ทีมข่าวภาคใต้
มายาภาพของการต่อสู้ทางการเมืองไทยในห้วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ถูกกล่าวว่าอ้างว่าเป็นสงครมมระหว่างภูมิภาค คือ ภาคใต้ กับภาคเหนือและภาคอิสาน แต่หากมองลึกลงไปในกระบวนการต่อสู้ของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพรรคพลังประชาชน อาจพบว่าแท้จริงแล้วการพื้นที่ทางการเมืองระดับนำก็ยังคงเป็นของคนใต้อยู่เช่นเดิม
เป็นที่รับรู้และยอมรับกันทั่วไปว่า ฐานกำลังของ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" อยู่ที่ภาคใต้ ซึ่งแม้ฐานสำคัญจะอยู่ที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดภูเก็ต ที่มีศูนย์ข่าวผู้จัดการ และกำลังคนจากกลุ่มแรงงาน ผนวกกับคนชั้นกลาง และนักวิชาการเป็นด้านหลักแล้ว จังหวัดใหญ่ๆ อย่างจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร ไม่เว้นกระทั่งจังหวัดขนาดกลาง และขนาดเล็ก ไปจนถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล้วนแล้วแต่คับคั่งไปด้วยพลพรรค "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าคนใต้จะแน่นเหนียวอยู่กับ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" อย่างเดียว เพราะอีกด้านหนึ่ง ขุมข่ายกำลังสำคัญของฝ่าย "ระบอบทักษิณ" ชุดปฏิบัติการสำคัญนำทัพอยู่ในสนามเผชิญหน้ากับ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ก็ล้วนแล้วแต่เป็นลูกหลานชาวใต้ทั้งนั้น ไม่เว้นกระทั่งมือปฏิบัติการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ณ ถนนอู่ทอง หน้าอาคารรัฐสภา จนมีผู้บาดเจ็บกว่า 300 คน เสียชีวิต 2 คน ก็เป็นคนปักษ์ใต้
หากไล่ตัวละครมาตั้งระดับสูงสุด ที่คนใน "ระบอบทักษิณ" ถือเป็นศัตรูคนสำคัญ คือ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรี นั่นก็เป็นคนจังหวัดสงขลา ศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธ อดีตนายกรัฐมนตรีที่คนภาคใต้ภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
วันนี้ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประจันหน้ากับ "นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์" นายกรัฐมนตรี คนจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้มีฐานะเป็นน้องเขย "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ผู้ประกาศชัดเจนว่า "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" คือ ศัตรูหมายเลข 1
ขณะที่เกมการต่อสู้ในสภา หัวหอกนำทีมทิ่มแทงกับ "ระบอบทักษิณ" ในยามนี้ ก็คือ "พรรคประชาธิปัตย์" ที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดภาคใต้เป็นกำลังหลัก
เมื่อมองลงไปในระดับปฏิบัติการ ก็พอจะจัดคู่ให้เห็นกันจะๆ ได้ชนิดชัดเจนยิ่ง
เมื่อฝั่งฝ่ายต่อต้าน "ระบอบทักษิณ" มี "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" เป็นหัวหอก ฟากฝ่าย "ระบอบทักษิณ" ก็มี "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" หรือ "นปช." เป็นตัวชน
ขณะที่ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" มีชาวพัทลุงอย่าง "นายสมศักดิ์ โกศัยสุข" กับ "นายสาวิทย์ แก้วหวาน" 2 ผู้นำแรงงาน เป็นแกนนำ
ฝ่าย "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" ก็มีคนพัทลุงระดับอดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ "นายจรัล ดิษฐาอภิชัย"เป็นตัวยืน
เมื่อ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" มีชาวพัทลุงที่มาเรียนจบมัธยมปลายที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ คือ "นายประยูร อัครบวร" เป็นตัวชู ฝ่าย "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" ก็มีชาวสงขลาที่มาเรียนจบโรงเรียนมัธยมพัทลุง คือ "นายวีระ มุสิกพงศ์" เป็นแกนนำ
ประเด็นสำคัญ ก็คือ เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ทั้งคู่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งแย่งกันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง คราวนั้น "วีระ มุสิกพงศ์" สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เอาชนะ "นายประยูร อัครบวร" ในสีเสื้อพรรคกิจสังคมชนิดขาดลอย
เช่นเดียวกันกับจังหวัดนครศรีธรรมราช "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" มี "นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ" สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชาชน จากอำเภอท่าศาลา เป็นนักพูดฝีปากกล้า ทางฝั่ง "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ก็มี "ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ" ชาวตำบลจันดี อำเภอฉวาง เป็นจอมข้อมูลฝีปากจัด โดยมีคุมเวทีชาญสนามนาม "นายสำราญ รอดเพชร" เคียงข้าง
ใครจะนึกเล่าว่า เมื่อ "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" นักพูดฝีปากดี จากจังหวัดสุราษฎร์ธานีอย่าง "นายจตุพร พรหมพันธุ์" เป็นตัวชูโรง แล้วจะมี "หรั่ง ออเคสตร้า" นักร้องดังจากเมืองคนดี ไปเป็นตัวหลักให้กับเวที "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
ขณะที่คนตรังขนานแท้อย่าง "นายสุรวิชญ์ วีรวรรณ" คอลัมน์นิสต์ระดับฝีมือ ยืนเรียงเคียงข้าง "นายสนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" อีกฟากก็มี "นายเมธี ใจสมุทร" ชาวอำเภอปะเหลียน รับเป็นทนายความให้กับ "ระบอบทักษิณ"
ถึงกระนั้น ก็ไม่มีจังหวัดไหนจะมีคู่ชกหลากหลายเท่ากับจังหวัดสงขลา ฐานที่มั่นสำคัญของชาว "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
ไล่มาตั้งแต่ 2 พิ นั่นคือ "พิธาน คลี่ขจาย" ศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธรุ่น 19 เพื่อนร่วมรุ่นแสนรักของ "นายนิพนธ์ บุญญามณี - นายเจือ ราชสีห์" 2 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชาวสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นกำลังในการทำหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ เป็นกระบอกเสียงให้กับ "ระบอบทักษิณ" สู้กับสื่อค่ายผู้จัดการ ที่มีคนสงขลา "นายพิธาร พืชมงคล" ยืนเรียงเคียงข้างคอยดูแลความปลอดภัยให้กับ "นายสนธิ ลิ้มทองกุล" หัวขบวนสื่อเครือผู้จัดการ แกนนำคนสำคัญของ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้น ก็คือ "พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน" รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายตำรวจผู้นี้ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธ ที่ทำหน้าที่บัญชาการสั่งสลายการชุมนุมของ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่หน้ารัฐสภา จนมีผู้คนบาดเจ็บกว่า 300 คน ในจำนวนนี้พิการแขนขาดขาขาดอีกจำนวนหนึ่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอีก 2 คน
"พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน" เป็นลูกชายคนขับแท๊กซี่สงขลา - หาดใหญ่ เหล่ากอดั้งเดิมเป็นชาวสะทิ้งหม้อ อำเภอสะทิงพระ ที่โยกย้ายมาปักรากปักฐานที่ท่าสะอ้าน ในเขตเทศบาลนครสงขลา
น้อยคนจะรู้ว่า "พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน" เป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนมหาวชิราวุธกับ "นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ" อดีตรองประธานวุฒิสภา ที่ยืนหยัดอยู่กับ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" มาตั้งแต่ต้น
จะเห็นได้ว่า ในท่ามกลางการต่อสู้ชนิดถึงเลือดถึงเนื้อถึงชีวิต ตัวละครที่เกี่ยวข้องในสนามของทั้ง 2 ฟากฝ่าย ล้วนแล้วแต่เป็นคนปักษ์ใต้บ้านเราทั้งสิ้น
ประเด็นที่ต้องบอกต่อกันไป ก็คือ การต่อสู้ถึงเป็นถึงตายกันคราวนี้ ผู้เดือดร้อนได้รับผลกระทบ ก็เป็นคนปักษ์ใต้รวมอยู่ด้วยเช่นกัน