หอกหักจูเนียร์
ขณะที่นั่งปั่นข้อเขียนชิ้นนี้ ยังมีสองเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น และผมต้องอาศัยการแทงหวยคาดเดาเอาคือ
1. การเลือกนายกรัฐมนตรี (จะมีในวันที่ 15 ธ.ค. 2551)
2. การโฟนอินเข้ามายังรายการความจริงวันนี้ของคุณทักษิณ (จะมีในวันที่ 13 ธ.ค. 2551)
เรื่องที่ผมจะพูดก็เกี่ยวเนื่องกับสองวันนั้นและเหตุการณ์หลังสองวันนั้น ผมขอเน้นประเด็น การจัดการ - การบริหาร "ความแค้น" ของสองขั้ว
I
ขอแทงหวยข้อแรกคือ ในวันที่ 15 ธ.ค. 2551 หากว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะถูกโหวตให้เป็นนายก และพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล (ขออภัยถ้าแทงหวยผิด แต่ถ้าแทงผิด ฝั่งเสื้อแดงคงร่าเริงมิน้อย!) ปัญหาที่รอนอกจากเรื่องการบริหารจัดการเรื่องเศรษฐกิจ, การบริหารจัดการเรื่องการแบ่งสรรถ่วงดุลอำนาจให้ผู้สนับสนุน, การปรับนโยบายรัฐเดิมของพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนให้มาบริหารจัดการประเทศให้เป็นประโยชน์ต่อด้านภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และอื่นๆ อีกมากมายนั้น สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์จะมองข้ามไม่ได้เลยก็คือ คุณอภิสิทธิ์จะบริหารจัดการความคั่งแค้นของฝ่ายเสื้อแดงที่โกรธแค้นพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร?
ไม่ต้องเดาอะไรมากมายว่าการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้น คงจะไม่สามารถทำได้เทียบเท่ากับคนเสื้อเหลืองที่เคยทำแสบไว้ในช่วงระยะเวลาที่ไม่น่าจะจดจำที่เราได้ภาวนาให้มันผ่านพ้นไปทุกวันทุกคืนอย่างที่เคยเป็นมา
... หากเคลื่อนไหวดำเนินรอยตามเสื้อเหลือง ท่านทั่งหลายยังจำวันคืนหลังรัฐประหาร 2549 ได้หรือไม่ จำวันบุกบ้านคุณเปรมได้หรือไม่ จำวันที่ทหารพร้อมอาวุธครบมือได้หรือไม่
แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอีกเรื่องหนึ่งคือ หากคุณอภิสิทธิ์เป็นนายก บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่, นายทหาร, อธิการบ่ดีมหาวิทยาลัย, นักธุรกิจ, นักพัฒนาเอกชน, นักสิทธิมนุษยชน, นักออกแถลงการณ์ และผู้สูงอายุที่ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมือง (ที่ภาษาพิธีการ - ภาษาทางการ หรือภาษาราชการ ให้เกียรติว่า "ราษฎรอาวุโส")* จะทยอยเดินหน้าออกมาปรามและตราหน้าการกระทำของคนเสื้อแดงไว้ล่วงหน้า ด้วยเหตุผลหนักหน่วงเลวร้ายระยำนานัปการ
รวมถึงสื่อมวลชนชั้นกลางที่มีอคติกับกลุ่มเสื้อแดง คอยป้อนข่าวให้ผู้เสพย์กลุ่มตลาดชนชั้นกลางอย่างโอเวอร์เกินจริงต่อปฏิกิริยาของคนเสื้อแดง แค่ "เป๋ คลองเตย" เกาไข่ หรือ "ขวัญชัย ไพรพนา" เกาง่ามตูด .. พาดหัวในวันต่อมาของสื่อเหล่านี้ก็มีเรียงพิมพ์คำว่า "ป่วนเมือง" "ม๊อบถ่อย" "ม๊อบมหาโฉด" "ลิ่วล้อโหด" "สัตว์นรก" ไว้แท่นพิมพ์ที่เตรียมปั๊มถุงห่อกล้วยแขกฉบับเช้าแล้ว
พฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวข้างต้นนั้น จะทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงทั้งหลายตัวเกร็งจนกระเพาะเยี่ยวบวมเป่งไปไหนมาไหนคงไม่สะดวก และไม่ต้องพูดถึงเรื่องล้อมหรือปิดสถานที่ต่างๆ นานา
แบบนี้จะไม่ให้พวกเสื้อแดง "แค้น" ได้ฤา
และคุณอภิสิทธิ์กับพลพรรคจะบริหาร-จัดการความแค้นนี้ได้อย่างไร
ตอนนี้ผมคิดได้ประการเดียวเท่านั้นโดยขอเสนอว่า พอคุณอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกปุ๊บ! ลองประกาศปั๊บว่า วาระแห่งชาติอันดับแรกที่รัฐบาลประชาธิปัตย์จะต้องสะสางอย่างเร่งด่วน คือ กระบวนการสืบสวนเอาผิดคิดค่าเสียหายกับแกนนำหัวขบวนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้กระทำผิดกฎหมายและสร้างความเสียหายให้กับประเทศและระบอบประชาธิปไตย!
คาดว่าความคั่งแค้นของคนเสื้อแดงอาจจะลดลงมานิดนึง..
ปล. อย่าลืมระวังบริหารจัดการความแค้นฝั่งเสื้อเหลืองล่วงหน้า โดยอย่าพยายามเซ็นสัญญาการค้าเสรี หรือแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพราะเดี๋ยวพันธมิตรฯ หรือ ส.ว. สายต้านการค้าเสรีที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ หรือหัวขบวนสหภาพแรงานรัฐวิสาหกิจ เขาจะเสียคนและมองหน้าคนที่อยู่ข้างหลังไม่ติด
II
ก่อนหน้าที่เราจะได้รู้ว่าคุณอภิสิทธิ์ ได้เป็นนายกหรือไม่นั้น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดในวันที่ 13 ธันวาคมนี้คุณทักษิณจะโฟนอินมาทักทายคนเสื้อแดงอีกครั้ง
คุณทักษิณเองก็เป็นบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งที่จะสามารถบริหาร-จัดการความแค้นของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ และถ้าบริหารจัดการดีๆ ความแค้นเหล่านั้นจะสร้างผลบวกให้คุณทักษิณและพรรคเพื่อไทย
ถ้าคุณทักษิณประกาศบวชและก็บวชจริงๆ หรือฆ่าตัวตายผ่านการโฟนอิน หรือยอมกราบตีนมอบตำแหน่งนายกโดยไม่มีเงื่อนไขและประกาศยุติบทบาทจริงๆ ..การบริหารจัดการความแค้นแบบนี้จะผิดมหันต์ เพราะเหล่าคนเสื้อแดงจะไม่มีเสาหลัก ไม่มีศาสดา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะอนาธิปไตยของคนเสื้อแดงขึ้น กองกำลังโรนินสีแดงจะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด โดยไม่มีการควบคุม ถ้าถึงเวลานั้นจะเป็นเรื่องของอารมณ์เกรี้ยวกราดล้วนๆ
หรือถ้าคุณทักษิณสวมวิญญาณแกนนำพันธมิตรฯ ปลุกปั่นให้คนเสื้อแดงลุยล้มรัฐบาลที่ไม่ใช่ฟากคุณทักษิณที่จะเป็นรูปเป็นร่างหลังการโฟนอินนี้ไปอีกสองวัน ปลุกปั่นให้ทำลายระรานฝ่ายตรงข้ามแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม อันนี้ก็ผิดมหันต์เช่นกัน แต่คาดว่าคนฉลาดระดับด็อกเตอร์คงจะไม่ทำเยี่ยงนี้ หรือถ้าจะปลุกปั่นจริงๆ คุณทักษิณคงทำแบบมีสไตล์มากกว่าแกนนำพันธมิตรฯ
ทั้งนี้คาดว่าคุณทักษิณจะบริหารจัดการความแค้นของคนเสื้อแดงเหล่านี้เอาไว้เป็นต้นทุนในการเล่นการเมืองระยะยาว พยายามหว่านล้อมออดอ้อนให้คนเสื้อแดงเหล่านี้จงรักพรรคดีต่อคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยหรือพรรคใดๆ ที่จะมาทีหลังต่อจากพรรคเพื่อไทยที่คุณทักษิณคอยบงการ
คุณทักษิณจะต้องใช้ความแค้นของคนเสื้อแดงเหล่านี้ นำมาพยายามตัดตอนนักการเมืองรูปแบบเก่า (แบบเนวินและสหาย) เพื่อให้คนเสื้อแดงขึ้นตรงต่อคุณทักษิณแบบไม่มีบัฟเฟอร์ขวางกั้นเช่นแต่ก่อน
คุณทักษิณจะต้องบริหารจัดการความแค้นเหล่านี้เป็นคะแนนเสียงตามระบบประชาธิปไตย ให้มวลชนเหล่านี้เลือก ส.ส. primary ก่อนส่งลงเลือกตั้งได้ ... เพื่อให้คนเสื้อแดงและคุณทักษิณคุมนักการเมืองได้พร้อมๆ กัน
ทั้งนี้คนเสื้อแดงจะต้องบริหารจัดการความแค้นของตนเองให้ดีๆ เหมือนกัน อย่าให้เข้าทางฝ่ายตรงข้ามที่คอยจ้องเล่นงานและคอยจ้องขยายความพฤติกรรมของคนเสื้อแดงให้เกินจริง โดยเคลื่อนไหวแบบสร้างสรรค์เช่นระดมคนเสื้อแดงประท้วงรัฐบาลโดยการเคลื่อนขบวนใหญ่เก็บขยะ ทำความสะอาดถนนราชดำเนิน, หน้าทำเนียบ, หน้ารัฐสภา หรือประท้วงด้วยการนั่งวิปัสสนาบำเพ็ญกุศลให้เต็มสนามหลวงเป็นต้น
* อนึ่ง "ภาษาพิธีการ-ภาษาทางการ-ภาษาราชการ" เป็นภาษาที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อความสุภาพ นอกจากจะเป็นภาษาเขียนที่ถูกต้องตามหลักภาษาไทยแล้ว บางครั้งก็จะเปลี่ยนคำพื้นๆ ให้กลายเป็นการให้เกียรติบุคคลธรรมดา ทำให้ไม่ธรรมดา เช่น นักชกเหรียญทอง เป็น วีรบุรุษเหรียญทอง, ยาม เป็น พนักงานรักษาความปลอดภัย, ตาแก่จมปลักอยู่กับหมู่บ้าน เป็น ปราชญ์ชาวบ้าน และ ผู้สูงอายุที่ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมือง เป็น ราษฎรอาวุโส เป็นต้น หรือบางครั้งใช้แทนคำหยาบคายให้ดูสละสลวยยิ่งขึ้น เช่น หมXย เป็น ขนเพชร เป็นต้น |