Skip to main content
ศูนย์พักรอกุงจ่อ คือ พื้นที่ของผู้หนีภัยการสู้รบจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า นับจากปี 2545 ชาวไต(ไทใหญ่)ร่วมหนึ่งพันคน เดินเท้าเข้าประเทศไทยทางด่านหลักแต่ง...!!!


พวกเขาเข้ามาเช้ามืด 05.20 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2545

ปลัดปกครองอำเภอเวียงแหง ระบุว่า ศูนย์พักรอกุงจ่อเป็นพื้นที่ผู้เข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย ประกอบด้วยชาวปะหล่อง จีนและชาวไต ต้องทำทะเบียนประวัติป้องกันการลักลอบหลบหนี ก่อนจะย้ายไปพื้นที่ใหม่บริเวณหมู่บ้านหลักแต่ง ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานเอกชนระหว่างประเทศ มูลนิธิหรือองค์กรสาธารณประโยชน์และชาวไตในหมู่บ้านเปียงหลวง พี่น้องของพวกเขา'

ข้อมูลศึกษาเชิงวิจัย(ของเพื่อนรุ่นน้อง) ระบุถึง บทสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอเวียงแหง เขากล่าวว่า กรมการปกครองไม่มีคำสั่งให้จัดการอย่างเป็นรูปธรรมจึงไม่มีข้อปฏิบัติการเชิงควบคุม-ดูแลอย่างเป็นระบบ ทำเพียงข้อมูลทางทะเบียนและประสานงานองค์กรเอกชนเพื่อความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม เท่านี้ก็ดีแล้ว

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวถึง ความปรองดองของคนในพื้นที่ ถึงแม้ว่าจะมีความหลากหลายทางชาติพันธ์สูงแต่คนเหล่านี้รักและช่วยเหลือกันด้วยความสัมพันธ์ของเชื้อสายจึงทำหน้าที่เพียงรักษาความเรียบร้อยเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าการจัดการขั้นเด็ดขาดลงไปอย่างใดอย่างหนึ่ง

อีกส่วน คือ กองกำลังทหารที่รักษาความสงบในพื้นที่ตะเข็บชายแดน พวกเขาให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า จำเป็นต้องกวดขันเข้มงวดด้วยเหตุผลทางด้านความมั่นคง ปัญหายาเสพติดและความละเอียดอ่อนทางการเมืองระหว่างประเทศ

ชาวบ้านหมู่บ้านข้างๆ เปิดใจว่า ,เข้าใจ ,เห็นใจและคิดว่า หากพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ก็ได้ไม่เป็นปัญหาหรือหากรัฐไทยจะรับพวกเขาเป็นพลเมืองก็มีความยินดี'

ส่างลองบางคนแวะมาแบ่งบุญให้ญาติในศูนย์พักรอแห่งนี้ บรรยากาศเชิงพิธีกรรมเป็นไปอย่างเรียบง่ายและปิติภายในวัดที่มีฝาห้องทำด้วยไม้ไผ่สานขัดกัน ส่วนหนึ่งถูกกั้นเป็นห้องเรียน พระผู้ประกอบพิธีกล่าวบทสวดอำนวยพรในภาษาไทใหญ่ ขณะเดียวกันยังเป็นคุณครูผู้สอนภาษาไทย ร่วมกับอาสาสมัคร เธอเป็นหญิงสาวจากลอนดอนที่สมัครใจมาสอนภาษาอังกฤษและการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้น ถัดไปเป็นห้องโสตทัศน์

ชายหนุ่ม 2 คน นั่งดูละครช่อง7 ในทีวีจอแบนพ่วงแบตเตอร์รี่รถบรรทุก อยู่ในห้องนั้น
"ผมมาถ่ายรูปครับ ขอค้างที่นี่ได้ไหม" ผมถามพ่อหลวงที่มารับส่างลอง ก่อนจิบชาเขียวเปียงหลวง
"คงไม่ได้ครับ ทหารเข้ม" พ่อหลวงจิบน้ำชา
"อืม เอ่อ อย่าให้ใครรู้สิครับ" ผมยิ้ม เป่าชาร้อนไปพร้อมกัน
"
!..!!"

  
ศูนย์พักรอผู้หนีภัยการสู้รบ กุงจ่อ' มุมมองจากศาลเจ้าพ่อเสือ หมู่บ้านเปียงหลวง


ดอยหัวโล้นข้างบน ไกด์จากหมู่บ้านเปียงหลวง บอกว่า เป็นฐานที่มั่นของทหารพม่า


เด็กหญิงชาวลาหู่ จากศูนย์กุงจ่อ กินก๋วยเตี๋ยวไทยใหญ่ในงานปอยส่างลอง


ส่างลองบางรูปเข้าไปแผ่บุญและรับพรจากพระในศูนย์พักรอ


สภาพภายในโรงเรียนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัดหลักแต่ง


คุณครูชาวไต ที่เคยเป็นเด็กนักเรียนมาก่อน วันนี้มาสอนน้องๆ


เด็กนักเรียนบางคนต้องนอนคัดลายมือเพราะไม่มีโต๊ะเรียนหนังสือ


ลายมือของผมสวย มะฮับ
!!!!


อ่านตามคุณครูนะคะ ...


ใครตอบได้ยกมือขั้น ...

 

 

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ละอองน้ำกระจายฟุ้ง แดดอ้าวเป็นไอระยับ จับประกายในสายน้ำเล็กๆ หัวฉีดน้ำพ่นฟูฝอยขึ้นฟ้า หมุนวน 180 องศาเด็กชายจับมือน้องสาว มองละอองน้ำ-ตาเป็นประกาย
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
...วันหนึ่งของเวลากลางวันในสวนสัตว์เขาดิน ..เอ่อ.. ผมยืนถ่ายมื้อเที่ยงแสนอร่อยมื้อนี้มากกว่าหนึ่งชั่วโมง ..ได้ภาพมาประมาณนี้ครับ ..(แกคงหิวมาก)
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ไฟป่า ยังคงเป็นปัญหาที่กลุ่มอนุรักษ์เขาแผงม้าต้องจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าแล้ง เช่นนี้...แดดอ้าวผ่าเปรี้ยงลงกลางหัว เหล่าอาสาสมัคร v4n ยืนฟังขั้นตอนการทำงานดับไฟป่าโดยกลุ่มอนุรักษ์เขาแผงม้า ไกลโพ้น เมฆฤดูร้อนลอยอยู่เหนือเทือกเขาที่ได้ชื่อว่า ภูเขาไฟเนินลูกแล้วลูกเล่าถูกแปรสภาพเป็นไร่ เหนือเนินหลายลูก ทะเลหญ้าสลับดงกล้วยป่าแซมเป็นจุดๆ รถบรรทุกน้ำถูกนำมาเตรียมเอาไว้ให้พร้อม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ในวงการนักอนุรักษ์ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักคุณลุงโชคดี ...!!! ในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณะ v4n กำลังเป็นที่รู้จัก ...!!!แววตาอ่อนโยนหลังแว่นกรอบนั้นมองมาที่พวกเราอย่างสงสัย เส้นผมและหนวดเคราเส้นเล็กขาวโพลนเหมือนกับปุยฝ้ายแตกปุยทำให้คุณลุงโชคดีดูอ่อนโยนมากขึ้น ใต้ศาลาเอนกประสงค์กลางลานบ้านของสวนลุงโชค เด็กๆ รุ่นหลังอย่างพวกเรากำลังตามความคิดของคุณลุง
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
...บ้านข่าร้อนมากกกก...ถึงมากที่สุด!! สายลมฤดูร้อนทำกิ่งไทรกลางลานสั่นไหว แดดจ้าเหนือหัวแต่หนุ่มสาวบ้านข่าไม่หวั่นเกรง พวกเขามารวมตัวกันที่ลานหน้าตลาดใจกลางหมู่บ้าน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
หอนาฬิกา หัวหิน, กลุ่มคนเสื้อสีฟ้าในนามกลุ่มพีซ ฟอร์ เบอร์ม่า นำทีมโดยองค์กรแอมเนสตี้ ไทยแลนด์ มากกว่า 10 คน ชูป้ายรณรงค์ให้ประชาคมอาเซียนหันมาดูสถานการณ์การเมืองในพม่าอย่างจริงจัง รวมทั้ง ปัญหาผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา,แดดฤดูร้อน ร้อนมาก ทันทีที่กลุ่มคนเสื้อฟ้า ปั่นจักรยานมาถึง นักข่าวกลุ่มใหญ่และตำรวจเข้ากลุ้มรุม, ป้ายรณรงค์ถูกโชว์ให้เห็นกันชัดว่า พวกเขามาทำอะไรHey Asean : free all burma
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
  ตะวันยามเช้า สะท้อนประกายสีส้มแดงบนผืนทะเลกว้าง ,เสาสำหรับประกอบพิธีไหว้ผีบรรพบุรุษที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวเลมอแกนกลายเป็นอดีตที่ต้องทำความเข้าใจและอนุรักษ์ไว้ ก่อนที่จะหายไปกับกาลเวลา
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
  หมู่บ้านมอแกน อ่าวบอนใหญ่ แห่งหมู่เกาะสุรินทร์ มองเห็นบ้านเรือนเป็นทิวแถวจากผืนทะเลสีคราม ,ภาพบนถ่ายจากหน้าหมู่บ้าน บนเรือหัวโทง ,ภาพล่างถ่ายจากท้ายหมู่บ้าน บนเส้นทางเดินธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ เป็นหนึ่งในโปรแกรมมอแกนพาเที่ยว โครงการนำร่องอันดามัน สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สนใจติดต่อ 083-703-0925 ,andamanproject1@yahoo.com
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มึดา มักจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอ ดวงตากลมโต ใสแหน๋ว อ่อนโยนและเข้มแข็งอย่างไร้เจตนา ผิวขาวอมส้มเรื่อคล้ายผลสตอเบอร์รี่ก่อนที่มันจะสุกกลายเป็นสีแดง นานมาแล้วที่เด็กหญิง คือ เครื่องหมายของคนไร้สัญชาติ,และคงเป็นไปทั้งชีวิตของเธออะไรที่เรียกว่า ไร้สัญชาติ ,คำตอบที่ห้วนและง่ายที่สุด คือ ความหมายของการไม่มีสิทธิในฐานะคนของรัฐ, ที่ควรจะได้รับการคุ้มครอง, อย่างไม่มีเจตนาแอบแฝง บางทีคนมีบัตรประชาชนก็ไม่ได้รับการคุ้มครองเหมือนกัน (HAAAAAA)...