Skip to main content

ที่มาภาพ Quote of the Day ประชาไท

Kasian Tejapira (13/11/55)

ในชีวิตผม ได้ยินได้ฟังและได้อ่านข้อความที่มุ่งปลุกเร้าให้ทำร้ายฆ่าฟัน "ศัตรู" หรือ "ฝ่ายตรงข้าม" มามากมายหลายครั้ง และไม่ใช่จากฝ่ายเดียว ถ้อยคำที่ใช้มักรุนแรงก้าวร้าวหรือหยาบคาย แต่ไม่จำต้องเป็นแบบนั้นก็ได้ บางทีถ้อยคำที่ปลุกให้คนลุกไปฆ่าฟันกันมากที่สุด สุภาพไพเราะสัมผัสคล้องจองกันมาก เป็นกลอนก็ได้ เป็นเพลงก็มี ผมได้ยินมาตั้งแต่สมัยเด็กที่ปลุกปั่นให้ฆ่าคอมมิวนิสต์ ผมได้ยินสมัยหนุ่มที่ปลุกปั่นให้ฆ่าฟันผมกับเพื่อน ผมได้ยินตอนอยู่ในป่าที่ปลุกปั่นให้ไปฆ่า "ศัตรู" และได้ยินอีกหลายครั้งไม่ว่า พฤษภา ๓๕, ๔๙, ๕๑, ๕๒, ๕๓ และล่าสุดเมื่อมีการเคลื่อนไหวให้แก่ไข ม.๑๑๒ และลงเอยโดยมีคนเกลียดชังเคียดแค้นอาฆาตมาดร้ายดูหมิ่นหมิ่นประมาทอาจารย์กลุ่มหนึ่งที่ชื่อนิติราษฎร์มาก และมีอาจารย์ท่านหนึ่งถูกทำร้ายร่างกาย

ผมไม่คิดว่าวาทะเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องอันใดกับความรุนแรงที่เกิดตามมาเลย ผมต้องการเสรีภาพในการแสดงออก แต่ผมก็ต้องการความมั่นคงปลอดภัยในร่างกายชีวิตทรัพย์สินของผู้คน รวมทั้งการเคารพเกียรติยศศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของคนอื่นและตัวผมด้วย

เราควรมีทั้ง ๒ - ๓ อย่างน้้นใช่ไหม? ถ้าใช่ ก็ควรคิดกันว่าจะทำอย่างไร? การจะมีหรือไม่มีแนวคิด/ประเภท (concept/category) ที่มาจัดการกับมันเป็นวิธีการหนึ่ง แต่การเป่าพ้วงให้แนวคิด/ประเภทหนึ่งมลายหายไปจากโลก ไม่ได้ช่วยลดทอนบรรเทาอาการป่วยของการไม่ฟัง การใช้ความเกลียดชังปลุกปั่นให้ก่อความรุนแรง ไม่ว่าได้ทำจริง หรือแค่ทำให้คนกลัวก็ตาม

บางทีที่น่ากลัวที่สุดไม่เพียงแต่เป็น hate speech แต่รวมทั้ง love speech ด้วย อะไรที่สุดโต่งและไม่ฟังไม่ยับยั้งชั่งใจ คิดว่า สิ่งนี้ สำคัญ กว่าชีวิตคน น่ากลัวทั้งนั้น ไม่ว่ามันจะมาในนามอะไร? ความจงรักภักดี, สิทธิเสรีภาพ, ประชาธิปไตย, สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คำเหล่านี้ใช้เป่าคาถาฆ่าคนมาแล้วทั้งนั้น ไม่มีคำไหนไม่เปื้อนเลือด คำถามจึงไม่ใช่แค่กำจัดคำ แต่จะทำอย่างไรให้เงื่อนไขการใช้คำฆ่าคน น้อยลง

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
เหนืออำนาจรัฐ ยังมีอำนาจทุน: อองซานซูจี วีรสตรีผู้ยืนหยัดต้านอำนาจรัฐเผด็จการทหารพม่า อ่อนข้อให้อำนาจทุนจีน
เกษียร เตชะพีระ
...ในทุก trust มี risk แฝงฝังอยู่อย่างมิอาจปัดป่ายบ่ายเบี่ยงเป็นอื่นได้ ก็เพราะ trust มันทำงานอย่างนี้ คือไม่เป็นทางการ ไม่มีกฎหมายครอบงำกำกับ มันหลวม ๆ สบตาเอ่ยปากขอรู้ไจวางใจกัน และความหลวมนี่แหละทำให้ทุกอย่างดำเนินการไปได้อย่างสะดวกราบรื่น ด้วยความไว้วางใจที่มีต่อกัน และฉะนั้นมันจึงเปิดช่องให้ trust ถูก abused ได้..
เกษียร เตชะพีระ
ความขัดแย้งชายแดนภาคใต้ กองทัพแก้ไม่ได้ เพราะโดยเนื้อแท้มันไม่ใช่ปัญหาการทหาร แต่เป็นปัญหาการเมือง ในที่สุดการแก้ปัญหาความขัดแย้งชายแดนภาคใต้นี้ต้องทำโดยรัฐบาล
เกษียร เตชะพีระ
...ก้าวต่อไปที่น่าจะเป็นของงานการเมืองฝ่ายรัฐบาลคือการรุกด้วยข้อเสนอรูปธรรมให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ใช้สิทธิอำนาจตามกรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในการบริหารท้องถิ่นตนเองมากขึ้น ข้อเสนอนี้จะเป็นตัวช่วงชิงชนะใจมวลชน และกดดันปีกการทหารของฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบให้ยอมรับทางออกทางการเมืองในที่สุด... 
เกษียร เตชะพีระ
เกษียร เตชะพีระ
เกษียร เตชะพีระ
ฝ่ายซ้ายมองสฤษดิ์เห็นเป็น "นัสเซอร์" ส่วนฝ่ายขวามองสฤษดิ์เห็นเป็น "เดอโกล" ส่วนสฤษดิ์นั้นเอาเข้าจริงเห็นตัวเองเป็น "พ่อขุนอุปถัมภ์แบบเผด็จการ" ผู้ฉีกรัฐธรรมนูญ ล้มประชาธิปไตย "แบบตะวันตก" กวาดล้างขุดรากถอนโคนมรดกการปฏิวัติ 2475 ทั้งทางสัญลักษณ์และโครงสร้างกฎหมาย เพื่อสร้าง "ประชาธิปไตยแบบไทย " โดยอิงอาศัยความชอบธรรมจากสถาบันกษัตริย์
เกษียร เตชะพีระ
เรื่องให้ฝ่ายรัฐควักเงินหลวงมาจ่ายส่วนต่างค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับเพิ่มจากเดิมนั้น เป็นไปไม่ได้ ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไม่มีเยี่ยงอย่างที่ไหนในโลกทำกันครับ
เกษียร เตชะพีระ
มาตรา ๑๗๑ วรรคสี่ ของ รัฐธรรมนูญเพื่อป้องกันคนอย่างทักษิณ สะท้อนความหวาดระแวง - ไม่ไว้วางใจที่คณะผู้ร่าง รธน.ที่มีต่อตัวอดีตนายกฯทักษิณ และ เสียงข้างมากในสภาและเสียงสนับสนุนของประชาชนอีกชั้นหนึ่งเช่นกัน
เกษียร เตชะพีระ
ถึงปี ๒๐๓๐ สหรัฐฯจะไม่ได้เป็นอภิมหาอำนาจแบบที่เห็นอยู่ปัจจุบันอีกต่อไป, เศรษฐกิจจีนจะใหญ่ที่สุดในโลกและจะเติบโตไปแบบนั้นได้ต้องแก้ปัญหาใหญ่ ๒ อย่างใหญ่ ๆ จีนพึ่งพาทรัพยากรเข้มข้นในการเติบโต และทรัพยากรที่ว่ากำลังร่อยหรอ สังคมจีนกำลังชราภาพลงโดยเฉลี่ยอย่างรวดเร็ว, บทบาทของสหรัฐฯจะปรับเปลี่ยนเพราะโลกและนานาชาติคาดหวังให้สหรัฐฯทำตัวเป็นผู้บริหารจัดการจัดตั้งไกล่เกลี่ยหาทางออกข้อตกลงยุติความขัดแย้งรุนแรง
เกษียร เตชะพีระ
ความยุติธรรมที่ผู้มาทีหลังควรได้ร่วมบริโภคและยกระดับมาตรฐานการครองชีพดีขึ้นอย่างเท่าเทียม, กโลบายกระตุ้นเศรษฐกิจและอุ้มอุตสาหกรรมรถยนต์, ขีดจำกัดทางสิ่งแวดล้อมธรรมชาติและชีวิตเมืองของการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล