Skip to main content

20080322 พิบูลมังสาหาร 3 อุบลราชธานี 49

ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง

ตั้งใจจะพักเรื่องการเมืองที่กำลังร้อนขึ้นหลังวันที่ 28 มี.ค.นี้ เลยหลบไปแถวแม่น้ำเพื่อให้ลมเย็นๆ กับสายน้ำที่ชุ่มฉ่ำๆ ไหลมาชโลมให้ชื่นจิตชื่นใจ แต่ไปจนถึงริมฟังแม่โขง กลับมาไม่วายร้อนรุ่มใจดังเดิม ไม่ใช่เพราะดื่มไปหลายกลมจนตัวร้อน แต่ได้ไปฟังข่าวแว่วๆ มาแล้วท่าทางไม่ค่อยจะดี....

วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมาเป็น วันหยุดเขื่อนโลก' และตรงกับงานบุญ 100 วัน คุณมด วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์' ที่ ตำบลพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี หลังไปร่วมงาน เลยไปอีกหน่อยเป็นอำเภอโขงเจียม ติดแม่น้ำโขง ได้ดูแม่น้ำอันกว้างใหญ่สมใจ แต่ชาวบ้านที่งานบุญคุณมดเล่าให้ฟังว่า หลังท่านสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีไทยไปเยือนประเทศลาวแล้ว ดูเหมือนจะจับมือปลงใจกันเตรียมสร้างฝายห้วยกุ่มกั้นแม่น้ำโขง

ที่สำคัญคือ เขาบอกว่าจะสร้างฝายแต่สูงถึง 18 เมตร

ดูท่าขนาดมันน่าจะใหญ่โตกว่าเขื่อนปากมูลเสียอีก !!!

ครั้นเมื่อหันหน้าไปอีกทางสุดปลายฝั่งตะวันตกของประเทศ เป็นที่วางตัวของแม่น้ำคงหรือที่รู้จักกันในนามสาละวิน สายน้ำสุดท้ายในอุษาคเนย์ที่ยังไม่มีเขื่อนกั้น แต่คราวนี้คงนี้ไม่พ้นชะตากรรมเดียวกันกับแม่น้ำโขง เพราะด้วยความร้อนรุ่มอยากได้ไฟฟ้ามากๆของจีนเพื่อไปทำให้ประเทศเมลืองมลังการสมเกียรติแห่งมหาอำนาจ เซี่ยงไฮ้ หรือเสิ่นเจิ้น ประตูการค้าเสรีตะวันออกจึงจะต้องสว่างไสวทั้งวันทั้งคืน เลยดำริมาแล้วสร้างเขื่อนบนแม่น้ำคงหรือนู่เจียงตามคำเรียกจีน

ส่วนพม่าเมื่อปกครองแบบเผด็จการทหาร การค้าจึงไม่ค่อยดี เห็นว่าจีนและไทยอยากได้ไฟฟ้าเลยตั้งใจให้มาลงทุนสร้างเขื่อนและขายไฟเลียนแบบลาวที่ขายไฟฟ้าให้ไทยจากเขื่อนน้ำเทิน 1 และ 2 ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นบนแม่น้ำคงจะมีเขื่อนอีกราวๆ 4 เขื่อน ติดชายแดนไทยเสีย 2 เขื่อน และระบุไว้ในแผนสำรองไฟฟ้าในอนาคตหรือพีดีพี 2007 ซึ่งเตรียมซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนกั้นแม่น้ำคงมาใช้ ที่สำคัญท่านสมัครเพิ่งบินไปคุยกับท่านตานฉ่วยแห่งพม่าอีกประเทศหนึ่ง ในวันหยุดเขื่อนโลกพอดี แต่สำหรับความร่วมมือด้านพลังงานแล้วดูเหมือนจะหยุดไม่ได้ ดูอี๋อ๋อกันพอสมควร ไม่คุยเรื่องส่งเสริมประชาธิปไตย ไม่คุยเรื่องอองซานซูจี และดูชอบใจการปกครองแบบลาวกับพม่าเป็นที่สุด

ทั้งที่ปากท่านบอกว่าเกลี๊ยดเกลียดคอมมิวนิสต์จนเลยต้องเอาตัวไปเอี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลา ปี 19 และไม่ชอบเผด็จการทหารม๊ากมาก จนด่าทหารที่มายึดอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549 และถึงขั้นอดรนทนไม่ได้เลยไปรับเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนเพื่อลงเลือกตั้งตามระบอบ ประชาธิปไตย' จนมาเป็นนายกฯ เสียเองเลย

แต่...สงสัยเวลาเป็น ประชาธิปไตย' การคุยธุรกิจกับเผด็จการดูเหมือนมันจะคล่องปากกว่า

น้ำคงกับน้ำโขง ตำนานพื้นบ้านบอกว่าเป็นแม่น้ำพี่น้องกันครับ แม่น้ำทั้งสองสายไหลมาจากทางเหนือ น้ำคงเป็นพี่ ส่วนน้ำโขงเป็นน้อง วันหนึ่งพี่น้องอยากเห็นทะเลจึงชวนกันลงมา น้ำโขงออกมาก่อนในเวลาน้ำคงหลับไหลโดยมีลิงลมนำทาง ทำให้น้ำคงเมื่อตื่นขึ้นมามองไม่เห็นน้องจึงโกรธและให้งูนำทางเพื่อให้มาถึงทะเลก่อน นับแต่นั้นมา 2 พี่น้องก็ไม่ถูกกัน จนกล่าวกันว่าหากจะล่องแม่น้ำหนึ่งห้ามเอ่ยนามอีกแม่น้ำหนึ่งเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม แม่น้ำทั้ง 2 สาย เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ เป็นสายชีวิตของป่า เป็นที่พักพิงของคนริมน้ำ ไม่ว่าจะชาติพันธุ์ใด ทั้งอาบทั้งกินเลี้ยงคนอย่างไม่เลือกถิ่นเลือกเผ่าพันธุ์ ยิ่งปลาแม่น้ำเป็นทั้งอาหารและเป็นทั้งเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางคมนาคมเก่าแก่ของภูมิภาคมานมนาน แต่บัดนี้แม่น้ำสองพี่น้องที่เคยไม่ถูกกันกลับต้องมาเผชิญชะตากรรมเดียวกัน นึกสงสัยเหลือเกินว่า น้ำคง น้ำโขง จะกลับมาคืนดีเพื่อเผชิญปัญหาร่วมกันหรือยัง

แนวคิดการพัฒนาด้วยการสร้างเขื่อนมีมานานกาเล แต่ข้อสังเกตหนึ่งที่น่าสนใจคือรัฐบาลที่เห็นชอบมักมาจากการเลือกตั้ง เช่น การสร้างเขื่อนในแม่น้ำคง ดำริกันมาตั้งแต่ พ.ศ.2522 แต่กว่าจะเห็นชอบก็รัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ในพ.ศ.2534 สุดท้ายรัฐบาลนี้ถูกรัฐประหารไป โดยทิ้งมรดกเป็นเขื่อนปากมูลจากโครงการโขง ชี มูล เอาไว้

ส่วนเขื่อนสาละวินแม้จะถูกยกไปแต่ได้รับการปัดฝุ่นและเห็นชอบอีกครั้งในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ.ศ. 2549 พร้อมกับการปรากฏตัวอย่างเป็นรูปธรรมของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีดำริเริ่มต้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ต้องการเปลี่ยนหนองน้ำที่มีงูเห่าให้กลายเป็นสนามบิน และรัฐบาลสมัครที่มาจากการเลือกตั้งในปัจจุบันดูเหมือนจะมีท่าทีเช่นเดียวกัน บางทีเสียงของคนข้างมากอาจจะเป็นความชอบธรรมบางประการสำหรับการเอาเปรียบคนส่วนน้อยก็ได้

ปัจจุบันการแสวงหาทรัพยากรโดยดูดเอาจากภาคชนบทไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุนนิยมหรือเสรีนิยมที่เป็นกติกาไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับศีลธรรม หากจะอยู่ในโลกแบบนี้ให้สบายใจคงไม่จำเป็นต้องรู้สึกรู้สาอะไร ถึงแม้การสร้างเขื่อนสาละวินจะทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ในพม่าที่อาศัยป่าและแม่น้ำจะต้องถูกทหารพม่ากวาดล้างและเกณฑ์เป็นแรงงาน หรือเราไม่จำเป็นต้องพยายามเงี่ยหูฟังเมื่อชาวบ้านในฝั่งลาวอยากพูดถึงความลำบากของตัวเองแต่ไม่มีสิทธิเพราะคำสั่งอันเข้มงวดของรัฐบาลแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์

และเรายิ่งไม่ต้องสนใจการตายของวนิดาที่พูดเรื่องความทุกข์ยากของชาวบ้านจากการสร้างเขื่อนปากมูลมานานนับสิบปี...

เพราะถ้าเราคิดถึงศีลธรรม เราจะอยู่ในห้องแอร์ไม่ความสุข เดินห้างซื้อเสื้อผ้าก็ไม่สบายใจ เพราะสิ่งเหล่านั้นมันแดงฉานไปด้วยเลือดและเย็นยะเยียบไปด้วยน้ำตาทั้งนั้น !!

สิ่งที่ผมร้อนรุ่มหลังจากที่ได้รับรู้ข่าวสารเหล่านี้คือ เรื่อง อำนาจการต่อรอง' ที่ยังคงไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนเมืองกับชนบท และการที่เสียงข้างมากถูกนำไปอ้างในการจัดการทุกสิ่งอย่างโดยกลบเสียงของผู้ถูกช่วงชิงทรัพยากรไป

ในสังคมที่ไม่มีกติกาเรื่องคุณธรรมและเราคงไม่สามารถปฏิเสธอย่างไร้เดียงสาได้ว่า เขื่อน' นำไปสู่ การพัฒนา' ในเมื่อเรายังปฏิเสธการเข้าเซเว่นอีเลฟเว่นไม่ได้ ดังนั้น แม้จะไม่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนสักเพียงใดก็ตาม สิ่งที่ต้องเรียกร้องเอาจากผู้อ้างอำนาจจากเสียงประชาชนต้องไม่ใช่การเรียกร้องเห็นอกเห็นใจในความเจ็บปวด แต่ควรจะเป็นความเท่าเทียมกันในการอ้างสิทธิซึ่งผู้มีอำนาจจะต้องฟังแบบเดียวกับที่ชาวปากมูลซึ่งรวมตัวกันจนสามารถสร้างอำนาจต่อรองกับรัฐบาลทุกสมัยได้อย่างยาวนาน

และจะยิ่งก้าวหน้าไปกว่านั้น หากสามารถใช้อำนาจการต่อรองนั้น นำไปสู่การเรียกร้องความเท่าเทียมทางสังคมที่รัฐจะต้องสร้างสวัสดิการรองรับพลเมืองของรัฐในทุกมิติและทุกประเด็น ในเมื่อรัฐสร้างความร่ำรวยจากการเสียสละของคนกลุ่มหนึ่ง รัฐจึงต้องจัดสรรเงินจากความร่ำรวยนั้นมาเป็นเงินยังชีพที่สมน้ำสมเนื้อยามพลเมืองของรัฐว่างงาน หรือมีเงินค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้จะเป็นการประกันในระดับหนึ่งว่า เมื่อมีสิ่งที่เรียกว่า การพัฒนา' จากรัฐ...

และทำให้คนในสังคมส่วนหนึ่งเติบโตขึ้นแล้ว คนอีกส่วนหนึ่งที่ถูกช่วงชิงทรัพยากรไปนั้นจะไม่ถูกทิ้งขว้างอย่างไม่เห็นหัว...

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
 หอกหักจูเนียร์  ขณะที่นั่งปั่นข้อเขียนชิ้นนี้ ยังมีสองเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น และผมต้องอาศัยการแทงหวยคาดเดาเอาคือ1. การเลือกนายกรัฐมนตรี (จะมีในวันที่ 15 ธ.ค. 2551)2. การโฟนอินเข้ามายังรายการความจริงวันนี้ของคุณทักษิณ (จะมีในวันที่ 13 ธ.ค. 2551)เรื่องที่ผมจะพูดก็เกี่ยวเนื่องกับสองวันนั้นและเหตุการณ์หลังสองวันนั้น ผมขอเน้นประเด็น การจัดการ - การบริหาร "ความแค้น" ของสองขั้ว I ขอแทงหวยข้อแรกคือ ในวันที่ 15 ธ.ค. 2551 หากว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะถูกโหวตให้เป็นนายก และพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล (ขออภัยถ้าแทงหวยผิด แต่ถ้าแทงผิด…
Hit & Run
ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ  หลังการประกาศชัยชนะของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหลังการยุบพรรค แล้วล่าถอยในวันที่ 3 ธ.ค. พอตกค่ำวันที่ 3 ธ.ค. เราจึงกลับมาเห็นบรรยากาศที่ไม่ค่อยคุ้นเคย แทนที่สนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำพันธมิตรฯ จะปราศรัยบนเวที หรือหลังรถปราศรัย ก็กลายเป็นเสวนา และวิเคราะห์การเมืองกันในห้องส่งของสถานีโทรทัศน์ ASTV อย่างไรก็ตาม สนธิ ลิ้มทองกุล ก็พยายามรักษากระแสและแรงสนับสนุนพันธมิตรฯ หลังยุติการชุมนุมเอาไว้ โดยเขาเผยว่าจะจำลองบรรยากาศการชุมนุมพันธมิตรตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาไว้ในห้องส่ง เพื่อแฟนๆ ASTV โดยเขากล่าวเมื่อ 3 ธ.ค. [1] ว่า “พี่น้องครับ…
Hit & Run
พิชญ์ รัฐแฉล้ม            นานมากแล้วที่ “ประเทศของเรา” ประสบกับสภาพความมั่นคงและเสถียรภาพที่แหว่งวิ่นเต็มทน และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าความหวังในความสำเร็จของการจัดการกับปัญหายิ่งเลือนรางไปทุกที ทุกเรื่อง ทุกราว กำลังถาโถมเข้ามาจากทุกสารทิศเพื่อมารวมศูนย์ ณ เมืองหลวงมิคสัญญีแห่งนี้ จนกระแสข่าวรายวันจากปักษ์ใต้ อีสาน...แผ่วและเบาเหมือนลมต้นฤดูหนาว   สื่อต่างๆ ทั้งไทย-ต่างประเทศ ประโคมข่าวจากเมืองหลวงกระจายสู่ทุกอณูเนื้อโลก ช่างน่าตกใจ! ภาพแห่ง “ความรุนแรง” ของฝูงชนขาดสติและไม่เหลือแม้สายใยในความเป็นมนุษย์ร่วมกัน ถูกกระจายออกไป…
Hit & Run
  ธวัชชัย ชำนาญ ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นห้วงเวลาที่คนไทยทั่วทุกสารทิศ เดินทางเข้ามาร่วมเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ "พิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ" ความยิ่งใหญ่อลังการที่ทุกคนคงรู้ดีที่ไม่จำเป็นต้องสาธยายเยอะ  แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ความสงบเงียบของบ้านเมืองที่ดูเหมือนมีพลังอำนาจอะไรบางอย่างมากดทับกลิ่นอายของสังคมไทยที่เคยเป็นอยู่กลิ่นอายที่ว่านั้น..เป็นกลิ่นอายของความขัดแย้ง ความเกลียดชังของคนในสังคมที่ถูกกดทับมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา…
Hit & Run
 ภาพจากเว็บบอร์ด pantipจันทร์ ในบ่อ เชื่อว่าหลายคนคงได้ชมรายการตีสิบเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเชิญ ‘คุณต้น' อดีตนักร้องวง ‘ทิค แทค โท' บอยแบนด์ไทยสไตล์ญี่ปุ่นรุ่นแรกๆ ที่โด่งดังราวสิบปีก่อนมาออกรายการ เพื่อเป็นอุทธาหรณ์แก่สังคมเรื่องผลเสียจากการใช้ยาเสพติดคุณต้นสูญเสียความทรงจำและมีอาการทางสมองชนิดที่เรียกว่า ‘จิตเภท' จากการใช้ยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าและยานอนหลับชนิดรุนแรง จนหลายปีมานี้เขาได้หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงและจดจำใครไม่ได้เลย คุณแม่เคยสัญญากับคุณต้นไว้ว่า หากอาการดีขึ้นจะพามาออกรายการตีสิบอีกครั้งเพื่อทบทวนเรื่องราวในอดีต เพราะคุณต้นและเพื่อนๆ…
Hit & Run
  คนอเมริกันและลามถึงคนทั่วโลกด้วยกระมัง ที่เหมือนตื่นจากความหลับใหล พบแดดอ่อนยามรุ่งอรุณ เมื่อได้ประธานาธิบดีใหม่ที่ชนะถล่มทลาย คนหนุ่มไฟแรง ผิวสี เอียงซ้ายนิดๆ ผู้มาพร้อมสโลแกน "เปลี่ยน เปลี่ยน เปลี่ยน และเปลี่ยน" แม้ผู้คนยังไม่อาจแน่ใจได้ว่าจะเปลี่ยนได้ไหม เปลี่ยนไปสู่อะไร (เพราะอเมริกาไม่มีหมอลักษณ์ฟันธง หมอกฤษณ์คอนเฟิร์ม) แต่ขอแค่โลกนี้มีหวังใหม่ๆ ความเปลี่ยนแปลงสนุกๆ ก็ทำให้ชีวิตกระชุ่มกระชวย ท้องฟ้าสดใสกว่าที่เคยเป็นได้ง่ายๆ   มองไปที่อื่นฟ้าใส แต่ทำไมฝนมาตกที่ประเทศไทยไม่เลิก บ้านนี้เมืองนี้ ผู้คนพากันนอนไม่หลับ ฟ้าหม่น ฝนตก หดหู่มายาวนาน นานกว่าเมืองหนึ่งใน ‘100…
Hit & Run
    ช่วงนี้มีแต่เรื่องวุ่นวาย ส่วนตัวความจริงแล้วไม่อยากยุ่งเพราะเป็นคนรักสงบและถึงรบก็ขลาด แต่ไม่ยุ่งคงไม่ได้เพราะมันใกล้ตัวขึ้นทุกที ระเบิดมันตูมตามก็ถี่ขึ้นทุกวัน จนไม่รู้ใครเป็นตัวโกง ใครเป็นพระเอก เลยขอพาหันหน้าหาวัดพูดเรื่องธรรมะธรรมโมบ้างดีกว่า แต่ไม่รับประกันว่าพูดแล้วจะเย็นลงหรือตัวจะร้อนรุมๆ ขัดใจกันยิ่งกว่าเดิม ยังไงก็คิดเสียว่าอ่านขำๆ พอฆ่าเวลาปลายสัปดาห์ก็แล้วกัน.....
Hit & Run
< จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์ >หลังจากอ่าน บทสัมภาษณ์ของซูโม่ตู้ หรือจรัสพงษ์ สุรัสวดี ในเว็บไซต์ผู้จัดการรายสัปดาห์ออนไลน์ แล้วพบว่าสิ่งหนึ่งที่ควรชื่นชมคือ ความตรงไปตรงมาของจรัสพงษ์ที่กล้ายอมรับว่าตนเองนั้นรังเกียจคนกุลีรากหญ้า ที่ไร้การศึกษา โง่กว่าลิงบาบูน รวมไปถึง “เจ๊ก” และ “เสี่ยว” ที่มาทำให้ราชอาณาจักรไทยของเขาเสียหาย เป็นความตรงไปตรงมาของอภิสิทธิ์ชนที่ปากตรงกับใจ ไม่ต้องอ้อมค้อมให้เสียเวลา ที่คงไม่ได้ยินจากปากนักวิชาการ หรือนักเคลื่อนไหวคนไหน (ที่คิดแบบนี้) (เดี๋ยวหาว่าเหมารวม)
Hit & Run
  ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านไป ความวุ่นวายในเมืองหลวงเริ่มคลีคลาย แต่ความสับสนและกลิ่นอายของแรงกดดันยังบางอย่างภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองยังคงคลุกรุ่นอยู่ไม่หาย... ไม่รู้ว่าน่าเสียใจหรือดีใจที่ภารกิจบางอย่างทำให้ต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ก่อนหน้าเหตุการณ์อันน่าเศร้าที่เรียกกันว่า "7 ตุลาทมิฬ" เพียงข้ามคืน สิ่งที่เกิดขึ้นในความทรงจำจึงเป็นเพียงอีกเรื่องราวของหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ถึงขณะนี้ยังไม่รู้ถึงข้อมูลที่แน่ชัดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความสูญเสียเกิดจากอะไร เพราะใครสั่งการ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น อย่างไร ฯลฯ คำถามมากมายที่ยังรอคำตอบ   …
Hit & Run
   (ที่มาภาพ: http://thaithai.exteen.com/images/photo/thaithai-2550-11-4-chess.jpg)หลังจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ความขัดแย้งทางชนชั้น การปะทะกันระหว่าง "ความเชื่อในคุณธรรม vs ความเชื่อในประชาธิปไตย" เริ่มปรากฏตัวชัดขึ้นเรื่อยๆ และได้ก่อให้เกิดความรุนแรงจากมวลชนทั้งสองกลุ่มฝั่งคุณธรรม อาจเชื่อว่า หากคนคิดดี ทำดี ปฏิบัติดีแล้ว เราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และปัญหาใหญ่ที่สุดของสังคมในขณะนี้คือ จริยธรรมของคนที่ข้องเกี่ยวกับการเมือง ดั้งนั้น จึงพยายามกดดันให้นักการเมืองเข้ากรอบระเบียบแห่งจริยธรรมที่ตนเองคิด หรือไม่ก็ไม่ให้มีนักการเมืองไปเลยฝั่งประชาธิปไตย อาจเชื่อว่า…
Hit & Run
Ko We Kyawเมื่อวันเสาร์ สัปดาห์ก่อน มีการจัดงาน ‘Saffron Revolution, A Year Later' ที่จัดโดยคณะผลิตสื่อเบอร์ม่า (Burma Media Production) หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อรำลึกถึง 1 ปี แห่งการปฏิวัติชายจีวร นอกจากการเสวนาและการกิจกรรมเพื่อเป็นการรำลึกแล้ว ภาคบันเทิงในงานก็มีความน่าสนใจเพราะมีการแสดงจากคณะตีเลตี (Thee Lay Thee) ที่มีชื่อเสียงจากพม่าการแสดงในวันดังกล่าว เป็นการแสดงในเชียงใหม่เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี 2551 หลังจากเคยจัดการแสดงมาแล้วในเดือนมกราคม และการแสดงการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยนาร์กิส เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาในพม่า…
Hit & Run
  ขุนพลน้อย       "ผมรู้สึกภูมิใจยิ่งที่สามารถคว้าเหรียญทอง สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย แต่ก็แอบน้อยใจบ้างที่เงินอัดฉีดของพวกเราจากรัฐบาลน้อยกว่าคนปกติ นี่ถ้าได้สักครึ่งหนึ่งของพวกเขาก็คงดี"น้ำเสียงของ ‘ประวัติ วะโฮรัมย์' เหรียญทองหนึ่งเดียวของไทย ในกีฬา ‘พาราลิมปิกเกมส์ 2008' หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยในช่วงดึกวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2551 เป็นไปอย่างมุ่งมั่นระคนทดท้อการต้อนรับนักกีฬาในหมู่คนใกล้ชิดและในวงการมีขึ้นอย่างอบอุ่น แต่ความไม่เท่าเทียมกันเมื่อเปรียบเทียบกับนักกีฬาที่ได้รางวันใน ‘โอลิมปิก' คงเป็นภาพที่สะท้อนมองเห็นสังคมแบบบ้านเราได้ชัดเจนขึ้น…