Skip to main content

ฉันจะทาสีบ้านเอง ฉันบอกคนสร้างบ้านไว้ตั้งแต่แรก มีเสียงทัดทานจากแม่และพี่ชายว่าหาเงินง่ายกว่าไหม ทาสีบ้านเดี๋ยวก็ต้องไปเสียเงินค่านวด ไหนจะปวดหัว ปวดไหล่ แต่ฉันมีความสุขส่วนตัวกับการเล่นสี จึงไม่พูดอะไร และนับวันรอให้ทุกอย่างเรียบร้อย


การทาสีบ้านเหมือนการออกกำลังกายอย่างหนัก เหงื่อที่ไหลท่วมตัวจนรับรู้ถึงสายน้ำที่กำลังเดินทางอยู่บนร่างกาย บางครั้งเหงื่อที่หน้าผากไหลเข้าตา แต่ไม่มีมือเช็ดเหงื่อเพราะเปื้อนสี


ก่อนทาสีจริงต้องทาสีรองพื้นสองรอบ ก่อนทาสีรองพื้นช่างจะดูความเรียบร้อยว่าปูนมีรอยร้าวไหม ถ้ามีเขาใช้ wall putty วัสดุที่เป็นอะคลิลิคมาโปว๊ เพื่อสมานเนื้อปูน กันความชื้นที่หากน้ำซึมเข้าไปถึงเนื้อเหล็ก ก็จะทำให้เหล็กเป็นสนิมผุพังอาจทำให้บ้านทรุดได้


รอยร้าวในระดับไม่ถึงมิลลิเมตร อาจทำให้บ้านพังได้ในระยะยาว


สีรองพื้นมีคุณสมบัติในการปกปิด กันความชื้น กันเชื้อรา ฉันเริ่มทาสีจริงที่ผู้สร้างบ้านแนะนำรุ่นที่เขาเคยใช้มาให้ ราคาแพงขึ้น แต่ใช้ได้ถึง 10 ปี ไม่ต้องทาซ่อม สีที่ใช้เป็นสีที่ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก เป็นอะคลิลิคผสมน้ำ เนื้อสีแห้งแล้วมีลักษณะกึ่งด้านกึ่งเงา ซึ่งทำให้ล้างคราบสกปรกออกง่าย เวลาทาก็แห้งเร็ว และเมื่อแห้งแล้วก็กลืนกันเป็นเนื้อเดียวจนมองไม่เห็นรอยแปรง เนื้อสีที่เป็นอะคลิลิคนี้ยังมีคุณสมบัติในการกลบรอยร้าวที่อาจยังมีอยู่อีกด้วย


ฉันสนุกกับการเลือกสี แต่ก็ต้องพาเพื่อนที่สร้างอีกหลังไปดูด้วยเนื่องจากเธอเป็นผู้ที่จะมองเห็นบ้านฉันทุกวัน หากสีไม่ถูกชะตากับสายตาของเธอแล้วก็จะอยู่ลำบาก บ้านของเธอก็เช่นกัน ฉันขอร้องว่าอย่าใช้สีเหลืองเพราะฉันไม่ชอบสีเหลือง ขณะที่เธอชอบสีเหลืองเป็นชีวิตจิตใจ


ฉันเลือกสีเขียว ที่มารู้ทีหลังว่าสีที่เลือกใช้นี้มีชื่อเรียกว่า Japanese Garden เป็นสีเขียวตุ่น ๆ ผสมขาวนิด ๆ ส่วนสีในบ้านเป็นสีเขียวเทา ๆ ตัดขอบวงกบด้วยสีเม็ดอัลมอนด์ ทำให้บ้านที่ควรทึมเทา ออกมาดูหวาน และสีเขียวเป็นสีโทนเย็นทำให้ไม่ร้อน และพื้นปูนขัดมันสีดำ


เพื่อนร่วมรั้วเดียวกันเธอเป็นหมอดู เธอบอกว่าบ้านเลขที่ของเธอคือ 6 เป็นเลขดาวพระศุกร์ เป็นบ้านของศิลปะ ความสุข เสน่หา ความเพลิดเพลิน ขณะที่บ้านฉันได้เลข 7 เป็นเลขนำโชคของดาวเสาร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบากบั่น การต่อสู้ และโชคชะตา สีที่ต้องโฉลกคือสีดำ สีน้ำเงิน และสีเขียว ฉันใช้สีโทนเย็นนั้นถูกแล้ว สรุปคือบ้านของเราเป็นบ้านพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก (ฮา)


จากบ้านที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง แค่เห็นผนังก็ชื่นใจว่างานคืบหน้า เห็นสีรองพื้นสีขาวก็รู้สึกว่าสีขาวก็สวยดี เหมือนในหนังสือแต่งบ้านที่เขาทำบ้านสีขาวล้วนก็ดูสะอาดตา แต่พอนั่งไปนาน ๆ ก็รู้สึกว่าในหัวเป็นสีขาวโพลนไปหมด ถ้าอยู่จริง ๆ คงรู้สึกเวิ้งว้างเหมือนนั่งอยู่กลางหมอกหนาบนยอดเขาที่ก้าวไปสองก้าวก็เป็นเหวลึก เป็นความมืดสีขาว


มีบางส่วนของบ้าน คือ ประตูที่ใช้สีน้ำมัน เพื่อความทนทานในระยะยาว ช่างให้ฉันซื้อทินเนอร์และน้ำมันสนมาผสม แต่ตอนทาฉันซัดสีจากประป๋องเพียว ๆ ด้วยความเมามัน วันรุ่งขึ้นผู้สร้างบ้านของฉันโวยว่า ฉันไม่ผสมทินเนอร์หรือน้ำมันสนเลย ทำให้สีแห้งช้า และการไม่ผสมตัวทำละลายพวกนี้ จะทำให้วันหนึ่งสีลอกออกมา เพราะมันจะทำหน้าที่ละลายเนื้อสีและซึมเข้าไปในเนื้อไม้


อ้าว..ไม่รู้นี่หว่า ไม่เป็นไรผิดก็ขัดออก แล้วทาใหม่ ก็เหมือนชีวิตที่พ่อสอนไว้ “ทางไม่ดีแล้ว กลับเถอะลูก” สีบ้านก็เหมือนกัน ทาไม่ดีก็ทาใหม่ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน



28_7_01

ประตูบ้าน


28_7_02
มีแต่คนคิดว่าสร้างหอพัก


28_7_03
สีเหมือนขนมชั้น


28_7_04
คุมโทน


28_7_05
ห้องทำงาน

28_7_06
ซื้อที่ผืนนี้เพราะกอไผ่ของข้างบ้านกอนี้
 
 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
ได้มีโอกาสไปแอ่วเมืองน่านเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังจากไม่ได้ไปมาเป็นสิบปี ไปคราวนี้คนที่ไปด้วยก็แทบไม่เคยไปเลย มีเราคนเดียวที่มาบ่อยที่สุด กระนั้นก็นับได้ประมาณสี่ครั้ง ความที่เมืองน่านเป็นเมืองที่จะว่าไกลก็ไกล จะว่าไม่ไกลก็ไม่ไกลนัก ขับรถจากเชียงใหม่ 5 ชั่วโมงรวมเวลาพักรถกินกาแฟที่เด่นชัย ขับรถเส้นทางนี้ขอแนะนำร้านกาแฟสดเด่นชัย ตรงริมแม่น้ำ เชิงสะพานทางไปลำปาง กาแฟเค้าดีจริงๆ หรือหากใครดื่มกาแฟไม่ได้ ถ้าได้ผ่านไปที่อ.ร้องกวาง จ.แพร่ แวะตลาดสด มีร้านหนึ่งขายเมี่ยง ใช้อมตอนขับรถง่วง ๆ ได้ผลดี เพราะเมี่ยงเป็นใบชาชนิดหนึ่งมีคาเฟอีนเหมือนกัน เราชอบกินเมี่ยงเพราะไม่ขับปัสสาวะเหมือนกาแฟ  
โอ ไม้จัตวา
  รูปนี้ก็ต้องจับกล้องนิ่ง ๆ เพราะถ่ายท้องฟ้าตอนเย็น
โอ ไม้จัตวา
 คำถามเดิม ถ่ายยังไงให้ดีให้สวย คำตอบแบบกำปั้นทุบกล้องเลยคือ มองให้เห็นความงาม ซึ่งตรงนี้ขอเน้นย้ำว่า “ความงามเป็นเรื่องปัจเจก” เป็นเรื่องของใครของมัน กล้องก็ของเรา เราถ่ายเราก็เอาไปดู และชื่นชมอย่างน้อยก็กับตัวเอง คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างไม่ต้องสนใจ ถ้าเราเห็นว่างาม...ถ่ายเลย
โอ ไม้จัตวา
  หลายคนถามว่าถ่ายรูปอย่างไรให้สวย ช่วยสอนหน่อยได้ไหม ความที่ไม่ได้ร่ำเรียนเรื่องการถ่ายภาพมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เราสอนเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้เช่นกัน คำตอบที่บอกไปส่วนใหญ่จะบอกแบบโยนกล้องให้แล้วไปหาเอา
โอ ไม้จัตวา
  ไปกินปลาสะแงะมาแล้ว รสชาติและเนื้อคล้าย ๆ กับปลาคังน่ะ ร้านที่ไปกินเป็นร้านอาหารอร่อยด้วยรสมือคนปรุง ชื่อร้านน้องเบส ขอแนะนำ เป็นห้องแถวสองคูหา นอกจากปลาสะแงะที่น่าลิ้มรสแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้อีกเมนูหนึ่งของร้านนี้คือ เห็ดหอมทอดซีอิ้ว ที่มีน้ำจิ้มสีเขียวสูตรของร้านนี้โดยเฉพาะ อร่อยจริง ๆ
โอ ไม้จัตวา
ภาพจาก www.thailandoutdoor.com ไปปายคราวที่แล้ว ได้ยินชื่อปลาสะแงะในเมนูร้านอาหารร้านอร่อย (ร้านน้องเบส เห็ดหอมทอดอร่อยด้วยน้ำจิ้มสีเขียว) แต่ก็ไม่ได้กิน ถามใครก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นปลาอะไร ดียังไง ทำไมต้องปลาสะแงะ จนกระทั่งมาเจอข้อเขียนของคุณ’รงค์  วงษ์สวรรค์ ที่เคยเขียนไว้ถึงปลาชนิดหนึ่งชื่อปลาไหลหูดำ “ปลาไหลหูดำ  โอว  หี่  เหมา  ปรุงรสน้ำแดงกับเห็ดหอมและผักบุ้ง--เอ้งฉ่าย   ปลานี้อิมพอร์ทเข้ามาจากฮ่องกงราคาแพงและมีกินในฤดูเดือนเท่านั้น แต่บางคนบอกความลับว่า  พรานปลาแถบลุ่มน้ำตาปีภาคใต้นำมาส่งอย่างไม่เปิดเผยเพื่อการผดุงราคาเหนือกว่าปลาอื่น…
โอ ไม้จัตวา
http://blog.palungjit.com/uploads/s/saochiangmai/3152.mp3 เพลงน้องน้อยแพนด้า สำหรับดาวน์โหลดค่ะ แพนด้าไม่ใช่หมี แพนด้าคือแพนด้า
โอ ไม้จัตวา
  ความที่ปายเป็นเมืองโรแมนติก เมืองที่อยู่สบาย ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำเล็ก ๆ ไหลผ่าน เหมือนภาพในฝัน ในนิทานยังไงยังงั้น จึงมีผู้คนจำนวนหนึ่งย้ายนิวาสสถานมาอาศัยอยู่ที่ปาย บางคนมานอนอ่านหนังสือ พักผ่อน เช่าบ้านอยู่นาน ๆ เป็นจุดแวะพักในซอกมุมหนึ่งของโลก ก่อนจะออกเดินทางต่อไป  
โอ ไม้จัตวา
ดอกไม้ริมทาง ใครจะนึกบ้างว่าเมืองที่ “อะไรก็ปาย” ในพ.ศ.นี้ เคยเป็นดินแดนสำหรับเนรเทศผู้กระทำความผิดมาก่อน ย้อนหลังไปไกลเจ็ดร้อยกว่าปี เมื่อเริ่มสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในพ.ศ. 1839 ในสมัยราชวงศ์มังรายปกครองเชียงใหม่นี้ ปายก็เป็นเมืองหน้าด่านเมืองหนึ่งของเชียงใหม่ ในชื่อว่า “เมืองน้อย” ซึ่งปัจจุบันบ้านเมืองน้อย (อยู่ระหว่างปายกับอ.เวียงแหง) เป็นหมู่บ้านของชาวปกากญอ อยู่ต้น ๆ ของแม่น้ำปาย
โอ ไม้จัตวา
  ได้เวลาพารถคันน้อย ๆ ไปออกกำลังกายอีกแล้ว คราวนี้ไปแบบไม่รู้อะไรเลย บ้านวัดจันทร์ ฉันรู้จักในนามป่าสนวัดจันทร์ ความที่ชอบต้นสนสองใบ สามใบ และไม่เคยแยกออกสักทีว่าอย่างไหนสองใบ หรือสามใบ แต่ที่ชอบคือใบฝอย ๆ เวลามองไกล ๆ แล้วดูเป็นฟู่ ๆ สวยดี ใบสนไม่มีน้ำ ยามหน้าแล้งจึงยังเขียวอยู่เนื่องจากมีน้ำมันอยู่ข้างใน
โอ ไม้จัตวา
คนปาย
โอ ไม้จัตวา
ตื่นเช้ามาด้วยอาการแฮ้งค์ดาวแดงอย่างสุดชีวิต ความที่เคมีในร่างการเริ่มปฏิเสธดาวดาวสีแดงดวงนี้ ทำให้ชีวิตฉันง่ายขึ้นเมื่อต้องชะตากับลีโอ จนเพื่อนร่วมทางบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กินลีโอ