Skip to main content

หมายเหตุประชาไท: พื้นที่นี้อุทิศแด่ผู้ไม่มีโอกาสได้ส่งเสียง เพราะเสียงของเขาถูกขังอยู่ภายใต้ลูกกรง ด้วยความผิดเกี่ยวกับความคิด/การกระทำทางการเมือง ท่ามกลางสภาวะทุกข์ยากอันเงียบงัน แม้แต่ปากกาดีๆ สักด้ามเพื่อเขียนจดหมายยังเป็นสิ่งที่หาได้ยาก แต่นั่นแหละ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตต้องการส่งเสียง สื่อสารความคิดของตนเองเสมอ และเขาก็หาทางส่งเสียงออกมาจนได้ (และหวังว่าจะยังส่งมาได้เรื่อยๆ)

 

นายหัว ส.

มีคำกล่าวที่ว่า “คุกเจริญสังคมเสื่อม คุกเสื่อมสังคมเจริญ” เป็นดัชนีชี้วัดสังคมไทยปัจจุบันอย่างหนึ่ง เพราะเวลานี้คุกของประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองมาก มีผู้ต้องขัง 240,000 คน ล้นทุกคุก ทั้งๆ ที่เพิ่งมีการพระราชทานอภัยทาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ที่เพิ่งผ่านมา 3 เดือนเท่านั้น

ในการพระราชทานอภัยโทษเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 กรมราชทัณฑ์ปล่อยผู้ต้องขังไปประมาร 24,000 คน จากยอดผู้ต้องขังทั่วประเทศ 240,000 คน ดังนั้น ผ่านมาแค่ไม่ถึง 3 เดือน ยอดผู้ต้องขังทั่วประเทศก็กลับมาเท่าเดิม สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับกรมราชทัณฑ์จนคิดจะสร้างคุกเพิ่มชนิดที่ทันสมัย ปลอดคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ถ้าให้ดีควรใช้ผู้คุมหุ่นยนต์แทนผู้คุมมนุษย์ เพื่อป้องกันการนำเข้ายาบ้าและโทรศัพท์มือถือ

การที่มีคนถูกคุมขังจนล้นคุก พิจารณาอย่างอื่นไม่ได้นอกจากบ่งบอกว่าสังคมไทยเสื่อมทรามเต็มที การขังคนเอาไว้ยิ่งมาก การสร้างคุกเพิ่มยิ่งมาก จะยิ่งเป็นการประจานความล้มเหลวในการแก้ปัญหาของรัฐบาล

ทางที่ถูกที่ควร รัฐบาลจะทำอย่างไรในการขังคนเอาไว้ในคุกน้อยที่สุด และทำอย่างไรให้คุกร้างจนถูกยุบ ผู้คุมตกงาน นั่นจึงเป็นสิ่งบ่งบอกความสำเร็จของรัฐบาล

นับตั้งแต่รัฐบาลนี้ขึ้นมาบริหารประเทศ กรมราชทัณฑ์มีแต่ข่าวคราวด้านลบ ทั้งข่าวการตรวจค้นคุกยึดยาเสพติด ยึดโทรศัพท์มือถือ เครือข่ายยาเสพติดจากคุก เป็นการโฆษณาด้านเดียวทับถมชาวคุกเพื่อผลงานของตัว ส่วนคุกไหนตรวจค้นไม่พบอะไรเลยก็ไม่เป็นข่าวเป็นความดีความชอบ

ทั้งๆ ที่เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนผู้ต้องขังทั่วประเทศจำนวนสองแสนกว่าคน คนที่ทำผิด ทำชั่วมีแค่หยิบมือเดียว แต่ผู้ต้องขังส่วนใหญ่พลอยได้รับเคราะห์ไปด้วยเพราะสังคมมองแบบเหมารวมว่าเลวหมดทั้งสองแสนกว่าคน เวลาจะมีการพระราชทานอภัยโทษก็จะออกมาคัดค้าน อยากให้กรมราชทัณฑ์ขังเอาไว้ให้ตายทั้งหมดในคุก เกิดทัศนะเชิงลบต่อชาวคุกทั่วประเทศ

จึงอยากขอร้องต่อรัฐบาลนี้อย่าโหมโฆษณาแต่ด้านลบ ควรหันมาดูแลปรับปรุงแก้ไขด้วย เพราะขณะที่ ส.ส.และ ส.ว.เงินเดือนขึ้น ปริญญาตรีเงินเดือนขึ้น 15,000 บาท ค่าแรง 300 บาท แต่ค่าอาหารของผู้ต้องขังกลับลดลงจาก 52 บาทเหลือ 42 บาท ยามเจ็บป่วยมีแต่ยาพาราเซตามอล ไม่เห็นมีรัฐมนตรีท่านใดออกมาพูดเลย เรื่องนี้ถามรัฐมนตรีณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ย่อมทราบดี

ทางด้านการแก้ไขความคิดผู้ต้องขังเพื่อให้เป็นไปตามคำขวัญของกรมราชทัณฑ์ว่า “คืนคนดีสู่สังคม” ทางรัฐบาลน่าจะขอความร่วมมือจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทำหลักสูตรช่วยเลือกรมราชทัณฑ์ ในการอบรมแกไขความคิดจิตใจผู้ต้องขัง เพราะกรมราชทัณฑ์มีจุดอ่อนด้านนี้ “เข้มแข็งในการควบคุม แต่อ่อนด้อยในการแก้ไข”

อีกเรื่องหนึ่งคือ เมื่อมีวาระสำคัญของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่จะมีการพระราชทานอภัยโทษ รัฐบาลจะต้องทำอย่างจริงใจ เพื่อแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นคุกด้วย ไม่ใช่ทำอย่างกล้าๆ กลัวๆ ชำเลืองดูฝ่ายค้าน และทำอย่างกะปริบกะปรอยอย่างเสียไม่ได้ ไม่ได้แกปัญหาผู้ต้องขังล้นคุกเลยอย่างคราวที่แล้ว

เพราะในปี 2555 นี้มีวาระสำคัญของชาติ รัฐธรรมนูญ และพระมหากษัตริย์ คือในวันที่ 24 มิถุนายน 2555 จะเป็นวันครบรอบ 80 ปีของการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นระบอบประชาธิปไตย และในวันที่ 10 ธันวาคม 2555 ก็จะเป็นวันครบรอบ 80 ปีของการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทย

วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ วันที่ 12 สิงหาคม 2555 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา

ค่อนข้างแน่ชัดว่ารัฐบาลจะมีการขอพระราชทานอภัยโทษผู้ต้องขังทั่วประเทศ เพื่อเป็นการถวายพระกุศลแด่พระองค์ท่านทั้งสองพระองค์ และเฉลิมฉลองวันสำคัญของชาติไทย

รัฐบาลจึงควรคำนึงถึงการแก้ปัญหาสังคมไทย ในกรณีนักโทษล้นคุกด้วย เพราะหลังจากวาระนี้แล้วคราวต่อไประยะของการอภัยโทษจะห่างออกไปถึง 2 ปี คิดพเอาแล้วกันว่าเวลานั้นผู้ต้องขังในคุกจะเพิ่มเป็นเท่าไร เพราะคำนวณดูแล้ว กรมราชทัณฑ์จะกำไรผู้ต้องขังเดือนละประมาณ 6,000 คน เพราะการรับคนใหม่มากกว่าการปล่อยคนเก่าทุกเดือน เพราะสังคมยิ่งเสื่อม คุกยิ่งเจริญ.

บล็อกของ นายหัว ส. และมิตรสหาย

นายหัว ส. และมิตรสหาย
เรื่องเล่าจากนักโทษเสื้อแดงถึงชะตาชีวิตของนักโทษการเมืองในอีกฟากฝั่งของอุดมการณ์ที่ยังต่อสู้ขับเคี่ยวกันอย่างไม่ละวาง แต่ในพื้นที่ๆพวกเขาถูกจำกัดอิสรภาพไม่ต่างจากสัตว์ที่ถูกล่ามขัง พวกเขากลับมองกันด้วยสายตาแห่งมิตรภาพ
นายหัว ส. และมิตรสหาย
จดหมายตอบกลับจากหนุ่ม เรดนนท์ ผู้ต้องขัง 112 ถึงบุคคลต่างๆ ที่เขียนจดหมายเข้าไปพูดคุยกับนักโทษการเมือง เขาไม่ได้ตอบกลับรายบุคคลเพราะไม่มีที่อยู่ จึงเขียนตอบในที่สาธารณะ เป็นบทสนทนาประวัติศาสตร์ที่กระเสือกกระสนหาช่องทางเองตามประสาคนตัวเล็กๆ
นายหัว ส. และมิตรสหาย
ขอให้คนเสื้อแดงจัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งเพื่อรณรงค์เรียกร้องต่อศาลสถิตยุติธรรมให้พิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่คนไทยทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความปรองดองของคนในชาติ
นายหัว ส. และมิตรสหาย
เมียนมาร์เป็นตัวอย่างที่น่าศึกษาสำหรับประเทศไทย ประเทศพม่า หรือเมียนม่า ปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการทหารมาช้านานห้าสิบกว่าปี ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหาร ประกอบด้วยชนกลุ่มน้อยต่างๆ ที่จับอาวุธขึ้นสู้ รวมกับผู้รักประชาธิปไตยชาวเมียนม่าที่นำโดย ออง ซาน ซูจี
นายหัว ส. และมิตรสหาย
ความปรารถนาดีจากผู้ถูกคุมขังลอดผ่านซี่กรงแดนตารางสู่ผู้รักประชาธิปไตย
นายหัว ส. และมิตรสหาย
      จากกองทัพปลดแอกประชาชนไทย กลายเป็นกองทัพรับจ้างระบอบอำมาตย์และพรรคคอมมิวนิสต์บุพกาล
นายหัว ส. และมิตรสหาย
สภาผู้แทนคนเสื้อแดงในคุกอภิปรายถึง สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ผู้ต้องขังคดีการเมืองวัย 70ปี ถึงประวัติการถูกจองจำจากคดีการเมืองอันโชกโชน
นายหัว ส. และมิตรสหาย
โดย นายหัว ส. 27 มิถุนายน 2555       การประชุมสภาผู้แทนคนเสื้อแดงในคุกวันนี้ วันที่ 27 มิถุนายน 2555 เพื่อแสดงความยินดีที่คนเสื้อแดง ผู้ต้องหาเผาศาลากลางจังหวัดมุกดาหารทั้ง 13 คน ได้รับอิสรภาพจากการอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวของศาลอุทธรณ์ สภาคนเสื้อแดงคุกมีความหวังว่า คนเสื้อแดงที่ยังถูกคุมขังอยู่ ในคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองอีก 40 กว่าคน จะได้รับอิสรภาพในเร็วๆ นี้ด้วย  
นายหัว ส. และมิตรสหาย
 นายหัว ส.
นายหัว ส. และมิตรสหาย
  นายหัว ส. พฤหัสบดี 26 เมษายน 2555  
นายหัว ส. และมิตรสหาย
โดย... นายหัว ส. ชื่อบทความเดิม: เสื้อแดงในคุกถือคติหมากัดอย่ากัดตอบ ผิดระบอบ..เพราะเราไม่ใช่หมา !!