Skip to main content
 

ธวัชชัย ชำนาญ

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นห้วงเวลาที่คนไทยทั่วทุกสารทิศ เดินทางเข้ามาร่วมเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ "พิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ" ความยิ่งใหญ่อลังการที่ทุกคนคงรู้ดีที่ไม่จำเป็นต้องสาธยายเยอะ  แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ความสงบเงียบของบ้านเมืองที่ดูเหมือนมีพลังอำนาจอะไรบางอย่างมากดทับกลิ่นอายของสังคมไทยที่เคยเป็นอยู่

กลิ่นอายที่ว่านั้น..เป็นกลิ่นอายของความขัดแย้ง ความเกลียดชังของคนในสังคมที่ถูกกดทับมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟังดูแล้วเหมือนว่าอยากให้อำนาจแบบนั้นกดทับความขัดแย้งที่มีอยู่ในสังคมตลอดไป

แต่ในที่สุดช่วงเวลาที่สงบเงียบก็ผ่านพ้นไป เพียงอึดใจเดียว สถานการณ์บ้านเมืองของเราก็กลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ เช้าวันที่20 .. เหตุระเบิดก็เกิดขึ้นที่หน้าเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามข่าวที่ออกมาบอกว่า M 79 ถูกยิงออกมาทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 23 ราย

หลังจากนั้นทางแกนนำพันธมิตรก็มีแถลงการณ์ออกมา เพื่อรวมพลกองทัพเสื้อเหลืองทั่วประเทศบุกรัฐสภาในวันที่ 23 ..2551  โดยหวังเป็นหมัดสุดท้ายหวังน๊อกคู่ต่อสู้ให้คาเวที

................................................................................

 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าสังคมไทยตกอยู่ในภาวะที่มีความขัดแย้งอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดความขัดแย้งนั้นได้แทรกซึมเข้าไปอยู่ในกระดูกของคนในสังคมจนยากที่จะรักษา ยากที่จะแก้ไข

สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ในที่สุดมันก็กลายเป็นเรื่องปกติของสังคม เป็นเรื่องธรรมดา ไม่แปลกอะไร ทุกคนอาจเริ่มชินชากับมันคงเหมือนกับข่าวสารในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแม้มีเหตุวางระเบิดหรือลอบยิง ตลอดเวลา เมื่อเหตุการณ์ที่คล้ายคลึ่งกันเหล่านั้นย้ายเข้ามาอยู่ในสังคมคนกรุง แรกๆอาจยังไม่รู้สึกชินกับมันเท่าไร แต่ตอนนี้เข้าใจว่า สังคมคนกรุงเริ่มชินกับความปกตินั้นแล้ว

การกลับเข้าสู่ภาวะปกติของสังคมที่ว่านี้กลับเป็น การเริ่มต้นความรุนแรง ความขัดแย้งที่พักยกไประเบิด M 79 ทำให้เสียชีวิตหนึ่งรายก็กลายเป็นวีรชนให้กับแกนนำพันธมิตรฯอีกราย หรือกลายเป็นวีรชนให้กับอุดมการณ์อีกหนึ่งคน

เป็นเรื่องน่าเศร้าใจอย่างยิ่งเพราะไม่น่าจะมีใครต้องมาตายเพื่ออุดมการณ์ใดๆทั้งสิ้น

ระเบิดที่เกิดขึ้นกับทางพลพรรคเสื้อเหลืองก็เป็นความสูญเสียที่ยากจะลืมของญาติผู้เสียชีวิต ใครจะไปรู้ถึงความรู้สึกลึกๆของเขาว่าคิดอย่างไร เมื่อเสาหลักของครอบครัวตายไปโดยที่ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะกลายเป็นแค่วีรบุรุษของแกนนำเพียง 5 คน

แต่ในฐานะมนุษย์ที่เกิดมาอยู่บนโลกใบนี้ด้วยกัน เกิดมาอยู่ในประเทศเดียวกัน ผมขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตามการที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บของฝ่ายเสื้อเหลืองก็ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวอีกครั้ง สัญญาณยกทัพลุยแหลกส่งมาจากแม่ทัพทั้ง 5 และเรียกระดมพลหัวเมืองเพื่อแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ ความขัดแย้งเริ่มขึ้นอีกรอบ แต่คงจำไม่ได้แล้วว่ามันเป็นยกที่เท่าไร มันเกิดขึ้นหลายยกเหลือเกินจนจำไม่ได้

เหตุการณ์ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ คงได้แต่ภาวนาให้ทุกความขัดแย้ง ทุกความรุนแรง ไร้ผู้เสียชีวิต แขนขาด ขาขาด หรือบาดเจ็บอีกเลย

สุดท้าย สิ่งที่อยากฝากไว้คือ ภาวะสังคมที่เป็นปกติที่ได้เอ่ยมาตั้งแต่ต้นนั้นมันอาจเป็นภาวะปกติของคนเพียงบางกลุ่มที่ต้องการสร้างให้มันเกิดขึ้นเพื่อหาเหตุผลทิ่มแทงฝ่ายตรงกันข้ามเท่านั้น แต่ไม่ได้สนใจใยดีถึงชีวิตมนุษย์สักเท่าไร

คำถามคือ..แล้วเราจะทำอย่างไรในฐานะคนในสังคมเดียวกัน ที่จะเดินไปให้พ้นจากสังคมความขัดแย้งที่มีความรุนแรงอันเป็นปกติที่ถูกสร้างขึ้นนี้สักที ???

 

หมายเหตุ : ผู้เขียนเป็นนักศึกษาฝึกงาน http://www.prachatai.com/

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
ศรายุธ ตั้งประเสริฐ
Hit & Run
  โจว ชิงหมาเกิด     ประเด็นฮอตฮิตในรอบสัปดาห์นี้หนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือบทสัมภาษณ์ "สมชาย หอมละออ"แย้มผลสอบสลายชุมนุมพฤษภา′53 ผัวเมียทะเลาะกัน... ผิดทั้งคู่ (วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 14:00:45 น. สัมภาษณ์พิเศษ โดย พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์)    
Hit & Run
เดือนมีนาคมแล้วค่ะท่านผู้อ่าน ช่วงเวลาที่นักเรียนชั้น ม.6 ต้องจำจากจรสถาบันอันเป็นที่รักเพื่อก้าวไปข้างหน้า ทั้งจากความต้องการของตัวเองและกระแสสังคมที่ต่างคาดหวังว่าการ ศึกษาคือหนทางแห่งการเป็น “เจ้าคนนายคน” หากท่านผู้อ่านเคยผ่านช่วงเวลาของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นระบบเอนทรานซ์หรือระบบแอดมิชชันคงยังจำช่วงเวลาหฤโหดของการเข้าห้องสอบที่แบกเอาความฝันของตัวเอง ความคาดหวังของผู้บุพการี และหน้าตาของสถาบันระดับมัธยมศึกษา (ที่มักจะวัดกันด้วยจำนวนนักเรียนที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้)ตลอดจนท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครู อาจารย์…
Hit & Run
ปีนี้บรรยากาศเหน็บหนาวที่มาพร้อมกับลานเบียร์หลายแห่งตามห้างสรรพสินค้า มีเรื่องสนุกสนานทวีคูณมากขึ้น เมื่อเกิดปรากฏการ “สาวลีโอ” ที่ยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังเมื่อไปพันกับการเมืองยุคอำมาตย์ฝึกหัดครองเมือง เมื่อมาถึงปลายปีที่มีบรรยากาศหนาวๆ ชวนให้เปล่าเปลี่ยว ธรรมเนียมปฏิบัติของบรรษัทค่ายน้ำเมาต่างๆ จะต้องมีแคมเปญอะไรมาเป็นของกำนัลให้กับหนุ่มๆ คึกคักมีชีวิตชีวา โดยปฏิทินรูปแบบวาบหวามมักจะถูกเข็นออกมาในช่วงนี้ และลีโอก็ไม่เคยพลาด หลังจากที่ได้ “ลูกเกด - เมทินี กิ่งโพยม” มาช่วยเป็นแม่ทัพดูแลการผลิตด้านสื่อหวาบหวิวให้ค่ายลีโอ…
Hit & Run
สถานการณ์ในเมืองไทยตอนนี้ทำให้พวกเราไม่สามารถนำเสนออะไรหลายอย่างได้โดยเฉพาะสิ่งที่มาจากต่างประเทศ ก็เพราะประเทศสยามกำลังพยายามปิดกั้นไม่ให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลจากสื่อต่างชาติ หรือถ้าจะให้รับรู้ก็จะถูกบิดเบือนหรือรับเอามาดัดแปลงให้เป็นวาทศิลป์มุ่งสำเร็จความใคร่ในการทำลายล้างศัตรูของตนเอง โดยไม่สนถึงผลกระทบที่ตามมาว่าจะบานปลายร้ายแรงขนาดไหน
Hit & Run
ก่อนที่คนเสื้อแดงจะได้รับการยอมรับนับถืออย่างทุกวันนี้ เราผ่านอะไรมามากมาย และมาวันนี้เราอาจจะลืมอะไรไปมากมายเช่นกัน ทุกวันนี้การสอดแทรกประเด็นประชาธิปไตยเพื่อผูกโยงกับมวลชนคนรักทักษิณเป็นเรื่องหลักๆ ที่เราพูดถึงกัน โดยจุดสำคัญที่ฝ่ายที่เรียกว่าตนเองเป็น“ฝ่ายที่เป็นปัญญาชน-ฝ่ายที่ต้านลัทธิเสรีนิยม” สามารถมายืนข้างคนรักทักษิณได้อย่างไม่เคอะเขิน ก็คือการที่คุณทักษิณได้รับการเลือกตั้งมาตามวิถีประชาธิปไตยแล้วถูกโค่นอำนาจโดยการรัฐประหาร
Hit & Run
“กม.มั่นคงคุมเขตดุสิต แดงเย้ยตื่นตูม พท.ชี้ยั่วยุคนมาชุมนุม นายกฯ อ้างมีข่าวมือที่สาม”
Hit & Run
ขอ 'อภัย' ล่วงหน้า หากว่าเรื่องนี้จะ(ไม่) เกี่ยวข้องกับการ 'อภัย' ใน 'โทษ' ของคนตนหนึ่งที่กำลังเป็นประเด็นร้อน!
Hit & Run
ดูเหมือนว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เวชชาชีวะจะให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์-รณรงค์ทางอินเทอร์เน็ตเป็นพิเศษโดยที่ผ่านมามีการเปิดตัวเว็บไซต์หลายโครงการอาทิโครงการต้นกล้าอาชีพhttp://www.tonkla-archeep.com/ เว็บไซต์ช่วยชาติที่แสดงข้อมูลและความคืบหน้าของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรััฐบาล http://www.chuaichart.com/ เว็บโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนhttp://www.chumchon.go.th/ โครงการคิดอย่างยั่งยืนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของกอ.รมน. หรือ MOSO http://mosothai.com และล่าสุดhttp://ilovethailand.org เว็บที่ชวนคนมาแสดงความรักประเทศไทยผ่านบล็อกคลิปวิดีโอรูปถ่ายและข้อความสั้น
Hit & Run
คุณ ลิเดีย กูวารา อาจไม่ได้มีความงามตามแบบฉบับสาวทั่วไป แต่ จากองค์ประกอบการจัดวาง การตกแต่ง อุปกรณ์เสริมคือแครอทเป็นเหมือนแถบคาดกระสุน รวมถึงการโพสท์ท่าของเธอ ทำให้ดูมีเสน่ห์ด้วยพลังของความเป็นชาย (masculine) ...แม้แครอทจะดูเล็ก ๆ เหี่ยว ๆ ไปหน่อยก็ตาม
Hit & Run
ในปีนี้หนังสือพิมพ์ไทยรัฐคว้ารางวัล “ภาพข่าวยอดเยี่ยม” ไปครอง หลังจากนั้นมาไม่กี่วันก็แทบจะต้องเพิ่มตำแหน่งมิสป๊อบปูล่าไปให้ด้วย เพราะมันไม่ใช่ได้รางวัลแล้วก็แล้วกันไปแบบทุกปี หากแต่ถูกพูดถึงอย่างมากมาย โดยเฉพาะในโลกไซเบอร์ มีทั้งคำชื่นชมและผรุสวาทให้ระงม ฐานที่เกี่ยวพันกับการเมืองลูกกวาดหลากสีของเราเต็มๆ ในฐานะที่ไม่ใช่คณะกรรมการ (และไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ด้วย) ขอประกาศสนับสนุนคณะกรรมการที่ให้รางวัลแก่ภาพนี้ โดยจะขอยกเหตุผลเพิ่มเติมจากท่านคณะกรรมการตัวจริงที่อาจพูดสั้นไป เพราะท่านคงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับพวกไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่รู้จักแพ้ชนะ ทั้งยังไม่มีองค์ความรู้ด้านสื่อสารมวลชน…
Hit & Run
ภาพจาก: http://imaim.wordpress.com แรงกระเพื่อมของสังคมไทยในช่วงที่ผ่านมา ต่อเรื่อง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้ต้องมานั่งนับวันว่า เมื่อไหร่จะถึงวันที่กฎหมายฉบับนี้นี้จะเขาที่ประชุม ครม.เพื่อลุ้นเอาแค่กฎหมายฉบับนั้นจะผ่านครม.เข้าสู่สภาฯ ได้หรือไม่ แล้วค่อยไปว่ากันต่อด้วยเรื่องหน้าตาว่าจะออกมาสวย หล่อ เพียงใด ตามที่ รมว.คลัง ท่านบอกผ่านสื่อมวลชนไว้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา มีกำหนด 2 สัปดาห์ นี่ก็คงอยู่ในช่วงระยะเวลานัดหมายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ล่าสุด รมว.คลังกล่าวผ่านสื่อว่า กระทรวงการคลังยังเดินหน้าแนวคิดการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.…