Skip to main content
 

คิม ไชยสุขประเสริฐ

 

ข่าวคราวในวงการกีฬา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา คงเป็นที่จดจำสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลหรือเป็นนักเชียร์ตัวยงสำหรับกีฬาต่างๆ ที่ลงท้ายด้วยทีมชาติไทยพ่ายทีมชาติเวียดนาม 1-2 ประตู ในฟุตบอลอาเซียน ซูซูกิ คัพ 2008  รอบชิงชนะเลิศนัดแรก ซึ่งจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยเกมนี้มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี เดินทางไปเชียร์ทีมไทยถึงขอบสนาม

 

เรียกได้ว่าเป็นการแพ้กันคาบ้าน

 

   

 

โดยรายงานข่าวสรุปเกมส์การเล่นเอาไว้ว่า

 

"ครึ่งแรกทีมไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำหลายครั้ง แต่ผู้รักษาประตูเวียดนามโชว์ซูเปอร์เซฟไว้ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 39 เวียดนามได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะโต้กลับ และเป็น เหงียน เหวียง กง โหม่งเข้าไป ถัดมาอีก 3 นาทีทีมไทยต้องมาเสียประตูที่ 2 จากจังหวะโต้กลับเช่นเดิม และเป็น เล คอง วิน ที่ยิงเข้าไป จบครึ่งแรกทีมไทยตามหลังเวียดนาม 0-2 ประตู"

 

"ครึ่งหลังทีมไทยเน้นเกมรุกมาขึ้นแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ดีพอและเกือบเสีย ประตูที่ 3 เช่นกัน แต่แล้วในนาทีที่ 75 รณชัย รังสิโย ตัวสำรอง ที่เพิ่งลงสนามไปแทน ธีรเทพ วิโนทัย ได้เพียงแค่นาทีเดียว สามารถโหม่งให้ทีมไทยไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ประตู หลังจากนั้นทีมไทยโหมบุกอย่างหนักและนาทีที่ 79 ไทยน่าได้ประตูตามตีเสมอจากธีรศิลป์ แดงดา ยิงเข้าไปแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า ทำให้แฟนบอลชาวไทยไม่พอใจ จบเกมทีมไทย พ่าย เวียดนาม คาถิ่น 1-2 ประตู"

 

000

 

แม้จะเป็นคนที่ไม่ได้นิยมชมชอบกีฬาประเภทนี้สักกี่มากน้อย แต่ก็แอบลุ้นระทึกไปกับการแข่งขัน และคิดว่าหลังเหตุการความวุ่นวายในบ้านเมืองได้สงบลง (บ้างแล้ว) พร้อมกับการได้นายกฯคนใหม่ที่อาจเป็นทั้งที่พึงใจและไม่พึงใจของใครหลายๆ คน กีฬาจะช่วยเป็นยาวิเศษที่จะทำให้หัวใจคนไทยได้กระชุ่มกระชวย โดยเฉพาะถ้าชนะก็ยิ่งเป็นของขวัญรับเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้

 

เพราะเมื่อดูจากฟอร์มการเล่นที่ผ่านมา ตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอลอาเซียน ซูซูกิ คัพ 2008 รอบแรกของกลุ่ม B (ทีมชาติไทย ในฐานะเจ้าภาพร่วม อยู่ร่วมกลุ่มกับทีมชาติเวียดนาม มาเลเซีย และลาว) ที่สนามสุระกุล จังหวัดภูเก็ต ระหว่างทีมชาติไทย กับทีมชาติเวียดนาม ผลการแข่งขันทีมไทยเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-0 และในการแข่งขัน นัดต่อๆ มา ไทยก็ได้รับชัยชนะจนได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ทำให้คนเชียร์ต่างคาดหวังกันว่าทีมไทยจะได้รับชัยชนะแบบลอยลำ

 

อย่างไรก็ตามสำหรับนักดูบอลหลายๆคนยังคงมีความหวัง การแพ้ในนัดแรกนี้ถือเป็นเพียงการอุ่นเครื่องให้คนดูได้ลุ้นกันสนุกขึ้นกับเกมส์การแข่งขันนัดต่อไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมันมากขึ้น เพราะทีมไทยยังมีโอกาสแก้ตัวอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 วันที่ 28 ธันวาคมนี้ ที่สนามกีฬาแห่งชาติเวียดนามหมีดิงกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

 

ถือเป็นนัดชี้ชะตาที่ผู้ชมก็คงต้องคอยลุ้นกันต่อไปว่า นักฟุตบอลทีมชาติไทยจะคว้าชัยชนะมาให้คนไทยมาชื่นชมได้หรือไม่

 

000

 

สิ่งที่น่าสนใจไปกว่าการแพ้หรือการชนะในการแข่งขันนัดนี้ คือเรื่องความก้าวหน้าของวงการฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458 และบริหารทีมโดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แม้ในปัจจุบัน ทีมชาติไทยยังไม่มีผลงานที่โดดเด่นในระดับโลกหากวัดจากการไม่เคยผ่านเข้ารอบไปฟาดแข้งในการแข่งขันฟุตบอลโลก แต่ทีมชาติไทยก็เคยได้เข้าร่วมแข่งในกีฬาโอลิมปิก 2 ครั้ง ล่าสุดในฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ทีมไทยผ่านเข้าสู่รอบที่ 3 โดยจับฉลากแข่งสายเดียวกับ ญี่ปุ่น โอมาน และ บาห์เรน

 

ส่วนในระดับทวีปเอเชียนั้น ทีมชาติไทย เคยได้อันดับสูงสุดคืออันดับที่ 3 ในเอเชียนคัพ 1972 ในปี พ.ศ. 2515 ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ และในเอเชียนเกมส์ ทีมไทยได้เข้าร่วม 4 ครั้ง โดยได้อันดับสูงสุดคือได้เข้าร่วมในรอบสี่ทีมสุดท้าย

 

หันมาดูการแข่งขันในระดับภูมิภาคอาเซียนบ้าง ทีมชาติไทยเป็นแชมป์ซีเกมส์ 13 ครั้ง อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 3 ครั้ง และคิงส์คัพที่จัดขึ้นในประเทศไทย 12 ครั้ง ล่าสุดทีมชาติไทยได้เหรียญทองในซีเกมส์ 2007 หลังจากชนะทีมชาติพม่า 2 ประตูต่อ 0

 

จึงอาจเรียกได้ว่าในระดับภูมิภาคฟุตบอลทีมชาติไทยเรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นดวงหนึ่ง หรืออาจเรียกได้เลยว่าเป็นพี่ใหญ่ในวงการฟุตบอลระดับอาเซียน แต่ในระยะหลังมานี้เมื่อการเมืองและการพัฒนาในประเทศรอบๆเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นฝีเท้าของนักเตะเพื่อนบ้านดูเหมือนมีพัฒนาการอย่างค่อนข้างรวดเร็ว สำหรับประเทศไทยแล้วหากไม่มีการพัฒนาระบบในวงการกีฬาเพื่อเพิ่มศักยภาพและฝีมือ ในไม่ช้าความเป็นหนึ่งหรือความเป็นพี่ใหญ่ในวงการฟุตบอลระดับอาเซียนของไทยอาจหลุดลอยไปได้ ยิ่งในหลายประเทศที่อดีตเคยตามหลังในด้านการกีฬา ขณะนี้พากันหันมาแข่งขันกันพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา มีเงินอุดหนุน การสนับสนุนการสร้างนักกีฬาอาชีพ และพัฒนาอย่างเป็นระบบจนลีคหลายลีคก็กลายเป็นตลาดที่นักเตะไทยต้องหันไปค้าแข้งมากมาย

 

เลยแอบอดหวั่นใจเล็ก หากเรายังรอเป็นหมีนอนกิน เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของชาติมากกว่าความใส่ใจ ความพ้ายแพ้อาจบวกความล้าหลังจนอาจยากเกินกว่าจะแก้ไขทัน

 

000

 

ลองมาเปรียบเทียบกับแวดวงฟุตบอลทีมชาติเวียดนาม ในรอบหลายปีที่ผ่านมาสื่อโลกกีฬารายงานถึงทิศทางการพัฒนามาโดยตลอด(ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและอื่นๆด้วย) ล่าสุดจากการจัดอันดับโดยฟีฟ่า (เว็บไซต์ฟีฟ่า ข้อมูล ธันวาคม 2551) เวียดนาม อยู่ในอันดับที่ 155 ของโลก และเป็นทีมอันดับ 4 ในสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน รองจาก อินโดนีเซีย (อันดับโลก 139) สิงคโปร์ (อันดับโลก 132) และไทย (อันดับโลก 126, อันดับในทวีปเอเชีย 16) ซึ่งขณะนี้เป็นอันดับ 1 ในสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน โดยอันดับสูงสุดจากการจัดอันดับโดยฟีฟ่าที่ทีมชาติไทยเคยได้รับ คือ อันดับที่ 43 ในปี 2541

 

ประวัติศาสตร์ทีมชาติเวียดนาม ภายหลังจากเวียดนามแบ่งประเทศเป็นเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ ทำให้มีทีมชาติเกิดขึ้นสองทีม แต่เวียดนามเหนือไม่ค่อยมีผลงานในทางฟุตบอลเท่าไร จะเล่นกับทีมอื่นๆในชาติคอมมิวนิสต์เป็นสำคัญ ช่วง พ.ศ. 2499 - พ.ศ. 2509 แต่เวียดนามใต้ได้ร่วมเล่นในเอเชียนคัพและได้อันดับ 4 สองครั้ง และในปี พ.ศ. 2534 ทีมชาติเวียดนามได้ตั้งขึ้นภายหลังจากที่สองประเทศได้รวมกัน โดยรวมทีมเวียดนามเหนือเข้ามา

 

หลังจากนั้นไม่ถึงสิบปี ทีมชาติเวียดนามก็เริ่มสร้างความคร้ามเกรงให้ทีมอื่นๆร่วมภูมิภาคได้ โดยเฉพาะทีมชาติไทยกับทีมชาติอินโดนีเซียถึงกับพยายามแข่งกันแพ้ในการแข่งขันไทเกอร์คัพ 1998 ที่โฮจิมินห์ซิตี ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2541 เนื่องจากขณะนั้นทั้งสองทีมเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว แต่ผู้ชนะซึ่งจะเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม A จะต้องเดินทางไปแข่งในรอบรองชนะเลิศกับ "ทีมชาติเวียดนาม" ที่ฮานอยในวันชาติเวียดนาม

 

วันนั้นครึ่งแรกไทยและอินโดนีเซียต่างฝ่ายต่างพยายามไม่ยิงประตู แต่หลังจากมีการพูดคุยกันระหว่างกรรมการและโค้ช ครึ่งหลังจึงทำประตูได้ทีมละสองประตู จนกระทั่งใกล้หมดเวลา นักเตะของอินโดนีเซียยิงเข้าประตูตัวเอง ทีมชาติไทยจึงชนะไป 3: 2 ประตู แต่ความอัปยศของการแข่งขันนัดนี้ทำให้ทั้งสองทีมถูกปรับเป็นเงิน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ

 

เพราะความน่ากลัวของทีมชาติเวียดนามมีจริง และเป็นความน่ากลัวที่ไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เป็นความพยายามบวกตั้งใจไม่ว่าจะเป็นในส่วนผู้สนับสนุน ทีมผู้ฝึกสอน หรือตัวนักกีฬาเอง แม้ในปัจจุบันทีมชาติเวียดนามยังไม่มีผลงานระดับโลกหรือระดับเอเชียเท่าไรนัก แต่ในระดับอาเซียนก็คว้ารองชนะเลิศในไทเกอร์คัพมาแล้ว และในอนาคตเส้นทางการเติบโตกำลังรอพวกเขาอยู่

 

000

 

ทั้งหลายทั้งแหล่ที่ว่า (และหาข้อมูล) มา ไม่ได้ต้องการตอกย้ำความพ่ายแพ้ของทีมชาติไทย (หากถูกใครนำไปโยงกับการเมืองด้วยก็ไม่ได้ตั้งใจสร้างความไม่สมานฉันท์ให้เกิดแก่คนในชาติ) แต่อยากเพียงให้มองความพ่ายแพ้ที่เป็นบทเรียนของวันข้างหน้าซึ่งไม่ใช่เฉพาะในการกีฬา เพราะกว่าไทยจะเดินทางมาถึงวันนี้ได้ก็อาศัยทั้งความพยายาม หมั่นฝึกฝน สั่งสมประสบการณ์ หรือทั้งช่วงชิงบ้าง จึงไม่อยากให้สูญเสียสิ่งเหล่านี้ไปในวันนี้โดยที่เราหยุดนิ่งเสียเอง

 

ที่ผ่านมาบ้านเมืองของเราต้องหยุดชะงักเพราะความวุ่นวายภายในกันมากเกินพอแล้ว วันนี้ถึงเวลาเสียทีประเทศต้องตื่นจากหลับและลุกขึ้นมาก้าวเดินหน้ากันเสียที อย่าคิดว่าเรามีดีจนไม่ต้องทำอะไรแล้ว เพราะนั่นมันแค่การปลอบประโลมตัวเองกันไปวันๆ

 

แต่ยังอยากให้มีพรดีๆ มาเป็นของขวัญกำลังให้คนไทยเวลานี้กันสักข้อ นัดหน้าเลยขอเชียร์ให้ทีมชาติได้รับชัยชนะอีกครั้งค่ะ

 

 

......................

ข้อมูลจาก

 

วิกิพีเดีย

http://www.fifa.com/worldfootball/ranking/lastranking/gender=m/fullranking.html#confederation=25998&rank=167

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
แดง ใบเตย  1. บทสรุปสำหรับผู้บริหารข้อเขียนชิ้นนี้ เขียนขึ้นเพื่อโจมตีกลุ่มปัญญาชนเก๋ไก๋ทั้งหลาย ที่บังอาจวิพากษ์วิจารณ์กระแส "เคอิโงะ"    2. ดวงของเคอิโงะแหม่มโพดำ"เคอิโงะ" เสี่ยงได้ไพ่ "แหม่มโพดำ" ดวงดีมากมาย  3. บทกวีแด่เคอิโงะเ ร า ก็ ไ ม่ ท ร า บ ว่ า จู่ ๆ คุ ณ ดั ง  ขึ้ น ม า ไ ด้ เ ยี่ ย ง ไร "เ ค อิ โ ง ะ"สำ ห รั บ ผ ม เ ริ่ ม แ ร ก ก็ อ อ ก จ ะ ห มั่ น ไ ส้ คุ ณ อ ยู่ ม า ก เ ล ย ที เ ดี ย วแ ต่ สำ ห รั บ ผู้ ที่ แ ส ด ง ค ว า ม ฉ ล า ด ห ลั ง เ ห ตุ ก า ร ณ์ นี่ ยิ่ ง น่ า ห มั่ น ไ ส้ ก ว่ ามั น ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ ง ข อ ง ผ ม กั บ คุ ณ…
Hit & Run
Ko We Kyaw ไร่ปลูกสบู่ดำริมทางบนถนนระหว่างเมืองเจ้าปะต่าวกับมิตทีลา ภาคมัณฑะเลย์ ภาพถ่ายในเดือนพฤษภาคม 2551 (ที่มา: Kowekyaw/Prachataiburma)   พฤษภาคม 25511. ผมอยู่บนรถโดยสารเก่าๆ แล่นออกจากเมืองเจ้าปะต่าว (Kyaukpadaung) มุ่งสู่มิตทีลา (Meiktila) ภาคมัณฑะเลย์ ใจกลางเขตแล้งฝน (dry zone) ของสหภาพพม่า สองข้างทางซึ่งเป็นดินแดงๆ จึงเหมาะจะปลูกเฉพาะพืชทนแล้ง โดยเมืองเจ้าปะต่าวถือเป็นแหล่งปลูกตาล ส่วนเนินแห้งแล้งรอบทะเลสาบมิตทีลาก็เป็นแหล่งปลูกฝ้าย แต่สองข้างทางของถนนที่ผมกำลังเดินทางกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าด้วยโครงการปลูกพืชพลังงานชนิดใหม่ “สบู่ดำ”…
Hit & Run
  โดย เพณิญ               ในสถานการณ์แบบนี้ ‘ตัวละคร' ที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมอย่างมาก คงหนีไม่พ้น ‘อาซาคุระ เคตะ' นายกรัฐมนตรีหนุ่มสุดหล่อแห่งประเทศญี่ปุ่น และ ‘ลีซาน' พระราชาผู้เป็นที่รักของประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี            ‘ตัวละคร' ทั้งสองปรากฏตัวอย่างมีนัยยะสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมาก หนึ่งคือ ‘อาซาคุระ เคตะ' ตัวละครที่ไม่เคยสนใจการเมือง แต่ต้องก้าวเข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีในภาวะการเมืองสูญญากาศของประเทศญี่ปุ่นจาก CHANGE…
Hit & Run
อย่างที่รู้ๆ และแทบไม่อยากจะย้ำให้เจ็บช้ำหัวใจกันว่าเศรษฐกิจประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ (จากอเมริกา) ที่ส่งกระทบข้ามฟ้ามามาไกลถึงบ้านเรา ทำให้ผู้นำประเทศต้องออกโรงคิดหานโยบายมาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน   บวกด้วยความที่นายกคนหนุ่มอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นว่าคนจนเศรษฐกิจไม่ดี นายกต้องช่วยเหลือ และไม่มีอะไรดีไปกว่าการเพิ่มกำลังซื้อให้กับคน ที่เป็นการช่วยธุรกิจโดยไม่ต้องไปบิดเบือนกลไกตลาด แบบว่าเป็นการช่วยเศรษฐกิจชาติให้มีเงินหมุนเวียน   ดังนั้น โครงการใหม่ถอดด้าม “เช็คช่วยชาติ” จึงริเริ่มและดำเนินการอย่างรวดเร็ว เช็คจำนวน 9.6 ล้านใบ…
Hit & Run
  กรกช เพียงใจ  ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดาผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่ามทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาล ขลิบปลายแขนแดง ‘ดารณี' ถูกจับกุมที่บ้านพัก ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และติดคุกมาแล้วมากกว่าครึ่งปี ระหว่างที่คดีเพิ่งเริ่มพิจารณา และนัดหมายการไต่สวนพยานครั้งแรกกันอีก 6 เดือนข้างหน้า 0000"ไอ้ที่พี่พูด…
Hit & Run
Ko We Kyaw เมื่อวันที่ 13 มีนาคม หรือเมื่อวานนี้ นักกิจกรรมพม่ารุ่น’88 ในประเทศไทย นำโดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองในพม่า (Assistance Association for Political Prisoners-Burma - AAPP) และสมัชชาเพื่อประชาธิปไตยในพม่า (the Forum for Democracy in Burma - FDB) จัด “Free Burma’s Political Prisoners Now!” (“ปล่อยนักโทษการเมืองในพม่าเดี๋ยวนี้!”) (www.fbppn.net) โดยมีการจัดแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) กรุงเทพมหานคร และที่ศูนย์นานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อล่ารายชื่อกดดันให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งขิ่น โอมาร์ (Khin Ohmar)…
Hit & Run
  จันทร์ ในบ่อ ‘วันวาเลนไทน์' หรือ ‘วันเสียตัวแห่งชาติ'เป็นวันที่มีความเชื่อกันว่า ‘ผีกระจู๋' จะถูกปลดปล่อยออกมาเพ่นพ่านด้วยฤทธาแห่งความความกำหนัด โดยเฉพาะในวันที่ความรักเบ่งบานฉ่ำบรรดาพ่อมดหมอผีจะเกรงกลัวเป็นที่สุด เพราะเชื่อกันว่าอิทธิฤทธิ์แห่งมนต์ดำกฤษณาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติอีกหลายเท่าตัว 
Hit & Run
  ธงดอง จันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์  "ฉันเป็นคนบ้า เพราะว่าสติไม่ดีไม่ใช่คนไม่ดี ฉันมีสติไม่ดีฉันเป็นคนบ้า" ประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ก็คือประเด็น "คดีหมิ่นฯ" ที่กลายเป็นเรื่องกล่าวขวัญในสังคมอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้เริ่มตั้งแต่หนุ่มไม่เต็มบาทนั่งเหม่อลืมยืนเคารพเพลงสรรเสริญในโรงภาพยนตร์, ม็อบคนบ้า(การเมืองจนเข้าเส้น)ที่ปราศรัยมันเกินเหตุจนเกิดเรื่อง, ฝรั่งเพี้ยนที่ชอบขีดๆ เขียนๆ เรื่อยเปื่อย จนลามมาถึงนักวิชาการ นักการเมือง นักท่องอินเตอร์เน็ตเพี้ยนๆ ออกมาโดนซิวเป็นระยะๆ ตามหน้าข่าวแต่ประเทศนี้มันก็ช่างน่าขันเหลือเกิน โทษสำหรับคนเพี้ยนบ้าแบบนี้…
Hit & Run
  จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์  เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก สถานีโทรทัศน์ในจีนถูกสั่งให้ดีเลย์สัญญาณออกอากาศออกไป 10 วินาที เพื่อพวกเขาจะได้มีเวลาจัดการกับการแพร่ภาพในกรณีที่เกิดการประท้วงจากกลุ่มที่เรียกร้องให้ปลดปล่อยทิเบต หรือกลุ่มทางการเมืองอื่นๆ  มาหนนี้ ดูเหมือนสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนจะไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ระหว่างถ่ายทอดสดการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามาในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 20 ก.พ. (เวลาประเทศจีน) เพราะขณะแพร่ภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามา พร้อมๆ กับแปลไปด้วยนั้น อยู่ๆ…
Hit & Run
มุทิตา เชื้อชั่ง วันเด็กปีนี้ แม้ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่ก็อยากจะให้คำขวัญ คำอวยพรกับเด็กๆ บ้าง... มีฟามสุขมั่กๆ อย่าแสบให้มากนักนะตัวเอง...   ปีนี้มหกรรมวันเด็กค่อนข้างคึกคัก ข่าวคราวต่างๆ ถูกรายงานเยอะแยะมากมายตามประสาบ้านเมืองที่สงบสุขแล้ว...ชิลๆ สังเกตได้ง่ายๆ เพราะเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ (ยิ่งดราม่าๆ หน่อยยิ่งเจ๋ง) มักจะมีสีสันอยู่ในกระแสมากเป็นพิเศษเสมอ   คำขวัญวันเด็กที่ทั่นนายกฯ "อภิสิทธิ์" ให้ในปีนี้ เด็กจริง เด็กโข่ง ต่างก็รู้กันทั่วหน้าแล้ว นั่นคือ "ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี"   ไม่รู้ว่าเด็กยุคดิจิตอลรุ่นนี้คิดยังไง...
Hit & Run
 จันทร์ ในบ่อ ก่อนอื่นขอ "สวัสดีปีใหม่ครับ" ปีใหม่นี้คนไทยมีนายกฯใหม่ แต่ยังต้องเซ็งที่มีการเมือง(โครต)เก่า ‘ผู้จัดการ' ก็คนหน้าเก่าเลยไม่รู้ว่าจะเรียกร้อง ‘การเมืองใหม่' กันให้วุ่นวายทำไมเป็นเดือนๆอีกฝ่ายก็อุตส่าห์ลงทุน ‘โฟนอิน' มาเป็นรอบๆ ขู่จนเสื้อเหลืองเสื้อเขียวสะดุ้งไปหลายเฮือก แต่สุดท้ายหวยล็อค ได้ฮาตรงที่เขาบอกกันว่า ‘ประชาธิปัตย์' ก็มากับเสียง ‘โฟนอิน' !?? ที่สำคัญโฟนอินนี้ทำเอา ‘เสื้อแดง' มึนตึ้บเป็นแถว เช้ามาพูดได้คำเดียวว่า "มาม่า...อร่อย "เอาล่ะ..เรื่องการเมืองไว้ค่อยว่ากันต่อ แต่ตอนนี้ขอพักฉลองเทศกาลปีใหม่สากลสักสองสามวันร่วมกับคนทั้งโลก ขออวยพรแบบสากลหน่อย"…
Hit & Run
  คิม ไชยสุขประเสริฐ  ข่าวคราวในวงการกีฬา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา คงเป็นที่จดจำสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลหรือเป็นนักเชียร์ตัวยงสำหรับกีฬาต่างๆ ที่ลงท้ายด้วยทีมชาติไทยพ่ายทีมชาติเวียดนาม 1-2 ประตู ในฟุตบอลอาเซียน ซูซูกิ คัพ 2008  รอบชิงชนะเลิศนัดแรก ซึ่งจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยเกมนี้มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี เดินทางไปเชียร์ทีมไทยถึงขอบสนาม เรียกได้ว่าเป็นการแพ้กันคาบ้าน