Skip to main content

 

หอกหักจูเนียร์

 

 

ขณะที่นั่งปั่นข้อเขียนชิ้นนี้ ยังมีสองเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น และผมต้องอาศัยการแทงหวยคาดเดาเอาคือ

1. การเลือกนายกรัฐมนตรี (จะมีในวันที่ 15 .. 2551)

2. การโฟนอินเข้ามายังรายการความจริงวันนี้ของคุณทักษิณ (จะมีในวันที่ 13 .. 2551)

เรื่องที่ผมจะพูดก็เกี่ยวเนื่องกับสองวันนั้นและเหตุการณ์หลังสองวันนั้น ผมขอเน้นประเด็น การจัดการ - การบริหาร "ความแค้น" ของสองขั้ว

 

I

 

ขอแทงหวยข้อแรกคือ ในวันที่ 15 .. 2551 หากว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะถูกโหวตให้เป็นนายก และพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล (ขออภัยถ้าแทงหวยผิด แต่ถ้าแทงผิด ฝั่งเสื้อแดงคงร่าเริงมิน้อย!) ปัญหาที่รอนอกจากเรื่องการบริหารจัดการเรื่องเศรษฐกิจ, การบริหารจัดการเรื่องการแบ่งสรรถ่วงดุลอำนาจให้ผู้สนับสนุน, การปรับนโยบายรัฐเดิมของพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนให้มาบริหารจัดการประเทศให้เป็นประโยชน์ต่อด้านภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และอื่นๆ อีกมากมายนั้น สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์จะมองข้ามไม่ได้เลยก็คือ คุณอภิสิทธิ์จะบริหารจัดการความคั่งแค้นของฝ่ายเสื้อแดงที่โกรธแค้นพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร?

ไม่ต้องเดาอะไรมากมายว่าการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้น คงจะไม่สามารถทำได้เทียบเท่ากับคนเสื้อเหลืองที่เคยทำแสบไว้ในช่วงระยะเวลาที่ไม่น่าจะจดจำที่เราได้ภาวนาให้มันผ่านพ้นไปทุกวันทุกคืนอย่างที่เคยเป็นมา

... หากเคลื่อนไหวดำเนินรอยตามเสื้อเหลือง ท่านทั่งหลายยังจำวันคืนหลังรัฐประหาร 2549 ได้หรือไม่ จำวันบุกบ้านคุณเปรมได้หรือไม่ จำวันที่ทหารพร้อมอาวุธครบมือได้หรือไม่

แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอีกเรื่องหนึ่งคือ หากคุณอภิสิทธิ์เป็นนายก บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่, นายทหาร, อธิการบ่ดีมหาวิทยาลัย, นักธุรกิจ, นักพัฒนาเอกชน, นักสิทธิมนุษยชน, นักออกแถลงการณ์ และผู้สูงอายุที่ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมือง (ที่ภาษาพิธีการ - ภาษาทางการ หรือภาษาราชการ ให้เกียรติว่า "ราษฎรอาวุโส")* จะทยอยเดินหน้าออกมาปรามและตราหน้าการกระทำของคนเสื้อแดงไว้ล่วงหน้า ด้วยเหตุผลหนักหน่วงเลวร้ายระยำนานัปการ

รวมถึงสื่อมวลชนชั้นกลางที่มีอคติกับกลุ่มเสื้อแดง คอยป้อนข่าวให้ผู้เสพย์กลุ่มตลาดชนชั้นกลางอย่างโอเวอร์เกินจริงต่อปฏิกิริยาของคนเสื้อแดง แค่ "เป๋ คลองเตย" เกาไข่ หรือ "ขวัญชัย ไพรพนา" เกาง่ามตูด .. พาดหัวในวันต่อมาของสื่อเหล่านี้ก็มีเรียงพิมพ์คำว่า "ป่วนเมือง" "ม๊อบถ่อย"  "ม๊อบมหาโฉด" "ลิ่วล้อโหด" "สัตว์นรก" ไว้แท่นพิมพ์ที่เตรียมปั๊มถุงห่อกล้วยแขกฉบับเช้าแล้ว 

พฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวข้างต้นนั้น จะทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงทั้งหลายตัวเกร็งจนกระเพาะเยี่ยวบวมเป่งไปไหนมาไหนคงไม่สะดวก และไม่ต้องพูดถึงเรื่องล้อมหรือปิดสถานที่ต่างๆ นานา

แบบนี้จะไม่ให้พวกเสื้อแดง "แค้น" ได้ฤา

และคุณอภิสิทธิ์กับพลพรรคจะบริหาร-จัดการความแค้นนี้ได้อย่างไร

ตอนนี้ผมคิดได้ประการเดียวเท่านั้นโดยขอเสนอว่า พอคุณอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกปุ๊บ! ลองประกาศปั๊บว่า วาระแห่งชาติอันดับแรกที่รัฐบาลประชาธิปัตย์จะต้องสะสางอย่างเร่งด่วน คือ กระบวนการสืบสวนเอาผิดคิดค่าเสียหายกับแกนนำหัวขบวนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้กระทำผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายให้กับประเทศและระบอบประชาธิปไตย!

คาดว่าความคั่งแค้นของคนเสื้อแดงอาจจะลดลงมานิดนึง..

ปล. อย่าลืมระวังบริหารจัดการความแค้นฝั่งเสื้อเหลืองล่วงหน้า โดยอย่าพยายามเซ็นสัญญาการค้าเสรี หรือแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพราะเดี๋ยวพันธมิตรฯ หรือ ส.ว. สายต้านการค้าเสรีที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ หรือหัวขบวนสหภาพแรงานรัฐวิสาหกิจ เขาจะเสียคนและมองหน้าคนที่อยู่ข้างหลังไม่ติด

 

II

ก่อนหน้าที่เราจะได้รู้ว่าคุณอภิสิทธิ์ ได้เป็นนายกหรือไม่นั้น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดในวันที่ 13 ธันวาคมนี้คุณทักษิณจะโฟนอินมาทักทายคนเสื้อแดงอีกครั้ง

คุณทักษิณเองก็เป็นบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งที่จะสามารถบริหาร-จัดการความแค้นของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ และถ้าบริหารจัดการดีๆ ความแค้นเหล่านั้นจะสร้างผลบวกให้คุณทักษิณและพรรคเพื่อไทย

ถ้าคุณทักษิณประกาศบวชและก็บวชจริงๆ หรือฆ่าตัวตายผ่านการโฟนอิน หรือยอมกราบตีนมอบตำแหน่งนายกโดยไม่มีเงื่อนไขและประกาศยุติบทบาทจริงๆ ..การบริหารจัดการความแค้นแบบนี้จะผิดมหันต์ เพราะเหล่าคนเสื้อแดงจะไม่มีเสาหลัก ไม่มีศาสดา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะอนาธิปไตยของคนเสื้อแดงขึ้น กองกำลังโรนินสีแดงจะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด โดยไม่มีการควบคุม ถ้าถึงเวลานั้นจะเป็นเรื่องของอารมณ์เกรี้ยวกราดล้วนๆ

หรือถ้าคุณทักษิณสวมวิญญาณแกนนำพันธมิตรฯ ปลุกปั่นให้คนเสื้อแดงลุยล้มรัฐบาลที่ไม่ใช่ฟากคุณทักษิณที่จะเป็นรูปเป็นร่างหลังการโฟนอินนี้ไปอีกสองวัน ปลุกปั่นให้ทำลายระรานฝ่ายตรงข้ามแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม อันนี้ก็ผิดมหันต์เช่นกัน แต่คาดว่าคนฉลาดระดับด็อกเตอร์คงจะไม่ทำเยี่ยงนี้ หรือถ้าจะปลุกปั่นจริงๆ คุณทักษิณคงทำแบบมีสไตล์มากกว่าแกนนำพันธมิตรฯ

ทั้งนี้คาดว่าคุณทักษิณจะบริหารจัดการความแค้นของคนเสื้อแดงเหล่านี้เอาไว้เป็นต้นทุนในการเล่นการเมืองระยะยาว พยายามหว่านล้อมออดอ้อนให้คนเสื้อแดงเหล่านี้จงรักพรรคดีต่อคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยหรือพรรคใดๆ ที่จะมาทีหลังต่อจากพรรคเพื่อไทยที่คุณทักษิณคอยบงการ

คุณทักษิณจะต้องใช้ความแค้นของคนเสื้อแดงเหล่านี้ นำมาพยายามตัดตอนนักการเมืองรูปแบบเก่า (แบบเนวินและสหาย) เพื่อให้คนเสื้อแดงขึ้นตรงต่อคุณทักษิณแบบไม่มีบัฟเฟอร์ขวางกั้นเช่นแต่ก่อน

คุณทักษิณจะต้องบริหารจัดการความแค้นเหล่านี้เป็นคะแนนเสียงตามระบบประชาธิปไตย ให้มวลชนเหล่านี้เลือก ส.. primary ก่อนส่งลงเลือกตั้งได้ ... เพื่อให้คนเสื้อแดงและคุณทักษิณคุมนักการเมืองได้พร้อมๆ กัน

ทั้งนี้คนเสื้อแดงจะต้องบริหารจัดการความแค้นของตนเองให้ดีๆ เหมือนกัน อย่าให้เข้าทางฝ่ายตรงข้ามที่คอยจ้องเล่นงานและคอยจ้องขยายความพฤติกรรมของคนเสื้อแดงให้เกินจริง โดยเคลื่อนไหวแบบสร้างสรรค์เช่นระดมคนเสื้อแดงประท้วงรัฐบาลโดยการเคลื่อนขบวนใหญ่เก็บขยะ ทำความสะอาดถนนราชดำเนิน, หน้าทำเนียบ, หน้ารัฐสภา หรือประท้วงด้วยการนั่งวิปัสสนาบำเพ็ญกุศลให้เต็มสนามหลวงเป็นต้น

 

 

* อนึ่ง "ภาษาพิธีการ-ภาษาทางการ-ภาษาราชการ" เป็นภาษาที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อความสุภาพ นอกจากจะเป็นภาษาเขียนที่ถูกต้องตามหลักภาษาไทยแล้ว บางครั้งก็จะเปลี่ยนคำพื้นๆ ให้กลายเป็นการให้เกียรติบุคคลธรรมดา ทำให้ไม่ธรรมดา เช่น นักชกเหรียญทอง เป็น วีรบุรุษเหรียญทอง, ยาม เป็น พนักงานรักษาความปลอดภัย, ตาแก่จมปลักอยู่กับหมู่บ้าน เป็น ปราชญ์ชาวบ้าน และ ผู้สูงอายุที่ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมือง เป็น ราษฎรอาวุโส เป็นต้น หรือบางครั้งใช้แทนคำหยาบคายให้ดูสละสลวยยิ่งขึ้น เช่น หมXย เป็น ขนเพชร เป็นต้น

 

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
 ภาพจาก reutersคิม ไชยสุขประเสริฐวันฝนตก ฉันนั่งอ่านบทความของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงษ์ <1> ในหนังหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ฉบับหนึ่ง ที่เขียนเกี่ยวกับภาพของ นางการ์เม่ ชาคอน (Carme Chacon) วัย 37 ปี ในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ The International Herald Tribune ขณะที่นางชาคอน ผู้ซึ่งในรัฐบาลชุดก่อนเป็นรัฐมนตรีการเคหะ กำลังเดินตรวจพลสวนสนามครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของสเปน ในกรุงมาดริด เมื่อวันที่ 14 เม.ย.... เธออยู่ในชุดกางเกงกับเสื้อคลุมท้อง และสวมรองเท้าส้นสูง...นางชาคอนได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนแรกของสเปน เมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา…
Hit & Run
 ภาพจากเว็บไซต์ artshole โดย Richard Sayerตติกานต์ เดชชพงศ เมื่อไม่กี่วันก่อน อาจารย์ 2 ท่านจากสถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่ ออกแถลงการณ์เตือนให้ ‘คนทำสื่อ' และ ‘คนบริโภคสื่อ' ระมัดระวังภาวะ ‘สื่อเป็นพิษ' อันเนื่องมาจากการบริโภคข้อมูลปนเปื้อน ‘ความรุนแรง' ที่แฝงเร้นมากับข่าวและบทความอันท่วมท้นล้นหลามในยุคสารสนเทศครองเมืองไม่แน่ใจนักว่า ‘สื่อเป็นพิษ' จะก่อให้เกิดอาการอะไรที่เป็นผลร้ายแรงกับสุขภาพร่างกายหรือไม่ แต่ถ้าพูดถึงอาการ ‘อาหารเป็นพิษ' ซึ่งคนส่วนใหญ่ ‘บริโภค' เข้าไปเพราะไม่รู้เท่าทัน จะทำให้ผู้บริโภคอาเจียน ท้องเสีย หน้ามืดหมดแรง หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตเพราะพิษเข้าสู่กระแสเลือด...…
Hit & Run
  [^_^]/ระเบิด (bomb) [n.] คือวัตถุที่ทำให้เกิด ‘การระเบิด' จะบรรจุ ‘วัตถุระเบิด' หรือสารที่ทำให้เกิด ‘การระเบิด' ไว้ภายใน00025 เมษายน 2551 เวลา 6.30 น.วัดแสนฝาง ถนนท่าแพ จ.เชียงใหม่นายนที อนันทปัญญสุทธิ์ อายุ 45 ปี พ่อค้าขายเสื้อผ้า กำลังรถไปจอดภายในบริเวณวัดแสนฝาง เขาพบกล่องพัสดุสีขาวไม่ระบุชื่อผู้รับ วางอยู่หน้าทางขึ้นศาลาวัด  นายนทีหยิบกล่องนั้นขึ้นมารู้ว่ามีน้ำหนัก คิดว่าเป็นของมีค่าอยู่ภายในจึงได้แกะดูพร้อมกับเดินไปตามถนนเพื่อเข้ามาเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่ตลาดวโรรสหรือที่คนเชียงใหม่เรียกว่า ‘กาดหลวง'แต่พอใกล้ถึงร้านเขาเปิดฝากล่องออกมาดูพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องจริงๆ…
Hit & Run
  มุทิตา เชื้อชั่ง โอว เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ....สุ้มเสียงเธอเป็นอย่างไร ไม่สู้จำได้ ตราตรึงไว้เพียงริมฝีปากทำนองเพลงฟังผ่านๆ ไป แต่ทำนองการเคลื่อนไหวเร้าใจกว่ามากบุคลิกแคล่วคล่องว่องไว หนุ่มๆ ขอใกล้ ป้าๆ ขอจากยาลม ยาดม ยาหม่อง เร่งเอามากอง อย่าให้หายาก  โอว เกิร์ลลี่ เบอร์รี่....สีสันแห่งยุคสมัย ขายได้ ขายไว เลื่อนไหลเชี่ยวกรากจับเธอมาใส่ชุดไทย น่ารักสดใส เซ็กซี่ไม่เหลือซากปกติเสื้อหาย กางเกงหด คราวนี้งามงด โอ้... ไทยมั่กๆเด็กชอบ ผู้ใหญ่อมยิ้ม ดูหนังสือพิมพ์ คอนทราสต์หายอยากหยดเยิ้ม หยาดย้วย หยอดย้อย ผู้ใหญ่หวังคอยเด็กไทยรู้รากแต่ราฟฟี่ แนนซี่ กอล์ฟ ไมค์…
Hit & Run
   อรพิณ ยิ่งยงพัฒนาหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง ‘ดรีมทีม ฮีโร่ฟันน้ำนม' (Dream Team) ปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์แสนน่ารักออกมายั่วยวนคนรักเด็กแล้ว ในสัปดาห์แรกที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายซึ่งประจวบเหมาะเป็นช่วงปิดเทอม จึงเห็นมีเด็กตัวเล็กๆ มาดูกันคับโรงไปหมด เช่นเคย ทุกครั้งก่อนภาพยนตร์จะได้ฉาย คนดูหนังจะต้องลุกขึ้นยืนเมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลงขึ้น และอาจจะด้วยความไร้เดียงสา เด็กคนหนึ่งพูดออกมาเสียงงอแงค่อนข้างดังว่า "มาดูหนัง ทำไมต้องยืนด้วย"อาจไม่แปลกที่เด็กน้อยไม่คุ้นชินกับธรรมเนียมที่โลกของผู้ใหญ่ปฏิบัติกันมายาวนาน แต่นั่นยังไม่ซับซ้อนน่าสงสัย…
Hit & Run
วิทยากร บุญเรืองคณะสุภาพบุรุษ (เสี่ยว)กระแสหนังสือ ‘ลับ ลวง พราง: ปฏิวัติปราสาททราย' ของ คุณวาสนา นาน่วม กำลังมาแรง และวันนี้เราลองมาคุยกันถึงเรื่องนี้หน่อย ผมได้ลองหยิบหนังสือเล่มนี้ของลูกพี่ไปอ่าน ทีแรกไม่ได้ตั้งใจอ่านม้วนเดียวจบ แต่คุณวาสนา เขียนได้ดี เขียนได้ถูกต้อง (?) น่าติดตาม และสนุกไปกับกลวิธีการเขียน --- ผมอ่านจากหน้าไปหลัง หลังไปหน้า ดูสารบัญแล้วเปิดอ่าน แต่สรุปแล้วก็อ่านจบทุกบท เพราะมันคล้ายๆ หนังสือกอสซิปดาราถามว่าอ่านแล้วได้อะไรบ้าง? สิ่งที่สำคัญที่ผมได้ก็คือ รู้สึกว่ากลยุทธ์ของทหารไทย ไม่ได้หนีไปจากยุคสามก๊กเท่าไร และมันทำให้ได้รู้ว่า ชายชาติทหารก็คือปุถุชนคนธรรมดา…
Hit & Run
   จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์ ตลอดสัปดาห์นี้ ดูเหมือนเรื่องร้อนๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องจะ ‘แก้-ไม่แก้' รัฐธรรมนูญ บางคนบอกว่า ไม่ควรแก้กันตอนนี้ เพราะรัฐบาลยังไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจให้เรียบร้อย ผู้เขียนกลับเห็นว่า ควรจะแก้เสียตอนนี้เลย เพราะแม้ว่า รัฐธรรมนูญไทยจะถูกฉีกเป็นว่าเล่น ต้องร่างใหม่กันบ่อยๆ จนตอนนี้ปาเข้าไปฉบับที่ 18 คำนวณอายุโดยเฉลี่ยของรัฐธรรมนูญก็ตกอยู่ราวๆ ฉบับละ 4 ปีนิดๆ พอๆ กับอายุบัตรนักศึกษามหาวิทยาลัย สั้นกว่ากฎหมายและระเบียบว่าด้วยการแต่งกายของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[1] หรือแม้กระทั่งพระราชบัญญัติภาพยนตร์ฉบับเก่า ซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2473 (ที่ตอนนี้…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทองตั้งใจจะพักเรื่องการเมืองที่กำลังร้อนขึ้นหลังวันที่ 28 มี.ค.นี้ เลยหลบไปแถวแม่น้ำเพื่อให้ลมเย็นๆ กับสายน้ำที่ชุ่มฉ่ำๆ ไหลมาชโลมให้ชื่นจิตชื่นใจ แต่ไปจนถึงริมฟังแม่โขง กลับมาไม่วายร้อนรุ่มใจดังเดิม ไม่ใช่เพราะดื่มไปหลายกลมจนตัวร้อน แต่ได้ไปฟังข่าวแว่วๆ มาแล้วท่าทางไม่ค่อยจะดี....วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมาเป็น ‘วันหยุดเขื่อนโลก' และตรงกับงานบุญ 100 วัน คุณมด ‘วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์' ที่ ตำบลพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี หลังไปร่วมงาน เลยไปอีกหน่อยเป็นอำเภอโขงเจียม ติดแม่น้ำโขง ได้ดูแม่น้ำอันกว้างใหญ่สมใจ แต่ชาวบ้านที่งานบุญคุณมดเล่าให้ฟังว่า หลังท่านสมัคร สุนทรเวช…
Hit & Run
   พวกปาหินหนักแผ่นดิน น่าจะตายไปเสียให้หมด...ขอให้จับคนร้ายได้ไวๆ แล้วเอาตัวไปประหารชีวิต...พวกวัยรุ่นปาหินสมควรตาย... {ตติกานต์ เดชชพงศ}ประโยคที่ถูกส่งผ่านทาง SMS มายังหน้าจอโทรทัศน์ซึ่งกำลังเสนอรายการประเภท ‘เล่าข่าว' เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2551 ส่วนใหญ่เป็นไปในทำนองเดียวกัน นั่นคือ การแสดงความเกลียดชังต่อผู้ก่อเหตุ ‘ปาหิน' ไปโดนศีรษะเด็กชายอนุพงษ์ สายเพ็ชร หรือ ‘น้องมอส' อายุ 12 ปี ซึ่งนั่งรถมากับพ่อผู้เป็นคนขับรถบรรทุก และน้องมอสได้เสียชีิวิตในเวลาไม่นานหลังจากนั้นหลายคนสาปแช่งคนลงมือก่อเหตุให้ตายตกไปตามกัน ในขณะที่อีกบางส่วนก็แสดงความเห็นใจผ่านข้อความที่ส่งมา…
Hit & Run
คิม ไชยสุขประเสริฐ กับภาพเคลื่อนไหวในจอตู้สี่เหลี่ยม...คุณครูคนหนึ่งกับกิจวัตรประจำวันในการสอนหนังสือ... ดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่สะกิดใจฉันอย่างจังคือประโยคที่ว่า"จะรู้ว่าใครเก่งแค่ไหนต้องรอดูว่าใคร (สอบ) ได้ที่หนึ่ง... ได้ที่หนึ่งแล้วจะบอกว่าไม่เก่งก็คงไม่ได้"ครูซึ่งดูก็รู้ว่าเชี่ยวกรำกับวิชาชีพนี้มานานนับสิบปี พูดถึงการวัด ‘ความเก่ง’ ของเด็กนักเรียน โดยใช้ลำดับที่ของการสอบ ถูกนำไปผูกโยงกับ ‘ตัวสินค้า’ ในฐานะรถกระบะคันเก่งที่ขายได้เป็น ‘อันดับหนึ่ง' ซึ่งมีสโลแกนว่า ‘รถกระบะอันดันหนึ่งของคนไทย' ทั้งนี้ เมื่อว่าด้วยเรื่องของการตลาดแล้ว ในฐานะที่ไม่ได้ติดตามในเรื่องนี้ก็ไม่อาจทราบได้ว่า…
Hit & Run
 ถ้าจะสร้างวิวาทะอะไรที่มันๆ ให้ NGO's นักวิชาการ หรือแอคทิวิสต์แนวชุมชนโรแมนติก ที่เราเรียกพวกเขาว่า "ปัญญาชน" แลกเปลี่ยนกันมันๆ นั้น วันนี้เรามาพูดถึงความดีของ "ทักษิณ ชินวัตร" กันดีกว่า...วิทยากร บุญเรืองคณะสุภาพบุรุษ (เสี่ยว) *ผมเป็นคนจน คนแถวบ้านผมก็เป็นคนจน เราเป็นคนจนกึ่งเมืองกึ่งชนบทแบบว่าไม่มีต้นทุนเป็นผืนป่า แม่น้ำ หรือภูเขาเป็นของตัวเอง ไม่มีการสร้างโครงการขนาดใหญ่จากรัฐหรือนายทุน ปัญหาที่เราต้องเจอก็มีแค่การหาเงินซื้อข้าวสารกรอกหม้อ เลี้ยงลูก เลี้ยงเมีย เลี้ยงครอบครัวไปวันๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็หาเลี้ยงชีพด้วยวิธีออกไปขายแรงในเมือง หรือตามเทือกสวนไร่นา แปลงเล็กๆ ที่ยังเหลืออยู่…
Hit & Run
  พืชผักผลไม้ในท้องตลาด เสี่ยงต่อการมีสารเคมีและยาฆ่าแมลงตกค้างจากการผลิตแบบเกษตรเชิงพาณิชย์ ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ทั้งผู้บริโภคและเกษตรกรผู้ผลิตดังนั้นจึงมีเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งแสวงหาทางเลือกใหม่ หนึ่งในทางเลือกนั้นคือการทำ ‘เกษตรอินทรีย์'พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา องค์กรมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือ (มอน.) และสถาบันชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน (ISAC) จัดกิจกรรมผู้บริโภคสัญจรไร่สตรอเบอรี่อินทรีย์ ที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคได้พบกับเกษตรกรผู้ผลิตพืชผักอินทรีย์…