เราทั้งหลายต่างรับรู้กันโดยพื้นฐานว่า เหล่าศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นจิตรกร นักดนตรี กวี หรือแขนงอื่นใดล้วนสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาจากแรงบันดาลใจทั้งสิ้น
หลายคนให้ค่าคำนี้ยิ่งใหญ่ บางคนอาจน้อยลงไปนิด นั่นก็หาเป็นไรไม่ แต่ความจริงก็คือ ด้วยแรงบันดาลใจนั่นเองที่ส่งผลให้ศิลปินน้อยใหญ่ใหม่เก่าทั้งหลายสร้างสรรค์ผลงานอันมีความหมายและทรงค่า หากปราศจากแรงบันดาลใจเสียแล้ว ศิลปินก็ไม่อาจสร้างงานได้อีกต่อไป หรือเมื่อแรงบันดาลใจร่อยหรอลง ศิลปินก็อาจลดสถานะเหลือสภาพเพียงช่าง แต่กระนั้นแรงบันดาลใจของช่างก็อาจคือการทำมาหาเลี้ยงชีวิต เป็นสัมมาอาชีวะอันมีความหมาย นั่นก็อาจเป็นแรงบันดาลใจ แม้สังคมจะมองว่า มันเป็นแรงบันดาลใจที่ปราศจากอุดมการณ์ก็ตาม
มันคงไม่ใช่เท่านี้ นักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดของโลกใบนี้ ค้นพบ และสร้างสรรค์นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีทั้งหลาย ก็ด้วยแรงบันดาลใจทั้งสิ้น ความจริงก็คือมนุษย์ล้วนมีแรงบันดาลใจทั้งสิ้น ไม่เช่นนั้นแล้วเขาผู้ไม่มีแรงบันดาลใจนั้นคงไม่อาจมีชีวิตได้อีกต่อไป หรือไม่ก็อาจเป็นชีวิตที่แห้งแล้งเหลือหลาย
ผู้คนในยุคสมัยบริโภคนิยม อาจมิค่อยได้ใคร่ครวญถึงวาระนี้ ด้วยว่าการโน้มนำทั้งหลายของการบริโภคได้ดึงชีวิตคนเข้าไปสู่ศูนย์กลางของกระแสของมันเองอย่างลึกล้ำ ประหนึ่งการจัดวาง ทางที่จะก้าวเดินไป โดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ และนั่นก็คือ ชีวิตสำเร็จรูป ภาวะเช่นนี้ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บมากมายต่อชีวิตมนุษย์ อันสำคัญก็คือความเครียด หลายหนที่มีข่าวการฆ่าตัวตายของผู้คนในเมืองใหญ่ แง่หนึ่งก็อาจจะว่าไปตามปัญหาในระดับปัจเจก แต่ความจริงที่ไม่อาจมองข้ามก็คือ ผู้คนทั้งหลายขาดแคลนแรงบันดาลใจต่อการดำรงชีวิต
สภาวะหนึ่งของชีวิตก็คือคงมีบางครั้งคราว บางช่วงเวลาของชีวิตที่เราได้สูญเสียแรงบันดาลใจ เมื่อนั้นเราย่อมเกิดความท้อแท้ เบื่อหน่าย ทั้งเรื่องราวของตัวเองและผู้คน จ่อมจมอยู่กับความทุกข์ ตัดพ้อต่อว่าโชคชะตาของตัวเอง รอยยิ้มหายไปจากใบหน้า เหลือเพียงความหม่นเศร้าเหงาหงอยซึมเซา ปราศจากความหวัง และความฝัน ปราศจากความมั่นใจ วิตก ลังเล และนั่นก็คือภาวะเวลาอันเปราะบางของชีวิต ช่วงเวลาที่เปราะบางของแรงบันดาลใจ อาจไม่ง่ายนักต่อการก้าวพ้นภาวะนั้น ซึ่งมันอาจขึ้นอยู่กับวิถี วิธีการดำเนินชีวิตของแต่ละคน และทั้งหมดนั้นมันก็อาจไม่ถึงกับยากเกินการแก้ไขเยียวยา หากเพียงได้ตระหนักในความหมายของวาระนั้นอย่างแท้จริง และปรารถนาจะสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ชีวิตก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
สิ่งที่มีความหมายอย่างยิ่งจากประสบการณ์ของผู้รู้หลายท่านก็คือ เดินออกไปจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ หรืออาจต้องเปลี่ยนงาน ย้ายบ้าน เดินทางไปต่างถิ่น จากที่คุ้นเคยไปยังที่ที่ไม่รู้จัก พบประสบการณ์ใหม่ๆ ท่องเที่ยว พบผู้คนใหม่ๆ เสพย์สุนทรียภาพศิลปะ นั่นก็คือการนำพาตัวเองออกไปจากพื้นที่ และพลังงานอันซึมเซาเปล่าร้างนั่นเสีย หรือเริ่มหยิบจับทำงานด้วยมือ ใช้ร่างกายประดิดประดอย ขุดดิน ปลูกต้นไม้ นั่นอาจเป็นหนทางหนึ่งในการค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ เพื่อก้าวข้ามภาวะความเปราะบางของชีวิตนั้น....