ความหวังอันใกล้จะมาถึงของผมมีหมุดหมายอยู่ในเดือนสิงหาคมที่จะมาถึงนี้
แต่เดิม ผมเป็นคนไม่เชื่อข่าวลือหรือข่าวที่ไม่ได้ยินได้ฟังจากปาก ข่าวพรายกระซิบอ้างแหล่งข่าวชั้นสูงชั้นฟ้า ผมรับฟังเล่นสนุกๆ พยักหน้ารับพอไม่ให้เสียมารยาท
น่าแปลกที่แหล่งข่าวลือที่ได้ยินฟังอย่างต่อเนื่องนอกจากในโซเชียลมีเดียแล้ว รองลงมาก็เห็นจะเป็นในเรือนจำนี่แหละ
ไม่ว่าจะเข้าไปเยี่ยมยามถามข่าวใครต่อใครในเรือนจำ ก็มักมีเรื่องเล่า-ข่าวลือแถมมาให้ฟังเสมอ
น่าแปลกที่ในสถานที่ๆปิดกั้นจนแทบไม่ได้เห็นผืนฟ้า ข่าวลือกลับงอกงาม
ส่วนใหญ่ของข่าวลือที่ได้ฟังเป็นข่าวดี ข่าวการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ข่าวว่าจะได้รับเสรีภาพนี่เป็นข่าวกระแสหลักเลย
เมื่อพวกเขาบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ แทนที่ผมจะเสแสร้งพยักยิ้มทำท่าคล้อยตามแต่ผมกลับก้มหน้างุดลงไม่สบตา
ข่าวลือที่แม้แต่คนที่พึ่งเริ่มสนใจการเมืองยังไม่ยอมที่จะเชื่อ กลับกลายเป็นสิ่งมีค่าสำหรับพวกเขา
มันอาจเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของพวกเขา เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงข่าวลือที่เกิดจากการจินตนาการขึ้นเอง แต่มันเป็นความหวัง
มันเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขา
ดูว่ามันจะมีคุณค่าความหมายมากกว่าคำว่าความยุติธรรมหลายต่อหลายขุม
หลังๆ มา ผมเปลี่ยนไป จากการปฏิเสธข่าวลือมาแต่ต้น แต่ตอนนี้หูผมไวมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกระซิบพูดคุยแบบลอยๆ ที่อาจไม่มีที่มาน่าเชื่อถืออะไรเลย
ผมพบว่าข่าวลือได้กลายเป็นความหวังของผมไปด้วยแล้วในวันนี้
สำหรับผมแล้ว มันมีค่ามากกว่าคำว่าความยุติธรรม มันไม่ได้เป็นแค่สารสำหรับคนโง่เท่านั้น แต่มันได้กลายเป็นความหวังสำหรับผมไปด้วยแล้ว
ที่เกริ่นถึงเดือนสิงหาคมในตอนต้น มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการทำประชามติ รับ\ไม่รับ รัฐธรรมนูญ คสช แต่อย่างใด หากแต่ว่าข่าวลือที่ผมได้ยินมาจากในเรือนจำก็คือข่าวการอภัยโทษผู้ต้องขังคดี 112 ล็อตใหญ่
พวกเข้าอาจได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำอันคับแคบออกมาสู่เรือนจำเปิดที่ใหญ่ขึ้นแออัดน้อยลงเท่านั้นเอง
0000
เผยแพร่ครั้งแรกใน facebook.com/sarayut.tangprasert