วันแต่ละวัน ซึ่งก็คือตลอดเวลาของชีวิต มนุษย์ไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธการสื่อสาร มีบ้างหรอกวิธี หรือเครื่องมือสื่อสารที่สามารถตัดต่อ เรียบเรียงโดยผ่านการใคร่ครวญ ไตร่ตรอง ด้วยเหตุด้วยผลว่าจะได้หรือเสีย ดีหรือร้าย
ในแง่นี้ก็อาจจะว่าเฉพาะไปที่การเขียน ซึ่งมันเป็นการสื่อสารที่ค่อนข้างช้า ความช้านี่เองที่ทำให้สามารถกลั่นกรองเรื่องราวเนื้อหานั้นๆ แต่การสื่อสารที่รวดเร็ว ว่าก็คือการสนทนานั้นมันเป็นการสื่อสารทันใด มันจึงทำให้กรองได้น้อย มีบ้างหรอกความพยายามที่จะ ‘คิดก่อนพูด’ แต่มันก็ไม่ได้ใช้ได้ทุกครั้ง ยิ่งขณะภาวะที่ความคิดคับแคบด้วยแล้ว ถ้อยคำก็ยิ่งเป็นสื่อที่ออกมาจากภายในโดยตรง อย่างดีที่สุดก็ผ่านการตรวจสอบจากข้อมูลความรู้เดิม ความทรงจำเดิม ทั้งหมดนั้นความหมายของมันก็คือ ถ้อยคำได้ฉายภาพจากภายในของผู้คนออกมานั่นเอง
ดูเหมือนว่าโบราณ ถ้อยคำของโบราณฉายภาพชัดเจนทั้งศิลปะ วัฒนธรรม ความเชื่อของมนุษย์ บางทีมันมาในรูปของนิทานปรัมปรา มาในภาษิตคำคม เรื่องเล่า หรือตำนานผ่านภาษาที่เรียบง่าย เรื่องราวเหล่านั้นเคลื่อนไหว ดำรงอยู่ในสนามปัญญาร่วมของมนุษยชาติ ทั้งหมดนั้นมันจึงเปี่ยมความหมาย หรืออาจเป็นนิรันดร์ ดังเช่น ณ ยุคสมัยเวลานี้ เรายังได้ยินได้ฟังถ้อยคำโบราณ อันเป็นภูมิปัญญาของบรรพชน เรื่องราวเหล่านั้นเองที่มันบ่งบอกอุปนิสัยของชนนั้นๆ และเมื่อเราฟังคำโบราณของหลายเผ่าชนเราย่อมพบว่า คำของโบราณนั้นสืบต่อมาแต่คำของธรรมชาติ ด้วยมักมีเรื่องราวของหลายชนเผ่าที่ไกลโพ้น ฟังคล้ายเป็นเรื่องราวเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อนั่นเอง
ทั้งหมดนี้ คล้ายว่ามนุษย์มิอาจปิดบังซ่อนเร้นภาพ หรือสภาวะภายในของตนได้ ด้วยว่ามันปรากฏเด่นชัดอยู่ในถ้อยคำ เช่นนั้นเอง เมื่อยามที่เราได้ฟังคำโกหกพกลม เพ้อเจ้อ ของผู้คน เราย่อมรู้ได้ไม่ยากเย็นถึงความจริงที่ซ่อนอยู่หลังคำโอ่อวดนั้น เพราะวิญญาณของเขาฉายชัดอยู่ในถ้อยคำนั้นแล้ว หรือแม้กระทั่งความจริงของชีวิตที่ผู้คนกล่าวออกมา เราย่อมมองเห็นตัวตน และโลกภายในของเขาได้ชัดเจน เช่นนี้เองที่เราย่อมเชื่อได้ไม่มาก็น้อยว่า ที่สุดแล้วมนุษย์ไม่สามารถหลอกลวงผู้อื่นได้ เพราะชีวิตของเขาคือภาพสะท้อนตัวตนภายในของเขา หากจะมีใครที่มนุษย์พอจะหลอกได้บ้างก็คือ ตัวเอง กระนั้นหากสืบสาวให้ลึกลงไปกว่านั้น จิตไร้สำนึกของตัวเองก็ไม่ได้ถูกหลอกอยู่นั่นเอง ........
ถ้อยคำคือหนทาง....มันเป็นหนทางสายสำคัญในวิถีชีวิต มันนำเราไปสู่ความงาม ความจริง การเรียนรู้ บางถ้อยคำคือดอกไม้ที่มีหยดน้ำค้างต้องแสงตะวันเปล่งประกายเช้า บางถ้อยคำอาจเป็นเศษขยะเน่าเหม็นริมทาง เช่นนั้นเอง ในกระบวนการเรียนรู้ เราจึงไม่อาจละเลยถ้อยคำ ด้วยว่าเราไม่อาจเพียงชื่นชมดอกไม้โดยแกล้งทำเป็นไม่เห็นกองขยะ หากแต่เราต้องรู้ว่ากองขยะเน่าเหม็นนั้นก็อาจเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ เพื่อได้ออกดอกส่งกลิ่นหอม ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นวิถีแห่งถ้อยคำ นั่นก็เป็นได้....