อย่างหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นบ่อยและทั้งรำคาญทั้งอนาถใจคือท่าทีประเภท.....
"เห็นไหม ไอ้หน้าโง่เอ๊ย กูด่ามึงแล้ว แต่มึงไม่ฟัง เสือกอยากไปคบพวกทักษิณ-เสื้อแดง-เพื่อไทย โดนเขาหลอกแล้วเป็นไง เพิ่งรู้ตัว ฯลฯลฯ"
คืองี้นะครับท่านผู้โคตรฉลาดทั้งหลาย ผมจะบอกอะไรให้ท่านใช้สติปัญญาอันยิ่งใหญ่มหากาฬมเหาฬารของท่านได้เข้าใจหน่อย
๑) คนจำนวนมากที่เข้าร่วมการต่อสู้ทางการเมืองนั้นต่างมีจุดมุ่งหมายเฉพาะของตัวเอง และเลือกร่วมฝ่าย เข้าข้าง หรือทำแนวร่วมกันตามประเด็น ตามสถานการณ์ เมื่อไหร่สถานการณ์เปลี่ยน ก็แยกฝ่าย เปลี่ยนข้าง ต่อสู้กัน
เหมาเจ๋อตงชนะหน้าโง่เจียงไคเช็ค จนเจียงต้องอพยพหนีจากจีนแผ่นดินใหญ่ไปอยู่เกาะไต้หวัน ก็เพราะฉลาดในการเลือกร่วม/แยกแบบนี้ จึงจับมือกับเจียงต้านญี่ปุ่นผู้รุกราน พอเสร็จศึกก็แยกข้าง เจรจาไป รบกับเจียงไปต่อ จนชนะ ได้ครองแผ่นดินจีน
๒) ผมไม่ขอพูดแทนคนอื่นทุกคน แต่หลายคนที่ผมเห็นและรู้จัก (โดยที่ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับพวกเขา) ไม่ได้มีมายาคติอะไรกับพลังการเมืองฝ่ายทักษิณ-เพื่อไทยเลยตั้งแต่ต้น เข้าใจธาตุแท้ ขอบเขต การร่วมทางที่เป็นไปได้ของพวกเขาดี เรื่องวิจารณ์ต่อสู้กับพวกเขานั้น ทำมานานก่อนจะเกิดพธม. ก่อนสนธิจะหันมาผูกผ้าพันคอสีฟ้าและใส่เสื้อสีเหลือง และก่อนพวกคุณตื่นตัวทางการเมืองหันมาใส่เสื้อเหลือง/หน้ากากขาวตามสนธิกันอีกนะครับ
๓) การเมืองคือการหาพวกให้มากที่สุดเพื่อต่อรองต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามสถานการณ์ ในทุก ๆ สถานการณ์ต้องทำงานแนวร่วมให้ดี หาพวกให้มากที่สุดเพื่อเป้าหมายเฉพาะหน้าที่จำกัดขอบเขตและจังหวะเวลา แต่ในทุก ๆ จังหวะสถานาการณ์และแนวร่วมที่เปลี่ยนไป ต้องไม่พลาดสายตาจากเป้าหมายยุทธศาสตร์ระยะยาวและกำลังพื้นฐานที่ต้องปลูกสร้างเพื่อเดินไปให้ถึงในขั้นสุดท้าย ต่างกับการทหารที่อาจอาศัยคนน้อยก็ชนะได้ และต่างจากศีลธรรมที่ยึดหลักความถูกต้องเป็นที่ตั้ง ไม่ต้องการพวก
คน "ฉลาด" ที่ออกมาก่นด่าเหยียดหยามดูหมิ่นคนอื่นอย่างไม่รู้จักเงาหัวตัวเองนั้น ไ่ม่เข้าใจการเมืองพื้นฐาน ไม่เข้าใจการทำงานแนวร่วม มีแต่ด่าทอผลักไสคนที่สามัคคีได้ออกไป พวกเขาทำการเมืองเหมือนศาสนา/ศีลธรรม นั่งคัดแต่คนที่ตรัสรู้หรือบริสุทธิ์หรือบรรลุอรหัตถผลหรือ "ฉลาด" "เหมือนกู/พวกกู" เท่านั้น
ท่าทีแบบนี้ไม่ชนะหรอกครับ น่าสงสารจะตายชักว่าไปแล้ว เพราะศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของพวกเขาคือตัวพวกเขาเอง (แต่พวกเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำไป ปลาบปลื้มอยู่นั่นแหละว่ากู "ฉลาด", อ้วก)
เอ้า เชิญแสดงความ "ฉลาด" กันต่อไป.....
บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ
เกษียร เตชะพีระ
ปม ‘พล.ท.นันทเดช’ นำเสนอเกรดของ 7 นักศึกษา 'ดาวดิน' ระบุเกรดไม่ดี จวกไม่เคยคิดเรียน ‘เกษียร’ สวนชกเด็กใต้เข็มขัด ชี้ไม่ควรลืมว่า ‘Steve Jobs’ ก็เรียนไม่จบ ระบุสำหรับนักศึกษาที่ทำกิจกรรม การเรียนย่อมได้รับผลกระทบบ้างเป็นธรรมดา
เกษียร เตชะพีระ
ตอบกระทู้พันทิป หลังมีผู้เรียกร้องให้ประเทศไทยยกเลิกการให้ทุนการศึกษาต่างประเทศสำหรับคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ โดยยกตัวอย่าง ‘สมศักดิ์-วรเจตน์’
เกษียร เตชะพีระ
รายงานของ Freedom House ชี้ ปี 2014 เป็น “ปีที่หม่นหมองเป็นพิเศษ” เกิดการปะทุของการก่อการร้ายรุนแรงและยุทธวิธีที่ก้าวร้าวทั่วโลก ระบุตะวันออกกลางสูญเสียเสรีภาพชัดเจนสุด พร้อมฟันธงว่าความผิดพลาดใหญ่ที่สุดที่ระบอบประชาธิปไตยจะทำลงไปคือการยอมรับความคิดว่าไม่มีปัญญาจะทำอะไรได้เมื่อเผชิญกับจอมเผด็จการที่ใช้กำลังหรือข่มขู่คุกคาม กลับเป็นปุถุชนพลเมืองสามัญต่างหากผู้พร้อมจะลุกขึ้นมาท้าทายผู้ปกครองเหล่านี้
เกษียร เตชะพีระ
"มาตรา 10 ของ ร่าง พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับใหม่ ขยายอำนาจการดักจับ แฮ็กบัญชี ยึดคอมพิวเตอร์ แฮ็กระบบ อันนี้คือขยายอำนาจของเจ้าหน้าที่ จากที่เคยต้องขอหมายศาล พรบ. แก้ใหม่ ไม่ต้องขอหมายศาล ทำได้เลย แล้วคนพวกนี้เป็นใคร ไม่รู้" จอห์น วิญญู กล่าวในรายงานเจาะข่าวตื้น ผมเห็นด้วยกับคุณจอห์น วิญญู และชอสนับสนุนด้วยข้อถกเถียงจากมุมมองหลักนิติธรรม (the rule of law)
เกษียร เตชะพีระ
พม่าเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างในไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ผ่อนคลายการจำกัดปิดกั้นสื่อมวลชนลง และปล่อยตัวนักโทษการเมือง การลงทุนต่างชาติเพิ่มพูนขึ้น แต่กลับมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมากในกองทัพพม่า ปัจจุบันพม่ากำลังเตรียมการเลือกตั้งในปีใหม่นี้ (ค.ศ. ๒๐๑๕) ทว่าน่าวิตกว่ากระบวนการปฏิรูปกำลังตกอยู่ในสภาพล่อแหลมต่ออันตราย
เกษียร เตชะพีระ
วิพากษ์ข้อเสนอหลักของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยนายกฯ ไม่จำเป็นต้องมาจาก ส.ส.หรือสังกัดพรรคการเมือง, ส.ส. มาจากระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม และส.ว.ไม่เกิน ๒๐๐ คนมาจากการแต่งตั้งและคัดสรร ไม่ใช่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ฯลฯ
เกษียร เตชะพีระ
รายงานล่าสุด ILO ชี้ค่าแรงยังต่ำ ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในโลกยิ่งเพิ่ม, ค่าจ้างประเทศรวยสูงกว่าประเทศจน 3 เท่า, การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำไม่ทำให้คนตกงานเว้ยเฮ้ย!
เกษียร เตชะพีระ
ความคิดเห็นต่อเนื่องจากกรณีที่เกิดกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ถึงกรณีที่มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเขียนโน้ตถึงอาจารย์ที่ปรึกษาให้ติดต่อกลับ โดยระบุถึงสิ่งที่สำคัญมากกว่าในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น คือ ...
เกษียร เตชะพีระ
ในฐานะที่ "รัฐ" ตามคำนิยามของเวเบอร์ 1. สิทธิผูกขาดเหนือการใช้กำลังทางกายภาพหรือนัยหนึ่งการใช้ความรุนแรง 2. โดยชอบธรรม และ 3 ภายในอาณาเขตหนึ่งๆ
เกษียร เตชะพีระ
ข้อแนะนำถึงคสช.และรัฐบาล. คืนความปกติให้สังคมเศรษฐกิจไทยมากที่สุด ลดมาตรการใช้อำนาจผิดปกติให้เหลือต่ำสุด ความแตกต่างขัดแย้งทางความคิดเห็นและผลประโยชน์ในสังคมพหุนิยมที่มีความแตกต่างหลากหลายเป็นเรื่องปกติ
เกษียร เตชะพีระ
สำหรับผมและเพื่อนพ้อง “คนเดือนตุลา” จำนวนหนึ่ง รัฐประหาร ๒๒ พ.ค. ที่ผ่านมาเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจยิ่ง