Skip to main content

ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติของเราที่มีมาตั้งแต่รุ่นปู่ของปู่ ย่าของย่า ตายายสมัยโบราณ วันนี้ชาน่าอยากนำคำศัพท์ สำนวน ภาษาเฉพาะที่ใช้เรียกและสื่อสารกันระหว่างชาวรักเพศเดียวกัน เผื่อใครหลายคนสนใจ หรือใคร่รู้ เคยได้ยิน เคยผ่านหู ผ่านตา อยากศึกษา(นอกตำราเรียน) ลองเปิดพจนานุกรม(เกย์) ฉบับเพื่อนส่งให้เพื่อนนี้ได้ ไม่เสียหลาย หากคำบางคำยากยิ่งซึ่งจักเข้าใจ หรือหยาบโลนบ้างไม่มากก็น้อยก็ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วย ไม่ได้มีเจตนาจะชักภาษาให้เสีย แต่เป็นแค่ภาษาที่ใช้สนทนากันเฉพาะกลุ่มเท่านั้นเอง คำบางคำ ต้องขอบอกว่า "คิดได้ไง" อ่านแล้วก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ ถือว่าเป็นภาษาเพื่อจรรโลงใจละกันฮ่ะ...
\\/--break--\>

เริ่มต้นที่จังหวัด กทม ของเรานี่ล่ะค่ะ

>ก.ท.ม. = กะเทยเก๊กแมน
> กระรอก = ออกไปหาเหยื่อ
> กระเทย โอทอป = กระเทยบ้านนอก
> กอล์ฟฟี่ = กระเทยมาดนิ่งสูงปรี๊ดดที่ร้ายลึกและเปรี้ยวแซ่บ
> กังกา = กระเทยที่ไม่มีคุณสมบัติผู้ดี
> กัด = ถากถาง กระแนะกระแหน
> กันซี = อาการหึงหวงจนออกนอกหน้า
> ก้ามปู = เกย์ล่ำ เล่นกล้าม
> กิ๊บเก๋ยูเรก้า = คำซึ่งบ่งบอกว่าสิ่งนั้นดีเลิศประเสริฐศรี
> กิ๊บบี้ = อร่อยน่ากิน
> เก้ง = ใช้เรียกเกย์ด้วยกันเอง
> เก๊กแมน = ทำท่าทางให้ดูสมชายชาตรีทั้งที่จริงออกแต๋วจ๋า
> เก๋กู้ด = ดูดี แต่งกายงาม
> เก๋ไก๋สไลเดอร์ = ยอยเยี่ยม เนี๊ยบนิ้ง
> เกิน = ทำอะไรโอเวอร์เกินจริง
> กุ้งนาง = กะเทยที่สวยหวานเหมือนผู้หญิง
> ขายน้ำ = การขายบริการทางเพศของผู้ชาย
> แขกรับเชิญ = ผู้ถูกนินทาว่าร้าย
> เข้ารอบ = ได้ผู้ชายไปครอง
> ควักกะปิ = การใช้นิ้วแหย่รูทวาร
> คัน = อาการอยากผู้ชาย
> คันธมาศ = เกย์ที่แสดงอาการชอบผู้ชายแบบไม่อายสังคม
> เค = คำเรียกอวัยวะเพศชาย
> แคม = คำชมเวลาเจอผู้ชายหน้าตาดี
> โคแก่ = กระเทยแก่ ๆจีบเด็กหนุ่ม
> ง่าม = หล่อ มาจาก ง่ามแต๊ๆ
> เงือก = เกย์ไม่สวย
> จ๊ะเอ๋ = โรคเอดส์
> จ๊าบติ๊ง = กะเทยที่แต่งตัวด้วยสีสันแสบตา เป็นที่สะดุดตาและสดุดปากของชาวบ้าน
> จั่ว = ติดเชื้อเอชไอวี
> จั๊ว = กำลังมีอะไรกัน
> จิก = การเดินเข้าไปคุยกับผู้ชายแปลกหน้าเพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างกัน
> จกตา = การแกล้งทำหรือแสดงละครเพื่อหลอกแฟนหรือเพื่อนๆ
> แจกทอง = การเข้าข้างหลังแล้วมีอุจจาระติดอวัยวะเพศออกมาด้วย หรือบางคนเรียกว่าแถมทอง
> เจ๊โบ = กะเทยแต่งตัวแบบโบราณๆ และหน้าตาก็แบบโบราณ เป็นกะเทยที่ไม่ทันสมัย คือแบบว่ายังโบราณอยู่
> เจ๊โป = เป็นคำเรียกคนพิการ เช่น อุ๊ยดูสิ นังอุไรหล่อนเป็นเจ๊โป คือเป็นโปลิโอ
> เจ๊หัก = กะเทยหน้าบ้านบ้าน จมูกหักดูไม่สวย
> จุดพลุ = การเรียกร้องความสนใจจากผู้ชาย
> จุ๊บ = ขโมย,ลัก
> จูออน = กะเทยน่ากลัว ตัวใหญ่หน้าหยาบ ชอบจิกผู้ชายอย่างไม่มียางอาย

 

 


> โจ๊ะ = การมีเพศสัมพันธ์กัน
> ฉ้อราษฎร์ = การแย่งแฟนเพื่อนมาเป็นแฟนของตนเอง
> ฉิ่งฉับ = เล่นรักในหมู่เกย์ควีนด้วยกัน
> ฉ่ำโบ๊ะ = พอกหน้า แต่งหน้า
> ชง = ผู้ชาย มาจากคำว่า ผู้ชงผู้ชาย
> ชบา = ชะนีในบาร์
> ชะนี = ผู้หญิง
> ชำมะนี = แผลงมาจากชะนี
> ชี = กะเทยออกสาว
> ชีเน่ = หน้าขาววอกใสสวยจนเกินเหตุเพราะการโบ๊ะแป้ง
> ชูตู = ชั้นต่ำ
> เซี๊ยบเจี๊ยบ = กะเทยที่ชอบทำตัวอ่อนหวาน แต่ลึกลึกเป็นคนร้ายลึกและขี้อิจฉา
> ซอง-ซองจู = การทุ่มให้ผู้ชายอย่างมากมายเกินฐานะของตัวเอง
> ซิก = การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
> ซีม่าโลชั่น = อาการอยากมีอะไรกับผู้ชายอย่างมาก
> ซุงแหล = โกหกมากๆ
> ซำ = เซ็ง
> เซิ้ง = สนุกสนานกัน ออกไปหาคู่กัน
> ด๊อกแด๊ก = ท่าทางการเดินที่ไม่มั่นใจ จะแมนก็ไม่ใช่ จะสาวก็ไม่เชิง ส่วนใหญ่เป็นกิริยาของกะเทยที่ยังไม่รู้ตัวเองว่าเป็นกะเทย
> ดาวนิล = กะเทยที่ดำคล้ำคล้ำ แต่ผิวเนียน
> เดื๋อย = เพื่อนรัก เพื่อนสนิท เรียกแทนชื่อเพื่อน ไปไหนมาเดื๋อย รอนานแล้วนะเดื๋อย
> ดำมณี = กะเทยที่ดำดำดำดำดำ ทำไมมันดำเช่นนี้
> ได้หน้าลืมหลัง = สำนวนไทยสำหรับเกย์ที่กลับใจไปแต่งงานกับผู้หญิง
> ตะมอย = เดินอ่อยผู้ชาย
> ตับเป็ด = กะเทยบ้านบ้านดำดำคล้ำ นัยว่าเป็นที่นิยมของฝรั่ง
> ตั้งเตา = ตั้งวงที่นินทาผู้อื่น หรือเริ่มชักชวนคนอื่นร่วมวงนินทาด้วยกัน
> ตั้งหม้อ = การแย่งชิงของหรือแฟนคนอื่น
> ตีฆ้องวงใหญ่ = การทำรักด้วยปากให้กับผู้ชายหลายๆคน
> แต๊บ = หยิบจับอะไรโดยไม่บอกกล่าว อาจหมายความว่าขโมยก็ได้ อีกความหมายคือการเก็บอวัยวะเพศชายไว้อย่างมิดชิด เพื่อที่จะใส่ชุดว่ายน้ำของหญิงได้
> แต๋ว = เกย์ที่แสดงออกมาก หรือเกย์ที่ชอบแสดงบทบาทการเป็นนางเอก
> ตุ๊ดตู่ = เกย์ที่ไม่แสดงออก หรือเกย์ที่ชอบแสดงบทบาทการเป็นพระเอก
> ตุ๋ย = มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
> โต๊ะ = การร่วมเพศ
> ตำแตง = การใช้มือช่วยตัวเองของผู้ชาย หรือทำให้ผู้ชาย
> ตำแจ่ว = ความหมายคล้าย ตำแตง คำศัพท์กะเทยแถบอีสาน
> ถั่วดำ = มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
> ทัศวรรณ = การสัมผัสหรือจับต้อง
> ทำแท้ง = การใช้น้ำฉีดเข้าทวารหนักเพื่อล้างทำความสะอาดก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กัน
> ไทเป = กะเทยสัญชาติหนึ่งที่ชอบใช้เงินซื้อผู้ชาย
> นก = ชวด สูญเสียสิ่งอันพึงปรารถนาไป
> นนนี่ = กะเทยที่มีแฟนที่หวังเกาะกิน
> น้องเตย = เกย์เด็ก , เกย์วัยรุ่น
> นังกอ = กะเทย
> นั่งเทียน = ท่าทางการร่วมเพศอย่างหนึ่ง

 


> นิลนรี = กะเทยสาวที่ผิวดำแต่เนียนขำ นัยว่าสเปคฝรั่ง
> นิ้งหน่อง = กะเทยพันธุ์เดียวกับไทเป ชอบใช้เงินซื้อหนุ่มหล่อตามผับ
> น้ำมันกระเด็น , ไฟแรง = การนินทาผู้อื่นจนมีผู้ได้ยิน หรือนินทาเสียงดัง เกินไป
> บัว = การทำรักด้วยปาก
> บ๊วบ = การทำ oral sex
> เบเกอรี่ = มีความหมายเดียวกับคำว่า ปาดหน้าเค้ก ตั้งหม้อ ลูกชุบ แต่เป็นคำที่ออกมาใหม่ หมายถึง การแย่งชิงสิ่งของ หรือ บุคคลอันเป็นที่หมายปองของเราไป
> โบ = โบราณ ล้าสมัย
> โบก = เป็นคำพูดที่ผู้ชายต้องการกระเทย
> โบ๊ะ-ฉ่ำ = แต่งหน้า พอกหน้า
> เบ้า = กะเทยไม่สวย มาจาก เน่า+บี้
> ไบโอนี่ = เสือไบ สาวแตก
> ปาดหน้าเค้ก = แย่งผู้ชายขณะที่กะเทยอีกคนกำลังคั่วอยู่ซึ่งหน้าทีเดียวเชียว
> โป๊ะแตก = ความลับถูกเปิดเผย
> ผัดกระเพรา = ชักช้า ล่าช้า ไม่ทันใจ
> ผัดไทย = ผ(ลั)ดไทย คือ การมีเพศสัมพันธ์กันโดยเปลี่ยนกันรุก เปลี่ยนกันรับ
> เผา = นินทาว่าร้ายคนอื่นลัลหลัง
> ผู้ชายขายน้ำ = ผู้ชายขายบริการ
> โผล่ = ออกไปเที่ยว หรือ ไปเจอกันในที่ที่นัดหมายไว้
> ฝอ = ฝรั่ง
> พาราดะ = พลาด หมายถึง การทำอะไรพลาดพลั้งไปแล้วนึกขึ้นได้
> ฟันดาบ = เกย์คิงมีอะไรกัน เปรียบอวัยวะเพศชายเหมือนดาบ
> ฟ้อนเล็บ = กะเทยตบกัน
> ฟิน = เสร็จหรือลุล่วงกามกิจ
> ไฟแรง = การนินทาเสียงดังเกินไป
> ภุชงค์ = ผู้ชาย (มาจาก ผู้ชงผู้ชาย)
> มังกรกินหมี่ = ขนที่รอบอวัยวะเพศชาย ไปติดกับปลายอวัยวะเพศชาย ทำให้เจ็บมาก
> มาม่า = ขนอวัยวะเพศ
> มิสเปรู = เกย์ที่ทุ่มให้ผู้ชายมากๆ เป=pay
> เม้ง = อารมณ์เสีย อารมณ์ไม่ดี
> แม่ครัวใหญ่ = ผู้เริ่มการนินทา
> แม้วว(ทำเสียงแมวร้อง) = ใช้ตอบการสนทนาของคนที่ถามว่าคู่นอนเราของมันเล็กไม่ ได้ความ แต่ถ้าใหญ่ก็ตบต้นคอ(เบา แรงตามใจคุณ)ของคนถามแล้วแล้วพูดว่า เอ็นเท่าคอ(ออกเสียงคล้ายกับ One Two Call)
> ไม่ใส่เสื้อเกราะ = ไม่ใส่ถุงยางอนามัย
> เม้าท์ = พูดมาก นินทา
> ย้ายวาร = การเดินเหินของชาวเกย์
> เย = การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
> เย่อ = การมีอะไรกัน
> ลงเรือ = อาการที่กะเทยเป็นฝ่ายรุกผู้ชาย
> ลวกก๋วยเตี๋ยว = สำเร็จความใคร่
> ล้างตู้เย็น = ใช้ปากกับทางทวารหนัก
> ล้านเจ็ดสิบเอ็ดแสน = มากมาย
> ลูกชุบ = การแย่งของที่คนอื่นหมายปองมาเป็นของตน (ชุบ มาจาก ชุบมือเปิบ)
> ลูกนายก = การหาผู้ชายมานอนแบบไม่ดูตาม้าตาเรือเลยถูกยกเค้าไปจ นหมด
> วอก = เกย์หรือกระเทยที่ไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบวิ่งไปวิ่งมา เสียงดัง
> วอกศรี = กะเทยที่หน้าขาวแบบน่าเกลียด
> วิลิศสมาหรา = เลิศหรู
> วีน = อารมณ์เสีย อารมณ์ไม่ดี แสดงอาการไม่ดีใส่คนอื่น
> เวิร์ค = ให้บริการทางเพศแก่ผู้ชาย
> ศรี = คำที่ใช้เติมหลังชื่อคนที่เป็นเกย์
> ส่งข้าวห่อ = เกย์ที่มีแฟนอยู่ไกลแล้วต้องคอยดูแล
> สด = การร่วมประเวณีโดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย
> สตรอเบอร์รี่ = ควงคู่กับแฟนอย่างหวานชื่น
> สบู่ตก-เก็บสบู่ = อาการส่งสัญญาณให้รู้ว่าต้องการมีเพศสัมพันธ์ทางทวาร หนัก เพราะการก้มลงเก็บสบู่ บั้นท้ายจะโดดเด่นขึ้นมา
> สโม๊ค =การทำรักด้วยปาก
> สโตก = ช่วยตัวเอง
> สวยตู้ม = กะเทยที่ไปทำศัลยกรรมจนสวยงามเกินหญิง
> สะเด็ดน้ำมัน = มีการนินทาเกิดขึ้นแล้ว
> สะตอ = ตอแหล
> สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก = ไบ (คนที่มีรสนิยมร่วมเพศได้ทั้งผู้ชายและหญิง)
> สะแมนแตน = เริ่ดเด่น
> สะบัดบัดบ๊อบ = อาการเชิดใส่ ไม่สนใจอีกแล้ว ไม่ใส่ใจ
> สางเปียใส่ = เป็นอาการเดียวกันกับสะบัดบ๊อบใส่ ประหนึ่งว่าสวยกว่า เชิดไว้ของคนสมัยใหม่ แต่สางเปียใส่เป็นอากับกริยาเดียวกันของคนสมัยก่อน(กะเทยโบราณรุ่นยาย) ที่แสดงอาการเชิดสวยในปัจจุบัน
> สลัวจิต = เกย์ที่แสดงออกบ้างเป็นบางครั้ง
> สว่างจิต = เกย์ที่แสดงออกตลอดเวลา
> สว่าน = ทำตัวให้ผู้ชายสนใจ หว่านเสน่ห์
> สวิงเด้ง = กิริยาอาการกรี๊ดกร๊าดวี๊ดว๊ายจนเกินเหตุ
> สุกแล้ว = หมายถึงการนินทาเสร็จสิ้นแล้ว
> สุดฤทธิ์ = การกระทำที่แสดงออกอย่างเต็มที่ แล้วมักจะใช้พูดในกรณีบอกเล่าสู่กันฟัง เช่น นี่ดูยัยคนนั้นสิ แต่งตัวพัดเปรี้ยวสุดฤทธิ์
> สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ = กระเทยที่หลงไว้ใจผู้ชาย ไม่เข้ดทั้งที่รู้ว่าเขาหลอกใช้
> เสิร์ฟ = การที่เกย์ไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่บ้าน
> เสื้อเกราะ = ถุงยางอนามัย
> หนามกุหลาบ = ขนหน้าแข้ง(หนาและแข็ง)
> หนีบโจ๊ะ = รักนวลสงวนตัวชั่วครั้งชั่วคราว
> หนุ่ยศรี = กะเทยที่แข็งนอกแต่แท้จริงอ่อนไหว แค่ถูกแฟนเด็กหลอกทิ้งไปก็ร้องให้คร่ำครวญกลางลานเบียร์
> หมอผี = กระเทยที่สามารถร่วมเพศกับผู้ชายมีหน้าตาอุบาทว์ได้
> หม่อม = กะเทยผู้สูงศักดิ์
> หมาน = เกย์แอบที่ชอบชายแขกเป็นชีวิต...รักการย้ายวารเป็นจิตใจ
> หรก = โกหก
> หัวโปก = กระเทยหัวเกรียน นัยว่าเป็นกะเทยตั้งแต่มัธยม
> เห่ย-เห่ยเป่ย = ไม่เข้าท่า ไม่ได้เรื่องเล้ย
> ไหม้ = การนินทาไม่สำเร็จ เหมือนกับการ ทอด ไฟแรงไปแล้วทำให้นำมันกระเด็น หรือไหม้
> ออกรอบ = ออกหาผู้ชาย
> อาชา = กะเทยที่ช่วงฟันบนเหยินเหมือนม้า
> อียาย = กะเทยอายุมาก หรือแก่ นับอายุตั้งแต่ 40 ขึ้นไป
> อี๊บ = การมีเพศสัมพันธ์
> เอฟ = เกย์ที่มีความสามารถรอบตัว สามารถรุก-รับได้หมดในกิจกรรมทางเพศเป็นได้ทั้ง ควีนและคิง บางทีเรียกว่า ควิง ปัจจุบันมีศัพท์เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโบท
> เอิ่ม = กะเทยที่พ่อแม่ยังไม่รู้หรือบอกพ่อแม่ไม่ได้
> แอ๊บ = แกล้งทำ
> แอบจิต = เกย์ที่ไม่แสดงออกเลย
> แอปเปิ้ล = การเก็บซ่อนพฤติกรรมการแสดงออกเอาไว้
> โอลด์ = เกย์แก่
> ฮอร์สซี่ = กะเทยที่ฟันเหยินเหมือนม้า เช่นด๊อกแด๊กทำไมเธอฮอร์สซี่จัง
> ฮักกี้ = กะเทยที่จมูกแบนหัก

เรียงพยัญชนะ หากคำใด ตกหล่นหรือเกินเลยไปก็ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ เรียกได้ว่า ศัพท์บางคำ เกย์ตัวแม่ (อย่างดิฉัน) ก็ไม่เค๊ย ไม่เคยได้สดับมาก่อนเลยเจ้าค่ะ ใครจะเอาคำไหนไปเรียกใช้กันได้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าหากวันไหนคุณโดนเพื่อนเรียกคำใด ใคร่รู้เปิดดูเกย์พจนานุกรมฉบับเพื่อนบอกเพื่อนได้ จะได้ไม่อยู่แค่ในกะลาเพศนะคะ


* ขอบคุณแหล่งข้อมูลจากคุณ Hutcha
* ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า