Skip to main content

ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ

\\/--break--\>

 

 

เรื่องมีอยู่ว่า

เหตุเกิดที่ห้องนอนของสามีภรรยาคู่หนึ่งกลางดึกของวันที่ไม่เป็นใจ แสงสลัว ๆ ของโคมไฟหัวเตียงทำให้เห็นภาพของร่างชายคนหนึ่งที่เป็นแขกรับเชิญในห้องนอนส่วนตัวของสามีภรรยาคู่นี้โดยไม่ได้คาดหวัง ชายแปลกหน้าที่สวมใส่ชุดที่สังเกตุสถานที่มาของชายคนนี้ได้ดีทีเดียว นั่นคือ “นักโทษชายแหกคุก” หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกเป็นเวลานานหลายปี ด้วยความจำเป็นเขาต้องหนีเข้าบ้านหลังหนึ่งเพื่อจะหาเงินและปืน แต่กลับพบกับสามีภรรยาที่กำลังร่วมทำการบ้านซึ่งกันและกัน ทันใดนั้นนักโทษชายคนนี้ก็สั่งให้ผู้ชายออกจากเตียงและมัดไว้กับเก้าอี้ ขณะที่เขามัดผู้หญิงไว้กับเตียง จึงถือโอกาสยื่นหน้าไปที่ซอกคอของหญิงคนนั้น เหมือนสัญญาณการร่วมรักจักเกิดขึ้น จากนั้นเขาก็กุลีกุจอลุกขึ้น เข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน

 

ขณะนั้นเองสามีก็กล่าวกับภรรยาว่า :

'ที่รักฟังนะ.. ชายคนนั้นเป็นนักโทษหนีคุก ดูที่เสื้อเขาซิ!

เขาอยู่ในคุกหลายปีและไม่เคยเจอผู้หญิงเลย ผมเห็นเค้าจูบที่คอคุณ

ถ้าเขาต้องการเซ็กซ์ อย่าขัดขืน หรือบ่นอะไร ทำอย่างที่เขาบอก

ชายคนนี้อันตรายมาก ถ้าทำให้เค้าโกรธ เราอาจจะถูกฆ่า เข้มแข็งไว้นะที่รัก ผมรักคุณ'

 

ภรรยาเค้ากลับตอบว่า : 'เขาไม่ได้จูบที่คอฉันหรอกที่รัก

เขาแค่กระซิบกับฉันว่าเขาเป็นเกย์ เค้าคิดว่าคุณน่ารัก และถามว่า

เรามีวาสลีน ครีมหล่อลื่นมั้ย? ฉันก็ตอบเค้าไปว่า อยู่ในห้องน้ำ เข้มแข็งไว้นะที่รัก ฉันก็รักคุณเหมือนกัน'

 

หลังจากนักโทดเข้าไปในห้องน้ำไม่เจอวาสลีน ( เพราะว่าสามีภรรยาคู่นี้ใช้หมดไปแล้วเมื่อวานอันเนื่องจากริมฝีปากแห้งผิดปกติ ยิ่งช่วงนี้ฤดูหนาวซะด้วย ริมฝีปากแตกเป็นผุยผง ) หลังจากที่เขามองหาแต่ไม่เจอ ทันใดนั้นเค้าจึงคว้าเอายาสีฟันมาแทน

 

สามีก็เลย...งานเข้า !!!

 

ในที่สุด สามีก็กลายเป็นภรรยาของนักโทษ และแล้วเรื่องนี้ก็จบลง ด้วยสามีติดใจนักโทษกลายเป็นเกย์ หนีตามนักโทษไปสุดล่าฟ้าเขียว ใช้ชีวิตในชนบทอย่างมีความสุข ยิ่งกว่าหนังเรื่อง “แตก หลัง เขา” หรือ Brokeback Mountain

 

ส่วนภรรยา คับแค้นใจมาก เจ็บปวดหัวใจเป็นยิ่งนัก ด้วยความโมโห อยากจะขอเจออีกสักครั้งเพื่อขอเคลียร์ เลยไปตามหาอดีตสามีเเละนักโทษคนนั้น สุดล่าฟ้าเขียว (เช่นกัน)..ซึ่งโลกก้อไม่ได้กว้างเกินไปสำหรับเธอ.. (ออกจะน้ำเน่าติดจอนิ๊ด ๆ นะฮ้า)

 

แน่นอนที่สุดเธอเจอสามี(เก่า) กำลังจ่ายตังค์ค่าวาสลีนที่เคาน์เตอร์ในร้านสะดวกซื้อชื่อดัง เธอจึงตรงเข้าไปยังหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับมาดนักสืบสาวพราวเสน่ห์ “ขอหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง” คาดว่าน่าจะเป็นของเกจิ อาจารย์ชื่อดัง ที่เป็นนักคิด นักเขียน เลื่องชื่อของเมืองไทยพร้อมกับควัก 11 มม.มาจ่อยิง ขมับ สามี(เก่า)ของเธอ ก่อนจะยิงเธอถามเค้าว่า

ช้านแค่อยากได้ยินจากปากของคุณเท่านั้นเองว่า คุณได้หลังแล้วลืมหน้าขนาดนี้เชียวเหรอคะ”

ด้วยความโชคดีของสามี ยังมีบุญมาหนุนนำ ทำให้กระสุนโดนแว่นตาเหล็กเด้งกระดอนเสียงสะท้อนก้องเจ็ดป่าช้า เค้ารอดได้ครั้งนี้

 

ทันใดนั้นสายตรวจเข้ามาหลังเกิดเหตุทันที เธอมอบตัวให้กับตำรวจ พร้อมน้ำตาไหลเต็มหน้าอย่างไม่หยุด และสองมือที่เปื้อนด้วยเลือกสาดกระเด็น เธอพร่ำบ่นแต่ว่าเธอเสียใจที่ทำไปโดยไม่คิด จิตไม่ได้กรอง 

 

สุดท้ายเธอต้องติดคุกอันหลีกหนีกฎหมายบ้านเมืองไม่ได้ โทษฐานเจตนาฆ่า.. ไม่มีใครเป็นแพะเหมือนในโลกของความเป็นจริง ..เเละเธอก็ได้ค้นพบว่า..ที่จริงเเล้ว ตัวเธอเองก็มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน (ที่ไม่ใช่เบนโล) ไม่ใช่น้อย ... “รักแท้แพ้ใกล้ชิด” เธอค้นพบแล้วว่า เสียงหัวใจของเธอเรียกร้อง มองหา... “ทอม” เธอชอบทอมที่อยู่ในคุกมาก..ยิ่งทอมหน้าหื่น ๆ สันดานโหดๆ เธอติดใจยิ่งนัก

 

สามีเก่าของเธอใช้ชีวิตอยู่กับชายที่หนีออกจากคุก อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะเกรงว่า อดีตศรีภรรยาจะมาไล่ล่าชีวิตคืน

 

 

9 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก สามีและนักโทษแหกคุก จึงไปเปลี่ยนชื่อและนามสกุล พร้อมกับไปพึ่งพาความหล่อและสวยเลือกได้ โดยอาศัยมีดหมอ ผ่าตัดหมดทุกส่วนของร่างกาย จากสีผิวเกรียมเป็นขาวดังปุยนุ่น ยิ่งกว่าไมเคิ้ล แจ็คสันเสียอีก

 

ผ่าอะไรบ้าง

ผ่าหมดล่ะฮ่ะ

ตั้งแต่หน้า...ไปจนถึง...

ผ่ายังไง ผ่ายันฮี ก็บอกแล้วผ่าถึงยันฮี ผ่าตั้งแต่หน้า...ยัน ...ฮี

 

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาจึงไปติดต่อขออนุญาตรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงดู

9 ปีผ่านไป ไวเหมือนกันแต่ไม่อยากโกหกซ้ำซ้อน

 

เหมือนมีกรรมตามสนอง เขาและเขาทั้งสอง สร้างกรรมทำร้ายจิตใจผู้หญิงไว้มาก

ฮอร์โมน และผลข้างเคียงของยาที่ทาน เพื่อศัลยกรรมกาย ทำให้ชายสองคนนี้มีปัญหาทางจิต

เห็นเด็กบุญธรรมที่นำมาเลี้ยงเหมือนหมูหัน ทั้งฆ่าและหั่นศพและวิญญาณของเด็กน้อยตามหลอกหลอน จนพวกเขาทั้งสอง อยู่ไม่ได้ต้องไปมอบตัว ที่สถานีตำรวจภูธร พวกเค้าจึงเข้าคุก และแล้วทั้งสองก็หนีออกจากคุก โดยเริ่มต้นขึ้นบ้านเพื่อไปปล้นเอาตังค์และปืน...


เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่อยากแต่งต่อแล้วฮ่า

 

นวนิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... บ้าเหรอตัวเอง ดูแลตัวเองด้วยนะ สิ่งที่คุณเห็นอาจจะคิดว่าใช่ สิ่งที่ซ่อนไว้คุณอาจจะไม่รู้ อย่าดูคน หรือดูชายแค่ภายนอก และที่สำคัญ...ที่สุดเลยนะฮะ อย่าเห็นผู้ชายดีกว่าคุณงามความดี ทำอะไรโดยไม่คิด ผลผิดก็ตกเป็นกรรมที่ต้องตามสนอง ขอติงนิ๊ดนึงว่า ถ้าคนรักของเราเค้าเปลี่ยนไปจริง ๆ ...อย่าได้ง้อ ขออย่าได้รื้อรั้งเค้าไว้ เพราะเราจะได้แต่กายแต่ใจเค้าไม่กลับมา เพราะต้องเข้าใจว่าโลกที่หมุนในทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ จงยอมรับสภาพความเป็นจริง ใช้สติและปัญญา แก้ปัญหา อย่าทำผิดกฎหมาย หากทำผิดแล้วไซร้ เคราะห์ร้ายจักตามมาพาไปกินข้าวแดง

 

ชาน่าเรียบเรียงเรื่องโดยได้แรงบันดาลใจจาก fw mail และการสนองนิ๊ดส์ส่วนบุคคล

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
สัปดาห์นี้ มีแขกพิเศษมาร่วมบันทึกเรื่องราวจากประสบการณ์จริงของผู้ชาย(ป้ายเหลือง) ที่ถ่ายทอดออกอย่างเป็นธรรมชาติผ่านตัวหนังสือ ชาน่ารู้จักน้อง Once in a blue moon เพราะเค้าเป็นแฟนหนังสือเล่มเก่า “เม้าท์แตก...ชาวเรา” จนเราสนิทสนมแชทคุยกันตลอด จึงอยากให้น้องถ่ายทอดเรื่องราว Untold story เพื่อเป็นอุทาหรณ์ สอนใจ กลั่นลึกจากห้วง ก้นบึ้ง เปิดให้รู้ลึก รู้สึกของชายกลุ่มหนึ่งที่ทำงาน อาชีพ... “ขายบริการ” บางประโยคอาจจะถ่ายทอดอย่างตรงเกินกว่าจะรับได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเค้า และเค้าเหล่านั้น ลองอ่านดูฮ่ะ...
ชาน่า
เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสไปเข้าร่วมสัมมนาว่าด้วยเรื่อง “สื่อของเกย์และกะเทยในสังคมไทย” ณ ห้องกิ่งเพชร โรงแรมเอเซีย กรุงเทพฯ ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุน โดยมูลนิธิไฮน์ริค เบิลล์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย และศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เริ่มกันตั้งแต่เช้าของวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 9.30 – 10.00 น. ได้เปิดลงทะเบียน รับเอกสาร รับประทานอาหารว่างหลังจากนั้นได้เริ่มแสดงวีดีโอ พรีเซ็นเทชั่น นำโดยคุณโสภิดา วีรกุลเทวัญ พิธีกรในงาน โดยมี ดร.ปีเตอร์ แจ็คสัน กล่าวเปิดงาน ต่อแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนมากมาย การสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสื่อต่าง ๆ…
ชาน่า
เมื่อเดือนก่อน ข่าวฮอตสุดฮิตของคนในวงการบันเทิงปรี๊ดทะลุทะลวง เรื่องของ "อ้น" หนุ่มชวนฝันพระเอกช่องน้อยสี ตกเป็นข่าวคลิปฉาว คาวโลกีย์ ขณะร่วมรักกับหญิงสาว ได้ปรากฏสู่สายตามหาชนยิ่งกว่าเรียลลิตี้ทีวีโชว์(เอ็กซ์) "มันเป็นความไม่ตั้งใจ แค่อยากลองด้วยความคึกคะนองและถ่ายเก็บไว้" หรือว่า "ความลับ อาจรั่วไหลได้ ความลับของซูเปอร์สตาร์จะไม่มีในโลก" กรณีของอ้นเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า ความโชคร้ายบางครั้งเกิดเพียงเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความไม่ตั้งใจ ความจนใจเพราะมันแก้ไขอะไรไม่ได้ ไม่ได้เป็นเพราะอ้น ตั้งใจถ่ายทำเพื่อหารายได้มาเกี่ยวข้องแม้แต่นิด ซึ่งแตกต่างจากกรณีของการถ่ายหนังโป๊…
ชาน่า
การประกวดขวัญใจชาวเราหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการประกวดสาวงาม สาวประเภทสองเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายงานการประกวด ที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นสาวมั่น สาวเก่ง สาวร่างใหญ่ สาวไทย สาวเทศ หรือหนุ่มมาดมั่น หวานใจ กายกำยำ หล่อเร้าใจได้โล่ห์ จากหลากหลายสังกัด ผับ บาร์ ห้างร้าน บริษัทที่จัดขึ้น เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 ชาน่าได้มีโอกาสได้ไปร่วมงานประกวดหนุ่มหล่อ อีกงานหนึ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับลูกค้าและชาวสีลม ซอย 4 นั่นคือ “มิสเตอร์สีลม ซอย 4” ซึ่งการประกวดนี้เค้าจัดขึ้นทุกปี ได้รับการสนับสนุนจากหลายผับ บาร์ในซอย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหา หนุ่มหล่อ ขวัญใจ ชาวสีลม ซอย 4…
ชาน่า
"ก็ฉันชอบเที่ยวมันผิดหรือไง ฉันรักในเสียงดนตรี เมื่อไรเจอจังหวะดี ดี หนึ่งสองสามสี่ถึงมีเฮ เย อี เย อี เย อีเย้ เย อี เย อี เย อี้ เย...." เสียงเพลง playgirl ของ ส้ม อมรา ก้านคอคลับ บ่งบอกให้รู้ว่า นักท่องราตรีหลายคนรักเที่ยวกลางคืน คนกลางคืนไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเป็นคนไม่ดี ด้วยหลากหลายจุดประสงค์ของนักเที่ยว บ้างชอบพบเพื่อนใหม่ บ้างชอบออกกำลังกาย บริการกล้ามเนื้อ เต้นออกเหงื่อ หรือแม้แต่ดูคนอื่นเต้น ชาน่าเป็นคนไม่ดื่ม ไม่เมาแต่ชอบเที่ยว เพราะคิดว่าเป็นอีกหนึ่งการผ่อนคลาย และอีกอย่างเราก็โตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน พักผ่อนหย่อนใจ ฟังเพลง ไม่เสียหายอะไร หรือแม้แต่น้องๆ…
ชาน่า
กลางเดือนสิงหาคม ชาน่าเดินทางถึงเมืองไทย เป็นการพักร้อนในช่วงฤดูฝนพรำ  น้ำท่วม  เศรษฐกิจยังทรุด การเมืองแรง ๆ เข้ามาแทรก  แต่ถึงกระนั้นก็ยังสวนกระแส ไม่ยอมแพ้ต่อสถานการณ์  ตั้งหน้าก้าวต่อไป จึงได้ฟอร์มกับเพื่อน ๆ ที่กรุงเทพฯ ว่าเราจะร่วมกันจัดทำหนังสือเล่มหนึ่ง หลังจากทำธุระกับต้นสังกัดงาน "เดินแบก" ต่างแดนเสร็จ  จึงเร่งรีบทำหนังสือเล่มนี้  "ใช่ว่าจะดอก...ท้อ" ให้จงได้  โดยจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่  ข่าวสาร ความรู้ ความบันเทิง ให้หลายกลุ่มโดยทั่วถึง   อีกอย่างพูดง่าย ๆ คือเป็นความต้องการส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งโครงการทำดีที่เราพอทำได้ …
ชาน่า
สองเดือนที่ผ่านมา ช่วงที่ชาน่ากลับมาพักร้อนเมืองไทย หยิบข่าวมาอ่าน ทั้งเรื่องข่าวบ้านการเมืองและเรื่องรักเรื่องใคร่ ข่าวทั่วไป เรื่องร้ายๆ แรงๆ พอทราบข่าวแล้วน่าเป็นห่วงสังคมไทยในปัจจุบัน นอกจากข่าวการเมืองจะหาที่ยุติไม่ได้ ข่าวร้ายของชาวรักร่วมเพศก็แรงไม่แพ้กัน จำได้ว่าผ่านไปสองเดือน มีข่าวอนาจาร ข่าวน่าสลดที่เกิดขึ้นกับเด็กชายถึงการเป็นเหยื่อหลายราย นสพ.หัวสีหลายเล่มประชันกันทำข่าวเกรียวกราวกันถ้วนหน้า วันนี้อดใจไม่ไหวขอหยิบข่าวหนึ่งที่ร้อนตอนนี้ ไม่แพ้กับข่าวการเมืองนั่นก็คือ เด็กนักเรียนชายโดนบังคับให้อมนกเขา ซึ่งผู้ต้องหานั้นใช่ใคร คือคุณครูของหนูนี่เอง
ชาน่า
ช่วงนี้ “งานเข้า” เรียกได้ว่าหลังจากปิดต้นฉบับหนังสือเรื่อง “ใช่ว่าจะดอก...ท้อ” จีบปากจีบคอ โดยอิชั้นเอง ชาน่า (จำง่าย ๆ กลับผวนได้ใจ หน้าชา ว่าซ้านนนนน) ก็มีงานรับเชิญจากพี่ๆ สื่อมวลชน องค์กร สมาคมและห้างร้านต่าง ๆ เพื่อไปร่วมงานของชาวเรา อันเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ชาน่าได้ไปร่วมชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “xxy” ซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชฑูตอาร์เจนติน่าและสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์การยูเนสโก โครงการประกวดหนังสั้นสีรุ้ง สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย…
ชาน่า
สวีดัด สวัสดีค๊าคุณขา (ดัดเสียงให้สวนกระแสเรื่องเศร้าๆ ทางการเมืองนะฮ้า) กลับมาเมืองไทยนานทีปีละหนสองหน กลับมาคราวนี้มีหลายเรื่องต้องให้ติดตาม ข่าวบ้านการเมือง ร้ายๆ แรงๆ ยังไงๆ ชาน่าเป็นห่วงทุ๊กกกกกกกกกก ทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม ชาน่าอยู่ฝ่ายไทยเลือดไทยทั้งแท่ง... “ความรุนแรงไม่ได้เป็นทางออกของปัญหานะคะ” เลือดไทยด้วยกันอย่าทำร้ายทำลายกันเลยนะ .... แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วิถีชีวิตของเราต้องดำเนินเดินทางต่อไปค่า เจตนารมย์และความมุ่งมั่นในการทำหนังสือเพื่อการกุศลของชาน่ากับเพื่อน ๆ นั้นยังไม่หยุด เราจะเดินหน้าต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม กลับมาเรื่องของชาวเรากันบ้าง (…
ชาน่า
ข่าวคาว มาเป็นคราว ๆ กับเรื่องรักน้ำเน่า เจ้านั่น หรือ พ่อคนนี้เป็น “แอ๊บจัง” เป็น “เกย์” หรือไม่ แฟนดารา คู่หมั้นนักร้องดัง อย่างทาทา มีประชาชนชาวไทยอยากรู้ถามไถ่ว่า ป้อจายที่หมายหมั้นแล้วถอนหมั้นคนนั้นเป็นหรือไม่... มากมายหลายคำถาม เพราะสังคมทุกวันนี้มีทางออกและทางเลือกมากมาย ชายใดไม่แต่งงาน บ้างก็ฟันธง “เป็นแน่ๆ เลยสู” ชายใด ชอบชาย อันนี้แน่นอน “เป็นแน่ๆ เลยตัว”
ชาน่า
ความเป็นอิสระเสรีของชีวิตเกย์ ไม่ว่าจะเกย์มีคู่ เกย์สันโดษ เกย์ไม่มีพันธะ จะสังเกตได้ว่า หลายคนชอบเดินทางเพื่อให้รางวัลของชีวิตหรือจะเป็น "การเดินทางที่แสนพิเศษ" เพื่อหลากหลายจุดประสงค์ก็ตาม "แหม..แก ตัวคนเดียว เที่ยวรอบโลก คิดอะไรมากไปเปิดหูเปิดตาซะมั่ง รึหล่อนจะเก็บเงินไว้ซื้อโลงศพฝังเพชรกระไดยิงกันยะ" เสียงของเพื่อนสาวขาเม้าท์แตก การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมที่รองรับเกย์ รักร่วมเพศ นักเดินทางมากมายทั่วทุกมุมโลกที่แสวงหาความสุขทางการเดินทางท่องเที่ยว
ชาน่า
ชาน่าไม่ได้อยู่เมืองไทยเป็นเวลาสิบปีแต่ทุกปีก็จะกลับมาพักร้อนที่เมืองไทย บางข่าวบางเรื่องราวแทบจะเรียกได้ว่า “ตกยุค” ไม่ค่อยอัพทูเดท กับความล้ำ และความแปลกใหม่หลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองไทยจนทำให้ชาวโลกต้องหันมามองถึงความเป็นไปได้ มีเยี่ยงนี้เชียวหรือ อือ...มันแปลกดีนา เมื่อคืนก่อนเห็นข่าวทางสำนักข่าว บีบีซี ถ่ายทำสกู๊ปเรื่อง “ห้องน้ำสีชมพู” ซึ่งเป็นห้องน้ำพิเศษแยกเพศที่สามไว้โดยเฉพาะ เรื่องนี้เกิดขึ้นในสถานศึกษา “ชาน่ารู้จัก ซีสะเก็ต (ศรีสะเกษ) เมื่อคืนฉันเห็นทีวีช่องข่าวบีบีซี น้องสาว (กะเทย) นักเรียนเต็มไปหมดเลย” เพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติถามยามเช้า “ไอ ซี ล้ำ…