Skip to main content
     ไปเชียงใหม่ครั้งที่ผ่านมา นั่งคุยกับมิตรสหายทั่นพี่นักเขียน ผมเล่าว่า พักหลังมันยากเหลือเกินที่ผมจะทำใจไปร่วมงานกับกลุ่มอนุรักษ์ ngoหรรมใหญ่หรรมน้อยทั้งหลาย เพราะทัศนะคติไม่ตรงกัน ในช่วงกปปส.ออกมาไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พวกเขาเหล่าต่างชัดเจนว่าเห็นด้วยร่วมเป็นแรงพลังหนึ่งในขบวนการนั้น และหลานคนถึงขั้นออกมาประกาศชัดเจนถึงการไม่เอาประชาธิปไตย เอายังไงก็ได้ขอให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ล้ม แม้จะด้วยพลังจากเผด็จการทหารก็เอา 
 
     ผมเล่าว่า ก่อนหน้านี้ผมมีความสุขมากกับการเที่ยวไปในพื้นที่ต่างๆ ที่มีปัญหาสะสมมากมายจากนโยบายการพัฒนาต่างๆของภาครัฐที่ส่งผมกระทบต่อชาวบ้าน ผมเข้าไปแล้วเก็บเอาสิ่งที่เกิดขึ้น ความเดือดร้อนลำบากของชาวบ้าน ผุ้คนในพื้นที่มาเขียนบอกกล่าวแก่สาธารณะ เพื่อให้สังคมเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เห็นถึงความทุกข์ยากของชาวบ้าน เห็นถึงความจริงที่อำนาจภาครัฐที่เสียงดังกว่าพยายามปกปิดไว้แล้วเหยียบซ้ำชาวบ้านต่างๆนาๆ 
 
     การเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ในทกที่ มันแน่นอนว่ามีคนเข้าไปก่อน มีคนทำงานอยู่ มีคนใช้พลังจากกลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับความเดือนร้อนเหล่านี้ในการทำมาหากินและสร้างค่าสร้างราคาให้แก่ตนเองอยู่ กลุ่มนั้นก็คือ ngo นี่แหละเป็นตัวหลัก มีสื่อและองค์กรที่ชอบสร้างภาพลักษณ์หลอกลวงสังคมเป็นตัวเสริมตัวรอง
 
     ซึ่งพอวิกฤติการเมืองมันเขม็งเกลียวมากเข้า และเราต่างรู้ว่าทัศนะของแต่ละคนแต่ละฝ่ายเป็นยังไง มันก็ทำให้ผมไม่มีความสุขที่จะเข้าไปเจอหน้า ไปร่วมงานกับพวกเขาอีกต่อไป ไม่มีความสุขแม้กระทั้่งจะหยิบจับประเด็นปัญหาต่างๆที่เห็นในพื้นที่มาเขียน มีหลายที่หลายแห่งที่ผมเข้าไปแล้ว ถ่ายรูปมาแล้ว ศึกษาข้อมูลแล้ว แต่ไม่ได้เขียนถึงเลย ทุกอย่างถูกเก็บไว้ในไฟล์ ในแฟ้ม และในหัว ไม่ได้ถูกเรียบเรียงออกมาเป็นตัวหนังสือเพื่อสะท้อนปัญหาต่างๆ ก็เพราะความเซ็งในหัวใจกับพฤติกรรม พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นนี่แหละ 
 
     มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ด้วยทัศนะแบบไหน? จึงทำให้เหล่าngoทั้งหรรมใหญ่ที่ทำงานมานานและหรรมน้อยๆที่เพิ่งเริ่มทำ ต่างมาเห็นร่วมกันว่า การต่อสู้เรียกร้องเพื่อจัดการแก้ปัญหาให้แก่สังคม ชาวบ้าน ในสมัยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลที่มีบรรยากาศแบบประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญที่ปกป้องคุ้มครองและให้สิทธิ์ให้เสียงแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เป็นสิ่งที่เลวร้าย ไม่ดี มีปัญหา จนngoเหล่าหรรมทั้งหลายต่างต้องไปร่วมเรียกร้องให้ทหารออกมาล้มประชาธิปไตย ฉีกรัฐธรรมนูญ อย่างด้วยความยินดีปรีดา ปลื้มเปรมว่า การเรียกร้องสิทธิชุมชน สิทธิชาวบ้านภายใต้รัฐบาลทหารจะได้ผลสำเร็จตามประสงค์และมีประโยชน์โภชน์ผลแก่สังคมชาวบ้านมากกว่าการเรียกร้องในบรรยากาศสังคมที่เป็นประชาธิปไตย
 
     โอเค... เท่่าที่เคยคุยกับเหล่าngoหรรมต่างๆมา พวกเขามักชอบใช้เหลือเกินกับคำว่า บูรณาการ การแก้ปัญหาสังคมแบบบูรณาการ งั้นงี้ ซึ่งคำนี้ก็คงมาจากแนวคิดของประเวสวิถี(มั้ง) เป็นคำที่เหล่าngoชอบใช้มากๆ ซึ่งก็เดาว่า ใช้ไปงั้นๆแหละ คือ คำมันดูใหญ่ อลังการ ดูมีภูมิดี ก็เลยใช้ ใช้ไปแบบไม่รู้ความหมายเหี้ยหรรมอะไรใดๆหรอก 
 
     เพราะอะไรผมถึงคิดอย่างนั้น...? ง่ายมาก  ngoชอบกล่อมเกลี้ยชาวบ้านว่าให้สู้อย่างเดียว ชอบแยกขบวนการต่อสู้ของชาวบ้านออกมาจากการเมือง นัยว่าเหล่าngoหรรมต่างๆ ต่างติดอยู่ในวาทะกรรมที่ชนชั้นศักดินาอำมาตย์บ่มเพาะและปลูกฝังในมันสมองมานานว่า การเมืองเป็นเรื่องเลวร้าย เป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งน่ารังเกียจ เป็นเรื่องผลประโยชน์ของพวกกลุ่มชนคนโลภที่ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง แต่อาสาออกมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตัวเอง 
ผลไม้อร่อยสวยดีมีประโยชน์เอามาฝากท่านngoทั้งหลายครับ ;)
 
     ประมาณนั้น! นี่คือขี้ที่ชนชั้นนำในสังคมไทยได้ทำการปลูกฝังไว้ในหัวของผู้คนในสังคมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเหล่าngoหรรมต่างๆให้บ้าคลั่งความดีงามตามหลักศาสนา(หลง-ลวง)จนมองไม่เห็นปัญหาของสังคมว่ามันเกิดสะสมมาจากความเหลื่อมล้ำในเรื่องสิทธิความเท่าเทียมของผู้คนในสังคม  เกิดจากความไม่เป็นประชาธิปไตยของสังคม พวกเขารังเกลียจคำว่าการเมืองจนถึงขั้นละเลยหรอืไม่เอาประชาธิไตยก็ได้ เพราะมันผูกพันธ์กับพวกนักการเมือง 
 
     ซึ่งตรงนี้แหละที่มันน่าขำ พวเขาต่างพูดเห่าหอนเป็นเสียงเดียวกันถึง การแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ แต่กลับพร่ำพูดเพียงสิทธิและความเดือนร้อนของชาวบ้านโดยไม่รู้จักคิดอย่างบูรณาการว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมันก็มีเหตุมาจากการเมืองเช่นกัน โครงการต่างๆจะมีการอนุมัติให้สร้างทำได้หรือ หากครม.ไม่นำเข้าไปอภิปรายและผ่านออกมาในสภา ใช่ไหม? นั่นแหละ ถึงได้บอกว่า โครงการต่างๆที่พวกngoออกมานำพาชาวบ้านต่อสู้อยู่นี้ มันเชื่อมโยงและเป็นปัญหาที่ผูกพันมากับการเมือง การอนุมัติสร้างเขื่อนที่จะมีผลให้ชาวบ้านต้องย้ายออกจากพื้นที่ นั่นก็มาจากการอนุมัติในสภาโดยที่มีคนนำเสนอว่า เขื่อนดังกล่าวมันจะมีประโยชน์ในการกักเก็บน้ำเพื่อชลประทานบ้าง ผลิตไฟฟ้าบ้าง งั้นงี้ ซึ่งตรงนี้ภายใต้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ภายใต้สังคมที่เป็นประชาธิปไตย มันก็ย่อมมีช่องเปิดไว้ให้ทุกคนทุกฝ่าย ทั้งผู้เสนอโครงการ และผู้ได้รับความเดือดร้อนให้สามารถเข้ามาถกเถียงแย้งประเด็นและหักล้างกันได้ตามระเบียบขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญที่รับรองสิทธิของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ปัญหาที่เกิดจากการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยก็ควรจะแก้ไขกันไปตามขั้นตอนประชาธิปไตย ไม่ใช่จะเห็นควรให้มีการทำลายประชาธิปไตยอย่างวาดหวังอัศวินขี่หมาขาวหมาเขียวให้ออกมาแก้ไขปัญหาให้อย่างรวบอำนาจ 
 
     แต่ก็อย่างว่า จากการลงพื้นที่ไปในที่ต่างๆ อีกทั้งการติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของngoหรรมใหญ่หรรมน้อยต่างๆมา ก็พบว่า หลังๆ แนวทางในการต่อสู้ของพวกเขาก็ไม่ได้ยึดโยงหรือเชื่อมั่นในการแก้ด้วยขั้นตอนประชาธิปไตยแล้ว หลายคนก็ต้องการอัศวินหมาขาว-เขียวอย่างที่เห็น หลายคนก็นอกจากจะยึดโยงกับความดีงานตามหลัก(หลง)ศาสนาแล้ว หลังๆก็ถึงขั้นย้อนกลับไปหาคุณไสย ไสยศาสตร์ลึกลับทำพิธีสาปแช่ง แช่งชักหักกระดูกคนเสนอโครงการต่างๆ ครม.ต่างๆ และรัฐบาลต่างๆ(ที่ไม่ใช่รัฐบาลพ่อยอดขมองอิ่มที่ngoหรรมใหญ่ก้มลงกราบตีนและเลียขี้ให้อยู่) 
 
     ก็เอาเป็นว่า ในโอกาสที่วันนี้ เราได้เห็นการเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาดจริงจังของรัฐบาลเผด็จการทหาร ในเรื่องสิทธิของกลุ่มชาวบ้านสมัชชาคนจนอย่างเด็ดขาดด้วยการเรียกตัวผู้นำสมัชชาคนจนให้ไปพบ พร้อมคำสั่งขับไล่ให้รื้อถอนย้ายบ้านของชาวบ้านออกจากพื้นที่พิพาทในเวลาไม่เกินเจ็ดวัน พร้อมทั้งห้ามใครขัดคำสั่งหรือดื้อแพ่ง ไม่ฉะนั้นจะให้ทหารเข้ามารื้อถอนเองพร้อมทั้งอาจเชิญตัวผู้ต่อต้านไปปรับทัศนะคติเอาเสียด้วย 
 
     คิดว่าเหล่าngoหรรมน้อยใหญ่ที่เคยสิ้นหวังในรัฐบาลประชาธิปไตย จนหันมาฝักใฝ่ในเผด็จการ เชื่อมั่นว่าทหารคืออัศวินหมาเขียวที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาสังคมให้แก่ตนและชาวบ้านได้อย่างเด็ดขาดแน่วแน่ ก็คงจะภาคภูมิใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้นะครับทุกท่าน 
 
     เผด็จการทหาร คสช.กำลังจะช่วยแก้ไขปัญหาของกลุ่มสมัชชาคนจนที่เรื้อรังสะสมบ่มเพาะมาหลายสิบปีให้หมดสิ้นไปในทันทีภายในสัปดาห์นี้ โดยการสั่งให้ชาวบ้านสมัชชาคนจนอพยพโยกย้ายออกไปจากพื้นที่พิพาทดังกล่าว ส่วนชาวบ้านสมัชชาคนจนจะย้ายไปอยู่ที่ไหน นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของคสช.อีกต่อไป เพราะนั่นเป็นปัญหาใหม่ ไม่ใช่ปัญหาข้อพิพาทในพื้นที่ที่เรื้องรังมานาน ส่วนngoทั้งหรรมใหญ่หรรมเล็ก นอกจากพอใจกับการแก้ไขปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้แล้วก็คงต้องตอบว่า ก็... ม่าย... รุ... ซินะ เช่นกันนะครัช ว่าชาวบ้านที่ถูกขับไล่จะไปอยู่กันที่ใด...
ในเมื่อมันมีประโยชน์มากๆอื่มด้วย อร่อยด้วย เลยเอามาฝากท่านngoหรรมใหญ่เยอะๆ ทั้งเครือเบยครัช 3:)
 
     ท้ายนี้ก็อยากเห็นเหมือนกันนะครับว่า เหล่าngoหรรมน้อยใหญ่ที่เชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหาสังคมชาวบ้านสิทธิชุมชนชาวบ้านในยุคสมัยภายใต้เผด็จการทหารจะมีผลที่ดีมีประโยชน์และได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว ถูกต้องฉับไว แล้วบังเอิยคิดได้ว่าชาวบ้านที่ถูกขับไล่ออกไปไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน? เหล่าท่านngoหรรมต่างๆจึงรวมตัวกันออกมาเรียกร้องต่อต้านและฝืนคำสั่งคสช.โดยเข้าไปปักหลักร่วมกับชาวบ้านคัดค้านคำสั่งให้ย้ายอย่างเปิดเผยเข้มแข็งและมาดมั่น ลองดูก็ดีนะครับ เราจะได้รู้กันซะทีว่า บรรยากาศการประท้วงคำสั่งของอำนาจรัฐภายใต้รัฐบาลที่มจากการเลือกตั้งกับรัฐบาลเผด็จการทหารที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบแต่ngoหรรมต่างๆแอบดีใจและสนับสนุนให้มา บรรยากาศการเรียกร้องต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชนตอนนั้นมันจะมันส์และได้ผลสมเร็จสมประโยชน์ดีกว่ากัน ลองดูหน่อยซิครับ ผมขอเป้นกำลังใจให้ล่วงหน้าไปเลย.....
 
     ท้ายสุดของสุดท้าย ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าก็ไม่ใช่อะไร คือ เว้นร้างการพบปะหน้าตาngoหรรมใหญ่หรรมน้อยเพราะขี้เกียจเห็นหน้าและไม่อยากคุยด้วยมานาน พอดีเห็นว่าช่วงนี้จะมีกิจกรรมกัน ก็เลยคิดว่าจะเข้าไปร่วมด้วยซะหน่อย เผื่อจะได้พูดคุยแลซึมซับรับทราบทัศนะคติบ้างว่า ยังโอเคอยู่ไหมกับรัฐบาลเผด็จการทหารอัศวินหมาเขียวที่เคยเรียกร้องกันมาตั้งหลายเดือน เหนื่อยยากเหงื่อหยดกันมาตั้งนาน
ยังก้มลงกราบและเลียหรรมทหารกันอย่างมีความสุขกันดีอยู่ไหม? คนดี.... 

บล็อกของ Road Jovi

Road Jovi
หลายวันก่อน มีชายสูงอายุ ท่าทางเหมือนคนจรจัดเข้ามาดูต้นไม้ 
Road Jovi
ป่าไม้น่านหายไปไหน?-เป็นแคมเปญเรียกความสนใจของกลุ่มเอ็นจีโอบางกลุ่มอยู่...-คำตอบของคำถามข้างบน หากไปถามนักอนุรักษ์(ทำท่าจะเดินทางไปหาคำตอบกันอยู่นี่) ก็ไม่พ้นเกี่ยวเนื่องกับซีพี ข้าวโพดอาหารสัตว์ บลา บลา บลา....
Road Jovi
van van.รถแว๊นซ์เพื่อชีวิต
Road Jovi
ผมจะเขียนเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อที่จะจบประเด็นทั้งหมดก็แล้วกันนะครับ เพราะคิดว่าการถกเถียงกันไป-มาในโลกออนไลน์ ด้วยการโพสต์หรือเม้นเฉพาะข้อมูลที่ตนต้องการนำเสนอ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ไม่ได้ช่วยให้สังคมเข้าใจความจริงมากขึ้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านหรือภาครัฐ ทั้งรังแต่จะทำให้สังคมเกิด
Road Jovi
 ข่าวสารในโลกวันนี้มีความหลากหลาย.......หลายอย่างก็เป็นความจริงที่เสนอตัวเองอย่างครบถ้วนรอบด้าน พอๆกับที่หลายอย่างก็เป็นความเท็จหรือจริงปนเท็จที่แต่งเติมเสริมเรื่องราวจนโอเวอร์เกินไป
Road Jovi
เมื่อหมู่คนให้ความชื่นชมแก่ใคร คนๆนั้นก็จะได้รับความนิยม.เมื่อได้รับความนิยมมากๆ ก็จะมีความสำคัญ.และเมื่อสำคัญมากๆ เขาย่อมได้รับการสถาปนาให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันใครจะแตะต้องมิได้...... 
Road Jovi
     ไปเชียงใหม่ครั้งที่ผ่านมา นั่งคุยกับมิตรสหายทั่นพี่นักเขียน ผมเล่าว่า พักหลังมันยากเหลือเกินที่ผมจะทำใจไปร่วมงานกับกลุ่มอนุรักษ์ ngoหรรมใหญ่หรรมน้อยทั้งหลาย เพราะทัศนะคติไม่ตรงกัน ในช่วงกปปส.ออกมาไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พวกเขาเหล่าต่างชัดเจนว่าเห็นด้วยร่วมเป็นแรงพลังหน
Road Jovi
ไม่มีเสียงใดๆ ความเงียบยังปกคลุม กสม.จนถึงวันนี้ ยังไม่เห็นแถลงการณ์ ไม่เห็นการโผล่ออกมากล่าวคำใดของ กสม. ต่อกรณีการถูกลอบดักยิงจนเสียชีวิตของคุณไม้หนึ่ง ก.กุนที หรือนายกมล ดวงผาสุก กวีและนักเคลื่อนไหวเสื้อแดง
Road Jovi
เฮ่อ.... เหนื่อยเหมือนกันนะ เห็นตรรกะการออกมาสนับสนุนเห็นด้วยกับพรบ.สุดซอยนี้แล้ว...ถ้าเพื่อหวังความสงบสุขสมานฉันท์ แล้วเราต้องลืม ต้องยกเว้นกันไปนี่ เขาทำมากันเท่าไหร่แล้ว หลายครั้งแล้วในประวัติศาสตร์ และผลสุดท้าย ลืมกันได้ไม่นานก็ออกมาฆ่ากันอีก เพราะอะไร..??