บางกอกเปลี่ยนไปพร้อมกับการผันแปรไปของสภาพสังคม จากเมืองอันสงบงาม กลายเป็นศูนย์กลางการปกครอง ศูนย์กลางอำนาจ และศูนย์กลางเศรษฐกิจของชาติ พร้อมกับการผันแปรของชนบท เมื่องานเข้าไปรวมอยู่ในบางกอก พร้อมกับความผันผวนของสภาพอากาศ ความแห้งแล้ง และเงินกลายเป็นปัจจัยหลักของชีวิต ทั้งหลายทั้งปวงนี้ทำให้บางกอกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คนเพิ่มมากขึ้นวิถีชีวิตเปลี่ยน ห้วยน้ำลำคลองใช้การไม่ได้ บ้านเรือนกลับมาหันหน้าออกสู่ถนนหนทาง เรือกสวนไร่นาหายไปกลายเป็นตึกราม มีปัญหาตามมามากมายตามที่เราทั้งหลายต่างรู้ ทั้งรถติด มลพิษในอากาศ นี่ยังว่าไปถึงการแข่งขัน การแก่งแย่งในเรื่องการทำมาหากินของผู้คน
ว่าไปก็อาจจะมีคนไม่มากนักที่ยังเก็บภาพความทรงจำเก่าของเมืองบางกอก มีบ้างก็หนัง หรือละครที่มีเรื่องราวเหล่านี้ออกมานำเสนอบ้าง แต่ดูเหมือนว่านั่นก็ไม่ได้ให้คนรู้สึกคุ้นเคยว่านั่นคือภาพของบางกอกที่เคยเป็นอย่างนั้นอยู่จริง นั่นก็ว่ากันไป ในสภาพที่บางกอกไม่เหลือเค้าโครงเดิมของบ้านเมืองในอดีตเหลืออยู่แล้ว
ว่ามาทั้งหมดนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรนัก แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเราที่เกี่ยวแก่เมืองบางกอกก็คือ ช่วงเทศกาล เมื่อผู้คนเดินทางออกสู่ชนบท ว่าไปก็มีทั้งคนชนบทที่เดินทางกลับบ้านเกิด หรือคนบางกอกที่เดินทางออกไปท่องเที่ยว หรือคนบางกอกที่ย้ายบ้าน ไปมีบ้านมีสวนอยู่ชนบท ต่างก็เดินทางออกไป เหลือผู้คนอยู่น้อย ถนนหนทางโล่ง ไม่มีปัญหารถติด ด้วยว่าเราเองมักจะได้มาอยู่ในเมืองบางกอกในช่วงเวลานี้บ่อยๆ เพราะไม่ชอบเดินทางช่วงเทศกาลนั่นเอง จึงได้ทำให้เรานึกถึงบางกอกในภาพอดีตที่สงบงาม
มีหลายยุคหลายสมัยที่มีการพูดถึงการกระจาย ทั้งอำนาจ เศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ออกไปสู่ชนบท แต่กระนั้นก็ยังไม่ปรากฏภาพนี้ชัดเจนนัก เพราะผู้คนก็ยังหลั่งไหลเข้ามาสู่เมืองด้วยเงื่อนไขของการทำมาหากินเพิ่มขึ้นตลอดเวลา รวมทั้งเงื่อนไขทางการศึกษา
ช่วงที่ผู้คนเดินทางออกไปนอกเมือง สู่ดินแดนชนบท ซึ่งก็เป็นความใฝ่ฝันของผู้คนมากมายในการลงหลักปักฐาน หรือคิดถึงวัยเกษียนของชีวิต และรวมถึงคนชนบทเองที่ก็อาจจะฝันว่า สักวันเมื่อสร้างฐานะได้ตามสมควรแล้วจะได้กลับไปอยู่บ้าน เราเองคิดอยู่ว่า จะมีผู้คนอีกจำนวนหนึ่งหรือเปล่า คนบางกอก ที่อยู่บางกอกมาแต่กำเนิด และรวมถึงยังไม่ได้คิดที่จะไปอยู่ชนบท ที่ความฝันของพวกเขาเกี่ยวแก่เมืองบางกอกนั้น คือภาพของบางกอกในช่วงเทศกาลนั่นเอง.....