Skip to main content

ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ

\\/--break--\>

 

 

เรื่องมีอยู่ว่า

เหตุเกิดที่ห้องนอนของสามีภรรยาคู่หนึ่งกลางดึกของวันที่ไม่เป็นใจ แสงสลัว ๆ ของโคมไฟหัวเตียงทำให้เห็นภาพของร่างชายคนหนึ่งที่เป็นแขกรับเชิญในห้องนอนส่วนตัวของสามีภรรยาคู่นี้โดยไม่ได้คาดหวัง ชายแปลกหน้าที่สวมใส่ชุดที่สังเกตุสถานที่มาของชายคนนี้ได้ดีทีเดียว นั่นคือ “นักโทษชายแหกคุก” หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกเป็นเวลานานหลายปี ด้วยความจำเป็นเขาต้องหนีเข้าบ้านหลังหนึ่งเพื่อจะหาเงินและปืน แต่กลับพบกับสามีภรรยาที่กำลังร่วมทำการบ้านซึ่งกันและกัน ทันใดนั้นนักโทษชายคนนี้ก็สั่งให้ผู้ชายออกจากเตียงและมัดไว้กับเก้าอี้ ขณะที่เขามัดผู้หญิงไว้กับเตียง จึงถือโอกาสยื่นหน้าไปที่ซอกคอของหญิงคนนั้น เหมือนสัญญาณการร่วมรักจักเกิดขึ้น จากนั้นเขาก็กุลีกุจอลุกขึ้น เข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน

 

ขณะนั้นเองสามีก็กล่าวกับภรรยาว่า :

'ที่รักฟังนะ.. ชายคนนั้นเป็นนักโทษหนีคุก ดูที่เสื้อเขาซิ!

เขาอยู่ในคุกหลายปีและไม่เคยเจอผู้หญิงเลย ผมเห็นเค้าจูบที่คอคุณ

ถ้าเขาต้องการเซ็กซ์ อย่าขัดขืน หรือบ่นอะไร ทำอย่างที่เขาบอก

ชายคนนี้อันตรายมาก ถ้าทำให้เค้าโกรธ เราอาจจะถูกฆ่า เข้มแข็งไว้นะที่รัก ผมรักคุณ'

 

ภรรยาเค้ากลับตอบว่า : 'เขาไม่ได้จูบที่คอฉันหรอกที่รัก

เขาแค่กระซิบกับฉันว่าเขาเป็นเกย์ เค้าคิดว่าคุณน่ารัก และถามว่า

เรามีวาสลีน ครีมหล่อลื่นมั้ย? ฉันก็ตอบเค้าไปว่า อยู่ในห้องน้ำ เข้มแข็งไว้นะที่รัก ฉันก็รักคุณเหมือนกัน'

 

หลังจากนักโทดเข้าไปในห้องน้ำไม่เจอวาสลีน ( เพราะว่าสามีภรรยาคู่นี้ใช้หมดไปแล้วเมื่อวานอันเนื่องจากริมฝีปากแห้งผิดปกติ ยิ่งช่วงนี้ฤดูหนาวซะด้วย ริมฝีปากแตกเป็นผุยผง ) หลังจากที่เขามองหาแต่ไม่เจอ ทันใดนั้นเค้าจึงคว้าเอายาสีฟันมาแทน

 

สามีก็เลย...งานเข้า !!!

 

ในที่สุด สามีก็กลายเป็นภรรยาของนักโทษ และแล้วเรื่องนี้ก็จบลง ด้วยสามีติดใจนักโทษกลายเป็นเกย์ หนีตามนักโทษไปสุดล่าฟ้าเขียว ใช้ชีวิตในชนบทอย่างมีความสุข ยิ่งกว่าหนังเรื่อง “แตก หลัง เขา” หรือ Brokeback Mountain

 

ส่วนภรรยา คับแค้นใจมาก เจ็บปวดหัวใจเป็นยิ่งนัก ด้วยความโมโห อยากจะขอเจออีกสักครั้งเพื่อขอเคลียร์ เลยไปตามหาอดีตสามีเเละนักโทษคนนั้น สุดล่าฟ้าเขียว (เช่นกัน)..ซึ่งโลกก้อไม่ได้กว้างเกินไปสำหรับเธอ.. (ออกจะน้ำเน่าติดจอนิ๊ด ๆ นะฮ้า)

 

แน่นอนที่สุดเธอเจอสามี(เก่า) กำลังจ่ายตังค์ค่าวาสลีนที่เคาน์เตอร์ในร้านสะดวกซื้อชื่อดัง เธอจึงตรงเข้าไปยังหน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับมาดนักสืบสาวพราวเสน่ห์ “ขอหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง” คาดว่าน่าจะเป็นของเกจิ อาจารย์ชื่อดัง ที่เป็นนักคิด นักเขียน เลื่องชื่อของเมืองไทยพร้อมกับควัก 11 มม.มาจ่อยิง ขมับ สามี(เก่า)ของเธอ ก่อนจะยิงเธอถามเค้าว่า

ช้านแค่อยากได้ยินจากปากของคุณเท่านั้นเองว่า คุณได้หลังแล้วลืมหน้าขนาดนี้เชียวเหรอคะ”

ด้วยความโชคดีของสามี ยังมีบุญมาหนุนนำ ทำให้กระสุนโดนแว่นตาเหล็กเด้งกระดอนเสียงสะท้อนก้องเจ็ดป่าช้า เค้ารอดได้ครั้งนี้

 

ทันใดนั้นสายตรวจเข้ามาหลังเกิดเหตุทันที เธอมอบตัวให้กับตำรวจ พร้อมน้ำตาไหลเต็มหน้าอย่างไม่หยุด และสองมือที่เปื้อนด้วยเลือกสาดกระเด็น เธอพร่ำบ่นแต่ว่าเธอเสียใจที่ทำไปโดยไม่คิด จิตไม่ได้กรอง 

 

สุดท้ายเธอต้องติดคุกอันหลีกหนีกฎหมายบ้านเมืองไม่ได้ โทษฐานเจตนาฆ่า.. ไม่มีใครเป็นแพะเหมือนในโลกของความเป็นจริง ..เเละเธอก็ได้ค้นพบว่า..ที่จริงเเล้ว ตัวเธอเองก็มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน (ที่ไม่ใช่เบนโล) ไม่ใช่น้อย ... “รักแท้แพ้ใกล้ชิด” เธอค้นพบแล้วว่า เสียงหัวใจของเธอเรียกร้อง มองหา... “ทอม” เธอชอบทอมที่อยู่ในคุกมาก..ยิ่งทอมหน้าหื่น ๆ สันดานโหดๆ เธอติดใจยิ่งนัก

 

สามีเก่าของเธอใช้ชีวิตอยู่กับชายที่หนีออกจากคุก อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะเกรงว่า อดีตศรีภรรยาจะมาไล่ล่าชีวิตคืน

 

 

9 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก สามีและนักโทษแหกคุก จึงไปเปลี่ยนชื่อและนามสกุล พร้อมกับไปพึ่งพาความหล่อและสวยเลือกได้ โดยอาศัยมีดหมอ ผ่าตัดหมดทุกส่วนของร่างกาย จากสีผิวเกรียมเป็นขาวดังปุยนุ่น ยิ่งกว่าไมเคิ้ล แจ็คสันเสียอีก

 

ผ่าอะไรบ้าง

ผ่าหมดล่ะฮ่ะ

ตั้งแต่หน้า...ไปจนถึง...

ผ่ายังไง ผ่ายันฮี ก็บอกแล้วผ่าถึงยันฮี ผ่าตั้งแต่หน้า...ยัน ...ฮี

 

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาจึงไปติดต่อขออนุญาตรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงดู

9 ปีผ่านไป ไวเหมือนกันแต่ไม่อยากโกหกซ้ำซ้อน

 

เหมือนมีกรรมตามสนอง เขาและเขาทั้งสอง สร้างกรรมทำร้ายจิตใจผู้หญิงไว้มาก

ฮอร์โมน และผลข้างเคียงของยาที่ทาน เพื่อศัลยกรรมกาย ทำให้ชายสองคนนี้มีปัญหาทางจิต

เห็นเด็กบุญธรรมที่นำมาเลี้ยงเหมือนหมูหัน ทั้งฆ่าและหั่นศพและวิญญาณของเด็กน้อยตามหลอกหลอน จนพวกเขาทั้งสอง อยู่ไม่ได้ต้องไปมอบตัว ที่สถานีตำรวจภูธร พวกเค้าจึงเข้าคุก และแล้วทั้งสองก็หนีออกจากคุก โดยเริ่มต้นขึ้นบ้านเพื่อไปปล้นเอาตังค์และปืน...


เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่อยากแต่งต่อแล้วฮ่า

 

นวนิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... บ้าเหรอตัวเอง ดูแลตัวเองด้วยนะ สิ่งที่คุณเห็นอาจจะคิดว่าใช่ สิ่งที่ซ่อนไว้คุณอาจจะไม่รู้ อย่าดูคน หรือดูชายแค่ภายนอก และที่สำคัญ...ที่สุดเลยนะฮะ อย่าเห็นผู้ชายดีกว่าคุณงามความดี ทำอะไรโดยไม่คิด ผลผิดก็ตกเป็นกรรมที่ต้องตามสนอง ขอติงนิ๊ดนึงว่า ถ้าคนรักของเราเค้าเปลี่ยนไปจริง ๆ ...อย่าได้ง้อ ขออย่าได้รื้อรั้งเค้าไว้ เพราะเราจะได้แต่กายแต่ใจเค้าไม่กลับมา เพราะต้องเข้าใจว่าโลกที่หมุนในทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ จงยอมรับสภาพความเป็นจริง ใช้สติและปัญญา แก้ปัญหา อย่าทำผิดกฎหมาย หากทำผิดแล้วไซร้ เคราะห์ร้ายจักตามมาพาไปกินข้าวแดง

 

ชาน่าเรียบเรียงเรื่องโดยได้แรงบันดาลใจจาก fw mail และการสนองนิ๊ดส์ส่วนบุคคล

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
"The  show must go on" ไม่ว่าช่วงเศรษกิจจะแย่ การเมืองจะทรงหรือทรุด ภาวะบันเทิงจะไม่โชติช่วงชัชวาลย์ งานไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญ แต่ด้วยใจรักและโอกาสที่คุณพอทำได้ วันนี้ป้าเดย์ นางโชว์รุ่นเก๋า กลับมาผงาดบนเวทีของวงการบันเทิงอีกครั้งอย่างอลังการด้วยงานโชว์เริ่ดหรูครั้งสุดยอดยิ่งใหญ่ใน "The Last Day Show: Will I Survive?" การแสดงผสมผสานของรูปแบบและการดำเนินเรื่องแบบ Musical
ชาน่า
ใต้ฟ้าเมืองไทยภายใต้ความรัก การดูแลและห่วงใยของกลุ่มหลากหลายทางเพศ เรายังมีอีกสมาคมหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันมากว่าสิบปี วันนี้ชาน่าอยากแนะนำให้ทุกท่าน ชายจริง หญิงแท้ กะเทย เกย์ เก้ง กวาง เสือใบ อีแอบทั้งหลายได้รู้จักกับอีกสมาคมหนึ่งที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อบริการกลุ่มหลากหลายทางเพศค่ะ นั่นคือ “สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย”
ชาน่า
เรื่องใดที่ไม่มีในเมืองไทย ชาน่าสรรค์หามาเม้าท์ เพราะถือว่าหากโอกาสพาไป ไม่เสียหาย ทำไมจะไม่ล่ะ... ? หลายคนอยากรู้เรื่องราวความเป็นไป เป็นมา หรือแอบคิดในใจว่า "คิดได้ไง ไปหาดเปลือย ?..." บางคนอาจจะมองในแง่ลบทันใดว่า "นังนี่ต้องเป็นโรคจิตแน่เลย ...." ต่างคนนานาจิตตังนะคะ เอาล่ะค่ะให้เวลาตั้งคำถาม ก่อนที่คุณจะได้ทุกคำตอบที่ต้องการ คนที่เข้ามาอ่านย่อมมีจุดประสงค์คืออยากจะรู้บางสิ่งที่ยังไม่รู้ แต่รับรองว่า หากอ่านเรื่องนี้แล้ว คุณได้มากกว่าที่คุณคิดซะอีกค่ะ ถือว่าเป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์ต่างแดนที่ไปสัมผัสมาละกันนะคะ
ชาน่า
อีกเดือนกว่าเรือก็จะนำพาอิฉันไปสู่ยุโรปอีกแล้วค่ะ คราวนี้ไปเส้นทางเดิมที่เคยไปเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว "เมดิเตอร์เรเนี่ยน" อาทิ ประเทศอิตาลี กรีซ โมนาโค ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส โครเอเซีย ตุรกี เป็นต้น หลังจากนั้นจะกลับมาพักร้อนที่เมืองไทยสองเดือนก่อนจะไปเยือนแถบสแกนดิเนเวีย รัสเซีย โปแลนด์ อังกฤษ ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก เยอรมัน ในซัมเมอร์ปีนี้ โดยส่วนตัวของชาน่า เวลาไปแต่ละเมือง สิ่งที่ต้องค้นหาคือการใช้ชีวิตตามประสาเกย์เกย์ จะได้นำมาเล่าเม้าท์ต่อกัน จนเพื่อนมอบตำแหน่งให้สาขา "ราชินีเม้าท์แตกได้โล่ห์" สัปดาห์นี้ขอจับเข่า เม้าท์เล่าเรื่องของประเทศตุรกี เมืองอิสตันบูล…
ชาน่า
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความดีใจกับนักแสดงฝีมือระดับโลกที่ได้รับรางวัลหมาด ๆ สาขา “นักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ฌอน เพนน์ ที่คว้ารางวัล Academy Awards ครั้งที่ 81 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี แม้ชีวิตจริงของเค้าจะไม่ใช่เกย์ก็ตาม มิลค์ เป็นหนังที่กล่าวถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวรักร่วมเพศที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล 1 ใน 5 ของหนังดังระดับโลกอีกเรื่องหนึ่ง คืนวันอาทิตย์ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาน่าได้มีโอกาสดูการถ่ายทอดสดตรงจาก ทีเอ็นที ณ โรงละครโกดัก แอลเอ โดยหนังเรื่องนี้เข้าชิงหลายรางวัล เช่น หนังดีเด่น ผู้กำกับดีเด่น แม้จะไม่ได้รางวัลแต่อย่างน้อย…
ชาน่า
“วันนี้ดีใจที่ได้ผัว หลังจากเสียตัวมาหลายหน วันนี้มีผัวเป็นตัวตน จะได้ไม่มีคนหมิ่นประนาม หยามดูแคลน” คำกลอนที่ได้ยินจากเพื่อนแล้วจี้เหลือเกิน บทกลอนของหล่อนบทนี้ เหมือนคำประกาศชัยชนะว่า “ฉันมีสามีแล้วย่ะ” ประมาณนั้น มันทำให้จุดประกายเป็นเรื่องราวที่อยากนำเสนอค่ะ แหม...แหม ...แหม คุณคะ ชีวิตของเกย์ กะเทย กว่าจะได้ใครเป็นตัวตน มีคนรักที่เค้ารักเราจริง ๆ นั้นมันสุดแสนจะหายาก บางคนบอกว่า “ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร” ซะอีก ประเภทที่ได้ ๆ ส่วนมาก หลังจากพ้นช่วงน้ำต้มขมก็ยังเรียกว่าหวาน ผ่านไปไม่นาน สุดท้ายจะลงเอยแบบ “ทางใครก็ทางมัน” หรือว่า “เป็นสามีและภรรยาในนามเท่านั้น”…
ชาน่า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลายคนคงจะได้ดูรายการทีวี รายการ "จับเข่าคุย" ซึ่งดำเนินรายการโดย คุณสรยุทธ์ มีผู้ร่วมรายการคือ คุณเกย์นที และคุณวัลลภ นามวงศ์พรหม ซึ่งเป็นกรรมการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ คุณคงจะได้ชมและใช้พิจารณญาณในการชมรายการโทรทัศน์ที่กล่าวถึงประเด็นข่าวเด่นของบ้านเมือง ในรายการมีผู้ร่วมรายการที่ออกมาแฉถึงพฤติกรรมที่เสื่อมทำลายศาสนา คือคุณนที และผู้ให้เหตุผลและตอบรับ ขัดแย้ง โดยคุณวัลลภ โดยสรุปรวมๆ ของเนื้อเรื่อง พูดประเด็นการใช้ย่ามสีชมพู การห่มดอง จีวร พฤติกรรมที่แสดงออกถึงอาการแต๋วแตก แต๋วแหว๋ว แต๋วไม่เหมาะสม เป็นต้น
ชาน่า
การสื่อสารในโลกปัจจุบันนั้นล้ำสมัย มีหลายสื่อให้ประชาชนได้เลือกบริโภค หากจะย้อนไปในสมัยก่อน การสื่อสารถึงกัน หรือแม้แต่เฉพาะกลุ่มเป็นเรื่องที่ลำบากมากนัก หากจะเข้าประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเกย์ หรือ กลุ่มรักร่วมเพศ สื่อทางหนังสือ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้สื่อสารถึงกลุ่มกันได้ในสมัยโบราน แต่ก็มีความลำบากไม่ใช่น้อยสำหรับใครที่ต้องแอบใช้ชีวิตปกปิดตัวเอง การเก็บสื่อต่าง ๆ เหล่านั้นคงจะลำบากในการซุกซ่อน จนทำให้วิตกจริตเกรงว่าจะมีใครมาจับได้ว่าเป็นเกย์ มีหนังสือ สื่อเหล่านี้ครอบครอง ทางเลือกใหม่ในปัจจุบันบางคนเลือกที่จะเสพสื่อเพื่อชาวเราผ่านทางอินเตอร์เน็ต…
ชาน่า
สัพเพเหระ หลากหลายสไตล์ในแต่ละสัปดาห์ที่ชาน่านำเรื่องราวของชาวรักร่วมเพศ หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศมานำเสนอ โดยหวังว่าจากเพียงแค่ไม่กี่ประโยคที่คุณได้อ่านหรือสัมผัส จะเป็นประโยชน์ต่อคุณหรือใครสักคนไม่มากก็น้อย สัปดาห์นี้พลาดไม่ได้อีกหนึ่งโครงการดี ๆที่อยากแนะนำสำหรับชายรักชาย ช่วงปลายเดือนนี้ เรามีโครงการดีๆ มาเสนอให้คุณฮ่ะ ชื่อโครงการที่ว่านี้คือเข้าค่าย "ทักษะชีวิตพิชิตเอดส์ ครั้งที่ 29" ซึ่งทางสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทยร่วมกับ สถาบันวิจัยสาธารณะสุข(สวรส.) ได้จัดขึ้นในระหว่างวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 24-25 มกราคม 2552 ณ ค่ายริมขอบฟ้า เมืองโบราณ…
ชาน่า
สวัสดีปีใหม่ค่ะ วันเวลาผ่านไปอย่างไวจากวันเป็นเดือน จากเดือนเลื่อนเป็นปี ก้าวเข้าสู่ปี คศ. 2009 ขออวยพรให้ทุกคนก้าวหน้า อย่าก้าวถอยหลัง ก้าวไปอย่างมีสติ ไม่ประมาท และทุกย่างก้าวถ้าหากเราทำดี ชีวีก็มีสุขเป็นกุศลที่มองไม่เห็นแต่คุณจะสัมผัสได้ วันหยุดยาวติดต่อกันตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีใหม่นี้ หลายคนมีโอกาสกลับไปสู่มาตภูมิ ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างเป็นสุข ทำงานเหนื่อยมามากแล้ว บางครั้ง บางวันอย่าลืมให้รางวัลกับบางวันของชีวิตด้วยนะฮะ สัปดาห์นี้ชาน่าขอพาคุณ ๆ ไปเที่ยวประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานสี่ห้าพันปี นั่นคือ กรีซ แต่สถานที่ๆ ชาน่าจะพาไปท่องเที่ยวครั้งนี้ หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู…
ชาน่า
เรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ หรือความผิดโทษฐานที่เกิดมาเป็นรักร่วมเพศในโลกนี้ยังมีให้เห็นอีกหลายมุมของโลก อันเนื่องมาจากวัฒนธรรมประเพณี ธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ชาน่าเคยได้รับเมล์ส่งต่อจากเพื่อนที่ส่งภาพของสองหนุ่มน้อยวัยเบญจเพส ชาวตะวันออกกลางที่ถูกประหารด้วยการแขวนคอประจาร โทษฐานที่เป็นรักร่วมเพศของประเทศในตะวันออกกลางเมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนั้นดูด้วยความสลดและเกิดความสงสารจนพูดไม่ออก
ชาน่า
ท่ามกลางความหนาแน่นของผู้คน นักเดินทางโดยเครื่องบิน ขาเข้าและขาออกนอกประเทศ ณ สนามบินสุวรรณภูมิในค่ำวันหนึ่ง “หวัดดีครับชิน ยินดีที่ได้รู้จัก ได้ยินแต่ชื่อเสียงเลียงนามมานานแล้วครับ” เสียงของพี่หนึ่งทักทายเมื่อครั้นที่เราพบกันครั้งแรกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ผมกำลังจะบินไปทำงานต่อที่ต่างประเทศ