Skip to main content

เมื่อใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว หากใจและกายไม่สอดคล้องกับความรู้สึกและความต้องการ  ทางออกของใครหลายคนจึงเลือกที่จะเยียวยารักษาทางกายมากกว่าทางใจ  จึงเป็นผลให้ใครหลายคนเลือกที่จะทำการ “ผ่าตัดแปลงเพศ”

ในส่วนของพนักงานบริการที่เราคุ้นกันในเมืองไทย ก็มีจารึกไว้แล้ว โดยหนุ่มสจ๊วตที่แปลงโฉมเป็นแอร์กี่ เอ้ยไม่ใช่ค่า แอร์โฮสเตส เรียกเสียงวิพากวิจารณ์จากมหาชนมิใช่น้อย

ส่วนของเรือสำราญ พนักงานบริการที่ต้องพบปะผู้โดยสารจากหลายประเทศทั่วโลกก็มีเธอผู้นี้ ... เช่นเดียวกัน

วันนี้ชาน่าได้มีโอกาสพบกับเพื่อนร่วมงานบริการชาวต่างชาติคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนเค้าคือ คนทำงานบริการที่เป็นผู้ชาย  แต่ตอนนี้ทุกคนต้องเรียกเธอว่าพนักงานบริการผู้หญิง “หนึ่งเดียวคนนี้” เมื่อร่างกายจากชายกลายเป็นหญิง  แต่งชุดพนักงานหญิงทำงานเหมือนสาวๆ ทั่วไป ทำให้เป็นที่จับตามองของหลายฝ่ายหลายคน ทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน

จึงพลาดไม่ได้ที่จะร่วมดริ้งกับเธอและสนทนาพาที  สัมภาษณ์เธอเผื่อจะกระจ่างแจ้งในทุกคำถามที่คุณอยากรู้  (ไม่ใช่แค่พี่ไทยเท่านั้นเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติหลายคนก็สนใจถามกันใหญ่เลยเชียวค่า)

คืนหนึ่งที่บาร์ของพนักงานบนเรือสำราญหรู ราคาเกือบห้าร้อยล้านเหรียญ ซึ่งเรือได้ล่องไปในทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนี่ยนมุ่งหน้าไปหลายประเทศในยุโรป จึงนัดกับเธอหลังจากเสร็จจากงานแชมเปญจ์วอเตอร์ฟอล

20080529 chana 1

ชาน่า - หวัดดีเจสสิก้า  แหมพอเปลี่ยนชุดพนักงานใส่ชุดราตรีซวย เอ้ย ...สวยเชียวนะตัวเอง
Jessica - อ้าวชาน่า  มารอเรานานหรือยัง  
(เจสสิก้าแต่งชุดสีแดงแรงฤทธิ์ เพื่อมานั่งดื่มและเช็คเมล์ที่บาร์ของพนักงานและห้องอินเตอร์เน็ต รวมทั้งให้สัมภาษณ์หลังจากที่ชาน่าได้เชิญก่อนหน้านี้)

ชาน่า -  เราขออนุญาตสัมภาษณ์เผื่อเรื่องราวของเธอจะเป็นประโยชน์ และไขคำถามของใครหลายคนที่อยากรู้เรื่องราวของสาวบริการ กับการแปลงเพศ ต้องขอขอบคุณเป็นตัวแทนของคนอ่านคอลัมน์ของชาน่าหลายคนด้วยนะคะ  เอาหละ  ถามก่อนว่า ตอนที่เป็นกะเทยครั้งแรก ทางครอบครัวรู้แล้วเป็นไงบ้าง
Jessica-  ตอนที่เปิดเผยตัวเองครั้งแรก พ่อไม่ชอบเลย ต้องทำใจและทำเวลานานแสนนานกว่าที่ท่านจะรับได้  ส่วนแม่เข้าใจหัวอกลูกนะ   

ชาน่า- แล้วก่อนที่ตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศหละ เป็นยังไงบ้าง
Jessica -ก็คิดอยู่นานเหมือนกันแต่สุดท้ายก็ต้องทำเพราะคิดว่าเรามีโอกาส เจสสิก้าคิดว่าหลายคนมากที่ยังไม่มีโอกาส ฉะนั้นหากเราพร้อมจึงต้องรีบทำซะ เพราะชีวิตของเรามีอยู่ชีวิตเดียวจะกลัวอะไร  แต่ก็ขออนุญาตพ่อกับแม่ก่อนนะ

ชาน่า-ทราบข่าวว่า เจสสิก้าเลือกที่ไปผ่าตัดแปลงเพศที่เมืองไทยเหรอ
Jessica - ใช่แล้ว เพราะเจสสิก้า มีผู้ช่วยที่ทำงานเรือสำราญลำก่อนหน้านี้เป็นคนไทย เค้าแนะนำให้ไป ก็ต้องติดต่อทางอินเตอร์เน็ตก่อน  

ชาน่า-ทำไมถึงเลือกผ่าตัดที่เมืองไทย
Jessica -เหตุผลที่เลือกผ่าตัดที่เมืองไทยเพราะคิดว่า ราคาถูกกว่าหลายที่ และคิดว่าดีที่สุดนะเพราะเคยทราบข่าวดาราฮอลลี่วู๊ดหลายคนไปทำศัลยกรรมความงามที่เมืองไทย  และมั่นใจว่าหมอที่เมืองไทยเค้ารู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แปลงร่างชายให้เป็นหญิงได้อย่างงดงาม “สมจริง”  เพราะเคยเปรียบเทียบที่เม็กซิโก ราคาแพงกว่าเยอะ และหมอก็ไม่ยอมผ่าตัดให้ด้วย แม้เราจะเป็นคนเม็กซิกัน

ชาน่า-เลือกไปผ่าตัดเมื่อไหร่
Jessica - เราผ่าตัดเมื่อสามปีที่แล้ว พอสมัครทางอินเตอร์เน็ตแล้ว หมอนัดจึงไปเมืองไทยช่วงพักร้อน  ตอนนั้นไปกับอดีตสามีชาวอิตาลี่ด้วย ซึ่งก็พักโรงแรม และเค้าก็ดูแลตลอด

ชาน่า-กลัวมั้ยก่อนผ่าตัด และหลังผ่าตัด
Jessica -ก็กลัวนะ คิดนานเชียวหละ แต่พอหลังผ่าตัด เจ็บมากเป็นเวลานานหลายเดือนเชียวแต่ก็ดีใจที่ตัวเองได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และออกมาผลเกินคาด  เจสสิก้าไม่ได้กินฮอร์โมนผู้หญิงก่อนผ่าตัดเลยนะ ต้องมากินหลังจากผ่าตัด  ซึ่งตอนนั้นหมอสั่งงดเหล้า แอลกอฮอล์เพราะจะมีผลต่อฮอร์โมน

ชาน่า-ใช้เวลาผ่าตัดนานแค่ไหนเหรอคะ
Jessica -ประมาณเก้า ชั่วโมง ซึ่งต้องนอนรักษาแผลที่โรงพยาบาล

ชาน่า-อยากทราบว่า เลือกโรงพยาบาลไหน พอจะบอกได้มั้ยคะ  จำชื่อโรงพยาบาลได้มั้ย
Jessica -อ๋อ บอกได้ค่ะ  เลือกผ่าตัดที่โรงพยาบาลยันฮี

ชาน่า-ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่
Jessica -เมื่อสามปีที่แล้ว ราคาประมาณ 16,000 เหรียญ  (คิดเป็นเงินไทยประมาณ  เกือบห้าแสนบาทในตอนนั้น)  ทำงานเกือบทั้งปีเชียวนะเธอกว่าจะได้ร่างกายเป็นหญิง สมใจนึก  โอ้โห...

20080529 chana 2

ชาน่า-คิดว่าพอใจมั้ยคะ
Jessica - ก็พอใจนะ ทำหลายอย่างเช่นผ่าตัดหน้าท้องให้เรียบเนียน  แต่ตอนนี้ยังอยากทำอีกหลายอย่างเช่น ทำหน้าอกเพิ่ม ทำก้นให้เด้งดึ๋ง
 
ชาน่า-ถามเรื่องเกี่ยวกับงานบ้างนะคะ  อย่างเจสสิก้าทำงานเป็นพนักงานบริการบนเรือสำราญ ซึ่งก่อนผ่าตัดเค้าก็รู้ว่า เป็นผู้ชายแล้วตอนนี้ทางเอเจนซี่ที่ประเทศเม็กซิโก เค้าส่งเธอมาในฐานะ นาย หรือนางสาว
Jessica – ชื่อที่มาทำงานเรือยังเป็นนายอยู่นะตอนนี้  เพราะทางต้นสังกัด ที่แอลเอ เค้าก็คิดว่าเป็นพนักงานผู้ชาย

ชาน่า-อ้าว ... เหรอ แล้วผ่านตรวจแมวเข้าเมือง เอ้ย ตรวจคนเข้าเมืองได้ยังไงเหรอคะ
Jessica -(หัวเราะ)  ก็บอกกับเจ้าหน้าที่ตรงๆ สิคะว่าเราคือ กะเทยแปลงเพศ  เพราะยังๆ ลายนิ้วมือ กับรูปหน้ายังคงเหมือนกับพาสปอร์ตอยู่แล้ว อย่างลายนิ้วมือไม่สามารถเปลี่ยนได้นี่นา เค้าก็ให้ผ่าน  ตอนแรกเค้าก็งงเป็นไก่ตาแตกเหมือนกันว่า “นี่ใช่คุณเหรอ”  (หัวเราะ)  

ชาน่า-ใช่ ชาน่าเข้าใจ  แล้วทำงานกับบริษัทเรือสำราญนานหรือยัง
Jessica -ทำมาหลายปีแล้ว แต่ตั้งแต่แปลงเพศแล้วทำมาได้สามปี

20080529 chana 3

ชาน่า-ตอนที่แปลงเพศแล้วกลับมาทำงานใหม่ ๆ ฟีดแบ็คเป็นอย่างไรบ้าง
Jessica - ตอนแรกก็ใส่ชุดพนักงานชายนั่นแหละ แต่หัวหน้าบอกว่า ไม่ได้แล้วเธอต้องเปลี่ยนชุดเป็นพนักงานผู้หญิงเพราะทั้งหน้าอก และผมเริ่มยาวขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหัวหน้าเค้าก็เข้าใจนะเพราะพวกเค้าหลายคนก็เป็นเกย์ หัวอกเดียวกันด้วย (ยิ้ม ๆ)

ชาน่า-เคยหนักใจ หรือมีปัญหาอะไรในเรื่องนี้หรือไม่
Jessica -มีสิคะ  เรือบางลำที่ไปทำงาน หัวหน้าเค้าก็รับไม่ได้  เรียกประชุมกันยกใหญ่ว่าจะทำอย่างไร จะให้พักห้องกับเพศหญิง หรือเพศชาย  บางทีก็กดดันมาก  เคยเหมือนกันตอนที่กลับจากพักร้อนแล้ว ไปทำงานเรือลำใหม่ หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานมองเราเหมือนตัวประหลาด ตัวแปลก แทบจะลาออกกลับไปบ้านเลยเชียวนะ

ชาน่า- แล้วเจสสิก้าทำอย่างไร
Jessica -ก็ทำดีที่สุด ทำหน้าที่ของพนักงานตามที่บริษัทเค้าคาดหวัง สุดท้ายก็ผ่านไปได้  หัวหน้าหลายคนก็รับได้ บางคนก็ดูเหมือนจะไม่รับอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น

ชาน่า-กับเพื่อนร่วมงาน ต่างเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรม หลากหลายกว่า สี่สิบสองเชื้อชาติทำงานร่วมกันหละ เป็นยังไงบ้างคะ
Jessica -บางคนยังจำได้ว่าคือ  ผู้ชายมาก่อน เจอกันอีกทีแต่งเป็นหญิงซะแล้ว  ไปทางไหนก็มีแต่คนมอง เม้าท์แตก  แต่ก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรนะ ใครอยากมองก็มองไป

ชาน่า- ผู้โดยสารที่เธอบริการล่ะ
Jessica - ส่วนมากเค้าจะไม่ถาม คิดว่าบางคนก็ไม่รู้นะว่าเราแปลงเพศมา เพราะอิชั้นตัวเล็กเสียงก็ไม่ใหญ่ด้วย

ชาน่า-เคยบอกผู้โดยสารมั้ย
Jessica -ก็เคยนะ พวกเค้าบางคนก็ไม่เชื่อ บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก หลากหลายคำถาม จนพักหลังเนี่ยไม่บอกดีกว่า

ชาน่า- เอาล่ะ อยากถามเรื่องราวความรัก -รสนิยมทางเพศบ้าง เป็นยังไงในความรู้สึก
Jessica -มีผู้ชายหลายคนที่เข้ามาในชีวิต  พวกเขาบางคนก็แค่ ต้องการ ... อยากร่วมลองด้วย...   บางคนพอหลังจากเค้ารู้ว่า เราไม่ใช่ หญิง หลายคนก็หายไป..  แต่บางคนก็รับได้  และคิดจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะเค้าบอกว่าเค้าไม่แคร์ คบกันที่ใจ ส่วนร่างกายเธอก็เป็นเหมือนหญิง เค้ารับได้
“ถ้าจะชอบ ก็คือนี่ล่ะตัวฉัน  I am what I am”   เคยมีแฟนแต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีนะ เป็นโสดอีกแล้ว...

ชาน่า- แหม..ไม่เป็นไรหรอก สวยๆ อย่างเจสสิก้า ขี้คร้านมีแต่ผู้ชายจะวิ่งชนกันเข้ามาหา
Jessica -  (ยิ้มๆ) คิดว่ารอคนที่ใช่มากกว่า หากไม่ใช่ก็จะไม่เสียเวลาด้วย  หรืออาจจะแค่ผ่านมา ผ่านไป

ชาน่า- ถามเรื่องอนาคตว่าใฝ่ฝันอยากทำงานอะไร  หรือคิดโครงการอะไรบ้างคะ
Jessica -  ฉันคิดว่า ฉันอยากเป็นดารา นักแสดง หรือนางโชว์ ทำงานที่ตัวเองรักหนะค่ะ

ชาน่า-ฝากบอกอะไรกับคนอ่านคอลัมน์ของชาน่าบ้าง  
Jessica -ถ้าอยากจะแปลงเพศเมื่อพร้อมจริงๆ  ก็ทำเลย เพราะหลังจากนั้น เราอาจจะไม่มีโอกาส   คุณมีหนึ่งชีวิต อยากทำอะไรก็ทำซะ ไม่ได้ผิดกฎอะไรนี่นา  ฝากบอกคนไทยด้วยว่า เจสสิก้าชอบเมืองไทยมาก เป็นประเทศที่น่าอยู่ ผู้คนน่ารักค่ะ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยนะคะ

20080529 chana 4

Profile
Name  : Hande  yener (turkish name means flowers) Or Jessica   
Birth  : 18 August- 26 years old
Birth Place : Acalpulco, Mexico
Hobbies :  like to go to the Gym, Disco, read the book etc,.
Favorite Place : Tahiti, The city of Transexual, Thailand  
Wanna tell :  I have only one life so I wanna have a happy one. Be yourself.

Special Thanks to Jessica ,Miss Mexico-my beautiful friend onboard ,Life @ sea Emerald Princess
“Jessica you not made in Mexico anymore I can tell now you made in Thailand”.


คืนนั้นต้องขอบคุณเพื่อนสาว เจสสิก้าที่พูดคุยกันจนกลายเป็นเพื่อนสนิทชิดเชื้อชาวต่างชาติของชาน่าจนหลายคนถามว่า เราเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนนานหลายปีมาก

ต้องขอบอกว่า หากมีโล่ห์สักอันอยากจะมอบให้เธอ สาว(ประเภทสอง)งาม ตำแหน่ง ...ช่างกล้า  ขอจารึกไว้ ณ คอลัมน์แล้ววันนี้   
     
เพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติบางคน ถามชาน่าว่า  “เธออยากจะแปลงเพศมั้ย”
อิชั้นก็ต้องตอบไปตามตรงว่า  “ไม่หรอกค่า เพราะแก่เกินแปลง อีกอย่างทางบ้านฉันครอบครัวยังไม่รู้เลย  ที่สาวแตก ขนาดนี้ก็เพราะอยู่ไกลบ้าน ทำอะไรก็ได้ไม่มีผลกระทบกระเทือน นี่ลjะตัวฉัน แต่พอกลับไปบ้านเกิด... ชาน่า แมนยกกำลังสองแม้จะไม่สุด สุด แต่ก็...นะ... เก็กชง ตามกาละและเทศะเจ้าค่ะ”

ใครจะเป็นเพศไหน ไม่สำคัญ หากแต่ทุกคนในสังคมจะยอมรับที่ความสามารถและความเท่าเทียมกันของมนุษย์  ให้โอกาสทุกคน โดยไม่แบ่งแยกเพศเป็นกำแพงกั้น   แล้วเราก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข  ... ความสำคัญอยู่ที่  “คุณ” คือใคร

ชาน่า  สัมภาษณ์เพื่อนสาวเม็กซิกัน จากบาร์ของพนักงาน ในขณะที่เรือกำลังจะจอดเมือง อิสตันบูล ประเทศตุรกี  Summer 2008 ค่ะ...

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…