Skip to main content

โดย... สมจิต คงทน

กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน

 

 

ก่อนจะมาเป็นนารวม ชาวบ้านเขวาโคก-เขวาทุ่ง ต.สระบัว อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด ได้รวมตัวกันเพื่อดูแลและฟื้นฟูสภาพป่าสาธารณะของชุมชนที่อยู่คู่มากับหมู่บ้าน ซึ่งมีขนาดพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ ไว้สำหรับหา

อยู่หากิน เก็บของป่า เก็บเห็ด เก็บฟืน เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต


แต่เมื่อปี 2538 มีกลุ่มทุนเอกชนจากนอกพื้นที่ทั้งหมด 8 ราย มาบุกรุก แผ้วถางป่าธรรมชาติดอนหนองโมง-หนองกลางของหมู่บ้าน เป็นเหตุให้ชาวบ้านที่นี่รวมกลุ่มกันต่อสู้เพื่อรักษาที่ดินผืนนี้ไว้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน


การต่อสู้ครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อปี 2542 กรณีที่กลุ่มทุนใช้รถแทร็กเตอร์เข้าไปบุกรุกพื้นที่ ทำให้นักเรียนประมาณ 70 คน ครู 2 คน และชาวบ้าน 5 คน เข้าไปล้อมรถแทร็กเตอร์ไว้เพื่อขัดขวางการทำประโยชน์ของกลุ่มทุน จนถูกฟ้องคดีข้อหาบุกรุก แม้จะเป็นการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม ต่อมาชาวบ้านจึงได้ประชุมร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้มีการรวมตัวกันของนักเรียนและชาวบ้านประมาณ 500 คน ออกเดินจากหมู่บ้านด้วยขบวนรถอีแต๋นไปยังจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นเวลา 2 คืน 3 วัน และปักหลักอยู่หน้าบริเวณศาลากลางจังหวัดนานถึง 28 วัน


ระหว่างอยู่หน้าศาลากลางชาวบ้านได้พูดคุยสื่อสารกับคนในเมืองถึงสภาพปัญหาและความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับพี่-น้องชาวบ้าน เพื่อเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการพิสูจน์สิทธิให้ถูกต้องกรณีที่ถูกกลั่นแกล้งจากอิทธิพลของนายทุน

 

เอกสารทางราชการที่ยืนยันมาโดยตลอดของการต่อสู้คือ "พื้นที่ 300 ไร่ เป็นที่สาธารณะที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน" แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังมีชาวบ้านและครูจำนวนหนึ่งถูกศาลอุทธรณ์ปรับคนละ 4,000บาท และโทษจำคุกอีกคนละ 2 ปี แต่รอลงอาญา จึงได้ยื่นฎีกาและกำลังรอผลความคืบหน้าของคดีอยู่

บางครั้งปัญหาที่ชาวบ้านได้ร่วมกันต่อสู้ก็สามารถเป็นจุดเชื่อมประสานไปยังเรื่องอื่นๆ ในชุมชนด้วย เช่น การสืบสานงานทางวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ การพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวพันกับเรื่องปากท้องและวิถีชีวิตของพวกเขาเอง

ชาวบ้านเขวาโคก-เขวาทุ่ง ประมาณ 35 ครอบครัว จากทั้งหมด 195 ครอบครัว ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำนารวม เพื่อการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในชุมชน เช่น สมาชิกบางคนไม่มีที่ดินทำกินแต่มีแรงงานก็มาร่วมลงแรง บางคนมีเครื่องไม้เครืองมือหรืออุปกรณ์ของใช้ก็เอามาร่วมกัน ตั้งแต่รถอีแต๋นสำหรับบรรทุกของ เครื่องสูบน้ำ รถไถนา เคียวเกี่ยวข้าว

นอกจากนี้ได้ลงขันกันซื้อปัจจัยการผลิตอย่างเมล็ดพันธุ์ หรือปุ๋ยคอก และน้ำมันดีเซล ตัวแปรสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนไปของสภาพดินฟ้าอากาศที่บางปีฝนตกหนักน้ำหลาก บางปีก็แล้งมากจนทำให้ชาวบ้านที่นี่ต้องปรับเปลี่ยนวิถีการผลิตรวมกลุ่มกันไปหาเช่าพื้นที่ทำนาบริเวณใกล้แหล่งน้ำ



ฉะนั้นนารวม ในความหมายของชาวบ้านที่นี่หมายถึงนาที่หลายคนร่วมกันเป็นเจ้าของ ตั้งแต่แรกเริ่มการผลิตจนถึงการเก็บเกี่ยวและนำข้าวที่เหลือจากการแบ่งสันปันส่วนของสมาชิก มาเข้ากองทุนและมาบริหารจัดการโดยคณะกรรมการกองทุนอีกทีหนึ่ง


พ่อคูณ สงมา ชาวบ้านในชุมชนวัย 53 ปี พูดถึงการทำนารวมว่า "ปกติชาวบ้านได้รวมกันทำกิจกรรมงานประเพณีอย่างอื่นอยู่แล้ว พวกเราจึงได้พูดคุยปรึกษาหารือและวางแผนในการทำนารวม เพื่อสร้างจิตสำนึกช่วยเหลือเกื้อกูลกัน คนที่ไม่มีแบ่งปันให้คนที่มี เราอยากให้คนไม่มีที่ดินทำกินได้มีข้าวกิน ไม่ต้องไปซื้อ ไม่อพยพไปใช้แรงงานที่อื่น"



เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2551 นับเป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านที่นี่ได้ร่วมกันเกี่ยวข้าวนารวม ซึ่งมีขนาดพื้นที่ทั้งหมดกว่า 90 ไร่ จากหมู่ 7 และหมู่ 17 บ้านเขวาโคก-เขวาทุ่ง ซึ่งได้กระจายกันอยู่ทั้งหมด 6 แปลง


พื้นที่ของนารวมได้มาโดยที่ทางกลุ่มได้คุยกับเจ้าของที่นา เพื่อขอเช่านาไร่ละ 500 บาท หรือจ่ายค่าเช่าเป็นข้าวเปลือกอันนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าของนา เจ้าของนาบางรายใจดีก็ไม่ได้คาดหวังเรื่องผลผลิตมากนัก มีเท่าไหร่ก็เท่านั้น อย่างแปลงแรกที่เกี่ยวเสร็จของหมู่ที่ 7 มีสมาชิกทั้งหมด 15 ครอบครัว ชาวบ้านได้ข้าวคนละ 32 ถัง ส่วนเจ้าของนาได้ 207 ถัง


สำหรับผลผลิตที่เหลือจากการแบ่งปันกันแล้ว จะเก็บไว้ทำเมล็ดพันธุ์ในปีต่อไป และเก็บไว้ให้สมาชิกที่ข้าวไม่พอกินเพราะประมาณ 20 ครอบครัว ที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเขวาโคก-เขวาทุ่งไม่มีที่ดินทำกิน

 

 

ดังเช่น นางวงศ์ผกา จิตว่อง อายุ 27 ปี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป กำลังเก็บเงินเพื่อซื้อที่ดินแปลงเล็กๆ สำหรับสร้างบ้านและทำเกษตร วันนี้เธอบอกว่า "ได้มาเกี่ยวข้าวนารวมเพราะต้องมาใช้แรงให้เขา (สมาชิกนารวม) เพราะก่อนหน้านี้ได้ไปเอาข้าวเขามากินอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็ได้เอาปลาไปแลกกับข้าวสาร"


ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ชาวบ้านได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อรักษาที่ดินสาธารณะของชุมชนผืนนี้ไว้ได้ ทำให้นายทุนเอกชน 2 ราย ถอนตัวออกไปจากพื้นที่ และศาลได้ยกฟ้องนักเรียนที่ถูกจับในกรณีเข้าไปขัดขวางการทำประโยชน์ของนายทุนในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อปี 2542 ถึงแม้แกนนำชาวบ้านและครูบางคนจะยังมีคดีติดตัวอยู่ เรื่องราวเหล่านี้ก็ไม่สำคัญเท่ากับการรวมตัวกันของคนในชุมชนเพื่อที่จะเรียนรู้ สรุปบทเรียนจากปัญหาที่ดินทำกินและขยายผลการทำงานไปสู่ประเด็นอื่น

 

 

 

บล็อกของ คนไร้ที่ดิน

คนไร้ที่ดิน
ศยามล ไกยูรวงศ์ โครงการเสริมสร้างจิตสำนึกนิเวศวิทยา    การที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เปิดประเด็นการปฏิรูปที่ดิน แจกสปก. นับว่าโดนใจประชาชนที่เฝ้ารอคอย สปก. 4-01 และหวังว่าวันหนึ่งจะมีการออกเป็นโฉนดที่ดินตามแรงโฆษณาของเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมือง ปัญหาการไม่มี สปก. 4-01 ในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินมีจำนวนมาก มีโครงการปฏิรูปที่ดิน แต่ยังไม่มีการปฏิรูปที่ดิน และยังมีปัญหาความไม่ชัดเจนของความซ้ำซ้อนระหว่างแนวเขตของเขตปฏิรูปที่ดินกับที่ดินของรัฐประเภทอื่น เช่น พื้นที่ป่าตามกฎหมาย ที่ราชพัสดุ ที่สาธารณประโยชน์…
คนไร้ที่ดิน
โดย... สมจิต คงทน กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน  ก่อนจะมาเป็นนารวม ชาวบ้านเขวาโคก-เขวาทุ่ง ต.สระบัว อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด ได้รวมตัวกันเพื่อดูแลและฟื้นฟูสภาพป่าสาธารณะของชุมชนที่อยู่คู่มากับหมู่บ้าน ซึ่งมีขนาดพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ ไว้สำหรับหาอยู่หากิน เก็บของป่า เก็บเห็ด เก็บฟืน เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตแต่เมื่อปี 2538 มีกลุ่มทุนเอกชนจากนอกพื้นที่ทั้งหมด 8 ราย มาบุกรุก แผ้วถางป่าธรรมชาติดอนหนองโมง-หนองกลางของหมู่บ้าน เป็นเหตุให้ชาวบ้านที่นี่รวมกลุ่มกันต่อสู้เพื่อรักษาที่ดินผืนนี้ไว้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน
คนไร้ที่ดิน
กองเลขาฯเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ความขัดแย้งและการต่อสู้ของชนชั้นปกครองเป็นไปอย่างดุเดือดและยืดเยื้อ มากกว่า 3 ปี จนยกระดับขึ้นเป็นความขัดแย้งหลักของสังคมไทยในขณะนี้ ขั้วความขัดแย้งคือ กลุ่มทุนอนุรักษ์นิยมภายใต้อิทธิพลศักดินา ส่วนอีกฝ่ายคือ กลุ่มทุนเสรีนิยมใหม่ ความขัดแย้งครั้งนี้ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้โดยง่าย เพราะเป็นการทำศึกวัดดุลกำลัง เพื่อนำไปสู่การจัดปรับความสัมพันธ์ทางอำนาจครั้งใหม่ ทั้งอำนาจในทางการเมือง อำนาจในการควบคุมระบบเศรษฐกิจและฐานทรัพยากรของสังคม ศึกช่วงชิงการยึดกุมความได้เปรียบในโครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจละการผลิตครั้งนี้ “ชนชั้นผู้ชม”…
คนไร้ที่ดิน
เมธี สิงห์สู่ถ้ำ กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน  เมื่อวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ ศูนย์กฎหมายและสิทธิชุมชนพื้นที่อันดามัน และเครือข่ายความร่วมมือฟื้นฟูชายฝั่นอันดามัน ได้จัดเวทีสัมมนาเรื่อง “ทางออกกรณียึดที่ดินชุมชนสัมปทานป่า-เลให้นายทุน” ที่ศูนย์การเรียนรู้ควนปริง ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง มีผู้เข้าร่วมเวทีกว่า 150 คน ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ อาจารย์จากศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาที่ดินของหน่วยงานรัฐไว้อย่างน่าสนใจ…
คนไร้ที่ดิน
ศลิษา ทองสังข์ เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ปัญหาเรื่องที่ดินเป็นปัญหาทางการเมืองและโครงสร้าง ปัญหาที่ดินไม่ได้จำกัดเฉพาะชาวนา หรือคนสลัม แม้แต่คนเมือง คนชั้นกลางก็ประสบปัญหาที่ดินอยู่อาศัย การใช้ประเด็นเรื่องการผูกขาดที่ดิน นักการเมือง กลุ่มผู้มีอิทธิพล ทุนข้ามชาติ และการสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคมโดยรวมและผลกระทบที่เกิดขึ้น จะทำให้สามารถเชื่อมโยงกับสังคมโดยรวมเพื่อสร้างแรงผลักดันการกระจายการถือครองที่ดินได้ ที่ผ่านมามีการผลักดันให้เกิดการแก้ไขมาตรการทางภาษีที่ดิน ตัวอย่างเช่น ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ตั้งแต่ปี 2541 เป็นเวลา 10 ปี เต็ม…
คนไร้ที่ดิน
นนท์ นรัญกร   ประเทศไทยมีพื้นที่ป่า 147 ล้านไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ซึ่งได้แก่ พื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ พื้นที่ต้นน้ำชั้น 1 A และ ป่าสงวนแห่งชาติโซน C ประมาณ 80 ล้านไร่ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การบริหารจัดการพื้นที่ป่าของของกรมอุทยานแห่งชาติ พันธุ์พืชและสัตว์ป่า มีบทเรียนหลายประการ ที่ไม่ได้ถูกนำมาถกเถียงในสังคมไทยเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานให้ดีขึ้น ในขณะที่กำลังจะสร้างปัญหาใหม่ตามมา ดังที่เป็นข่าวเรื่องความพยายามใน การเซ้งพื้นที่อุทยานฯ ให้กับภาคเอกชนเช่าทำธุรกิจ บทเรียนประการแรก…
คนไร้ที่ดิน
พงษ์ทิพย์  สำราญจิตต์สังคมไทย  เป็นสังคมที่เกษตรกรและคนจนไร้ที่ดิน แทบจะไม่มีที่ยืนหรือสามารถบอกเล่าสถานะของตนเองต่อสังคมได้ โครงสร้างสังคมไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะโครงสร้างด้านเศรษฐกิจ การผลิตและการตลาด  ได้ถูกผูกขาดและกำกับควบคุมโดยคนกลุ่มเล็ก บริษัทธุรกิจเอกชนที่มีเงินลงทุนมหาศาล ในสนามเศรษฐกิจที่ถูกผูกขาดไว้แล้วเช่นนี้  แน่นอนว่าเกษตรกรรายย่อยย่อมมิอาจแข่งขันได้ นี่เป็นที่มาของสภาพการณ์ในชนบทสังคมไทยที่เกษตรกรรายย่อยกำลังกลายเป็นแรงงานรับจ้างและคนจนไร้ที่ดินมากขึ้นทุกขณะ
คนไร้ที่ดิน
                                                                                                   …
คนไร้ที่ดิน
  สมจิต  คงทนกลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน (โลโคลแอค)เมื่อชาวบ้านถูกฟ้องคดี"ก่อนถูกฟ้องคดีเขาเป็นคนขยัน พอถูกจับและยึดที่ดินไป  ซึ่งเป็นที่ดินที่เขาสองคนผัวเมียได้อยู่อาศัยทำกินกันมายาวนาน เขากลายเป็นคนคิดมาก ควบคุมสติตัวเองไม่ได้  ทุบตีเมียตัวเอง และเคยคิดฆ่าตัวตาย จนกลายเป็นปัญหาครอบครัว สุดท้ายก็ต้องแยกทางกัน  ส่วนลูก 2 คนก็แบ่งกันไปคนละคน"  นางเหิม เพชรน้อย ชาวบ้านตำบลบ้านนา จังหวัดพัทลุง เล่าถึงชะตากรรมชีวิตของเพื่อนบ้านครอบครัวหนึ่งที่ถูกฟ้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า หรือ…