พักนี้เก่าไปใหม่มา ลูกเรือไทยและต่างชาติที่หมดสัญญาทำให้หลายคนได้พักร้อน ลูกเรือคนใหม่หลายคนก็เข้ารับหน้าที่แทน ชาน่าจึงมีโอกาสได้ดูหนัง ฟังเพลง ใหม่ ๆ อัพทูเดทจากเมืองไทย ส่งตรงไปต่างแดน
หยิบวีซีดีแผ่นหนึ่งว่าด้วยเรื่องกฎหมาย “คู่ซ่าส์ ทนายแสบ บันทึกการแสดงสด” ของทนายแฝด จากรายการแจ้งความทางไอทีวี ,คนหัวหมอ ช่องสาม ,และซุปเปอร์แก๊กทางช่องเจ็ด โดย ทนายวันชัย สอนศิริ และทนายประมาณ เรืองวัฒนะวนิช ทนายคู่แฝดขำ ขำ เน้นย้ำสาระจึงพลาดไม่ได้ที่จะเปิดดู ซึ่งได้ทั้งความฮาไม่มีขีดจำกัดและความรู้เต็มจอ จึงขออนุญาตนำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชาวเรา ๆ มาฝากกันในสัปดาห์นี้ฮ่า
การอยู่ในสังคมล้วนมีมากผู้คนในความหลากหลาย บ้างคบค้าสมาคมด้วยได้ บ้างเห็นแล้วก็คร้านจะหลีก ปลีกวิเวกไม่อยากสนทนาพาทีด้วย บางคราจึงเข้าใจคำว่า “พูดไปก็เสียไพ่เบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” พูดจาไม่เข้าหู จากเรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวขึ้นมาได้เช่นกัน
การขัดแย้ง ทะเลาะวิวาทจึงเกิดขึ้นเสมอ เพราะสังคมทุกวันนี้บางครั้งดูเหมือนจะเจริญแต่วัตถุ แต่จิตใจบางคนต่ำจนตามแทบไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงฮ่า หรือว่าเป็นเพราะน้ำมันแพง ข้าวของแพง คนก็เครียด สัตว์ก็เครียด หมู หมา กาไก่ โดนฆ่าตายเพราะเลี้ยงไม่ไหว ขออย่างเดียว ขอเพียงทำใจให้มีสติ และสมาธิในการดำเนินชีวิตนะเจ้าคะ
กลับเข้าสู่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายใกล้ตัวที่สองทนายคู่แฝดนำมาฝากคุณ ๆ กัน ว่าด้วยเรื่อง “การด่าหรือใส่ความผู้อื่นหรือบุคคลที่สาม ทำให้เขาเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง มีความผิดฐานหมิ่นประมาท มีโทษจำคุกไม่เกิน1 ปี (ประมวลอาญา มาตรา 326)”
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ตลาดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แม่ค้า(ปากตลาด) เคยด่านางพยาบาลว่า
“โรงพยาบาลนี้ นังพยาบาลดอกทอง ดอกทองทั้งบ้าน ดอกทองทั้งโรงพยาบาล”
ฝ่ายนางพยาบาลก็ไม่ยอม จึงฟ้องศาลโดยเป็นโจทย์ เพราะถือว่า “ดอกทอง” แปลว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีมาก ๆ ทางกามารมย์ หลับนอนกับผู้ชายไม่เลือกที่ไม่เลือกหน้า ฝ่ายจำเลยก็ไม่ย้อม ไม่ยอมค่ะคุณ จึงสู้คดีหาว่าไม่ได้หมิ่นประมาทแต่อย่างใด จึงให้ความแก่ศาลไปว่า “ที่กล่าวว่าเธอ ดอกทองนั้นเพราะเปรียบเป็นดอกไม้ที่มีคุณค่า”
ทางด้านศาลจึงตัดสินฟังไม่ขึ้น “ฉันไม่เชื่อเธอหรอก” ตัดสินในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งความจริงแล้วหากกล่าวดูถูกหมิ่นประมาทโดยใช้ คำหยาบคายทั่วไป อย่างเช่น อี่ช้างลาก ไอ้หน้าหอกส่วนมากโทษปรับไม่เกินพันบาท สามร้อย ห้าร้อย แต่คำว่า “ดอกทอง” นี่หละ โทษถึงขั้นวินิจฉัยและพิพากษามีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
เพราะฉะนั้นต่อไปหากจะด่าใครก็เลือกคำที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงดอกทอง โดยใช้คำอื่นเช่นดอกกระเจี๊ยบ ดอกเงิน ดอกบานไม่รู้โรย ดีกว่า หรือว่าทางที่ดีก็ไม่ต้องเรียนรู้ภาษาศัพท์คำหยาบคาย ที่ทำให้ผู้อื่นระคายเคืองได้ก็แล้วกัน
ชาน่านำคำนี้มากล่าวถึงก็เพราะเข้าใจว่า คำว่า “ดอกทอง” เป็นรากศัพท์ และศัพท์แสลงที่ชาวเรานิยมเม้าท์ ๆ กันไม่เลือกที่ บ้างเม้าท์เล่น ๆ บ้างเม้าท์ด่าทะเลาะกันจริง แต่หากไปเจอคนจริงเข้าก็อาจจะเอาเรื่องได้ดังเช่นกรณีย์ตัวอย่างข้างต้น
เฮ้อ.... เคยมีคนบอกชาน่าว่าสิ่งหนึ่งที่เราเรียกกลับคืนมาไม่ได้ก็คือคำพูด เมื่อพูดไปแล้ว จะกลับคำก็ไม่ได้ “พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากปากเป็นสี” เพราะฉะนั้นจะพูดจา พาที ก็ตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังคิดก่อนค่อยทำ ไม่ใช่ทำ(ในสิ่งที่ไม่ดี) ก่อนแล้วค่อยคิดกลุ้มเสียใจภายหลัง
แต่สิ่งที่ชาน่าจะกลับมาทำในยามพักร้อนปีนี้ที่เมืองไทย คือ การรวมเล่มจากคอลัมน์(บางตอน) ในหัวข้อ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” และหลายตอนที่เขียนเพื่อหนังสือเล่มนี้โดยเฉพาะ โดยแต่งตั้งชื่อหนังสือว่า “ใช่ว่าจะดอก...ท้อ” ที่มาที่ไป เป็นอย่างไร ทำไมถึงต้องตั้งชื่อนี้ติดตามได้ในเร็ววัน และเราจะพบกันเร็ว ๆ นี้
ก่อนจบ ก่อนลาฝากถึงคุณ ๆ ว่าคนเราอยู่ที่ไหน มุมใดก็ต้องเคารพกฎหมาย เพื่อความสงบสุขและการอยู่ได้ร่วมกันในสังคม ช่วยกันดูแลสังคมในวันนี้โดยเริ่มต้นจากตัวคุณเองนะฮะ ไม่ว่าสภาวะบ้านเมือง สังคม และเศรษฐกิจที่เห็นและเป็นอยู่ในทุกวันนี้จะย่ำแย่ขนาดไหนก็ตาม ขอเราเลือกทำและอยู่อย่างเป็นสุขก็พอ....
ชาน่า กล้าเม้าท์จากเมือง มอนเต คาร์โล ประเทศ โมนาโค ดินแดนของชาวไฮโซ เศรษฐีทั้งหลายใช้เวลามาอยู่ที่นี่..