Skip to main content

หลังจากงานโชว์อลังของป้าเดย์ ฟรีแมนเมื่อคราวที่แล้วเพิ่งจบไปหมาด ๆ แต่เสียงการตอบรับอย่างท่วมท้น ทำให้หลายคนพลาดไป และอีกหลายคนอยากชม พวกเค้าและเธอจึงฮึดขอ "ฮากระจายอีกครั้งกับการกลับมาของ ละครเวทีเปรี้ยวซ่าก๋ากั่น" โดยใช้ชื่อการโชว์ครั้งนี้ว่า "Return of the Last Day Show: Will I survive?" ซึ่งเป็นละครเวที ผสมกับมิวสิคัล ทั้งร้อง ทั้งเต้น เน้นจิกกัด กับมุกใหม่ ฮาใหญ่ ไม่ซ้ำใคร โดยเดย์ ฟรีแมน นางโชว์มือหนึ่งของเมืองไทย และไข่มุก เพื่อนสาวสุดจี๊ด ปรี๊ดปรอทแตก พวกเค้าจะกลับมาตีแผ่ชีวิตหลังม่านนางโชว์ ที่จะเรียกเสียงหัวเราะของคุณทุกๆ นาที

พร้อมกันนี้ได้เพื่อนร่วมประสานความฮา ยกขบวนมาเสริมความมันส์ โหด ฮาแบบสะใจ กับเจสัน ยัง, เต๋า -สมชาย เข็มกลัด และท็อป-ดารณีนุช โพธิปิติ พร้อมเซเลบตัวแม่ พี่ไก่-วรายุธ, ป้าแจ๋ว-ยุทธนา, ป้าโหน่ง-วสันต์ และกองทัพนางโชว์อีกคับคั่ง ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า คราวนี้คงพลาดไม่ได้ และไม่อยากให้พลาดเพราะเค้าจัดยาว(นาน) ถึง 7 นิ้ว ...อุ้ยไม่ใช่ค่ะ 7 รอบ โดยเริ่มทำการเขย่าความมันส์ ระบาดความฮาในวันที่ 28 - 30 สิงหาคม และ 4 - 5 กันยายน 2552 ส่วนสถานที่นั้น ในเมืองใกล้ ๆ ค่ะ โรงละครอักษรา (คิง พาวเวอร์ คอมเพล็กซ์ ถนนรางน้ำ) จำหน่ายบัตรตั้งแต่วันศุกร์ที่3 กรกฎาคม 2551 ถึง วันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2552 (เริ่มจำหน่ายบัตรวันแรกเวลา 10.00 น.) ซื้อบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา บัตรราคา 3,000 บาท 2,000 บาท 1,500 บาท 1,200 บาท 1,000 บาท 800 บาท 500 บาท

เนื้อเรื่องโดยย่อ ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมค่ะ แต่เพิ่มดารารับเชิญขวัญใจหลายคนอย่าง คุณเต๋า สมชาย เข็มกลัด เรื่องราวความเป็นมาของละคร แอนด์ เดอะมิวสิคคัลที่กล่าวถึงคือเมื่อป้าเดย์ ฟรีแมน นางโชว์ระดับปรมาจารย์ (ในอดีต) กำลังถึงคราวตกอับเพราะโรงละครเล็กๆ ของเธอ ที่เคยรุ่งเรืองและรุ่งโรจน์กำลังจะถูกแบงค์ยึดเพราะคนเลิกดูคาบาเรต์โชว์กันแล้ว!! ผู้ชมต่างพากันเชิดใส่การแสดงประเภทลิปซิงที่ใช้ปากงับตามเพลงหายนะจึงมาเยี่ยมเยียน เพราะไม่มีใครมองเห็นคุณค่า..โรงละครเล็กๆ ไม่ใหญ่โตป้าเดย์ไม่เคยเสียดาย แต่เพราะความผูกพัน ทำให้ป้าเดย์ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อรักษาโรงละคร และปกป้องศักดิ์ศรีของนางโชว์รุ่นครู โดยการระดมนางโชว์รุ่นเก๋าที่เคยโด่งดังในอดีตให้กลับมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ เพื่อประกาศให้โลกให้รู้ว่า "ของจริงไม่มีวันตาย" ถึงแม้จะแก่ไปบ้างก็ตาม แต่ก็ขอสู้ตายถวายหัวค่ะ!!

 

 

  


งานนี้ได้นักแสดงหลักผู้เล่าเรื่อง คือ เดย์ ฟรีแมน (เดชาวุฒิ ฉันทากะโร) นางโชว์มือ 1 ของเมืองไทย ไข่มุก (พิพัฒน์ ผึ้งทรัพย์) นางโชว์ดาวรุ่งมาแรง และนอกจากนี้นักแสดงรับเชิญดังๆ มาร่วมกันคับคั่ง อย่างเช่น เต๋า -สมชาย เข็มกลัด, เจสัน ยัง, ไก่-วรายุธ มิลินทจินดา, แจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์, โหน่ง - วสันต์ อุตมะโยธิน และ ท็อป-ดารณีนุช โพธิปิติ


ที่สำคัญนอกจากจะสนุกสนาน ฮากระจายกันแล้วรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายยังสมทบทุนโครงการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ (เฉพาะรอบวันที่ 28 สิงหาคม รายได้สมทบทุน สมาคมนักเรียนเก่าบพิตรพิมุขในพระบรมราชูปถัมภ์)


ส่วนคำถามที่หลายคนสงสัยและใคร่รู้ว่า การแสดงโชว์ครั้งที่ผ่านมาจะมีโอกาสได้ชมจากซีดีตามท้องตลาดหรือไม่ เรื่องนี้ทางทีมงานเค้าบอกว่า... ไม่มีการทำซีดีจำหน่ายค่ะ
"...แต่ก็มีคนที่ยังไม่ได้ดู บ่นเสียดายกัน ขอให้ออกเป็นซีดีเยอะเลย แต่คิดไปคิดมาขอบายดีกว่า ยุคนี้แผ่นผีเยอะชนิดที่เรียกว่าแขวนพระก็เอาไม่อยู่ ผีสมัยนี้เค้าไม่กลัวพระ กลัวน้ำมนต์ ไม้กางเขนแล้วน่ะ ในเมื่อยังมีคนอยากดูการแสดงของเรา เราก็อยากทำการกุศลด้วย ก็เลยคุยๆกันกับผู้ใหญ่ และทีมนักแสดงว่าจัดกันอีกรอบดีกว่ามั้ย
คราวที่แล้วปล่อยของกันยังไม่เต็มที่คราวนี้ขออีกแบบอลังการ และฮากว่าเดิม...."


คุณสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lastdayshow.com บอกได้สองคำว่า"ของป้าเค้าดีจริงๆ" และขอย้ำอีกสักครั้งว่า *ไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี * ทางทีมงานเค้าฝากมาค่ะ จึงขอเชิญชวนเกย์ สาวเทียม สาวแท้ ชายแท้ ไม่ใช่เกย์ กะเทยก็มาดูได้นะคะ เค้ารับประกันว่าฮากันถ้วนหน้าแน่นอน แล้วเจอกันค่ะ


ขอบคุณภาพจากคุณ : พระจันทร์พันดวง [Bloggang]

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า