๑) เป็นเวลาหลายสิบปีหลังการปฏิวัติโค่นระบอบกษัตรย์ของนายพลนัสเซอร์ ต่อมายุคประธานาธิบดีซาดัตและมูบารัค กองทัพอียิปต์ได้รับอภิสิทธิ์ทางเศรษฐกิจ สวัสดิการ ธุรกิจ งบประมาณและเงินช่วยเหลือจากอเมริกามหาศาล เรากำลังพูดถึง "กงสียักษ์" ที่มีธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรมรีสอร์ตของตัวเอง, มีอพาร์ตเมนท์ที่พักอย่างดีและร้านค้าพิเศษราคาย่อมเยาสำหรับนายทหารและครอบครัว, มีโรงงานผลิตสินค้าต่าง ๆ ของตัวเอง ดังนั้นรากทางผลประโยชน์และค่าเช่าเศรษฐกิจของกองทัพอียิปต์หยั่งรากลึกมากและแผ่กว้างมหาศาล (เป็นสาเหตุหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างกงสีกองทัพกับลูกชายมูบารัคที่หันไปผลักดันแนวทางเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่/privatization)
๒) ในการลุกฮือปฏิวัติของมวลชน+รัฐประหารของสภากลาโหมอียิปต์เพื่อโค่นประธานาธิบดีมูบารัคจอมเผด็จการเมื่อสองปีก่อน กองทัพอียิปต์ฉวยโอกาสถือหางทั้งสองข้างและฆ่าคนทั้งสองฝ่ายอย่างถึงที่สุด แม้ตอนจบ พวกนายทหารจะออกมาประกาศหนุนมวลชน บีบมูบารัคให้ลาออก และยืนดูเฉยขณะมวลชนบุกเผาที่ทำการใหญ่ของพรรคมูบารัค แต่ขณะเดียวกัน มวลชนฝ่ายต่อต้านมูบารัคเกือบพันที่ล้มตาย ถูกอุ้มหาย โผล่อีกทีกลายเป็นศพ ก็เป็นฝีมือทหารทำเหมือนกัน ทั้งนี้เป็นไปตามรายงานของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ประธานาธิบดีมอร์ซีตั้งขึ้นมาเอง (http://www.dignityinstitute.org/servicenavigation/news-and-activities/international-news/2013/04/egypt%27s-army-took-part-in-torture-and-killings-during-revolution-the-guardian.aspx)
๓) แต่ทหารไม่ต้องกลัวว่าจะโดนดำเนินคดี เพราะ(อดีต)ประธานาธิบดีมอร์ซีได้ deal กับทหารไว้เรียบร้อยแล้ว ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หลังปฏิวัติโค่นมูบารัคที่มอร์ซีตั้งคณะกรรมการ (ส่วนใหญ่เป็นคนของ Muslim Brotherhood) ร่างเองแล้วโหวตผ่านประชามติมาแล้วนั้น มีมาตราที่ยกทหารไว้ว่าจะดำเนินคดีต่อพวกเขาได้ก็แต่โดยศาลทหารเท่านั้น ไม่ต้องมาขึ้นศาลพลเรือนปกติ ดังนั้นเมื่อรายงานอื้อฉาวดังกล่าวแพลมออกมา มอร์ซีก็เหยียบมันไว้เฉย ๆ ไม่ทำอะไร ไม่ดำเนินคดีกับบรรดานายทหารเก่าทีรับผิดชอบปราบฆ่าประชาชนตอนปฏิวัติโค่นมูบารัคดังกล่าว หรือต่อให้ดำเนินคดี คงยากมาก ๆ ที่ศาลทหารจะตัดสินเอาผิดกับบรรดานายทหารด้วยกันเอง
๔) ดังนั้นหลังปฏิวัติโค่นมูบารัคสองปีที่ผ่านมา ทหารยังคงบิดเบือนฉวยใช้อำนาจ เล่นรังแกสิทธิมนุษยชนของผู้ชุมนุมและประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าบังคับตรวจพรหมจรรย์ผู้ชุมนุมหญิงในเวลาค่ำคืน, ฆ่าหมู่ผู้ชุมนุมชาวคริสเตียนคอพติคยี่สิบกว่าคน ฯลฯ โดยไม่ต้องห่วงว่าใครจะทำอะไรกับตนทางกฎหมายได้
๕) ในการลุกฮือของมวลชน+รัฐประหารโดยทหารโค่นประธานาธิบดีมอร์ซีล่าสุด ฝ่ายเศษเดนสมุนมูบารัคก็ออกมาเอาคืนเช่นกัน โดยรุมกระทืบรัฐบาลมอร์ซีอย่างสมแค้น แต่มีแนวทางชัดเจนว่า เรียกร้องให้ทหารออกมารัฐประหารโค่นมอร์ซีเสีย โดยเป็นกระบอกเสียงป่าวร้องทางสื่อมวลชนสารพัดขอให้ทหารเข้ามากุมกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย อย่าปล่อยให้มอร์ซี Muslim Brotherhood หรือคนอื่นทำ ซึ่งในที่สุดคำเรียกร้องของพวกสมุนมูบารัคเก่าก็ปรากฏเป็นจริง
สรุป กองทัพอียิปต์เป็นสิ่งมีชีวิตทางการเมืองที่น่าสนใจมาก แปลงสีได้ตามสภาพแวดล้อมเหมือนกิ้งก่า, ไม่ซื่อกับใครเหมือนงูในอ้อมอกชาวนา, และแว้งกัดทุกฝ่ายรวมทั้งประชาชนด้วย
นี่คือสถาบันที่กำลังดูแลการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของอียิปต์ปัจจุบันจ้า.....