Skip to main content

 

ผมว่าคนส่วนหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นคนส่วนใหญ่ด้วยน่าจะยึดหลัก"ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร"

จากงานชัตดาวน์กรุงเทพของคุณลุงกำนันสุเทพ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ (เจ้าของสัญลักษณ์พระแม่ธรณีบีบ-วยผม) นี่น่าจะสร้างความเกลียดชังให้กับคนที่ไม่ได้คลั่งไคล้ในความหล่อเหลาและสำเนียงอังกฤษแท้ของคุณอภิสิทธิ์หรือหลงไหลไปกับคุณธรรมความดีของผู้มีอุปการะคุณใหญ่ของ ปชป.

ยิ่งปิดนานยิ่งชิบหาย เพราะคุณลุงกำนันฯไม่ได้ทุบหม้อข้าวเฉพาะกองทัพศรีวิชัยของคุณลุงเท่านั้น แต่ดันเสือกทุบหม้อ ชาม ราม ไห ชาวบ้านชาวช่องเขามากระจัดกระจายรายทาง  

ถ้าไม่รีบเดินหน้าเข้าฮอร์สรับรองว่าทั้งตีนทั้งก้อนหินคงจะลอยตามมาเพียบแน่ๆ

ดูจากปริมาณของคนเมืองที่เข้าร่วมชุมนุมวันนี้ก็คงจะเห็นนัยสำคัญได้ หรือหัดลองคิดถึงหัวอกคนที่ต้องหาเช้ากินค่ำดูบ้างก็ได้ว่าเขาจะรู้สึกยังไง

หลังกรณีนิรโทษกรรมสุดซอย-เหมาเข่ง จนมาถึงการยุบสภา-เลือกตั้ง ผมอยากเห็นเพื่อไทยได้บทเรียนจากการ"หักคอ-ลักหลับ" ไม่ฟังเสียงของผู้ที่ท้วงติงด้วยความปรารถนาดีต่อระบบ-ระบอบ 

ผมหวังว่า พรรคการเมืองเล็กๆแสบๆน่าจะเข้ามาปาดแบ่งฐานเสียงของเพื่อไทยออกไปบ้าง เมื่อถึงตอนนั้นผมคงจะสะใจลึกๆ

แต่หลังจากการประกาศไม่ลงเลือกตั้งของ ปชป.มาจนถึงการชัตดาวน์กรุงเทพนี่ผมยอมรับว่าผมหมดหวังที่จะเห็นพรรคเพื่อไทยได้รับบทเรียนจากมวลชนของพรรคเลย

การละเมิดหลักการผ่านวาระ2-3จากร่างนิรโทษ วาระ1 ที่ถูกมองว่าเป็นความผิดครั้งใหญ่มันได้หดย่อลงเหลือเพียงจุดเล็กๆเมื่อเจอกิจกรรมทุบหม้อข้าวเรียกรัฐประหารของคุณลุงฯ

เพราะนอกจากปัจจัยเรื่องบุคคล นโยบาย ผลงาน และงบประมาณ ที่กำหนดพฤติกรรมการใช้สิทธิเลือกผู้แทนแล้ว คุณลุงฯ และมวลมหาประชาชนยังได้พัฒนาให้วิธีคิด"ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร"ขึ้นมาเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดพฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชนในยุคสมัยนี้

เพราะคุณลุงฯ และ ปชป.ทำให้พวกเขามีความรู้สึกว่า "กูจะเกลียดคนที่มึงรักและกูจะรักคนที่มึงเกลียด"

น่าเศร้า! น่าขัน!  ไม่น่าเชื่อ! แต่ก็เป็นไปแล้วว่า ในที่สุดพรรคการเมืองที่มีอายุยืนยาวสั่งสมประสบการณ์การเมืองมามากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยเป็นไปได้ถึงขนาดนี้

คุณูปการเพียงอย่างเดียวจากการที่ ปชป.ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งก็คือทำให้คนส่วนหนึ่งได้จินตภาพถึงระบบการเมืองที่ไม่มี ปชป.อยู่ในระบบการเมือง

ผมเชื่อว่าหลายคนแม้แต่จะเป็นมวลมหาประชาชนของคุณลุงฯเองก็อาจจะยังเผลอที่จะคิดว่า "เฮ้ย...ไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ!!"

ถ้าพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่เป็นไปตามสมมติฐานข้างต้นจริง พรรคเล็ก พรรคน้อย คงจะเหนื่อยหนักหรืออาจจะไม่ได้เกิดเลย ฐานเสียงมวลชนฝ่ายที่เคยสนใจนโยบาย รัฐสวัสดิการ ,การคืนอิสรภาพให้กับนักโทษการเมือง ฯลฯ ก็คงจะไหลย้อนกลับมาหาเพื่อไทย  คะแนนเสียงของท่านชายที่วาดหวังว่าจะเรียกคุณชูวิทย์เป็นคุณพ่อ(ตา) ก็คงจะเป็นเฉกเช่นเดียวกัน

และเสียงของคนที่เคยปฏิเสธพรรคเพื่อไทยจากความผิดพลาดในหลายๆกรณีของเพื่อไทยก็จะไหลกลับมาที่เพื่อไทยอีกครั้ง

หมายเหตุตัวใหญ่ๆไว้ว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้หมายความว่าถ้ามีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้เท่านั้น


13 มกราคม 2557

 

 

บล็อกของ gadfly

gadfly
  เห็นบนเฟซบุ๊กมีการพูดกันบ่อยๆว่า แกนนำ นปช.พาคนไปตาย พาคนไปติดคุก แกนนำไม่รับผิดชอบกับชีวิตของมวลชน ผมคิดว่ามันเป็นข้อกล่าวหาโจมตีผู้อื่นเพื่อเป็นการยกตนขึ้นสูง หรืออีกนัยหนึ่งคือมันเป็นข้อกล่าวหาทางศีลธรรม
gadfly
ผมคิดว่าผู้ที่ให้บทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่สนับสนุนการรัฐประหาร ก็คือ ทหาร รัฐบาลทหาร และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง
gadfly
เมื่อคืนผมไม่ได้ดื่มเหล้า เลยเกิดอาการตาสว่าง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะหลับ และกว่าจะหลับก็ปาเข้าไปเกินตีสาม .หลับแล้วก็ยังฝันต่ออีก.ฝันว่าได้กลับไปอยู่บ้าน บ้านก็ยังคงมีสภาพเหมือนเดิม แต่สภาพแวดล้อมรอบบ้านกลับเปลี่ยนไป มันกลายเป็นทุ่งหญ้า กว้าง กว้าง และกว้าง...
gadfly
เมื่อคิดถึงเรื่องโอกาสทางการศึกษา ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม กม.อาญา มาตรา 112ผมคิดถึงนักศึกษาสองคนคนหนึ่งเรียนอยู่ ม.เทคโนโลยีมหานคร คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีสุดท้าย เขาชื่ออัครเดช ชื่อเล่นว่า เค
gadfly
อ่านข้อถกเถียงในประเด็นเรื่องฟรีสปีช เฮทสปีช ความรุนแรง เสรีภาพในการแสดงออก ฯลฯ ของบรรดาปัญญาชนมากมาย แต่ใจกลับย้อนคิดถึงเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งอาจไม่เกี่ยวไม่ข้องกับเหตุการณ์ข้างต้นเลย ก็เลยลองยกมา