Skip to main content

http://www.prachatai.com/05web/th/home/module/blogazine-cover-20080524.jpg

วิกฤตการณ์ข้าวยากหมากแพงส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเห็นจะหนีไปพ้น คนยากคนจนทั่วโลก ในหลายประเทศวิกฤตการณ์นี้นำไปสู่การจลาจล เหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ เช่นในเฮติ อียิปต์และโซมาเลีย วิกฤติอาหารยังลามถึงภูมิภาคอเมริกากลาง จนประธานาธิบดีนิคารากัวเรียกประชุมฉุกเฉิน ยอมรับภาวะขาดแคลนอาหารเข้าขั้นวิกฤติ จนเกรงว่าจะบานปลายเป็นเหตุวุ่นวายในสังคม

ขณะเดียวกันองค์กรระหว่างประเทศต่างก็ออกมาให้ข้อมูลชวนหวั่นไหว ธนาคารโลกออกมาเตือนว่า วิกฤตอาหารแพงนี้จะเพิ่มระดับความยากจนทั่วโลกอาจพุ่งสูงขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยราคาอาหารและน้ำมันแพงในช่วง 2 ปีที่แล้ว ทำให้ประชาชนประมาณ 100 ล้านคนตกอยู่ในฐานะยากจน มีชีวิตอยู่ด้วยความรันทดหนักเข้าไปอีก เพราะมีรายได้ต่ำกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 50 บาทต่อวัน

ปรากฏการณ์ที่สำคัญคือ ธัญพืช (ข้าว,ข้าวสาลี และข้าวโพด) ของโลกมีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มขึ้นในปี 2550 และเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงเดือนมีนาคม 2551 เป็นต้นมา ราคาข้าวโพดเพิ่มขึ้น 31% ข้าวเพิ่มขึ้น 74% ถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น 87% และข้าวสาลีเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 130%

ตอนนี้ราคาอาหารเฉลี่ยแล้วเพิ่มมากขึ้น 2 เท่าครึ่ง ข้อมูลจากองค์การอาหารและเกษตรกรรมโลก (เอฟเอโอ)ระบุว่า ราคาอาหารตอนนี้พุ่งขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 26 ทำให้ต้นทุนต่างๆ ขยับขึ้นร้อยละ 40          

สาเหตุของวิกฤตการณ์พืชผล อาหารแพงเป็นประวัติการณ์ดังกล่าวมีหลายปัจจัย และแยกไม่ออกกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ซึ่งเป็นเหตุทำให้หลายประเทศโหมปลูกพืชพลังงานทดแทน เบียดบังพื้นที่เพาะปลูกอาหาร บราซิลและสหรัฐดูเหมือนจะเป็นประเทศหลักที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในกรณีนี้ เพราะเป็นผู้ผลิตเอทานอลรายใหญ่สุดของโลก ถึงขั้นที่ "ยีน ซีเกลอร์ " ผู้จัดทำรายงานพิเศษของสหประชาชาติเรื่องสิทธิในการเข้าถึงอาหาร เรียกการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพอย่างมโหฬารนี้ว่าเป็น "การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ"

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูล่า ดา ซิลวาของบราซิล ได้ออกมาตอบโต้เรื่องนี้โดยบอกว่าชาติอุตสาหกรรมที่ให้เงินอุดหนุนต่อผลผลิตทางการเกษตรของชาติตนเอง จนทำให้ได้เปรียบประเทศกำลังพัฒนาต่างหากเป็นสาเหตุแท้จริงที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรของโลกลดน้อยลง

มุมมองนักเศรษฐศาสตร์
ด้านนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ของไทย ‘นิพนธ์  พัวพงศกร’ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในงานสัมมนาที่คณะเศรษฐศาสตร์ เรื่อง “สถานการณ์ข้าวยากหมากแพง: โอกาส หรือวิกฤตสำหรับสังคมเศรษฐกิจไทย”  เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยแยกสาเหตุวิกฤตการณ์ครั้งนี้เป็นระยะยาวและระยะสั้น

สาเหตุระยะยาว  ด้านอุปสงค์ ได้แก่ 1.ประชากรโลกเพิ่มขึ้นสูง อัตราการเพิ่มของประชากรหลังทศวรรษ 1970 เพิ่มขึ้น 1.2% เทียบกับ 2% ในอดีต แต่ประชากรส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นอยู่ในประเทศกำลังพัฒนาเป็นหลัก

2.การเติบโตของรายได้จะทำให้ความยากจนในประเทศกำลังพัฒนาลดลง คนมีอำนาจซื้อมากขึ้น ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ระบุว่ายิ่งคนรวยขึ้นก็จะบริโภคคาร์โบไฮเดรตลดลงแต่จะบริโภคเนื้อสัตว์ ดังนั้น อุปสงค์ธัญพืชที่ใช้เลี้ยงสัตว์ก็จะเพิ่มขึ้นมาก เพราะเนื้อวัว 1 กก.ต้องใช้ 7 กก. เนื้อหมู 1 กก.ใช้ข้าวโพด 6.5 กก. ไก่ 1 กก.ใช้ข้าวโพด 2.6 กก.

ด้านอุปทาน ได้แก่ 1.รัฐบาลกับองค์กรระหว่างประเทศลดการลงทุนในภาคการเกษตรหลังจากปฏิวัติเขียว เพราะหลังจากปฏิวัติเขียวราคาอาหารลดลงมาตลอด บรรษัทข้ามชาติเน้นการวิจัยจีเอ็มโอที่ลดการใช้ยาฆ่าแมลงแล้วให้เกษตรกรมาซื้อเมล็ดพันธุ์ทุกฤดูกาลแทนการเพิ่มผลผลิตโดยตรง

2.สต๊อกธัญพืชทั่วโลกลดลง ในอดีตรัฐบาลพัฒนาแล้วหลายประเทศจะช่วยเหลือเกษตรกรโดยซื้อเมล็ดพันธุ์มาไว้ในสต๊อกแล้วแจกจ่าย แต่หลังจากราคาเมล็ดพันธุ์สูงขึ้นมากในระยะหลังจึงอุดหนุนเป็นตัวเงินโดยตรง ขณะที่ ปัญหาเรื่องมลพิษก็ทำให้พื้นที่ทำการเกษตรมีข้อจำกัดขึ้นมาก

ส่วนสาเหตุระยะกลางและระยะสั้น ได้แก่ ปัญหาดินฟ้าอากาศในปีสองปีที่ผ่านมาทำให้พืชผลน้อยลง โดยเฉพาะสินค้าข้าว รัฐบาลในประเทศผู้ส่งออกต่างตกใจแล้วงัดมาตรการจำกัดการส่งออกมาใช้ ขณะที่ผู้นำเข้าก็แตกตื่นรีบสั่งซื้อข้าวกักตุนไว้จำนวนมาก นี่เป็นปัจจัยสำคัญของการดันราคาขึ้น ประกอบปัจจัยอื่นๆ เกี่ยวกับการเก็งกำไร ค่าเงิน กระพือให้ราคาส่งออกพุ่งสูงผิดปกติ ซึ่งนิพนธ์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ราคาฟองสบู่” กรณีข้าวเป็นกรณีพิเศษเพราะตลาดข้าว “บาง” มาก เพราะตลาดข้าวมีลักษณะเหมือนตลาดหุ้น ผลผลิตข้าวสารผลิตได้หลายร้อยล้านตัน แต่ซื้อขายกันในตลาดโลกเพียง 6% กว่าเท่านั้น ดังนั้น แม้การกระเพื่อมเพียงนิดหน่อย เช่น ผลผลิตลดลงเล็กน้อย ราคาก็จะพุ่งรวดเร็วและลดลงเร็วเช่นกัน

อีกด้านหนึ่งคือราคาพลังงานสูงขึ้น รัฐบาลทั่วโลกมีนโยบายว่าด้วยชีวพลังงาน และมีเป้าหมายอย่างมโหฬารในการผลิตพืชพลังงาน สหรัฐอเมริการะบุว่าภายในปี 2012 จะผลิตเอทานอลอีก 7.5 พันล้านแกลลอน หรือ 30 ล้านตัน บราซิลจะผลิต 36 พันล้านลิตร ต้องใช้พื้นที่มหาศาล กรณีของสหรัฐ นโยบายชีวพลังงานของสหรัฐนั้นใช้ข้าวโพด 20% ของผลผลิตทั้งหมดมาผลิตเอทานอล ซึ่งไปแย่งพื้นที่ปลูกธัญพืช ฝ้าย ฯ ทำให้พืชตัวอื่นๆ ราคาสูง

“ตลาดข้าวเวลานี้ไร้ดุลยภาพ ราคาฟองสบู่ การทำวิจัยขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง คาดคะเนว่าระหว่างปี 2548-2558 ราคาข้าวแท้จริงน่าจะเพิ่มขึ้น 28% ภายใต้ข้อสมมติว่ารัฐบาลประเทศต่างๆ ใช้นโยบายชีวพลังงาน ภายใต้ข้อสมมติว่า ผลผลิตต่อไร่คงที่ สรุปว่า คนส่วนใหญ่คิดว่าในระยะ 5-10 ปีราคาอาหารจะอยู่ในระดับสูง แต่ผันผวน ส่วนจะผันผวนมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับรัฐบาลประเทศต่างๆ หากมีการแทรกแซงมากอาจจะทำให้ผันผวนมากกว่าในอดีต ซึ่งน่ากลัวมากเรื่องความผันผวน เพราะกระทบกระเทือนต่อเกษตรกรโดยตรง”


จ้าละหวั่น รับมือวิกฤต
ท่ามกลางสภาพการณ์เช่นนี้ หลายประเทศ หรือหลายกลุ่มประเทศเริ่มขยับปรับนโยบายเพื่อรับมือกับอนาคตอันไม่แน่นอนแล้ว เช่น คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรปหรืออียู อยู่ระหว่างทบทวนร่างนโยบายการปฏิรูปเกษตรกรรมครั้งใหญ่ในหมู่ชาติสมาชิกอียู โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร  
         
ล่าสุด เป็นที่น่าจับตามากสำหรับรัฐบาลแถบละตินอเมริกาซึ่งเริ่ม ‘เลี้ยวซ้าย’ มากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงประเทศคาบสมุทรแคริบเบียนรวม 17 ชาติ ได้จัดประชุมสุดยอด เรื่อง “อาหารเพื่อชีวิต” ขึ้นในกรุงมานากัวของนิการากัว เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา หาแนวทางแก้วิกฤติที่กำลังรุมเร้า

โดยที่ประชุมร่วมลงนามในข้อตกลงแบบไร้ข้อผูกมัด เพื่อส่งเสริมภาคเกษตรในภูมิภาคและให้ธนาคารเอกชนปล่อยกู้ในภาคเกษตรสูงถึง 10% ของวงเงินและสินทรัพย์ที่มีและยังวิจารณ์กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ที่อุดหนุนภาคเกษตร จำกัดการเผยแพร่เทคโนโลยีจนส่งผลกระทบต่อชาติยากจน

ข้อตกลงยังเรียกร้องให้ร่างแผนปฏิบัติการภายใน 30 วัน เพื่อเพิ่มผลผลิตอาหารท้องถิ่นในภูมิภาค จัดตั้งตลาดภายในและระหว่างประเทศ จำหน่ายสินค้าราคายุติธรรมต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยข้อตกลงยังรวมเอาแนวคิดริเริ่มตั้งกองทุนอาหารจากผลกำไรการขายน้ำมัน มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ของเวเนซุเอลา และพันธมิตรฝ่ายซ้ายอย่างคิวบา โบลิเวีย และนิการากัวที่มีขึ้นเมื่อครั้งประชุม “กลุ่มการค้าอัลบา” (เอแอลบีเอ) ในกรุงการากัสเมื่อ 23 เม.ย. เข้าไปด้วย เรื่องนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นแม้บางประเทศยังมีความเห็นแย้งอยู่บ้าง
          
ขณะที่ประเทศไทยก็เริ่มยกระดับความสนใจให้วิกฤติอาหารโลกเป็นวาระแห่งชาติ  และรัฐบาลมียุทธศาสตร์จัดการพืชพลังงานและอาหาร โดยมุ่งปรับโครงสร้างการผลิตอาหารใหม่พร้อมกำหนดนโยบายพืชพลังงานให้ชัดเจนขึ้น ในส่วนของมันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน และปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะรักษาระดับพื้นที่ปลูกแต่ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต กำหนดเป้าหมายเพิ่มผลผลิตต่อไร่อย่างน้อย 10%

ทั้งหมดนี้เป็นกรอบกว้างๆ ที่รัฐบาลกำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญที่รัฐบาลไม่ได้ระบุถึงในขณะที่นักวิชาการจากหลายส่วนเคยเสนอไว้คือ การเพิ่มการทำวิจัยภาคการเกษตร และผลิตฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพราะแม้เราจะส่งออกอันดับ 1 แต่กลับลงทุนกับการวิจัย การสร้างองค์ความรู้น้อยมาก อย่างปีที่แล้วมีการลงทุนวิจัยเพียง 100 กว่าล้านบาท รวมทั้งเรื่องข้อมูลการเกษตรของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรนั้น ดูเหมือนจะมีปัญหาด้านคุณภาพของข้อมูล จึงยังไม่ต้องพูดถึงองค์ความรู้ ข้อมูลที่จะลงสู่เกษตรกรรายย่อยให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องนโยบายรัฐ ทิศทางการตลาดเพื่อวางแผนการผลิตมากขึ้นอย่างที่มีการนำเสนอกันตลอดมา  






ข้อมูลบางส่วนจาก
เวิลด์แบงก์เตือนอาหารแพงทำคนยากจนพุ่ง, เว็บไซต์เดลินิวส์ วันที่ 21 พ.ค.51
ชี้งบโลกซื้ออาหาร กระฉูด32ล้านล้าน, เว็บไซต์ข่าวสด วันที่ 23 พ.ค.51
ละตินอเมริกา รวมกลุ่มคุยแก้วิกฤติอาหารโลก, เว็บไซต์ไทยรัฐ วันที่ 9 พ.ค.51

บล็อกของ หัวไม้ story

หัวไม้ story
กรณี “แดงจับแดง” ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่ควรถูกมองว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด หรือเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวและจบกัน แต่นี่คือเป็นปัญหาท่าที และหลักการของแกนนำซึ่งไปช้ากว่ามวลชนอย่างสม่ำเสมอ
หัวไม้ story
ขอย้อนรอยความทรงจำจากปากคำของชาวบ้านภูมิซรอลอีกครั้ง ในฐานะที่พวกเขาเป็นมนุษย์ผู้ต้องเผชิญกับชะตากรรมของสงครามที่แท้จริง และบาดเจ็บล้มตายจริง จากการเปิดฉากต่อสู้
หัวไม้ story
วิธีกลบข่าวแบบบ้านๆ ไทยๆ ไม่ต้องลงทุนมากก็กลบมันด้วยน้อง M79 ลูกกระสุนสนนราคาละไม่กี่ร้อย แต่ก็ได้พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งกลบข่าวคนเป็นหมื่นเป็นแสนที่ออกมาไล่รัฐบาลในขณะนี้
หัวไม้ story
สื่อต่างประเทศให้ความสนใจกับข่าวการเมืองในไทยกันหนาแน่นตลอดสัปดาห์นี้ ยิ่งใกล้วันศุกร์ วันที่สื่อทั้งหลายเรียกมันว่า judgement day มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งลงข่าวและบทวิเคราะห์กันคึกคักมากขึ้นเท่านั้น ประเด็นของการรายงานของสื่อนอกเน้นหนักไปที่สองเรื่องใหญ่คือ แนวทางของคำพิพากษาที่จะออกมา กับผลสะเทือนทางการเมืองจากการตัดสินหนนี้ ทั้งต่อการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างสองขั้วคือเหลืองกับแดง และผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจไทย (ที่มาของภาพ: มังกรดำ) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2551 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว…
หัวไม้ story
เรื่อง : สิริลักษณ์ ศรีประสิทธิ์ ภาพจาก : http://urbansea09.multiply.com/photos/album/1/Por_Border_Towns  
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง พันธมิตรฯ เดินสองแนวทางทั้งการขยายพรรคการเมืองใหม่ และพื้นที่การเมืองภาคประชาชน โดยในภาพนายสมศักดิ์ โกศัยสุข รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และแกนนำ พธม.เชียงราย ร่วมพิธีตัดริบบิ้นเปิดสำนักงานพรรคเชียงราย ย่านบ้านดู่ ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เมื่อ 20 ธ.ค. 52 (ที่มา: “ก.ม.ม.” ปักธงเปิดสาขาเชียงรายสำเร็จ - หางแดงรวมตัวได้แค่ 3 ป่วนไม่ขึ้น, ASTVผู้จัดการออนไลน์, 21 ธ.ค. 2552)
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ 10 ธ.ค. 52 (ที่มา: CBNpress) การชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ 10 ธ.ค. ผ่านไปอย่างเรียบร้อย โดยไม่มีเหตุยกคนมาล้อมคนเสื้อแดง อย่างที่สุนันท์ ศรีจันทรา นักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวเชิญชวนผ่านช่องเนชั่นฯ แต่อย่างใด
หัวไม้ story
  ทีมข่าวการเมือง   องค์กรเพื่อความโปร่งใสสากลหรือ TI ที่มีสำนักงานที่เบอร์ลินเผยแพร่รายงานดัชนีชี้วัดคอรัปชั่น (CPI) ประจำปี 2552 นิวซีแลนด์-เดนมาร์ก-สิงคโปร์-สวีเดน โปร่งใสสุด ไทยได้อันดับ 84 ขณะที่ผลสำรวจย้อนหลังพบว่าไทยเคยได้คะแนนดีที่สุดในปี 2548 ขณะที่ในรอบ 5 ปีมานี้คะแนนต่ำสุดช่วงรัฐบาลรัฐประหารในปี 2550
หัวไม้ story
ภาวะตลาดหุ้นและค่าเงินบาทของไทยดิ่งตัวลงอย่างฮวบฮาบเมื่อสัปดาห์ที่ ผ่านมาด้วยข่าวลือที่สื่อไทยไม่รายงานโดยตรงเลยแม้แต่สำนักเดียวว่าเป็นข่าว ลือเรื่องใด และแม้ตลาดหุ้นจะมีอาการกระเตื้องขึ้นอีกครั้งในวันสุดท้ายของสัปดาห์ แต่ภาวะความไม่มั่นใจของนักลงทุนนี้ถูกวิเคราะห์จากสื่อทั้งสองแห่งว่าเป็น ผลโดยตรงจากความผันผวนและไร้หลักยึดของการเมืองไทยที่เป็นอาการป่วยสั่งสม แอนดรูว์ มาร์แชล จากรอยเตอร์ วิเคราะห์ผ่านบทวิเคราะห์เรื่อง ทำไมพระพลานามัยของพระมหากษัตริย์จึงส่งผลสะเทือนต่อตลาดหุ้น (อ้างอิงจาก http://www.reuters.com/article/latestCrisis/idUSSP406158 อัพเดทเวลา 6.39 น. วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม)…
หัวไม้ story
กรณีนี้ไม่ใช่กรณีเดียวที่เกิดขึ้น สำหรับเรื่องที่เรียกกันว่า ‘หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ’ หากแต่เป็นกรณีแรกๆ ที่ตัดสินใจต่อสู้คดี โดยไม่รับสารภาพ และเดินหน้าสู่การอภัยโทษดังที่เคยเป็น ต่อไปนี้เป็นลำดับเวลาตลอดระยะปีกว่า เนื้อหาการต่อสู้คดีบางส่วน รวมถึงวิธีคิดของเธอจากการสนทนาสั้นๆ แบบเก็บเล็กผสมน้อย
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง     คลิปสนธิ ลิ้มทองกุลอ่านฎีกา เมื่อ 4 ก.พ. 2549 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า (ตอนที่ 1) (ที่มา: บันทึกจาก ASTV)   คลิปสนธิ ลิ้มทองกุลอ่านฎีกา เมื่อ 4 ก.พ. 2549 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า (ตอนที่ 2) (ที่มา: บันทึกจาก ASTV)   คลิปสนธิ ลิ้มทองกุลอ่านฎีกา เมื่อ 4 ก.พ. 2549 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า (ตอนที่ 3) (ที่มา: บันทึกจาก ASTV)   คลิปสนธิ ลิ้มทองกุลอ่านฎีกา เมื่อ 4 ก.พ. 2549 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า (ตอนที่ 4) (ที่มา: บันทึกจาก ASTV)