Skip to main content


...
เห็นข่าวการชงลูกโดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ คสช.เปลี่ยนนโยบายจากสามสิบบาทรักษาทุกโรคมาเป็นให้ประชาชนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล 30-50% แล้วรู้สึกตลกดี ถ้ากรณีการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ส่งผลกระทบถึงผู้บริโภคและประชาชนในระดับนี้เกิดขึ้นในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง NGOs ขาใหญ่ภาคประชาชน คุณหมอคนดี แพทย์ชนบททั้งหลายคงจะต้องออกมาดิ้นพราดเหมือนปลาช่อนโดนทุบหัว เรียกร้องให้ยุบสภา นายกต้องลาออก ดีไม่ดีอาจต้องถูกดำเนินคดียึดทรัพย์ บลา บลา บลา ...

แต่พอเป็นรัฐบาลทหารที่มาจากการรัฐประหาร กลับเงียบสงบ บางคนอาจพูดแสดงท่าทีเพื่อรักษาหน้าตาเอาไว้แบบเหนียมๆเหมือนเสียงกระซิบ ไม่เสียงดังฟังชัดเหมือนเมื่อก่อน ไม่พูดคำใหญ่โตเหมือนที่เคย

พวกที่เงียบอยู่สงสัยไปดูงานต่างประเทศ หรือไม่ก็พาครอบครัวเข้าวัดทำบุญช่วงเข้าพรรษากันหมด

ถ้าเป็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์นี่ป่านนี้คงปิดโรงพยาบาลมาม็อบแล้ว แถมเอาเวชภัณฑ์หรือทรัพย์สินราชการมาใช้ในที่ชุมนุมแบบไม่ยั้งมือด้วย
....

ถ้าถามว่าหลังรัฐประหาร คนเสื้อแดงสูญเสียอะไรไปบ้าง ผมคิดว่าคนเสื้อแดงสูญเสียหลายอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือระบอบประชาธิปไตยตัวแทน ที่เป็นหน้าตาเป็นศักดิ์ศรีของพวกเขา เป็นเครื่องมือในการจัดสรรอำนาจและทรัพยากรลงมาสู่พวกเขาอย่างน่าพอใจ

เขาอาจจะสูญเสียองค์กรจัดตั้ง สูญเสียศรัทธาในผู้นำบางคน แต่ก็ได้ประสบการณ์ บทเรียนในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่มีค่ามาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน

สู้ถึงที่สุดแล้วแพ้ จะให้ทำยังไง ...!
......
มองมาที่หางเครื่อง แม่ยก กองเชียร์ กปปส. (หมายถึงบรรดาแกนนำภาคประชาชน NGOsขาใหญ่หรือคุณหมอผู้เสียสละ แพทย์ชนบททั้งหลาย)

ถามว่าพวกเขาได้ลงทุนและสูญเสียอะไรลงไปบ้างในการสนับสนุนการรัฐประหาร

ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่พวกเขาเสียไปก็คือหลักการที่ยึดโยงพวกเขากับประชาชนผู้ยากไร้ เขาทอดทิ้งหลักการหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียง เขาทอดทิ้งความเชื่อเรื่องความเสมอภาค สิทธิของคน"ทุกคน"ต้องเท่ากัน

ถามว่าเขาเสียอะไรอีกบ้าง ทรัพย์สินส่วนตัวหรือก็คงไม่ใช่ เท่าทีรู้จักนิสัยของหลายๆคนแล้ว เงินทองหรือเวลาที่เอามาใช้ในการชุมนุมก็น่าจะเป็นของสาธารณะเสียเป็นส่วนใหญ่

ชื่อเสียง อาจเสียไปบ้างแต่หากไม่ลืมก็คือคำสรรเสริญจนได้กลายมาเป็นสถานะทางการเมืองให้พวก"ท่าน"เหล่านี้ก็ล้วนมาจากภาพใบหน้าอันหมองเศร้า ทุกข์ร้อน ของคนยากจนหนุนเสริมเป็นอิฐรองเท้าให้พวก"ท่าน"สูงเด่นขึ้นมา
.
ถามว่า"คนดี"เหล่านี้ได้อะไรตอบแทนในการลงทุนครั้งนี้บ้าง ก็คงตอบได้ว่าตอนนี้ยังไม่ได้อะไร แต่ก็คงกำลังตั้งตารอ ตำแหน่งใน สนช.หรือ สภาร่าง รธน. ถ้าไม่ได้เป็นกรรมการ ขอเป็น อนุฯก็ยังดี ส่วนพวกตัวเล็กตัวน้อยก็คงรองบประมาณปลอบขวัญกันจนน้ำลายยืด

ระหว่างรอการปูมบำเหน็จ ก็เตรียมเขียนโครงการ พร้อมกับสร้างคำอธิบายหรูๆไว้ปลอบขวัญสาวกและมวลชนที่มีอยู่เพียงกระจ้อยร่อย

คงยังลุ้นกันอยู่ว่าจะคุ้มกับที่ลงทุนไปไหม..

เมื่อก่อนนี้ผมรู้สึก"ขยะแขยง"พวกเขา แต่มาวันนี้ความรู้สึกของผมที่มีต่อพวกเขาเปลี่ยนไป

ผม"สมเพช"พวกเขา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: เผยปลัด สธ. ชง คสช. ให้ประชาชนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล 30-50%

 

 

บล็อกของ gadfly

gadfly
  เห็นบนเฟซบุ๊กมีการพูดกันบ่อยๆว่า แกนนำ นปช.พาคนไปตาย พาคนไปติดคุก แกนนำไม่รับผิดชอบกับชีวิตของมวลชน ผมคิดว่ามันเป็นข้อกล่าวหาโจมตีผู้อื่นเพื่อเป็นการยกตนขึ้นสูง หรืออีกนัยหนึ่งคือมันเป็นข้อกล่าวหาทางศีลธรรม
gadfly
ผมคิดว่าผู้ที่ให้บทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่สนับสนุนการรัฐประหาร ก็คือ ทหาร รัฐบาลทหาร และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง
gadfly
เมื่อคืนผมไม่ได้ดื่มเหล้า เลยเกิดอาการตาสว่าง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะหลับ และกว่าจะหลับก็ปาเข้าไปเกินตีสาม .หลับแล้วก็ยังฝันต่ออีก.ฝันว่าได้กลับไปอยู่บ้าน บ้านก็ยังคงมีสภาพเหมือนเดิม แต่สภาพแวดล้อมรอบบ้านกลับเปลี่ยนไป มันกลายเป็นทุ่งหญ้า กว้าง กว้าง และกว้าง...
gadfly
เมื่อคิดถึงเรื่องโอกาสทางการศึกษา ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม กม.อาญา มาตรา 112ผมคิดถึงนักศึกษาสองคนคนหนึ่งเรียนอยู่ ม.เทคโนโลยีมหานคร คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีสุดท้าย เขาชื่ออัครเดช ชื่อเล่นว่า เค
gadfly
อ่านข้อถกเถียงในประเด็นเรื่องฟรีสปีช เฮทสปีช ความรุนแรง เสรีภาพในการแสดงออก ฯลฯ ของบรรดาปัญญาชนมากมาย แต่ใจกลับย้อนคิดถึงเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งอาจไม่เกี่ยวไม่ข้องกับเหตุการณ์ข้างต้นเลย ก็เลยลองยกมา