จะเขียนทุ่งเขียนทางเขียนช้างม้า เขียนความคิดขานค่าจังหวะวิถี
เขียนความหมายของคุณงามความดี เขียนถ้อยคำเท่าที่มี-เขียนชีวิต
เขียนอะไรเขียนได้ดั่งใจนึก คำปรากฏในรู้สึกบรรจงลิขิต
เรียงร้อยถ้อยความไขเนรมิต ว่านั่นทางถูกผิดหรือว่ากระไร
ผ่านทางมาอย่างไรก่อนนั้น ไต่ตามความฝันจากหนไหน
เรียนรู้ลึกซึ้งถึงจิตใจ แล้วค้นพบสิ่งใดในเรื่องราว
หรือเพียงผ่านพบภาพผิวเผิน เก็บคำดำเนินไว้บอกกล่าว
เป็นร้อยกรองกวีหวานงามวับวาว บรรยายดินถึงแดนดาวอลังการ
หรือดิ่งด่ำอยู่ในห้วงสำนึก ซึมซับความรู้สึกกระแทกสะท้าน
เข้าไปเป็นไปอยู่ร่วมนับเนิ่นนาน เรียนรู้เพื่อพบพานญาณปัญญา
จะอย่างไรอาจได้ทั้งหมด อะไรที่ใหม่สดในปรารถนา
ด้วยซื่อตรงต่อตนตามธรรมดา มิใช่โอ่อวดความเลอค่าอันหามิได้
จะเขียนความเขียนคำเขียนความคิด เลิศหรูหรือวิปริตสถิตสมัย
เขียนตัวตนภายนอกเป็นอย่างไร ก็มาจากโลกภายในเป็นเช่นนั้น
เมื่อยังเด็ก เราไม่รู้ว่าเมื่อบ้านเราฝนตกนั้น บางแผ่นดินที่ไกลออกไป ฝนไม่ตก เรารู้เพียงแต่ว่าฝนตก กับฝนไม่ตก เวลาต่อมา พอรู้ความมากขึ้น เราเริ่มเห็นม่านฝนที่พุ่งตรงมาหาเรา แล้วก็กลายเป็นฝนตก แต่นั่นก็ไม่ทำให้เรารู้ว่า บางแห่งบนแผ่นดินที่ไกลออกไป ฝนไม่ตก โตขึ้นมาอีกนิด เมื่อบ้านเราฝนตก เราก็เริ่มได้ยินมาว่า มีบางแห่ง ฝนไม่ตก เราจึงเริ่มจินตนาการ ถึงรอยต่อระหว่างที่ๆ มีฝน กับที่ๆ ไม่มีฝน เราคิดว่าตรงรอยต่อนั้นมันจะเหมือนเรารดน้ำต้นไม้ เมื่อเราเทน้ำแรงๆ มันก็เป็นสายน้ำเทลงไป ตรงที่มีน้ำก็คล้ายสายฝน และมันก็ตัดไปเฉยๆ กับที่ๆ ไม่มีฝนนั้น