาซิ!

เขาอยู่ในคุกหลายปีและไม่เคยเจอผู้หญิงเลย ผมเห็นเค้าจูบที่คอคุณ

ถ้าเขาต้องการเซ็กซ์ อย่าขัดขืน หรือบ่นอะไร ทำอย่างที่เขาบอก

ชายคนนี้อันตรายมาก ถ้าทำให้เค้าโกรธ เราอาจจะถูกฆ่า เข้มแข็งไว้นะที่รัก ผมรักคุณ'

 

ภรรยาเค้ากลับตอบว่า : 'เขาไม่ได้จูบที่คอฉันหรอกที่รัก

เขาแค่กระซิบกับฉันว่าเขาเป็นเกย์ เค้าคิดว่าคุณน่ารัก และถามว่า

เรามีวาสลีน ครีมหล่อลื่นมั้ย? ฉันก็ตอบเค้าไปว่า อยู่ในห้องน้ำ เข้มแข็งไว้นะที่รัก ฉันก็รักคุณเหมือนกัน'

 

หลังจากนักโทดเข้าไปในห้องน้ำไม่เจอวาสลีน ( เพราะว่าสามีภรรยาคู่นี้ใช้หมดไปแล้วเมื่อวานอันเนื่องจากริมฝีปากแห้งผิดปกติ ยิ่งช่วงนี้ฤดูหนาวซะด้วย ริมฝีปากแตกเป็นผุยผง ) หลังจากที่เขามองหาแต่ไม่เจอ ทันใดนั้นเค้าจึงคว้าเอายาสีฟันมาแทน

 

สามีก็เลย...งานเข้า !!!

 

ในที่สุด สามีก็กลายเป็นภรรยาของนักโทษ และแล้วเรื่องนี้ก็จบลง ด้วยสามีติดใจนักโทษกลายเป็นเกย์ หนีตามนักโทษไปสุดล่าฟ้าเขียว ใช้ชีวิตในชนบทอย่างมีความสุข ยิ่งกว่าหนังเรื่อง “แตก หลัง เขา” หรือ Brokeback Mountain

 

ส่วนภรรยา คับแค้นใจมาก เจ็บปวดหัวใจเป็นยิ่งนัก ด้วยความโมโห อยากจะขอเจออีกสักครั้งเพื่อขอเคลียร์ เลยไปตามหาอดีตสามีเเละนักโทษคนนั้น สุดล่าฟ้าเขียว (เช่นกัน)..ซึ่งโลกก้อไม่ได้กว้างเกินไปสำหรับเธอ.. (ออกจะน้ำเน่าติดจอนิ๊ด ๆ นะฮ้า)

 

แน่นอนที่สุดเธอเจอสามี(เก่า) กำลังจ่ายตังค์ค่าวาสลีนที่เคาน์เตอร์ในร้านสะดวกซื้อชื่อดัง เธอจึงตรงเข้าไปยังหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับมาดนักสืบสาวพราวเสน่ห์ “ขอหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง” คาดว่าน่าจะเป็นของเกจิ อาจารย์ชื่อดัง ที่เป็นนักคิด นักเขียน เลื่องชื่อของเมืองไทยพร้อมกับควัก 11 มม.มาจ่อยิง ขมับ สามี(เก่า)ของเธอ ก่อนจะยิงเธอถามเค้าว่า

ช้านแค่อยากได้ยินจากปากของคุณเท่านั้นเองว่า คุณได้หลังแล้วลืมหน้าขนาดนี้เชียวเหรอคะ”

ด้วยความโชคดีของสามี ยังมีบุญมาหนุนนำ ทำให้กระสุนโดนแว่นตาเหล็กเด้งกระดอนเสียงสะท้อนก้องเจ็ดป่าช้า เค้ารอดได้ครั้งนี้

 

ทันใดนั้นสายตรวจเข้ามาหลังเกิดเหตุทันที เธอมอบตัวให้กับตำรวจ พร้อมน้ำตาไหลเต็มหน้าอย่างไม่หยุด และสองมือที่เปื้อนด้วยเลือกสาดกระเด็น เธอพร่ำบ่นแต่ว่าเธอเสียใจที่ทำไปโดยไม่คิด จิตไม่ได้กรอง 

 

สุดท้ายเธอต้องติดคุกอันหลีกหนีกฎหมายบ้านเมืองไม่ได้ โทษฐานเจตนาฆ่า.. ไม่มีใครเป็นแพะเหมือนในโลกของความเป็นจริง ..เเละเธอก็ได้ค้นพบว่า..ที่จริงเเล้ว ตัวเธอเองก็มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน (ที่ไม่ใช่เบนโล) ไม่ใช่น้อย ... “รักแท้แพ้ใกล้ชิด” เธอค้นพบแล้วว่า เสียงหัวใจของเธอเรียกร้อง มองหา... “ทอม” เธอชอบทอมที่อยู่ในคุกมาก..ยิ่งทอมหน้าหื่น ๆ สันดานโหดๆ เธอติดใจยิ่งนัก

 

สามีเก่าของเธอใช้ชีวิตอยู่กับชายที่หนีออกจากคุก อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะเกรงว่า อดีตศรีภรรยาจะมาไล่ล่าชีวิตคืน

 

 

9 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก สามีและนักโทษแหกคุก จึงไปเปลี่ยนชื่อและนามสกุล พร้อมกับไปพึ่งพาความหล่อและสวยเลือกได้ โดยอาศัยมีดหมอ ผ่าตัดหมดทุกส่วนของร่างกาย จากสีผิวเกรียมเป็นขาวดังปุยนุ่น ยิ่งกว่าไมเคิ้ล แจ็คสันเสียอีก

 

ผ่าอะไรบ้าง

ผ่าหมดล่ะฮ่ะ

ตั้งแต่หน้า...ไปจนถึง...

ผ่ายังไง ผ่ายันฮี ก็บอกแล้วผ่าถึงยันฮี ผ่าตั้งแต่หน้า...ยัน ...ฮี

 

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาจึงไปติดต่อขออนุญาตรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงดู

9 ปีผ่านไป ไวเหมือนกันแต่ไม่อยากโกหกซ้ำซ้อน

 

เหมือนมีกรรมตามสนอง เขาและเขาทั้งสอง สร้างกรรมทำร้ายจิตใจผู้หญิงไว้มาก

ฮอร์โมน และผลข้างเคียงของยาที่ทาน เพื่อศัลยกรรมกาย ทำให้ชายสองคนนี้มีปัญหาทางจิต

เห็นเด็กบุญธรรมที่นำมาเลี้ยงเหมือนหมูหัน ทั้งฆ่าและหั่นศพและวิญญาณของเด็กน้อยตามหลอกหลอน จนพวกเขาทั้งสอง อยู่ไม่ได้ต้องไปมอบตัว ที่สถานีตำรวจภูธร พวกเค้าจึงเข้าคุก และแล้วทั้งสองก็หนีออกจากคุก โดยเริ่มต้นขึ้นบ้านเพื่อไปปล้นเอาตังค์และปืน...


เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่อยากแต่งต่อแล้วฮ่า

 

นวนิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... บ้าเหรอตัวเอง ดูแลตัวเองด้วยนะ สิ่งที่คุณเห็นอาจจะคิดว่าใช่ สิ่งที่ซ่อนไว้คุณอาจจะไม่รู้ อย่าดูคน หรือดูชายแค่ภายนอก และที่สำคัญ...ที่สุดเลยนะฮะ อย่าเห็นผู้ชายดีกว่าคุณงามความดี ทำอะไรโดยไม่คิด ผลผิดก็ตกเป็นกรรมที่ต้องตามสนอง ขอติงนิ๊ดนึงว่า ถ้าคนรักของเราเค้าเปลี่ยนไปจริง ๆ ...อย่าได้ง้อ ขออย่าได้รื้อรั้งเค้าไว้ เพราะเราจะได้แต่กายแต่ใจเค้าไม่กลับมา เพราะต้องเข้าใจว่าโลกที่หมุนในทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ จงยอมรับสภาพความเป็นจริง ใช้สติและปัญญา แก้ปัญหา อย่าทำผิดกฎหมาย หากทำผิดแล้วไซร้ เคราะห์ร้ายจักตามมาพาไปกินข้าวแดง

 

ชาน่าเรียบเรียงเรื่องโดยได้แรงบันดาลใจจาก fw mail และการสนองนิ๊ดส์ส่วนบุคคล

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
วันก่อนดูข่าวซีเอ็นเอ็น หรือเข้าใจง่ายๆ ว่าสำนักข่าวเห็นสองเอ็น รายงานเรื่องราวของชาวอเมริกัน กลุ่มรักร่วมเพศที่กลายสภาพจากหญิงจริงเป็นชายด้วยหน้าตา รูปร่างแทบจะแยกไม่ออกว่านี่คือผู้หญิงมาก่อน ทั้งหนวดเครา กล้ามหน่อยๆ หน้าแมนๆ ได้เห็นแล้วยังทึ่งนิดส์ นิด เพราะปกติตัวเองจะเคยชินเห็นแต่ภาพชายแปลงร่างเป็นหญิง ไม่ค่อยได้เห็นหญิงทอมแปลงร่างเป็นชายมากมายนัก หากอ่านหัวข้อ คงไม่ว่ากันว่าทำไมถึงเขียนคำว่า แปลง หลังคำว่าผู้ชาย ไม่งั้นอ่านแล้วอาจจะดูเหมือนชาน่าตอหะแล ผู้ชายในโลกนี้ใครจะท้องได้ (มันก็จริงแฮะ) ตอนแรกก็ตกใจเป็นไปได้ไง ผู้ชายเหรอที่ท้อง แต่พอทรายรายละเอียดจริง ๆ ถึงได้บางอ้อว่า…
ชาน่า
เมื่อวันก่อนได้เปิดอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ชาติต่าง ๆ ผ่านสัญญาณดาวเทียมส่งตรงมายังเรือสำราญที่กำลังล่องแถบทวีปยุโรป สะดุดข่าวหนึ่งที่รายงานสองสามวันติดกัน ในหนังสือพิมพ์ "India Today" วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 หัวข้อข่าวพาด "Gays set for first nationwide pride marches" และ "Gay Pride out on street Kolkata" สอบถามเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียถึงข่าวคราวนี้ ทราบว่า สมัยก่อนเมื่อราวเกือบสองร้อยปีที่ผ่านมา ก่อนที่อินเดียจะได้รับอิสระในปี 1947 ประเทศอินเดียนั้นถือว่า การเป็นเกย์ หรือ กลุ่มรักร่วมเพศเป็นสิ่งต้องห้าม ผิดกฎ ผิดจารีต ประเพณี หรือเรียกบ้าน ๆ ว่าผิดผีหนะฮ่ะ ในสมัยก่อนๆ…
ชาน่า
"อันชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนพิกลนัก" คำกล่าวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ที่พวกเรารู้จักกันดีและเห็นด้วยในความหมายของประโยคนี้กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อย่าบอกนะว่าคนอ่านคอลัมน์ของชาน่าไม่ชอบเพลง ถ้าชอบก็แล้วแต่ว่าใครจะถนัดแนวไหน โดยส่วนตัวของชาน่าฟังได้ทุกแนวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแนวตะเข็บชายแดน หรือเด็กแนว เด็กหยาม (วัยรุ่นสยาม) เพื่อชีวิต ลูกทุ่ง ลูกกรุง สากล ฟังได้ไม่เลือกแต่ก็ขึ้นอยู่กับกาละและเทศะ กะอารมณ์อีกทีหนะฮ่ะ เพลงหลายเพลงแต่งจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่งจากแรงบันดาลใจ หลายเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง ทุกเหตุการณ์ ทุกอารมณ์ ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ ปรุงแต่งทำนอง…
ชาน่า
พักนี้เก่าไปใหม่มา ลูกเรือไทยและต่างชาติที่หมดสัญญาทำให้หลายคนได้พักร้อน ลูกเรือคนใหม่หลายคนก็เข้ารับหน้าที่แทน ชาน่าจึงมีโอกาสได้ดูหนัง ฟังเพลง ใหม่ ๆ อัพทูเดทจากเมืองไทย ส่งตรงไปต่างแดน หยิบวีซีดีแผ่นหนึ่งว่าด้วยเรื่องกฎหมาย “คู่ซ่าส์ ทนายแสบ บันทึกการแสดงสด” ของทนายแฝด จากรายการแจ้งความทางไอทีวี ,คนหัวหมอ ช่องสาม ,และซุปเปอร์แก๊กทางช่องเจ็ด โดย ทนายวันชัย สอนศิริ และทนายประมาณ เรืองวัฒนะวนิช ทนายคู่แฝดขำ ขำ เน้นย้ำสาระจึงพลาดไม่ได้ที่จะเปิดดู ซึ่งได้ทั้งความฮาไม่มีขีดจำกัดและความรู้เต็มจอ จึงขออนุญาตนำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชาวเรา ๆ มาฝากกันในสัปดาห์นี้ฮ่า
ชาน่า
นานแล้วที่ไม่ได้เม้าท์เรื่องราวภัยรายวัน หลังจากที่คอลัมน์เตือนภัยที่มีคนเข้าอ่านเกือบหมื่น เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเกือบปีเชียวฮ่ะ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวเกย์หลายคนร้องเรียก เม้าท์แตกกัน วันนี้จึงขอหยิบหลากหลายเรื่องราวมาเม้าท์เล่าสู่กันฟังนะฮะ บางเรื่องราวฟังไว้ไม่เสียหลาย บางราย “มีอย่างนี้ด้วยหรือ” คุณขา ยุคข้าวยาก หมากแพง เศรษฐกิจทรุด การเมืองแทรก ความมั่นคงถดถอย น่าเห็นใจชาวไทยกันถ้วนหน้าที่ต้องรับสภาพปัญหาเยี่ยงนี้ชาน่าขอแยกเป็นเรื่อง ๆ ตามหัวข้อที่เพื่อน ๆ เม้าท์ให้ทราบละกันฮ่า 
ชาน่า
เมื่อใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว หากใจและกายไม่สอดคล้องกับความรู้สึกและความต้องการ  ทางออกของใครหลายคนจึงเลือกที่จะเยียวยารักษาทางกายมากกว่าทางใจ  จึงเป็นผลให้ใครหลายคนเลือกที่จะทำการ “ผ่าตัดแปลงเพศ”ในส่วนของพนักงานบริการที่เราคุ้นกันในเมืองไทย ก็มีจารึกไว้แล้ว โดยหนุ่มสจ๊วตที่แปลงโฉมเป็นแอร์กี่ เอ้ยไม่ใช่ค่า แอร์โฮสเตส เรียกเสียงวิพากวิจารณ์จากมหาชนมิใช่น้อยส่วนของเรือสำราญ พนักงานบริการที่ต้องพบปะผู้โดยสารจากหลายประเทศทั่วโลกก็มีเธอผู้นี้ ... เช่นเดียวกัน
ชาน่า
ลูกคือดวงใจและ (แทบจะ) เป็นทุกอย่างของพ่อและแม่ หัวอกของพ่อและแม่ทุกคนอยากเห็นลูกประสบความสำเร็จ มีความสุข เป็นที่พึ่งและเป็นไปดังใจหวัง "สมหวัง และผิดหวัง" จึงเหมือนสัจธรรมที่อยู่คู่กันเสมอ กล่าวโดยรวมๆ ทุกเรื่องเพื่อจะโยงเข้าสู่แม้แต่ "ความหวัง"ของพ่อและแม่ทุกคนอยากให้ลูกเป็นเพศปกติ เพศที่สอดคล้อง ถูกต้อง กับร่างกายและจิตใจ
ชาน่า
เทศกาลของไทยเรามีมากมายหลายช่วงแทบจะเกิดขึ้นทุกเดือนเลยก็ว่าได้ แต่มีเทศกาลหนึ่งที่ชาน่าร่วมเติบโตมากับสังคมไทยนานแสนนาน (กำลังจะได้โล่ห์ ตำแหน่งชาน่าโบราณ รุ่นลายครามไม่ช้าก็ไว)  ทุกครั้ง ทุกที ทุกปีที่ได้สัมผัส บอกได้คำเดียวว่า... “แซ่บ เริ่ด ม่วนแต๊ๆ เกิดมันส์”  เพราะนอกจากจะสนุกสนานแล้วเรายังได้สาระมากมายในเทศกาลที่ชาน่ากำลังจะกล่าวถึงนี้ 
ชาน่า
“กลัวติดโรคจัง กังวลอย่างบอกไม่ถูกจะทำยังไงดี”  “อยากไปตรวจเลือด แต่ไม่กล้ากลัวคนรู้จัก กลัวคนอื่นรู้”“จะไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลไหน ค่าใช้จ่ายไม่แพง เพราะเผลอเสี่ยงร่วมรักกับชายแปลกหน้า”อาจจะเป็นคำถามของใครบางคนที่ครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะตัดสินใจ วัดน้ำหนักช่างกล้าไปตรวจเลือดเพื่อไขปัญหาข้องใจว่าตัวเองบริสุทธิ์หรือรับเชื้อร้ายเข้าไปในร่างกายประชากรชาวเกย์หลายคนรู้จักกันดี  “คลินิกนิรนาม” ที่เปิดให้บริการสำหรับกลุ่มชายรักชาย ชายร่วมเพศกับชายเท่านั้น (งานนี้ไม่มีชะนีปะปนแม้แต่นิด)   แต่สมาชิกเกย์น้องใหม่ใครหลายคนที่ยังไม่รู้จัก…
ชาน่า
ข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มรักร่วมเพศมีให้ติดตามโดยตลอด ไม่ว่าเรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง จริงหรือไม่  ดังนั้นเราจึงเห็นได้ชัดว่า "กลุ่มรักร่วมเพศปนอยู่ในสังคมเราอย่างแยกเสียไม่ได้"  เคยคิดจะเขียนคอลัมน์เรื่อง  "การไม่ยอมรับผู้บริจาคเลือดที่อยู่ในกลุ่มอัตราเสี่ยงหรือรักร่วมเพศ"  ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากเว็บเกย์สากลในสหรัฐอเมริกา แต่งานประจำรัดตัวยังไม่ทันจะเขียนก็มีข่าวคราวจากเมืองไทยเข้ามาในเรื่องนี้ คราวนี้ชาน่านิ่งนอนใจอยู่ไม่ได้ประสานงานไปทางเพื่อน ๆ หลายฝ่าย รวมทั้งเพื่อนๆ ชาวสยามสแควร์  ของเว็บสังคมชาวไทย "พันทิป" ตั้งกระทู้ถามไถ่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น…
ชาน่า
โลกของละครและโลกของความเป็นจริงนั้นบางทีช่างเหมือนกันจนแยกไม่ออก  "ละครสร้างจากเรื่องชีวิตจริง"  หรือ "ชีวิตจริงเลียนแบบละคร"  โลกใบใหญ่ของเราแต่ละคนล้วนเป็นโลกแห่งละครทั้งสิ้นอย่างแยกเสียไม่ได้ผู้ใหญ่หลายฝ่ายเคยต่อต้านและห้ามปรามกลุ่มรักร่วมเพศ  เกย์ กะเทย แพร่ภาพทางอากาศ ทีวี วิทยุ ภาพยนตร์ ด้วยหลากหลายเหตุผลของผู้ใหญ่ที่มองสังคมอย่างเป็นห่วง  แต่บางครั้งผู้ใหญ่อาจจะลืมดูโลกของความเป็นจริงที่ไม่ได้เพ้อฝัน จินตนาการ บังคับและกำหนดอยากให้ผู้อื่นเป็น  ชีวิตของคนกลุ่มรักร่วมเพศนั้นปะปน อยู่ในทุกสังคม ทุกประเทศ ทุกชนชั้น ทุกภาษา ทุกเชื้อชาติและศาสนาอย่างเห็นได้ชัด…
ชาน่า
การท่องเที่ยวไทยถือเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศชาติมานานแสนนาน แม้บางช่วงเศรษฐกิจจะทรุด การเมืองจะแทรก ปัญหาหลากหลายจะเสริมทำให้ไม่ราบเรียบมากนักในบางช่วงปีที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้น “ประเทศไทย” ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งมังคุด ละมุดลำใย แห่กระหน่ำมาเที่ยวกันอย่างเห็นได้ชัด หากจะมองถึงกลุ่มเป้าหมายชาวรักร่วมเพศ เกย์ กะเทย เลสเบี้ยน ถือว่ามาเที่ยวบ้านเมืองนี้ ดีนักแล เพราะทางเจ้าของประเทศ สยามเมืองยิ้ม กระหยิ่มต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเปิดกว้าง โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนร่วมกัน…