Skip to main content

หากวัยรุ่นคนหนึ่งจะเข้ามาร่วมในกลุ่มนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการสมัคร หรือทดสอบก่อน คือ ใครต้องการเข้าร่วมกลุ่มก็สามารถเข้ามาทำความรู้จักได้เลย เพียงแค่มีความเป็นเพื่อนและจริงใจเท่านั้น

การเข้ามาในกลุ่มแก๊งของคนใหม่ๆ หรือการพยายามสร้างตัวแทนของกลุ่ม นับว่าไม่ได้เป็นไปตามกรอบเกณฑ์ เพราะการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในกลุ่มแก๊ง เกิดขึ้นโดยระบบความสัมพันธ์แบบเพื่อนกับเพื่อน การเคารพผู้ที่อายุมากกว่าว่าคือรุ่นพี่ การเคารพผู้ที่อายุน้อยกว่าหรือรุ่นน้อง เป็นการสร้างความสัมพันธ์แนวราบ คือ การส่งต่อเพื่อนสู่เพื่อน พี่สู่น้อง

การที่คนจะเข้ามาในกลุ่มใหม่นั้นเหมือนเป็นการสร้างฐานความยั่งยืนของกลุ่มเพื่อให้กลุ่มมีคนสืบทอดกิจกรรม เจตนารมณ์ ที่กำหนดไว้ คนที่เข้ามาในกลุ่มใหม่อาจมาได้หลายรูปแบบ บางคนเพื่อนชวนมา บางคนอยากเข้ามา บางคนพี่ชวนมา ตัวอย่างเช่น เพื่อนที่รู้จักชวนเล็กจากที่เป็นเด็กไบรท์ ไปชมคอนเสิร์ตพังก์จนเกิดความชอบและเข้าสู่กลุ่ม จนเป็นเด็กพังก์คนหนึ่ง หรือ การที่จอมชวนน้องๆ ในชุมชนมาตั้งกลุ่มเพื่อนไปเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น

บางกลุ่มมีการรับน้องที่แตกต่างกันไปเช่นการรับน้องโดยการให้ดื่มเหล้าเปล่าๆ หนึ่งแก้ว การรับน้องโดยการพาไปเที่ยว สิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่กระชับแก่รุ่นน้องที่เข้ามากับรุ่นพี่ที่รู้จัก รุ่นน้องจะเคารพในการตัดสินใจของรุ่นพี่ แต่โดยส่วนมากการตัดสินใจภายในกลุ่มอาจมีได้หลายลักษณะ บางกลุ่มปรึกษาหารือร่วมกัน

บางกลุ่มเกิดผู้นำที่ตัดสินใจโดยธรรมชาติ บางกลุ่มมีพี่ใหญ่เป็นผู้ตัดสินใจ แต่ท้ายที่สุดไม่ว่าที่มาของการตัดสินใจจะเป็นอย่างไร ทุกคนก็ยอมรับการตัดสินใจนั้น

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกภายในกลุ่มจะเป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อน แบบพี่น้องเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีการแบ่งเป็นลูกน้องลูกพี่แต่อย่างใด นอกจากนี้ สมาชิกภายในกลุ่มให้ความเคารพกันตามลำดับความอาวุโส และทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันทั้งหมด

การอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องมีข้อตกลงร่วมกัน เพื่อจัดการให้กลุ่มซึ่งมีสมาชิกจำนวนมากมีขอบเขตและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง

ดังนั้นภายในกลุ่มจึงมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการรักษาสิทธิส่วนบุคคลของสมาชิก แต่ไม่ได้กำหนดขึ้นเป็นกฎของกลุ่มแต่อย่างใด แต่ถ้าหากในกลุ่มเกิดความขัดแย้ง ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากการเขม่นกันภายในกลุ่ม หรือหยอกล้อเล่นกันแรงเกินไป ทำให้เกิดความไม่พอใจ แต่หากเกิดข้อขัดแย้งเช่นนี้ สมาชิกภายในกลุ่มสามารถจัดการกันเองได้ และเมื่อคลี่คลายปัญหาแล้วทุกคนยังคงเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

จะเห็นได้ว่าการที่วัยรุ่นรวมกลุ่มกันนั้น ทางกลุ่มก็มีการจัดระเบียบ มีข้อตกลงร่วมกันเพื่อควบคุม และดูแลสมาชิกภายในกลุ่มให้อยู่ในขอบเขต และไม่ให้เกิดความเดือดร้อนแก่บุคคลภายนอก เพื่อที่จะสามารถลดปัญหาสังคมลงได้อีกทางหนึ่งด้วย

รุ่นต่อรุ่น-เรื่องที่พี่และน้องสืบต่อกัน

แม้ว่าการเข้าสู่กลุ่มนั้นจะไม่ใช่เรื่องยากแต่เรื่องที่สำคัญคือการเปลี่ยนถ่ายรุ่นของคนภายในกลุ่ม การเปลี่ยนถ่ายรุ่นต่อรุ่นนั้นอาจทำได้โดยไม่ยากมากนัก การรวมกลุ่มของเยาวชนเกิดขึ้นโดยกระบวนการทางสังคม มีการรวมกลุ่มโดยธรรมชาติ การสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมานั้น

ส่วนใหญ่เป็นการสร้างผ่านการทำกิจกรรมร่วมกันภายในกลุ่ม เช่น การเต้น การแข่งรถ โดยอาจมีการชวนคนอื่นๆ เข้ามาร่วมกิจกรรมของกลุ่ม บางคนที่ไม่รู้จักอาจเข้ามาโดยความสนใจหรือคนอื่นชวน เช่น กรณีของเล็ก ที่เข้ามาในกลุ่มพังก์โดยการเชิญชวนของรุ่นพี่

การทำกิจกรรมที่ต่อเนื่องของกลุ่มแก๊ง ถือเป็นการผลิตซ้ำทางความคิด เป็นการแสดงออกที่บอกถึงความเป็นตัวเอง บางกลุ่มสะสมการเที่ยว สะสมการแสดงพลังผ่านการแข่งรถ สะสมการเต้น ฯลฯ หรือแม้แต่การจัดการกับกรณีที่มีการชกต่อยทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งเรียกว่า “เคลียร์” ซึ่งเป็นการจัดระบบกับความรู้สึกของคน ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมในการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในสิ่งที่กระทำ

ดังนั้นจึงเป็นจุดแข็งที่สมาชิกกลุ่มมีความรู้สึกร่วมในการเป็นตัวของตัวเองในกลุ่มนั้นๆ และมีความรัก ศรัทธาในการกระทำของตน ซึ่งถือเป็นกลไกที่มีความสำคัญในการสร้างรุ่นใหม่ และการเปลี่ยนถ่ายรุ่นที่มีความต่อเนื่องและมีจุดหมายร่วมเหมือนกัน

ความเป็นผู้นำในกลุ่ม

อาจกล่าวได้ว่า กลุ่มแก๊งแต่ละกลุ่มนั้น ไม่ได้มีโครงสร้างอย่างการรวมกลุ่มโดยทั่วไป ไม่ได้มีประธาน รองประธาน หากแต่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หัวหน้ากลุ่มหลายคนที่เรารู้จักมักจะบอกเสมอว่า ไม่ได้เป็นหัวหน้ากลุ่ม เป็นเพียงแค่ต้นคิดสำคัญ หรือภาษาเหนือเรียก “เก๊า” ในการตัดสินใจบางอย่างบุคคลคนนั้นจะเป็นเหมือนคนที่ชี้บอกว่า จะทำอย่างไร จะไปทางไหน แบบไหน และทุกคนในกลุ่มก็จะทำตามนั้น

ทว่าการเป็นหัวหน้ากลุ่มอาจมาได้หลายๆ ทาง เช่นสายเครือญาติ การเคารพผู้ที่มีอายุมากกว่า หรือ รุ่นพี่รุ่นน้อง หรือ คนที่มีความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ มีความกล้าในการตัดสินใจ เป็นที่นับถือของคนในกลุ่ม และมีความจริงใจในการแก้ปัญหาของเพื่อนๆ ในกลุ่มเช่น การช่วยเหลือโดยการตีคืน การช่วยเรื่องเงิน เป็นต้น หรือแม้แต่การทำให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนภายในกลุ่มเพื่อตัดสินใจร่วมกัน

หัวหน้ากลุ่มจึงไม่สามารถบอกได้โดยตรงว่า คนนี้คือหัวหน้า กลุ่มแก๊ง จึงเป็นกลุ่มที่สมาชิกทุกคนภายในกลุ่มมีการตัดสินใจร่วมกัน โดยสมานฉันท์ แบบพี่น้อง โดยมีแกนหลักเป็นผู้จัดการให้เกิดการแลกเปลี่ยนและตัดสินใจ หรือ เป็นผู้นำโดยธรรมชาติ

แต่ก็พบว่ามีบางกลุ่มจะมีลูกพี่ใหญ่ และลูกพี่จะทำตัวให้เป็นที่เคารพเกรงขาม ไม่ทำตัวเหมือนเด็ก เพราะจะต้องดูแลควบคุมสมาชิกในกลุ่มให้ได้ ซึ่งถ้าไปพูดกับใครว่านี่เด็กผม ถ้าแก๊งนี้เป็นแก๊งใหญ่หน่อย แล้วบอกว่า “นี่เด็กผม” หรือ "ละอ่อนผม" ก็จะดูมีอำนาจและน่าเกรงขาม

กลุ่มกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

เรื่องการรวมกลุ่มของเด็กแก๊ง คือ เมื่อประมาณก่อนปี 2542 ยังไม่มีการรวมกันเป็นแก๊งอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเที่ยว เช่น กลุ่มช้างคลาน สันป่าข่อย สันกำแพง เชียงมั่น กาดก้อม ซึ่งชื่อเหล่านี้ตั้งตามตำบลหรือชุมชนที่อาศัยอยู่ ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นชื่อเฉพาะกลุ่มหรือภาษาอังกฤษ

ชื่อกลุ่มต่างๆ ที่เมื่อก่อนตั้งชื่อตามแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัย แต่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่จะตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษ บางชื่อที่ตั้งก็เพื่อแสดงถึงการมีอำนาจ บ้างก็ตั้งชื่อตามแหล่งที่มักจะไปเที่ยวกัน หรือตั้งชื่อตามสถาบันที่เรียน หรือตามลักษณะการแต่งการ เช่น พังก์ แซป เป็นต้น

โปรดตามติดอ่านตอนต่อไป....

บล็อกของ กิตติพันธ์ กันจินะ

กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะ บางทีแล้วการที่เราออกมาทำกิจกรรมเพื่อสังคมนั้น มันก็มีรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามบริบทของการทำงานและพื้นที่สภาพแวดล้อม ซึ่งนั่นล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการทำงานของกลุ่มคนที่มากมายหลายประเภทเฉกเช่นดอกไม้ในสวนน่ายล ท่ามกลางบรรยากาศสังคมอมยิ้มไม่ออกเช่นนี้ เยาวชนคนหนุ่มสาวก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่เข้าไปอยู่ในบริบทของความย้อนแย้งขัดเกลาเราเขาเช่นนี้ กล่าวคือมีทั้งเยาวชนที่เห็นด้วยกับแนวทางของซีกพันธมิตร และเยาวชนที่ไม่เห็นด้วยก็มีมาก ส่วนกลุ่ม “สองไม่เอา” นั่นก็มีไม่น้อย ทว่า กลุ่มที่ดูจะมีคือ “กรูไม่เอาสักอย่าง” เสียอีกที่มีเยอะ
กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นเมื่อมีการชุมนุมของพี่ๆ ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ และ กลุ่มต้านพันธมิตรฯ คือ “อีกแล้วเหรอ”  ซึ่งเป็นความรู้สึกที่กลัวว่าเหตุการณ์จะนำพาไปสู่เหตุการณ์ “รัฐประหาร” เหมือนเมื่อครั้งปี 2549 อีกหนที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ถูกมองว่า เป็น “เงื่อนไข” สำคัญที่ทำให้เกิดการรัฐประหารในครั้งล่าสุด แถมยังไม่ค่อยมีบทบาทมากนักในการต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้งเลยแม้แต่นิด ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่คนอื่นๆ ทั่วไป เขาจะมองว่ากลุ่มพันธมิตร เอาดี เห็นงาม กับการทำให้เกิดเหตุการณ์เยี่ยงนั้นสำหรับนักประชาธิปไตยอีกฝากแล้ว…
กิตติพันธ์ กันจินะ
กิตติพันธ์ กันจินะ หลายวันที่ผ่านมาผมและเพื่อนๆ หลายคน ที่ติดตามข่าวเรื่องการชุมนุมของ “พันธมิตร” ต่างใจจดใจจ่ออยู่กับจุดมุ่งหมายท้ายสุดที่จะเดินไปถึง พร้อมๆ กับกระแสข่าวการ “ปฏิวัติ” ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็เชื่อมั่นว่าการชุมนุมโดย “สันติ” อย่างมี “สติ” เป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนที่สามารถดำเนินการได้ แต่การสลายการชุมนุมโดยการใช้ “ความรุนแรง” ที่ “ไร้สติ” นั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์และปรารถนายิ่งนัก
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย1“ขอโดลเช่ เดอ ลาเช่ ขนาดกลางแก้วหนึ่งค่ะ เพิ่มกาแฟอีกชอตและะ No whip cream ค่ะ อ้อ! ขอแบบไลท์ด้วยนะคะ Low Calories ด้วย ขอบคุณค่ะ” เฮือก! โล่งอก! ฉันพูดประโยคยาวยืดนี่จบซะที! จะมีใครรู้ไหมนะว่าฉันต้องฝึกพูดคำว่า “โดลเช่ เดอ ลาเช่” มาตั้งกี่ครั้งกว่าจะมาเสนอหน้าสั่งกาแฟชื่อประหลาดอย่างคล่องปากนี่ได้ แต่คริๆ...คงไม่มีใครรู้หรอก เพราะฉันวางมาดดีไม่มีหลุดราวกับเรียนการแสดงจากครูแอ๋วมาเสียขนาดนี้ ใครๆก็ดูแต่เปลือกกันทั้งนั้นแหละเธอ! เอาล่ะ สะบัดบ๊อบไปนั่งรอกาแฟได้แล้วย่ะยัยมาริยา อ๊ายส์! จ่ายเงินก่อนสิยะเธอ!!  ฉันใช้ริมฝีปากที่ทาลิปสติค Christian Dior อย่างบรรจง ค่อยๆ ดูดกาแฟ…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัยปล. คาวีเป็นชื่อพระเอกในละครตบจูบเรื่อง “สวรรค์เบี่ยง” ทางช่อง 3 ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้สวัสดีค่ะ คุณคาวี พักนี้มีข่าวข่มขืนขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์กันพรึ่บพรั่บ ราวกับคนในบ้านเมืองของเราร่วมแรงแข็งขัน (และแข่งขัน) กันข่มขืนเป็นเมกะโปรเจ็กต์ ตั้งแต่รุ่นเด็กประถมยันอาจารย์มหาวิทยาลัย ดูแล้วชวนห่อเหี่ยวละเหี่ยใจเสียฉิบ ไม่ยักเหมือนเวลาดูคุณคาวีข่มขืนเลยนะคะ ดูแล้วได้ความบันเทิงเริงเมืองปนโรแมนติค ก็แหม…เวลาพูดถึงคนร้ายข่มขืนผู้หญิงทีไร ใครๆ ก็นึกถึงแต่ผู้ชายตัวดำๆ ไว้หนวดเครารุงรัง หน้าเถื่อนๆ ยืนดักอยู่ตามซอกตึก เหม็นกลิ่นเหล้าคุ้งเคล้ากลิ่นเหงื่อปนกลิ่นคาวปลาตามตัว…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมต้องคิดหนักและเหนื่อยกับการใช้พลังในการพัฒนาโครงการ “กล้าเลือก กล้ารับผิดชอบ” ของเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ ประเทศไทย โครงการนี้เป็นโครงการที่จะสร้างกลไกระดับพื้นที่เพื่อรณรงค์ สร้างความเข้าใจเรื่องเอดส์ เพศศึกษาอย่างรอบด้าน และสนับสนุนให้เยาวชน ตระหนักและมีทัศนคติที่ดีในการเรียนรู้เรื่องการป้องกันเอดส์ รู้จักประเมินความเสี่ยงของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศของตนให้ปลอดภัยผ่านการดำเนินการกับกลุ่มเครือข่ายเยาวชนในพื้นที่ 8 กลุ่ม ใน 20 จังหวัดกระจายไปในภาคต่างๆ ซึ่งจะต้องดำเนินการตลอดระยะเวลา 12 เดือน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย
กิตติพันธ์ กันจินะ
ประมาณวันที่ 14 เมษายน 2551 นี้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550  ก็จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวและได้มีประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551ส่งผลให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกลุ่ม องค์กร เยาวชน องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับพื้นที่ อย่างขะมักเขม้นอย่างไรก็ตามสำหรับเจตนารมณ์แล้ว กฎหมายฉบับดังกล่าวมีขึ้นมาเพื่อให้เกิดกลไกการสนับสนุนการมีส่วนร่วมและพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมทั้งภาครัฐและเอกชน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ผมได้แรงบันดาลจากการเขียนเรื่องนี้จากภาพยนตร์เรื่อง “ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น” หนังใหม่ ที่กำลังฉายในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านท่านๆ ว่ากันด้วยเรื่องของเนื้อหาในหนังนั้น ผมก็ยังไม่ได้ไปชม เพียงแต่ดูเนื้อในจากเว็บไซต์ก็พอสรุปคร่าวๆ ได้ว่าภาพยนตร์นี้เป็นเรื่องราวของวัยรุ่น 4 วัยในความรัก 4 มุม ทั้ง รักที่ต้องแย่งกัน รักนักร้องดาราคนโปรด รักนอกใจ และรักข้างเดียว ....อืม เอาเป็นว่า ใครอยากรู้เรื่องมากขึ้นลองเข้าเว็บไซต์ www.pidtermyai.com  ดูแล้วกันนะครับในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอชีวิตที่เกิดขึ้นของวัยรุ่นจำนวนหนึ่งในช่วงปิดเทอมใหญ่ ซึ่งบางคนก็ใช้เวลาไปแข่งกันขอเบอร์ผู้หญิง…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ใครจะไปรู้ว่าเทคโนโลยีบางอย่างจะทำให้เราไม่พลาดการสื่อสารที่สำคัญได้จริงๆ เรื่องเกิดเมื่อวันหนึ่ง, ขณะที่ผมกำลังออนไลน์โปรแกรมแชทยอดนิยมนั้น พี่ต้าร์ (วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แห่งกลุ่ม Y-ACT) ก็ได้เข้าโปรแกรมออนไลน์ MSN จากในค่ายแห่งหนึ่ง ณ สวนแสนปาล์ม นครปฐม ซึ่งเป็นการอบรมนักศึกษาอาชีวศึกษากว่า 30 สถาบัน  “อยากดูป่ะ” พี่ต้าร์ถามและได้เปิดโปรแกรมวิดีโอออนไลน์ขึ้นมาผมตอบว่าอยาก – สักพัก ภาพเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ พี่ๆ ได้ปรากฏออกมา และมีภาพของเพื่อนๆ เยาวชนที่เข้าร่วมค่ายกำลังทำกิจกรรมอย่างสนุกสนานผมถามพี่ต้าร์ว่ามาทำอะไรกัน?พี่ต้าร์ บอกว่า “วันนี้น้องอาชีวะกว่า สามสิบสถาบัน…
กิตติพันธ์ กันจินะ
ในที่สุดนายกทักษิณ ก็ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากที่ต้องเร่ร่อนรอนแรมอยู่ต่างประเทศตั้งปีกว่า กลับมาหนนี้ถือว่าได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองในคดีต่างๆ ที่ตกเป็นจำเลย และยังได้กลับมาอยู่ใกล้ครอบครัวของตนเสียด้วย ยังไม่นับรวมถึงการที่จะต้องเข้ามาเคลียร์เรื่องอะไรอีกหลายอย่างที่เกิดขึ้นภายในพรรคและการเมืองที่ยังไม่ค่อยลงตัวสักเท่าใดนัก  ผมดูการกลับมาของคุณทักษิณ แล้วนึกถึงชีวิตของเด็กๆ ที่เร่ร่อนไร้บ้านอีกหลายคน ที่ต่างก็พเนจรไปในที่ต่างๆ ไม่ได้กลับบ้าน หรือบ้างก็ไม่มีบ้านอยู่อาศัย ซึ่งชะตากรรมของเขาหลายๆ คน ถือว่า "หนัก" กว่าคุณทักษิณหลายเท่า…
กิตติพันธ์ กันจินะ
  หลังจากที่โครงการเยาวชนไทยไม่ทอดทิ้งสังคม หรือ โครงการเยาวชน1000ทาง 1 ได้ดำเนินการมาจนจบวาระหนึ่งปีก็ถือว่าเรียนจบครบเทอมพอดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทีมงานหลายคนต่างได้รับความรู้และประสบการณ์ในการทำงานเพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเข้ามาทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากยิ่งขึ้น แม้ว่าโครงการเยาวชน1000ทาง จะเกิดจากความร่วมมือของเครือข่ายเยาวชนที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาหลายปี แต่สำหรับประเทศไทยนั้นนับว่ามีโครงการที่สนับสนุนกิจกรรมของเยาวชน "มือใหม่" ไม่มากนัก ฉะนั้นโครงการเยาวชน1000ทาง ถือว่าเป็นโครงการที่ภาครัฐสนับสนุนให้เกิดการทำงานโดยเยาวชนดำเนินการ มีผู้ใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นที่ปรึกษาการทำงาน…