พ่อได้ดื่มชาในกระบอกไม้ไผ่จนหมดไปกว่าครึ่งหนึ่ง แล้วจึงวางลง
“เดิมทีนั้น เตหน่ากูมีจำนวนสายเพียง 5-7สาย แต่ต่อมาได้มีการเพิ่มเติมสายในการเล่นเป็น 8-9สายหรือ 10-12หรือมากกว่านั้นก็ได้” พ่อหยิบเตหน่ากูและเล่าให้ลูกชายฟัง
“ทำไมจำนวนสายไม่เท่ากันล่ะ?” ลูกชายถามผู้เป็นพ่อ
“มันขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของผู้เล่นแต่ละคน ชอบและถนัด 7 สายก็เล่น7 สายชอบน้อยกว่านั้นก็เล่นน้อยกว่าก็ได้ หรือชอบมากกว่านั้นก็เล่นมากกว่านั้นก็ได้” พ่อตอบสิ่งที่ลูกชายสงสัย
ในการตั้งสายเตหน่ากูแบบไมเนอร์สเกล (Minor scale) นั้นเริ่มจาก 5-7 สายโดยมีตัวโน๊ตหลักตามไมเนอร์สเกลอยู่ 5 โน้ต ได้แก่ โด (D) เร (R) มี (M) โซ (S) ลา (L) โดยในที่นี้จะอธิบายการตั้งสายตั้งแต่ 6, 7และ8 สาย
หากเป็นการตั้งสายเตหน่ากูแบบไมเนอร์สเกลจำนวน 6 สายลักษณะการตั้งสายโดยทั่วไปจะเป็นดังนี้
สายเส้นล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง ลา (L)
สายที่สองจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง โซ (S)
สายที่สามจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง มี (M)
สายที่สี่จากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง เร (R)
สายที่ห้าจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง โด (D)
สายที่หกจากล่างสุดหรือสายบนสุดจะตั้งเป็นเสียง ลา (L) แต่เป็นเสียง (Octave) ออค-เทฝ ต่ำ
นั่นหมายความว่าจะมีสายเสียงคู่แปด (Octave) เป็นเสียง ลา (L)
หากเป็นการตั้งสายเตหน่ากูแบบไมเนอร์สเกลจำนวน 7 สายลักษณะการตั้งสายโดยทั่วไปจะเป็น ดังนี้
สายเส้นล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง โด (D)
สายที่สองจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง ลา (L)
สายที่สามจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง โซ (S)
สายที่สี่จากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง มี (M)
สายที่ห้าจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง เร (R)
สายที่หกจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง โด (D) แต่เป็นเสียง (Octave) ออค-เทฝ ต่ำ
สายที่เจ็ดจากล่างสุดหรือสายบนสุดจะตั้งเป็นเสียง ลา (L) แต่เป็นเสียง (Octave) ออค-เทฝ ต่ำเช่นกัน
นั่นหมายความว่าจะมีสายเสียงคู่แปด (Octave) สองตำแหน่งคือสายคู่แปดเสียง โด (D) กับสายคู่แปดเสียง ลา (L)
หากเป็นการตั้งสายเตหน่ากูแบบไมเนอร์สเกลจำนวน 8 สายลักษณะการตั้งสายโดยทั่วไปจะเป็น ดังนี้
สายเส้นล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง โด (R)
สายเส้นที่สองจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง โด(D)
สายที่สามจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง ลา (L)
สายที่สี่จากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง โซ (S)
สายที่ห้าจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง มี (M)
สายที่หกจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง เร (R) แต่เป็นเสียง (Octave) ออค-เทฝ ต่ำ
สายที่เจ็ดจากล่างสุดจะตั้งเป็นเสียง โด (D) แต่เป็นเสียง (octave) ออค-เทฝ ต่ำ
สายที่แปดจากล่างสุดหรือสายบนสุดจะตั้งเป็นเสียง ลา (L) แต่เป็นเสียง (octave) ออค-เทฝ
นั่นหมายความว่าจะมีสายเสียงคู่แปด (Octave) เพิ่มเป็นสามตำแหน่งคือสายคู่แปดเสียง โด (D) สายคู่แปดเสียง เร (R) และสายคู่แปดเสียงลา (L)
“ถ้ามีการเพิ่มสายมากกว่าแปดสาย ต้องทำงัยต่อ” ลูกชายอยากรู้
“ในการตั้งสายแบบไมเนอร์สเกลนั้น ถ้ามีการเพิ่มจำนวนสายมากขึ้นก็จะยิ่งเพิ่มสายเสียงคู่แปดมากขึ้นไปเรื่อยๆ เช่นกัน” พ่อไขข้อข้องใจ