Skip to main content


 

เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ)

สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ



วัฒน์ หนุ่มไทยเชื้อสายจีนที่เติบโตมาท่ามกลางวิถีชีวิตของคนไทยในเมืองกรุง ด้วยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่เมืองไทยหลายชั่วอายุคน การใช้ชีวิตและสิ่งแวดล้อมของเขาไม่ต่างอะไรไปกับคนไทยครอบครัวจีนทั่วไปเลย พออายุเลยเพญจเพส เขาบรรลุนิติภาวะด้วยวัยวุฒิที่สังคมกำหนดแล้ว แต่ภาวะทางจิตในสายตาของผู้ปกครองยังมองเขาเหมือนเด็กเสมอ และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง สำหรับปัญหาที่ค้างคาใจมาโดยตลอดตั้งแต่จำความได้ กับบทบาทของชีวิตครอบครัวที่เกิดขึ้น

แก...บอกพ่อแม่เหอะ ฉันคิดว่าท่านรู้ เพราะยังไงท่านก็เลี้ยงแกมา มีเหรอจะไม่รู้อ่ะ”
มันจะดีเหรอเธอ... ถ้าหากฉันบอกทางบ้านแล้วเค้ารับไม่ได้ล่ะจะทำยังไง”



กลางค่ำคืนของปลายฝนต้นหนาว และแล้วก็มาถึงวันที่วัฒน์คิดว่า “สักวันคงต้องมาถึง” วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี หลังจากฝนฟ้าตก ๆ หยุด ๆ ตามช่วงฤดูกาล ทุกคนภายในบ้านนั่งทานอาหารมื้อเย็นด้วยกันอย่างพร้อมหน้า พอทานอาหารเสร็จจึงนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยตามประสาครอบครัวที่อยู่กันอย่างอบอุ่น เหตุการณ์เหมือนกับเป็นลางสังหรณ์ ไม่ต้องรอให้วัฒน์ได้เอ่ยปากพูดเกริ่นถึงเรื่อง แต่สถานการณ์มันก็พาไปเองด้วยความบังเอิญ แม่เปิดฉากเริ่มต้นด้วยคำถามที่วัฒน์ไม่อยากจะเชื่อเลย

วัฒน์...ทำงานเหนื่อยมั้ยลูกวันนี้ แม่ขอถามเราหน่อยนะ ขอให้ตอบแม่ตามความเป็นจริงนะลูก ... อือ... เรามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า” แม่นั่งยิ้มเหมือนมีอะไรในใจที่น่าค้นหา กับคำถามที่เป็นปริศนาแปลก ๆ
ก็ไม่มีอะไรนี่ครับแม่ ผมก็ปกติดีทุกอย่าง ทำไมเหรอแม่” วัฒน์ถามแม่กลับอย่างงงๆกับการเกริ่นเรื่องคำถามของแม่
นี่จดหมายของลูกใช่มั้ย นนท์ส่งมาให้”
ใช่ครับ.... แม่เปิดอ่านเหรอ แม่เปิดอ่านทำไม นั่นมันจดหมายที่นนท์จ่าหน้าซองถึงผม” วัฒน์เห็นซองจดหมายที่รู้อย่างเต็มอกว่าเป็นจดหมายของใคร เพราะจำลายมือและซองได้เป็นอย่างดี คงไม่ได้เป็นของคนแปลกหน้าคนไหน หากแต่เป็นจดหมายของแฟนผู้ชายที่เป็นคนคุ้นเคย ที่เคยมากินนอนที่บ้านของวัฒน์ประจำ ซึ่งทางบ้านของเค้าก็รู้จักหนุ่มคนนี้ดีเหมือนเป็นลูกชายอีกคน เพราะนนท์เป็นเพื่อนสมัยเรียนของวัฒน์ที่รู้จักมักจี่กับครอบครัวของวัฒน์ เพราะเค้าเคยบอกพ่อแม่ของวัฒน์ว่า ขอเป็นลูกชายอีกคน นนท์เค้าเป็นลูกกำพร้าที่พ่อแม่จากไปนานแสนนาน
เราเป็นแฟนกับนนท์เหรอ... !!!! ...”
ที่แม่เข้าใจถูกแล้วครับ ผมเป็นเกย์ ผมรักนนท์และนนท์เค้าก็รักผมครับ”

 

แค่นี้ล่ะ เรื่องทั้งหมดก็กลายจากหน้ามือเป็นหลังเท้าทันทีทันใด
อ๋อ...มันอย่างนี้นี่เอง” แม่ของวัฒน์ได้รับคำตอบจากปากของลูกชายคนโตของครอบครัวอย่างเต็มหู อย่างเสียงดังฟังชัด
กูคิดว่ากูคงอยู่ร่วมกับมึงไม่ได้แล้วล่ะ”
ตกลงพวกมึงหลอกกูมาตลอดเลยเหรอ ที่มานอนค้างที่บ้าน มา(....ร่วมเพศภาษาบ้าน ๆ ...)กันในบ้านของกู มึง...ไอ้(...วรนุช...) ไอ้สัตว์เดรัจฉานนนนนนน...” เสียงของผู้เป็นพ่อ กราดด่าหน้าดำหน้าแดง ด้วยความโมโหอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้

 


วัฒน์ใจหายแว๊บ เหมือนโลกกำลังจะแตก หัวใจกำลังสลาย พายุกำลังกระหน่ำเข้าในใจอย่างเสียไม่ได้
มึงมีเวลาสามสิบนาที ให้ออกจากบ้านกูไปเดี๋ยวนี้แล้วอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก....” ประโยคที่พ่อพูดออกมาก้องในหู วัฒน์แทบเสียสติ พร้อมกับรุดไปที่ห้อง ที่บอกให้รู้ว่าสถานการณ์นี้อยู่ต่อไปคงไม่ได้แล้ว
นี่มันอะไรกันเหรอ ถามกันตรง ๆ ก็บอกกันตรง ๆ นึกว่าจะรับได้ นึกว่าจะรู้แล้ว ...ทำไมมันเป็นอย่างนี้” วัฒน์ถามพ่อแม่ด้วยความสงสัยและขุ่นใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น แต่ก็นึกในใจเสมอว่า ถ้าสักวันมันถึงเวลาก็คงเป็นเวลาที่โลกจะเปิดเผยของมันเอง

ทันทีทันใดนั้น วัฒน์เห็นภาพของผู้เป็นพ่อที่กำลังกริ้วโกรธ เข้ามากระชั้นชิดตัวของเขา พร้อมกับง้างมือจะตบด้วยความโมโหสุดชีวิต
ด้วยสัญชาติญาณของมนุษย์ วัฒน์ยกมือขึ้นป้องกันตัวเอง
นี่มึงคิดจะสู้กูเหรอไอ้วัฒน์ ไอ้ลูกเนรคุณ”
ผมไม่ได้สู้พ่อ แต่ทำไมพ่อต้องตบหน้าผมด้วย ผมเป็นเกย์แล้วไม่ดีตรงไหนครับ”
มึงยังจะมาเถียงอีกเหรอไอ้วัฒน์ ...”
ไอ้วัฒน์.... เสียแรงที่กูเลี้ยงมึงมา ไอ้ลูก....(วรนุช...หอสระเอียไม้โท..)..” แม่ของวัฒน์ก็เสียใจไม่น้อยทั้งด่าและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน
ผมถามพ่อกับแม่หน่อยเหอะว่า ผมมัน...(วรนุช) ตรงไหน ผมทำทุกอย่างเพื่อพ่อแม่ ครอบครัวและน้อง ๆ ผมเป็นคนดี ทำดีมาโดยตลอด แค่เป็นเกย์แล้วมันผิดตรงไหน”
พ่อกับแม่จะให้ผมออกจากบ้านไปใช่มั้ย ... นับจากตอนนี้เป็นต้นไป ถ้าใครถามให้บอกเค้าว่า ลูก...(วรนุช) คนนี้มันหนีไปเอง มันไม่รักดีที่เกิดมาเป็นเกย์” วัฒน์บอกกล่าวลาทั้งน้ำตาอาบแก้มอย่างเสียใจ

วัฒน์เสียใจมากที่พ่อแม่ด่าไล่ ยังกะหมูกะหมา ทั้งๆ ที่หลายปีที่ผ่านมาหลังจากเขาเรียนจบก็ช่วยกิจการงานที่ธุรกิจที่บ้าน ยอมทิ้งงานที่รักและเคยทำมาดูแลงานธุรกิจครอบครัว ช่วยทำทุกอย่างตั้งแต่ภารโรงยันผู้จัดการบริษัท จนฐานะและกิจการทางบ้านเจริญรุ่งเรือง กับเรื่องแค่เกิดมารักเพศเดียวกัน ทำไมต้องด่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน เกิดความสงสัยพอตอบตามความจริงก็รับไม่ได้ หรือพ่อแม่จะหลอกตัวเองมาตลอด พอรู้ความจริงจึงรับไม่ได้

ผมจะทำยังไงดี ผมไม่รู้จะไปทางไหน ผมไม่มีเงินเก็บเลย เงินที่ได้มาจากครอบครัวก็ให้พ่อแม่หมด มีติดตัวแค่ไม่ถึงพันบาท” วัฒน์พูดกับตัวเองอย่างน่าสงสารชะตาฟ้าผ่า พรางเก็บข้าวของพร้อมจะออกไปตามความต้องการของพ่อและแม่ในตอนนั้น

วัฒน์ตัดสินใจขอไปอยู่กับเพื่อนสนิท ซึ่งเค้าอยู่กับครอบครัวที่น่ารักมาก พ่อแม่เป็นคนธรรมะธรรมโม มีจิตใจดี หนึ่งชั่วโมงที่เก็บของและรอรถแท็กซี่ที่โทรไปเรียกนั้น มันสุดแสนจะรันทดและทรมานมากที่สุดในความรู้สึกถูกคนที่เค้ารักและรักเค้าไล่ออกจากบ้านอย่างไม่แยแส
--------

ไม่ต้องเสียใจนะลูก พ่อแม่เค้ารักเรามาก เค้าคงผิดหวังอย่างแรง และตอนนี้เค้ากำลังโกรธอยู่ ลูกอย่าไปโกรธเค้านะ มาอยู่กับเพื่อนสักระยะ พอสบายใจแล้วค่อยกลับไปคุยกับพ่อแม่ละกันนะลูก” แม่ของเพื่อนปลอบและให้กำลังใจ
--------



ผ่านไปสามเดือน เหมือนกับสามปีที่ทรมานใจ และกลุ้มใจโดยตลอดของชีวิตที่ลิขิตเป็นเช่นนี้ พ่อแม่ของวัฒน์ตามหา ทั้งโทรเข้ามือถือ หรือให้ญาติคนอื่นโทรหา แต่วัฒน์ก็มีฐิถิในตัวเองสูงพอ ทุกสายที่เขารู้ว่าเป็นเบอร์มือถือของญาติ เขาจะตัดสายทิ้งไม่รับแม้แต่คนเดียว ทุกครั้งที่กดตัดสายเหมือนการกดทำลายความเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืมหาย

วัฒน์ทราบข่าวจากญาติว่า ธุรกิจครอบครัวที่เขาเคยทำตอนนี้ตกต่ำมาก แทบจะอยู่ไม่รอด ผลพวงจากช่วงเศรษฐกิจตกต่ำทั่วประเทศ อีกอย่างขาดแรงกำลังจากวัฒน์ที่เคยเป็นหัวหลักของงาน
ถ้าเจอวัฒน์ฝากบอกเค้าด้วยให้เค้ากลับบ้าน ทางบ้านไม่โกรธแล้ว ..พ่อแม่ขอโทษและให้อภัยเขาเสมอ...”

สามเดือนที่ผ่านไปกับการเผยตัวเองให้ทางบ้านรู้นั้น เป็นช่วงที่ทรมานและทุกข์มากที่สุดในชีวิตของเขา ไม่ว่าจะกินนอน ยังผวาตื่นทั้งน้ำตา ทั้งฝันร้าย ต้องเร่ร่อนหางานทำ ไม่มีเงิน ไม่มีที่อยู่ ถึงแม้จะอาศัยอยู่กับเพื่อนคนสนิท แต่วัฒน์ก็ไม่อยากรบกวนครอบครัวของเพื่อนเป็นเวลานาน และยังไม่รู้ว่าชีวิตจะดำเนินต่อไปทางไหน เค้าติดต่อกับน้องชายและน้องสาว ด้วยความรักและห่วงหาอาทร แต่ก็ห้ามไม่ให้ทั้งสองบอกพ่อกับแม่
-----

เกือบปีที่ทรมานผ่านไป วัฒน์สมัครไปทำงานบริษัทหนึ่งที่อยู่ต่างประเทศ โดยทำงานด้านการบริการเริ่มต้นในต่ำแหน่งที่ลำบากมาก แต่เค้าก็ทนอย่างสุดตัว

และแล้วความรักระหว่างชายกับชายของเขาก็ไปไม่ถึงฝั่ง หลังจากที่วัฒน์ไปทำงานที่ต่างประเทศ นนท์ก็เปลี่ยนไป เริ่มคบชายใหม่

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น กริ๊งงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงง ๆ
ฮัลโหล..” เสียงผู้หญิงรับ ที่คุ้นเคยว่าเป็นเสียงของแม่ของวัฒน์
หวัดดีครับ....” วัฒน์สนทนากับเสียงของคนรับโทรศัพท์
วัฒน์เหรอลูก.... อยู่ไหนลูก แม่คิดถึง แม่ขอโทษ กลับมาบ้านเรานะ พ่อกับแม่รออยู่”
ผมกลับตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ.... เพราะว่าผมไม่ได้อยู่เมืองไทย ผมมาทำงานอยู่อเมริกาครับ แล้วผมจะโทรมาใหม่นะ แค่นี้นะครับ” วัฒน์ยังไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก เพราะทั้งน้ำตาและความโศกเศร้ามันทำให้พูดออกมาไม่ได้เหมือนมีอะไรติดเสียงและความรู้สึก
.........................................................................................................


สามปีผ่านไป วัฒน์ได้เลื่อนขั้นจากหน้าที่ผู้ช่วยกุ๊กฝึกหัด สู่ตำแหน่งบ๋อยที่ด้อยค่า ณ วันนี้เขาสร้างรายได้เดือนละเป็นแสน ปีละล้าน ส่งเงินกลับบ้าน พร้อมกลับไปเยี่ยมพ่อและแม่ จนทุกวันนี้วัฒน์เป็นเสาหลักของครอบครัว ที่โกยรายได้ให้ปีละเป็นล้าน ๆ
เมื่อก่อนฉันเคยมีคนโตเป็นผู้ชาย ทุกวันนี้เขาจะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญแต่ที่สำคัญลูกฉันเป็นคนดี เขาเลี้ยงพ่อและแม่และน้อง ๆ ....”

-----------------------------------------------------------------------------


ขอบคุณ วัฒน์ (นามสมมุติ) สำหรับ Base on True story ที่ถ่ายทอดเรื่องราวให้ชาน่าเรียบเรียงเพื่อเป็นประโยชน์และสาระสำหรับผู้อ่านคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์”

ไม่ว่าลูกของคุณจะเป็นเพศอะไร ความสำคัญอยู่ที่คุณงามความดีและคุณค่าของคนมิใช่หรือ..

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
กลับมาเมืองไทยแล้ว มีโอกาสได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้นค่ะ เป็นแฟมิลี่เกย์ซะส่วนมาก เพราะครั้นจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ต้องดูแลตัวเอง กินร้อน ช้อนกลาง ปิดหน้าบังตา มันทำให้อึดอัด มาปีนี้ไม่มีโครงการทำอะไรนอกจากเขียนหนังสืออีกเล่มที่เกี่ยวกับคนหลายเพศ เป็นประสบการณ์ต่างแดนที่ไม่มีในเมืองไทย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรต้องติดตามตอนต่อไปนะคะ เล่มนี้จะส่งมอบให้สำนักพิมพ์ค่ะ ไม่ต้องทำเองให้เหนื่อย
ชาน่า
เมื่อคืนได้มีโอกาสดูรายการทีวีวาไรตี้โชว์ของสองช่องทีวีดังเมืองไทย "ตีสิบ" และ "ชิงร้อยชิงล้าน" ซึ่งเป็นรายการที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน บ่อยครั้งที่เราจะเห็นถึงความสำคัญและความสามารถในหลากหลายด้านของกลุ่มรักร่วมเพศ โดยรายการตีสิบ ช่วง "ดันดารา" ได้เสนอความสามารถของ หนุ่มหล่อสาวสวยประเภท 2 ซึ่งสร้างความสนุกสนานในรายการเป็นอย่างมาก นั่นคือโอกาสที่คนทั่วไปจักได้เห็นถึงความสามารถพิเศษและการโชว์ของพี่น้องชาวสีรุ้ง เพราะโดยปกติคนทั่วไปชาวบ้าน ๆ ก็ไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวตามผับ บาร์ของเกย์อยู่แล้ว หลายคนชื่นชอบนางโชว์ และใจจดใจจ่อ เวลาไปเที่ยวตามผับเธคซึ่งจะมีทอลค์โชว์ ลิปซิงค์โชว์ หรือ เต้นโชว์…
ชาน่า
เข้าสู่กลางปีของ พ.ศ . 2552 เหตุบ้านการเมืองก็ยังคงทรง ๆ ทรุด ๆ ส่วนภาวะเศรษฐกิจนั้นเห็นได้ชัดว่าย่ำแย่ ส่งผลกระทบต่อทุกคน ทั้งลูกเล็กเด็กแดง รวมทั้งพลเกย์อย่างเรา ๆ เช่นกัน ธุรกิจของเกย์บางอย่างก็ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก แต่บางอย่างก็ไปรุ่งอยู่รอดได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถึงอย่างไรก็คงต้องสู้กันต่อไปเพื่อความอยู่รอด และประคับประคองบ้านเมืองให้ไปถึงจุดหมาย พร้อมด้วยสภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมให้เป็นสุข
ชาน่า
พาเม้าท์ชาวเกย์ (บันเทิง) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอหนังเกย์สุดอลังการที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งชื่อ “Frozen Flower”     “Frozen Flower” เป็นภาพยนตร์แนวมหากาพย์ฟอร์มยักษ์โดยสร้างจากเรื่องจริงในยุคของโครยอ (ค.ศ. 918-1392) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและการทรยศของกษัตริย์ เรียกได้ว่าเป็นหนังแนวสงครามย้อนยุค โดยมีนักรบจำนวน 36 ชีวิตที่มีชื่อเรียกว่า กอนรยงวี (건룡위) และมเหสีผู้เลอโฉมจากอาณาจักรหยวน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้โจอินซอง รับบทเป็น ฮงริม ผู้บัญชาการของ กอนรยงวี ซึ่งเขาได้รับ "ความรักแบบลึกซึ้ง" จากกษัตริย์เป็นอย่างมาก ทางด้านคู่ขาของ โจอินซอง(Jo In Sung) อย่าง จูจินโม (Joo Jin Mo…
ชาน่า
วันนี้เรือจอดที่เมือง Civitavecchia ซึ่งเป็นเมืองท่าปากทางเข้าสู่มหานครกรุงโรม การเดินทางไปถึงกรุงโรมจากเมืองนี้ต้องนั่งรถไฟ รถทัวร์ หรือแท็กซี่เข้ากรุงโรม ประมาณหนึ่งชั่วโมง ดิฉันไปกรุงโรมหลายครั้งจนนับไม่ได้ ได้มีโอกาสไปกับทัวร์นักท่องเที่ยว ไปส่วนตัว ไปกับคนรัก ไปกับเพื่อน หรือแม้แต่ไปตามหัวใจเรียกร้อง
ชาน่า
ได้รับอีเมล์จากคนอ่านหนังสือท่านหนึ่งที่ชื่อ "นนท์" ส่งจดหมายมาระบายความในใจและเตือนภัยสำหรับชาวเรา อิฉันอ่านแล้วแทบอึ้ง และรู้สึกถึงความแย่ที่ถูกผู้ชายสมัยนี้อาศัยความเป็นเกย์ ไม่เป็นเกย์ แต่เป็นโจร หากินแบบทุจริต ผิดศีลธรรมกับกลุ่มชาวเรา ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมใด ส่วนไหนของโลก เหตุการณ์นี้ล้วนเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะเมืองใหญ่ผู้คนมากมายแทบจะเหยียบกันตายแค่รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ
ชาน่า
ได้รับข่าวจากทางสมาคมฟ้าสีรุ้งส่งมาให้เกี่ยวกับเรื่องที่หลายคนทราบกันดีถึงพฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านและรังเกียจ กลุ่มหลากหลายทางเพศ โดยเหตุเกิด ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเรื่องนี้ได้รับรายงานมาว่าจากการที่เครือข่ายคนทำงานด้านเอดส์ เพศศึกษา เยาวชน สตรี และกลุ่มเครือข่ายความหลากหลายทางเพศได้ร่วมกันจัดงาน "เชียงใหม่เกย์ไพร์ด ครั้งที่ 2" เพื่อรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคเอดส์ (เอชไอวี) , ปัญหาการละเมิดสิทธิเด็ก, ลดอคติ และสร้างความเข้าใจต่อสิทธิของคนกลุ่มน้อยทางเพศ เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2552 ในวันดังกล่าว "กลุ่มเสื้อแดง" ใช้ชื่อว่า "กลุ่มรักเชียงใหม่ 51" ได้เปิดเวทีประณามการจัดงาน…
ชาน่า
คุณคะ การเที่ยวถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจอีกแบบไม่ว่าจะเป็นเที่ยวกลางวัน เที่ยวกลางคืน เพราะความหมายบอกเป็นนัยอยู่แล้ว ช่วงนี้ชาน่ายุ่งกับการท่องเที่ยวกลางวัน เพราะเรือได้มาถึงยุโรปแล้วค่ะ แต่ละประเทศที่เรือเข้าจอดนั้นสวยงาม มากด้วยประวัติศาสตร์ และศิลปะ ซึ่งรอบการท่องเที่ยวของผู้โดยสาร 12 วัน เรือจอดสิบวันที่เหลือสองวันอยู่กลางทะเล วันนี้อยู่สเปน พรุ่งนี้เข้าโมนาโคมะรืนอยู่อิตาลี วันต่อ ๆ ไปเข้าประเทศกรีซ สนุกสนานกับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ กลางวันปั่นรถจักรยานลุยป่าเขา กลางคืนแต่งสาวออกเที่ยว ด้วยเหตุผลนี้วันก่อนได้มีโอกาสเที่ยวกลางคืนที่บาร์เกย์แห่งหนึ่งของอิตาลี ซึ่งเรือจอดค้างคืนที่นั่น…
ชาน่า
เมื่อปลายปีที่แล้ว (2 ธันวาคม 2551)ได้ฤกษ์เปิดตัวหนังสือ GENDER ออกเผยแพร่เพื่อประชาชน เพื่อการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์ ทั้งชายจริง หญิงแท้และโดยเฉพาะกลุ่มหลากหลายทางเพศ ซึ่งจัดพิมพ์โดย สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดเพราะเนื้อหาสาระคับเล่มเต็มไปด้วยความรู้ และบันเทิงเชิงวิชาการที่ผสมผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ สังคมวิทยา และมานุษยวิทยา ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น ผลงานของ นางกัลยา ลักษณเกียรติ, นางวินิดา ชวนางกูร, น.ส.เพลินพิศ พรหมมะลิ, นางนภาพร วิบูลยานนท์, นายภักดี ศรีสุวรรณ, นายสุเชษฐ นาคเอี่ยม และนายบุญยะฤทธิ์ มาบกลาง
ชาน่า
วันที่ภาคภูมิใจของกลุ่มรักร่วมเพศ เกย์ เลสเบี้ยน สาวประเภทสอง หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศ ของรัฐฟลอริด้าทางตอนใต้ คือช่วงที่เมือง Ft.Lauderdale จะถูกแต่งแต้มทาสีรุ้งให้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และชาวท้องถิ่นอย่างคึกคักอีกครั้ง นี่คือการเฉลิมฉลองวันของ เลสเบี้ยน เกย์ ไบ และทรานส์เจนเดอร์ (สาวแปลงเพศ) ซึ่งได้ถูกจัดขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สองวันซ้อน เสาร์และอาทิตย์ที่ 22-23 มีนาคม ณ Holidays Park /War Memorial Auditorium โดยมีกิจกรรมทั้งภายในและกิจกรรมนอกอาคารมากมาย จากห้างร้าน บริษัทที่เกี่ยวข้อง มากกว่าสามร้อยบูธ ยกขบวนมาประชันกันเพื่อผลประโยชน์และสิ่งตอบแทนให้ชาวเราโด๊ยตรงฮ่ะ
ชาน่า
วันนี้อิฉันได้มีโอกาสอ่านข่าวแฉของเกย์ และโพสขึ้นกระทู้ที่ค่อนข้างแรง หัวข้อ "ช็อค ม.บูรพาเป็นแหล่งขายบริการทางเพศชายรักชาย องค์กรนิสิตจี้มหา′ลัยแก้ไขด่วน ตร.วางแผนป้องกัน" อันเนื่องจากเนื้อหาข้อมูลนั้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายรักชาย และพวกท่าน หลานเธอ(ที่เป็นวัยรุ่น) จึงอดไม่ได้ที่จะหยิบมาเม้าท์เล่ากระจายกัน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากจะไม่เหมาะสมแล้วยังสร้างความเสียหายแก่สถาบันการศึกษาอีกด้วย อันเป็นเรื่องจริงผ่านจอ ผ่านหน้าคอมพิวเตอร์ (จริงเหรอ)
ชาน่า
หากใครเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ ไม่ว่าจะเพิ่งแรกเข้า หรือรุ่นแง้มฝา (โลง) คงจำเป็นต้องรู้ถึงความเป็นมาเป็นไปของธงประจำชาติเกย์ & เลสเบี้ยน ชาน่าเตรียมเขียนมานานแสนนานแต่กั๊กไว้ แต่ก็อดใจไม่ไหวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยว Pride Festival ที่ รัฐฟลอริด้า หยิบหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของกลุ่มรักร่วมเพศ หน้าหนึ่งได้อธิบายความเป็นมาของสีรุ้ง จึงตัดสินใจนำสาระมาฝาก กว่าจะได้ฤกษ์งามยามดีจึงบอกเล่าเก้าสิบหยิบมาเม้าท์กันในฮ่ะ