มกุฎราชกุมารวิลเลม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์พระราชทานสัมภาษณ์ทางทีวีก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสืบต่อจากสมเด็จพระบรมราชินีนาถบีอาทริกซ์ พระราชมารดา ซึ่งทรงประกาศจะสละราชสมบัติไปเมื่อปีก่อน หลังครองราชย์มากว่า ๓๐ ปี มกุฎราชกุมารวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ตรัสว่าคนอยากเรียกหาพระองค์อย่างไรก็ได้ตามใจ และตัวพระองค์เองก็จะไม่เฉลิมพระนามว่า “พระเจ้าวิลเลมที่สี่”
“ก่อนอื่น ชื่อของฉันคือวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ ฉันใช้เวลาตลอดชีวิต ๔๖ ปีเป็นวิลเลม-อเล็กซานเดอร์หรืออเล็กซานเดอร์ ฉันว่ามันแปลกที่จะต้องเลิกใช้ชื่อนั้นเพราะฉันเป็นกษัตริย์ ในอีกแง่หนึ่งคนเราก็ไม่ใช่ตัวเลขนี่นะ”
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะจัดขึ้น ๓๐ เม.ย. ศกนี้ี ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้กษัตริย์ปฏิบัติเฉพาะหน้าที่เชิงพิธีการเท่านั้น และมกุฎราชกุมารวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ก็ทรงบ่งชี้ว่าพระองค์ทรงอนุโลมตามข้อเรียกร้องนั้น
“ถ้าหากกระบวนการนิติบัญญัติเป็นประชาธิปไตยและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแล้ว ฉันก็จะยอมรับทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันไม่มีปัญหาอะไรกับสิ่งนั้น นั่นคือเหตุผลที่ทำไมฉันเป็นกษัตริย์ และหากจำเป็นต้องใช้ลายเซ็นชื่อของฉัน ฉันก็จะเซ็นชื่อให้”
ว่าที่พระราชินีแม็กซีมา พระชายาชาวอาร์เจนตินา ทรงสิริโฉมเพริศพริ้งและตรัสภาษาดัตช์ได้คล่อง เป็นเชื้อพระวงศ์ที่มหาชนชาวเนเธอร์แลนด์นิยมที่สุด ปัญหาอยู่ตรงบิดาของพระนางมีสัมพันธ์โยงใยกับเผด็จการทหารอาร์เจนตินาสมัยปลายคริสตทศวรรษที่ ๑๙๗๐ ต่อต้นคริสตทศวรรษ ๑๙๘๐ ในฐานะรมว.เกษตรของรัฐบาลทหาร ทำให้ในงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสปี ค.ศ.๒๐๐๒ บิดาของพระนางไม่ได้รับเชิญมาร่วมงานในเนเธอร์แลนด์ และก็คงไม่ได้รับเชิญมาร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้อีกเช่นกัน ทรงให้สัมภาษณ์ในโอกาสเดียวกันนั้นว่า:
“การกลายเป็นราชินีจะไม่เปลี่ยนฉันหรอก ฉันจะไม่ทำตัวต่างออกไป และแน่นอน ภูมิหลังของฉันเป็นชาวอาร์เจนตินา ฉันชอบเต้นรำ ฉันชอบดนตรี แล้วฉันก็จะทำอย่างนั้นต่อไป แต่ฉันจะเหมือนเดิม”