สาละวิน,ลูกรัก
เมื่อครั้งที่แม่มาจังหวัดเชียงใหม่ครั้งแรกนั้น แม่อายุได้ 18 ปี เชียงใหม่ในความรู้สึกของแม่มันช่างกว้างใหญ่สวยงาม แม่เป็นเพียงเด็กบ้านนอกจนๆ ที่มีเพียงเงินค่ารถติดตัวไม่กี่บาท ที่เหลือก็เป็นค่าลงทะเบียนสอบเอ็นทรานซ์ แม่มองเห็นพระธาตุดอยสุเทพจากวิวนอกเมืองยามรถแล่นผ่าน แม่อธิษฐานในใจว่า หากมีบุญที่จะได้มาอยู่เชียงใหม่ ก็จะขึ้นไปนมัสการพระธาตุฯ ให้ได้
\\/--break--\>
สิบสองคนที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน มีแม่เพียงคนเดียวที่เลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แม่สอบผ่านได้ดังตั้งใจ เชียงใหม่จึงกลายมาเป็นเมืองที่แม่อยู่อาศัยนานกว่าแปดปี
ครั้งแรกของลูกที่เดินทางจากแม่ฮ่องสอนบ้านเกิดมาเชียงใหม่ ลูกอายุได้เพียงแปดเดือนเศษ เป็นปีเดียวที่ลูกเกิด และเป็นช่วงย่างเข้าหน้าหนาว
พ่อของลูกก็เช่นกันที่ได้เดินทางมาเชียงใหม่เป็นครั้งแรก และคงเป็นครั้งแรกที่พ่อได้นั่งรถเมล์โดยสารออกนอกเมืองไกลๆ เช่นนี้ สู่เมืองแปลกหน้า ที่อยู่เพียงใกล้ตาแต่ไกลตีนของชนเผ่าที่ไร้สัญชาติ
มันเป็นการยากที่เราสามคนจะได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกัน แต่ด้วยความพยายามของแม่ ที่เข้าออกที่ว่าการอำเภออยู่หลายรอบ เพื่อขออนุญาตให้พ่อซึ่งถือบัตรชุมชนบนพื้นที่สูง หรือที่เรียกกันทั่วไปในหมู่ชาวเขาว่า บัตรเขียวขอบแดงโดยผู้ถือบัตรต้องขออนุญาตออกนอกพื้นที่กับทางอำเภอ ซึ่งมีขั้นตอนต่างๆ มากมาย
พ่อของลูกต้องไปขออนุญาตจากผู้ใหญ่บ้านเสียก่อน เมื่อได้คำรับรองจากผู้ใหญ่บ้าน ก็ต้องเข้าไปแสดงหลักฐาน กับทางอำเภอ แจ้งวัตถุประสงค์ ซึ่งทางปลัดอำเภอที่รับผิดชอบก็จะสอบถามรายละเอียด เช่น มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่จะเดินทางไปเชียงใหม่ เมื่อไปถึงแล้วพักอาศัยอยู่บ้านใคร
ที่สำคัญหากไม่มีธุระสำคัญก็อาจจะไม่ได้รับอนุญาต ตอนนั้นเราจึงต้องผิดศีลโกหกไปว่าจะไปเยี่ยมญาติที่ป่วยอยู่ จนกระทั่งพ่อได้รับอนุญาตให้เดินทางได้เพียง 7 วัน แม้จะเป็นเวลาแสนสั้นแต่ก็ทำให้เราดีใจกันมาก
ความจริงแล้วเราไม่มีธุระอะไรกันมากมาย แม่เพียงอยากให้พ่อได้เดินทางไปในเมืองที่แม่เคยอาศัยมานานกว่าแปดปี เมืองที่พ่อเคยได้เห็นเพียงการนึกภาพและคำบอกเล่าของแม่เท่านั้น
เมื่อถึงวันที่เราจะเดินทาง แม่เลือกรถเที่ยวสุดท้ายเวลาสามทุ่มกว่า เพราะเราจะได้เดินทางถึงเชียงใหม่ในเวลาเช้ามืดพอดี
แม่ฮ่องสอนที่หนทางคดเคี้ยวลาดชันใช้เวลาเดินทางข้ามเขตรอยต่อจังหวัดๆ เดียวนานถึงแปดชั่วโมง พอๆ กับการเดินทางจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯซึ่งระยะทางยาวไกลกว่ากันถึงสองเท่าเลยทีเดียว
ลูกหลับไปแล้วอยู่ในอ้อมกอดแม่ ส่วนพ่อนั้นตาทั้งสองข้างคงจะเบิกโพลงในความมืดเมื่อต้องเจอกับด่านทหารในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
เมื่อรถจอดทุกคนต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อทหารที่ขอตรวจค้น แม้เราจะได้ทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง แต่ก็ยังกลายเป็นจุดสนใจ เมื่อพ่อต้องแสดงหลักฐานที่ไม่ใช่บัตรประชาชนเหมือนคนอื่นๆ แต่เป็นหนังสือสองสามหน้าที่มีรูปถ่ายและลายนิ้วมือ
แม่รู้สึกว่าในความเหน็บหนาวของอากาศพ่อกลับรู้สึกหน้าร้อนผ่าวด้วยความอาย และความรู้สึกเช่นว่านี้ก็คงเกิดกับหลายๆคนที่ต้องแสดงหลักฐานเช่นพ่อแม้ว่าเขาจะแต่งเนื้อแต่งตัวภายนอกแบบเดียวกับคนทั่วไป แต่ก็ยังต้องรู้สึกอับอายต่อความแตกต่างที่ตนเองมีอยู่ดี
ยังมีด่านเช่นว่านี้อยู่เป็นระยะ กว่าจะเข้าเขตจังหวัดเชียงใหม่ แม่กับพ่อต้องผลัดเปลี่ยนกันอุ้มลูกที่นอนอุ่นอยู่ในผ้าห่มหนา ที่ตระเตรียมมาด้วยกลัวว่าลูกจะหนาว จนรู้สึกเหมื่อยขบกันไปตามๆกัน
จนกระทั่งถึงอาเขต หรือสถานีรถโดยสารประจำทางจังหวัดเชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ ท่ามกลางความพลุกพล่านของผู้คนต่างถิ่นต่างที่หลายชีวิต ด้วยความรู้สึกต่างๆกันไป