Skip to main content

 

              ในวันที่ 15 ตุลาคม 1981 ที่โรงภาพยนตร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองดีทรอยต์ ได้มีภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำเรื่องหนึ่งออกฉายที่นั้น ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนั้นเป็นภาพยนตร์ที่กำกับและถ่ายทำโดยวัยรุ่นคึกคะนองกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เรียนกระทั่งภาพยนตร์เลยแม้แต่นิดเดียว แต่พวกเขากลับทำหนังสั้นออกมาก่อนจะขยายเป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยกลุ่มวัยรุ่นห้าคนที่ไปพักในบ้านเก่ากลางเขาก่อนที่พวกเขาจะเผลอไปปลุกวิญญาณร้ายให้คืนชีพขึ้นมาเข้าสิงร่างของพวกเขาทีล่ะคนจนเหลือเพียงชายหนุ่มคนสุดท้ายที่ยืนหยัดต่อสู้กับมันเพื่อเอาชีวิตรอด ได้ทำให้ผู้คนในโรงภาพยนตร์ต่างสะดุ้งโหยงด้วยความกลัวและน่าสยดสยองของมัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำที่มีชื่อว่า The Book of the dead หรือในเวลาต่อมามันจะมีชื่อที่เป็นที่รู้จักในนามของ Evil dead หรือ ผีอมตะ นั่นเอง
 
โปสเตอร์ของผีอมตะตอนฉายเมืองไทย ที่มีความผิดพลาดเล็กตรงที่หนังเรื่องนี้ไม่ใช่บทประพันธ์ของ สตีเฟ่น คิงครับ แค่คิงชอบเรื่องนี้เฉย ๆ
 
โปสเตอร์ Evil dead ในสมัยที่เข้ามาฉายในประเทศไทย ซึ่งมีจุดผิดพลาดที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคือ บอกว่าเป็นบทประพันธ์ สตีเฟ่น คิง ราชานิยายสยองขวัญทั้งที่ คิง แค่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้จนมีบทวิจารณ์เท่านั้น (แต่พี่ไทยล่อกันแบบนี้เลย)
 
 
              และเป็นเวลากว่า 32 ปีแล้วที่ตำนานของผีอมตะยังคงมีชีวิตโลดแล่นอยู่ในโลกภาพยนตร์โดยที่ไม่ได้จางหายไปเลยแม้แต่น้อย ท่ามกลางความสงสัยของผู้คนที่สงสัยว่า เจ้าหนังเกรด Z เรื่องนี้มีดีอะไรถึงได้ไม่ได้หลงลืมไปแบบหนังเกรด Z เรื่องอื่น ๆ บนโลกนี้ที่สร้างมาและหายไป ซึ่งตรงคงต้องบอกว่า มันต้องขอบใจตัวหนังที่ไม่ว่าจะเปิดดูครั้งใดก็ยังคงสร้างความสยองขวัญให้แก่ผู้คนได้ตลอดเวลาจนถูกกล่าวขานไปตลอด สิ่งที่เราควรจะรู้ก็คือ หนังเรื่องนี้มาดังระเบิดระเบ้อเอาจริง ๆ ก็ต้องที่มันถูกส่งลงวีดีโอตามร้านเช่าต่าง ๆ ที่ปรากฏว่า มันเป็นหนังที่มียอดเช่าสูงที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ควรจะรู้ก็คือ Evil dead คือหนังที่มียอดการโดนขโมยสูงที่สุดในร้านเช่าต่าง ๆ ในอเมริกา เช่นเดียวกับวีดีโอของหนังเรื่องนี้ในตลาดมืดมีราคาที่สูงมาก ๆ ทำให้มีก๊อบปี้เถื่อนออกมาเต็มไปหมดเลยทีเดียว
 
               สมัยที่ผมจำความได้นั้น ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผมดูก็คือ ภาพยนตร์เรื่องนี้นั่นเอง ซึ่งเป็นผลจากการที่บ้านมีร้านเช่าวีดีโออยู่ที่หน้าบ้านและพ่อของผมก็มักจะเช่ามันมาดูเสมอ และสิ่งที่จะต้องตกใจก็คือ นี่คือหนังที่บ้านผมเช่ามานั่งดูกันบ่อยที่สุดจนเจ้าของร้านยังแซวว่า ซื้อไปเก็บได้แล้ว
 
                พ่อกับแม่มักจะบอกกับผมเสมอว่า เวลาเปิดเรื่องนี้ผมจะหัวเราะร่าด้วยความดีใจ ในขณะที่คนอื่น ๆ เบื่อหน่ายเพราะดูซ้ำกันไม่รู้กี่รอบจนไม่รู้ว่า ตั้งแต่เด็กจนโตตัวผมชมหนังเรื่องนี้ไปแล้วกี่รอบกันแน่
 
                แต่ถ้ารวม ๆ ก็ไม่ต่ำกว่า 30 รอบแน่นอน
 
                ด้วยเหตุนี้ผมจึงปวารณาตัวเป็นสาวกของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเดนตายอย่างยิ่งท่ามกลางสายตาดูถูกเหยียดหยามของใครหลายคนที่เวลาถามถึงภาพยนตร์ที่ชอบที่สุดและส่งให้มาเรียนภาพยนตร์กลับเป็นหนังเกรดบีขยะกระจอก ๆ เรื่องนี้ที่หลายคนร้องยี้ใส่ซะงั้น ซึ่งเอาตามจริงแล้วสถานะของผีอมตะก็เริ่มต้นจากเป็นเพียงหนังผีขยะกระจอกก่อนจะสั่งสมบารมีจนมาถึงปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชื่อว่ามันจะไม่ตายสมชื่อของมันจริง ๆ
 
แถมมันพึ่งคืนชีพกลับมาอาละวาดอีกครั้งและกำลังมาถึงเมืองไทยในอีกไม่นานนี้
 
 
               จุดเริ่มต้นที่สำคัญของ Evil dead นั่นคือการนำเรื่องราวในหนังสั้นของแซม ไรมี่ที่มีชื่อว่า Within in the woods มายำใหม่อีกครั้งหลังจากเคยนำหนังสั้นเรื่องไปฉายและได้รับเสียงตอบรับที่ดีจนกลายเป็นความคิดจะสร้างหนังยาวขึ้นมาโดยนำหนังเรื่องนี้ไปเคาะประตูบ้านผู้มีอันจะกินทั้งหลายในเมืองและนำหนังเรื่องนี้ไปฉายให้ดูจนได้เงินมาทำหนังเป็นจำนวน 90,000 เหรียญก่อนที่งบจะไปจบที่ 375000 เหรียญเท่าที่มีการบันทึกเอาไว้ในภายหลังทำให้หนังเรื่องนี้เรียกได้ว่ามีทุนสร้างที่ต่ำเตี้ยดินอย่างเห็นได้ชัดแจ้ง แต่ที่หนักหนากว่านั้นก็คือ หนังมีการถ่ายทำที่ยาวนานอย่างยิ่งคือ เริ่มเปิดกล้องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 1979 จนถึงเดือนพฤษภาคมปี 1980 ซึ่งมีการถ่ายซ้อมอีกหลายต่อหลายครั้งเลยทีเดียว รวมเวลาทั้งหมดก็ 3 ปีเลยทีเดียว
 
 
              เรื่องราวของผีอมตะนั่นเป็นเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นห้าคนได้แก่ แอช (บรูซ แคมเบลล์) ลินดาแฟนของแอช (เบ็ตซี่ เบเกอร์) สก๊อต (ฮัล เอลริชหรือ ริช เดอมานิคอร์) เชลลี่แฟนของสก๊อต (เทรีซ่า ทิลลี่) และ เชอริล น้องสาวของแอช (เอลเลน แซนด์ไวส์) ที่ขับรถกันมาท่องเที่ยวกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ และที่ที่เขาตั้งใจจะมาก็คือ กระท่อมร้างแห่งหนึ่งในป่าลึกกลางหุบเขา ซึ่งเขาเช่ามาในราคาที่ถูกมาก ๆ
 
            แน่นอนว่า เราพึงสงสัยขึ้นมาว่า ใครกันนะที่เป็นเจ้าของกระท่อมร้างแห่งนี้กันแน่ เพราะในหนังก็พูดถึงเขาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นแต่ไม่มีการบอกเล่าอะไรเลยอีกเลย
 
            จากนั้นสก๊อตได้ไปพบกับหนังสือประหลาดมีหน้าคล้ายคนเป็นหน้าปกและเทปบันทึกเสียงเข้าที่ใต้ดิน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นไม่เข้าเรื่อง สก๊อตจึงเปิดเทปนั้นที่เป็นคาถาปลุกผีขึ้นและทำให้ผีร้ายออกอาละวาดเข้าสิงเพื่อน ๆ ในกลุ่มไปทีล่ะคนสองจนเหลือเพียงแอชเพียงคนเดียวที่ยืนหยัดต่อสู้กับพวกผีร้ายเหล่านี้ได้เป็นคนสุดท้ายด้วยซ้ำ
 
 
 
              สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เรื่องราวของหนังที่ดูแล้วก็ไม่ต่างจากหนังสยองขวัญทั่วไปเท่าไหร่นัก เพราะมันพูดถึงวัยรุ่น ๆ โง่ ๆ ดวงซวยกลุ่มหนึ่งที่ไปปลดปล่อยผีร้ายออกมาทำให้ตัวเองต้องพบกับความตายที่น่าอนาถ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับหนังสยองขวัญยุคนั้นที่มีแต่วัยรุ่นโง่ ๆ เต็มหมด แต่ที่ทำให้ผีอมตะโดดเด่นก็คือ ความสุดทางของมันทั้งด้านความสยอง ความตื่นเต้นที่หนังได้ทำออกมา อาจารย์ประวิทย์ แต่งอักษรกล่าวไว้ว่า Evil Dead เป็นหนังที่คนดูมีปฏิกิริยากับเรื่องมากทั้งการส่งเสียงเชียร์ให้พระเอกกล้าไปสู้กับผีร้าย หรือกระทั่งส่งเสียงร้องเตือนให้ตัวเองระวัง ซึ่งเรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมกับหนังได้เช่นนี้
 
              อีกอย่างที่หนังถูกกล่าวขวัญถึงก็ไม่พ้นฉากสยองขวัญต่าง ๆ ตั้งแต่ขวานสับ เลื่อยยนต์จนไปถึงกระทั่งฉากในตำนานอย่าง ต้นไม้ข่มขืนที่หลายคนบอกว่า เป็นสุดยอดฉากสยองขวัญที่หลายคนจดจำเลยทีเดียว
 
              แม้กระทั่งอาจารย์ประวิทย์ แต่งอักษรยังพูดถึงฉากนี้ว่า คนทำหนังต้องป่วยทางจิตอย่างแน่นอนที่สร้างฉากนี้ขึ้นมา ซึ่งไรมี่ก็เห็นด้วยว่า มันรุนแรงเกินไปและหากย้อนเวลาได้ เขาก็อยากจะกลับไปแก้ไขใหม่อีก (ซึ่งน่าตลกที่หนังในเวอร์ชั่นใหม่ก็มีฉากต้นไม้ข่มขืนด้วยเช่นกัน )
 
             นอกจากนั้นกว่าตัวหนังจะมีตัวตนก็ต้องผ่านอุปสรรคมาเยอะมากมาย ทั้งเงินทุนที่น้อยและมีจำกัด หรือกระทั่งเวลาการถ่ายที่ยืดยาวจนส่งผลให้นักแสดงบางส่วนไม่อาจจะมาถ่ายทำซีนที่เหลือได้เหลือเพียง ไรมี่ บรูซ อีวาน เทเพริ์ต ซัลลิแวน และ เท็ด ไรมี่ น้องชายของเขาที่มาถ่ายฉากนี้ ส่งผลให้เท็ด ไรมี่ต้องสวมบทเป็นแสตนอินตัวละครผีร้ายในเรื่องแทนนักแสดงที่ไม่มาในเรื่องนี้ นี่เองที่เป็นข้อสังเกตว่า หลายฉากของหนังนั้นตัวผีหน้าตาไม่เหมือนกับพวกสาว ๆ ในเรื่องเท่าไหร่นั กก็เพราะ คนแสดงคือ เท็ด ไรมี่นั่นเอง 
 
 
(Ted Raimi น้องชายของแซม ไรมี่ ในภาพเป็นตอนที่เขารับบทเป็น ปีศาจฮันริเอตต้า ใน Evil dead 2)
 
              ซึ่งหลังจากนี้ เท็ด ไรมี่จะโผล่ไปแสดงให้หนังเรื่องต่าง ๆ ของ แซม ไรมี่และบรูซ แคมเบลล์มากมาย และเป็นนักแสดงคนเดียวนอกจากบรูซที่ได้เล่น Evil dead ครบทั้ง 3 ภาค รวมงานสยองขวัญอย่าง Drag me to hell อีกด้วย เป็นนักแสดงที่คนมักจะเห็นหน้าของเขาบ่อย ๆ ในหนังของทั้งคู่ (และล่าสุดใน Oz the Great and Powerful) 
 
              แน่นอนว่าหลังจากหนังออกฉายมันได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งด้วยทุนสร้างอันน้อยนิดแต่กลับทำเงินได้ถึง 2.4 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว แต่ก็ไปฮิตสนั่นในตลาดวีดีโอภายหลัง (และเป็นกระแสเริ่ม ๆ ของหนังประเภทไม่ดังตอนฉายโรง แต่ดันดังตอนลงวีดีโอซะงั้น) และมีภาคต่อตามมาถึงสองภาคเลยทีเดียวได้แก่ Evil dead 2 : Dead by Dawn และ Army of Darkness 
 
 
 
 
             และความสำเร็จของมันก็ทำให้มีผู้กำกับอีกจำนวนมากที่ต่างมองหนังเรื่องนี้เป็นครูในการระดมทุนหาเงินทำหนังของตัวเองกันหลายคน ซึ่งหลัก ๆ ก็ได้แก่ สองพี่น้องโคเฮนที่รับหน้าที่ตัดต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ให้และนำวิธีนี้ไปหาเงินทำหนังเรื่องแรกของเขาที่ชื่อ Blood Simple หรือผู้กำกับที่พาเราไปสัมผัสโลกของ The Lord of the ring อย่าง ปีเตอร์ แจ็คสันก็ใช้วิธีเดียวกันนี้หาเงินทำ Bad Taste หนังแรกก่อนที่เขาจะทำหนังที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Evil dead โดยตรงอย่าง Dead Alive ในภายหลัง
 
             หรือในเมืองไทยเองก็มีหนังอย่าง ทองสุก 13 ที่ทั้งผู้กำกับและคนเขียนบทได้บอกในบทสัมภาษณ์ว่า พวกเขาชื่นชอบ Evil dead มานานแล้วและอยากทำหนังแบบนี้บ้างส่งให้ผลเกิดหนังเรื่องนี้ออกมา
 
              และอย่าลืมว่า เมื่อปีที่แล้วเราก็มีหนังเรื่อง The Cabin in the wood ที่แทบจะเรียกว่า เป็นการคารวะหนังเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดแจ้งตั้งแต่โปสเตอร์หนัง ตัวบ้านไปจนถึงใต้ดิน มือผีและองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ทำให้แฟน ๆ หนังเรื่องนี้แทบจะบ้าคลั่งกันเลยทีเดียวที่หนังสยองขวัญในตำนานเรื่องนี้ถูกนำมาคารวะโชว์ให้เห็นกันแบบนี้
 
               แถมตัวละครที่ชื่อว่า แอช ยังเป็นต้นกำเนิดของคำว่า Final guy ที่ถูกสร้างขึ้นมาเคียงคู่กับคำว่า Final Girl หรือผู้หญิงที่รอดคนสุดท้ายที่เป็นสูตรของหนังสยองขวัญในยุคนั้นที่มักจบว่า ผู้หญิงเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายเสมอ (ซึ่งหนังสั้น Within the woods เองก็จบด้วยการให้เอลเลนรอดเป็นคนสุดท้าย) กลายเป็นผู้ชายรอดคนสุดท้ายแทน ซึ่งได้กลายเป็นอิทธิพลให้หนังเรื่องอื่น ๆ อีกในอนาคต  และบทบาทแอช ได้กลายเป็นภาพจดจำของบรูซ แคมเบลล์ไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว (จนถึงขั้นมีหนังสือการ์ตูนออกมาและส่งแอชไปตีกับเจสันจาก Friday Night 13 Th และเฟรดดี้ จาก Nightmare on the elm street เลยทีเดียว) 
 
 
Ash (Bruce Campbell) 
 
               นอกจากนี้ Evil dead ยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นสื่ออื่นอีกมากมายหลังความสำเร็จในภาคที่ 2 ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีทั้งการ์ตูนที่จังคาแรคเตอร์ของแอชไปเผชิญหน้ากับผีในโลกภาพยนตร์สยองขวัญอื่น ๆ เกมที่ทำออกมาหลายภาคในระบบทั้ง PS1 และ PS2 และยิ่งไปกว่านั้นยังมีละครเวทีเพลงกันเลยทีเดียว ยิ่งเป็นการบอกถึงสถานะที่ไม่ธรรมดาของหนังสยองขวัญเกรดบีเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
 
 
การแสดงละครเวทีเรื่อง Evil dead The Musical
 
\
Comic เรื่อง Evil dead ของค่าย Darkhouse Comic
 
               และสิ่งที่ Evil dead ได้สะท้อนให้เราเห็นในหนังทั้งเรื่องก็คือ ความอัจฉริยะภาพและความมุมานะ ไม่ยอมแพ้ของคนทำหนังกลุ่มเล็ก ๆ ที่ได้สร้างสรรค์หนังสยองขวัญเรื่องหนึ่งเอาไว้เพียงเพราะ อยากจะทำหนังสักเรื่อง  แม้ว่าจะลำบากเพียงไร พวกเขาก็ไม่ยอมอพ้ เหมือนกับที่แอช ไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้กับผีดิบที่ตายตายเย็นนั่นเอง
 
             บัดนี้ เวลาได้พิสูจน์แล้ว มันไม่ใช่เพียงหนังขยะกระจอก ๆ อย่างที่หลายคนตีความ
 
              เวลาที่ผ่านไป 32 ปีได้พิสูจน์ไว้แล้วว่า มันไม่มีวันตายจริง ๆ 
 
              
 
               ป.ล. ภาพยนตร์ฉบับรีเมคเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 5 พฤษภาคม 2556 นี้ครับ ซึ่งล่าสุดจากหนังทำเงินไปถึง 63 ล้านจากทุนสร้างเพียง 17 ล้านดอลลาร์เท่านั้นพร้อมกับบทวิจารณ์ที่ค่อนข้างดีมาก ๆ ในบรรดาหนังที่นำมารีเมคทั้งหลายส่งผลให้มีภาคต่อแน่นอนแล้ว และที่สำคัญตัว Sam Raimi เองก็กำลังเริ่มเขียนบท Army of Darkness 2 หรือ Evil dead 4 แล้วครับ
 
             ข้อมูลประกอบการเขียน หนังสือยากทำหนังแต่ฉันไม่มีตังค์ , บทวิจารณ์จากคอลัมน์ Replay ของอาจารย์ประวิทย์ แต่งอักษร , บทความ Evil dead ใน Filmax 
 

บล็อกของ Mister American

Mister American
          ท่ามกลางควันสีขาวที่โพยพุ่งออกมาจากปล่องของเมรุแห่งหนึ่งในอำเภอเล็กๆ ที่แสนสงบสุข ชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าเมรุนั้นพลางทำสีหน้าที่ยากจะบรรยายได้ว่า เขากำลังคิดอะไรอยู่ภายในใจหลังจากที่คู่ชีวิตของเขาได้จากลาลับไปเสียก่อนแล้ว สีหน้าที่นิ่งเฉยของชายชราพร้
Mister American
  ในที่สุดมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่าง โอลิมปิค 2012 ก็ได้จบลงไปแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอลิมปิคที่หลายคนจดจำและลุ้นกันอย่างเต็มที่ว่า ทัพนักกีฬาของประเทศไทยจะคว้าเหรียญทองกลับมาได้หรือไม่ นอกจากยังมีควันหลงมากมายที่เกิดขึ้นในกีฬา
Mister American
             ช่วงนี้การเมืองของประเทศไทยดูค่อนข้างสงบเรียบร้อยดีนะครับ ไม่ค่อยมีเหตุการณ์ที่ชวนให้เสียวบั่นท้ายแบบเมื่อเดือนที่แล้วหรือเมื่อหลายปีก่อนเท่าไหร่นักราวกับ พายุฝนได้พัดผ่านไปแล้ว ทว่า ความสงบนี้เองกลับเป็นความรู้สึกที่ไม่เป็นมิตรเท่าใด เพราะมีคำกล่าวไว้ว่า  น้ำนิ่งย่อมไหลลึก หรือ ความสงบสุขก่อนพายุลูกใหม่จะมาถึง   
Mister American
          ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจแก่เหตุโศกนาฏกรรมในโรงหนังในรัฐโคโลลาโด้ นี่เป็นอีกครั้งที่สังคมอเมริกาได้รับรู้ว่า ภัยที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การก่อการร้ายแต่เป็นระบบการซื้อขายปืนที่ง่ายดายอย่างยิ่งราวกับขนมของประเทศตัวเอง ซึ่งในความเห็นของผมแล้ว ควรจะมีการทบทวนกฎหมายนี้ให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้นเสียที หลายคนถามผมว่ามันเกิดจากอิทธิพลของหนังหรือเปล่า ผมส่ายหน้าว่า หนังไม่มีทางทำให้คนลุกขึ้นยิงใครแบบนั้นแน่นอน  ซึ่งต้องอยู่ที่การสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ว่าจะออกมาอย่างไร  
Mister American
               กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เด็กชายตัวเล็กๆในครอบครัวคนรวยอันแสนอบอุ่นนามว่า บรูซ เวย์น ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อพ่อและแม่ของเขาถูกฆ่าด้วยโจรกระจอกคนหนึ่งส่งผลให้โลกของเขาล่มสลายไปในทันตาแถมกฎหมายยังไม่สามารถเอาผิดโจรคนนั้นได้นั้นทำให้ตั
Mister American
             เชื่อว่า หลายคนคงได้รับทราบสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยกันไปแล้วนะครับ และผมเชื่อว่า มีปฏิกิริยาหลายอย่างเกิดขึ้นแน่ๆในสังคมไทยแห่งนี้ แต่ที่แน่ๆก็คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยยังไม่ยุติ แต่กำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง มีหลายคนถามผมว่า เพราะอะไรประเทศไทยถึงเป็นเช่นนี้ แน่นอนว่า หลายคนก็คงมีคำตอบเป็นของตัวเองกันอยู่แล้ว แต่สำหรับทัศนะของผมแล้ว การที่ประเทศไทยเป็นอย่างทุกวันนี้นั้นก็เพราะ การที่มีการเล่นนอกเกมกนั้นเอง ดังนั้นหากเปรียบการเมืองเป็นอะไรสักอย่างล่ะก็คงไม่พ้น กีฬานั้นเอง
Mister American
         “การเป็นเกย์ กระเทย เป็นเรื่องวิปริต”
Mister American
                      เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่าน คนไทยหลายคนคงงุนงงว่า มันเป็นวันอะไรเพราะไม่ได้มีวันหยุดราชการ ไม่ได้มีนายกรัฐมนตรีออกมาพูดเรื่องวันนี้ราวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้ถูกลืมไปแล้วในสังคมไทย ซึ่งที่จริงแล้วก็มีกลุ่มค
Mister American
           เมื่อหลายวันที่ผ่านมา หลายคนคงได้ทราบข่าวเหตุการณ์สะเทือนขวัญกลางกรุงนั้นก็คือ เหตุการณ์ที่เด็กช่างกลโรงเรียนหนึ่งได้สาดกระสุนเข้าไปในรถเมล์ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงสองคน ซึ่งข่าวนี้ได้สร้างความตื่นตะลึงและน่าตกใจอย่างยิ่งแก่สังคม และเป็นอีกครั้งที่คนก่อเหตุ
Mister American
             ท่ามกลางความวุ่นวายในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งในรัฐสภา ทั้งบนท้องถนน เราได้เห็นภาพที่ไม่น่าเชื่อปรากฏขึ้นต่อสายตาของใครหลายคน ภาพเหล่านั้นทำให้ใครหลายคนต่างเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับระบอบที่ถูกเรียกประชาธิปไตยว่า ช่างไม่มีความสงบสุขเลยแม้แต่น้อย หล
Mister American
   (บทความตอนนี้จะเป็นเรื่องเบาๆเพื่อให้เตรียมตัวกันให้พร้อมก่อนชมภาพยนตร์เรื่อง Prometheus)
Mister American
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับป๋าไมเคิ่ล ฮานาเก้ที่ได้รางวัลปาล์มทองอีกครั้งหนึ่งจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ Ffpภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาอย่าง Amour ที่เรียกได้ว่าเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่า ฝีมือการทำหนังของผู้กำกับคนนี้เป็นของจริงที่ยิ่งเวลาผ่านไปรสชาติการทำหนังของเขาก็ยิ่งเข้มข้นทุกทีไม่เหมือนผู้กำกับอีกหลายรายที่มือตกไปอย่างไม่น่าอภัย กระนั้นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับชายที่ชื่อว่า ไมเคิ่ล ฮานาเก้นี้ก็คือ แค่หนังเรื่องแรกของเขานั้นก็ปรากฏแววเก่งมาในทันที  และหนังเรื่องแรกของเขาก็คือ The Seven Continent นั้นเอง