Skip to main content

ฉันได้ช่างไม้เป็นผู้หญิง โอ...ไม่อยากจะเชื่อสายตา หญิงสาวผู้เป็นคู่ชีวิตของคนทำบ้าน เธอช่างน่ามหัศจรรย์อะไรเช่นนี้ เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำงานแบบนี้ได้อย่างไร ภาพก๊อปปี้ไรท์เตอร์สาวในบริษัทโฆษณากลางกรุง ใส่รองเท้าส้นสูง แต่งหน้าทาปาก กับภาพผู้หญิงตรงหน้าที่มีรอยฝุ่นไม้เปื้อนตามใบหน้าและเส้นผมค่อย ๆ บรรจงโปว๊สี อุดรอยไม้ ค่อย ๆ ใช้กระดาษทรายน้ำขัดหยาบ แล้วปล่อยให้ฉันทาสี แล้วเธอก็รอจนแห้งแล้วขัดทรายน้ำละเอียดอีกรอบ งานไม้ฝีมือเธอนุ่มนวลราวมือของเธอ (หรือเปล่านะ) นุ่มราวผ้าที่รีดไว้อย่างดีดีกว่า


แรกตอนเริ่มทำบ้านฉันออกแบบประตู และปรึกษาหลายคนรวมทั้งคนทำบ้าน ว่าจะใช้ไม้เก่าหรือไม้ใหม่ ฉันชอบไม้ แต่ไม้สักราคาแพงยิ่งกว่าทองคำ ไม่อยากเชื่อว่างานไม้จะแพงขนาดนี้ น้องแท็ปที่ร้านสวนนม เป็นคนพาฉันไปดูไม้เก่ายังแหล่งที่เขาชอบไป แท๊ปกำลังหลงใหลไม้เฟอร์นิเจอร์เก่า เขาพาฉันไปเลือกซื้อบานประตู บานหน้าต่างเก่า ส่วนใหญ่เป็นไม้สักซึ่งพ่อค้าไปซื้อมาจากบ้านเก่าของชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้คาดว่าใกล้หมดไปจากภาคเหนือแล้ว


ฉันได้หน้าต่างมา 8 ชุด ได้ไม้สักแผ่นกว้างหนามาอีกสองแผ่นในราคาหมื่นบาท พร้อมวงกบข้อดีของไม้สักเก่าคือผ่านกาลเวลามาแล้ว ไม่ยืด ไม่หด หน้าต่างบางชุดเป็นไม้สักทองสีสวย ลายไม้ผ่านร่องรอยกาลเวลาเนิ่นนาน ข้อเสียของไม้เก่าก็คืองานไม่เนี้ยบ ส่วนประตูฉันสั่งช่างไม้อีกคนใช้ไม้เก่าประกอบใหม่ให้ คนสร้างบ้านบอกว่าลองถามเขาดูว่าถ้าเขาติดตั้งประตูให้ได้ ให้จ้างเขาทำจะได้จบในคนเดียว ช่างไม้บอกว่าทำได้ ฉันตกลงใจจ้างเขาติดตั้ง พร้อมเก็บรายละเอียดของไม้ให้พร้อมสำหรับฉันทำสี โดยที่ฉันไม่ต้องทำอะไรอีก


เมื่อถึงเวลาติดตั้ง เขานัด 9 โมง มาถึง 10 โมง ใบหน้ายิ้มแย้มแววตาหยีใจดี เขาบอกว่าบานประตู 16 บาน ทำวันเดียวเสร็จ ฉันกลับไป 4 โมงเย็น วันรุ่งขึ้นก็ยังพบเขาทำงานต่อ ระหว่างเขาทำงาน ฉันเดินดูรายละเอียดของบานประตูอย่างตื่นเต้น ก็พบตำหนิมากมาย จึงถามเขา เขาบอกว่างานยังไม่เสร็จ เดี๋ยวเขาทำให้


วันที่ 3 เขากลับมาทำต่อจนเสร็จ เขาบอกฉันในเช้าวันที่ 4 เมื่อฉันมาดูงานก็พบว่า ลมแทบจับ !!!


ถากไม้เหมือนหมาเลีย คำนี้ยังน้อยไปสำหรับสิ่งที่เห็นตรงหน้า กุญแจบ้านบวมง้างออกมา รอยโปว๊ไม้รอบกุญแจที่เห็นนั้น เป็นงานฝีมือที่หยาบคายที่สุด อีกบานหนึ่ง กุญแจห้องนอนง้างออกมาเช่นกัน ไม้รอบกุญแจปริแตกออกมา เขาเอาเศษไม้เล็ก ๆ ติดกาวเชื่อมไม้อีกชิ้นไว้โง่ ๆ แบบนั้น คิ้วไม้ที่ใส่กระจกบางบานใช้คิ้วสองชิ้นที่หยิบมาจากดาวคนละดวง


ระแนงไม้เหนือหน้าต่างห้องนอน ฉันให้เขาใส่กระจกกันลมเข้าเผื่อติดแอร์ กระจกบานแรกอยู่ชิดผนังในห้อง อีกบานอยู่ชิดผนังนอกห้อง และใช้เศษไม้คิ้วสองอันแปะไว้อย่างเกินบรรยาย คนทำงานไม้ไม่เป็นอย่างฉัน ถ้าลงมือทำเองก็ยังจะดีกว่าภาพที่เห็นตรงหน้า


ฉันพึมพำว่านี่ฉันทำอะไรให้เขาโกรธหรือ ฉันจ่ายเงินทุกบาททุกสตางค์ ฉันไม่เคยบังคับให้มาทำ ถ้าทำไม่ได้ ทำไม่เป็นทำไมไม่บอก ....


คนสร้างบ้านของฉันเขาเป็นช่างไม้ โตมากับร้านเฟอร์นิเจอร์ แฟนเขาก็ทำงานไม้ เขามองงานแล้วอึ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นโมโหโกรธา ฉันปลอบเขาว่าไม่เป็นไร ถ้าแก้ได้ก็ไม่เป็นไร ก็แก้งาน อันไหนแก้ไม่ได้ก็สั่งทำใหม่ (กรูไม่รู้จะทำยังไงนี่หว่า)


เขาหาช่างไม้คนใหม่มาดูสองชุด แต่ไม่มีใครทำ เพราะเป็นงานแก้เขาไม่สนุกกับงานแก้ที่คนอื่นทำทิ้งไว้ ในที่สุดฉันก็ได้ช่างไม้ที่แสนจะน่ารักและใจเย็นคนนี้ ดูเธอมีความสุขกับการอุด ขัด เช็ด ลูบคลำไม้แต่ละชิ้น ฉันเห็นความรักในงานที่เธอทำ


สภาพไม้ที่ดูราวกับถูกข่มขืนแล้วโยนมาให้ฉัน ได้รับการเยียวยาปลอบโยนจากมือของเธอ เรื่องราวที่ผ่านมาบนแผ่นไม้แต่ละชิ้นที่ประกอบเป็นบ้านของฉันหลังนี้ จะเก็บรับอะไรมาบ้างฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้สึกได้ว่า หลังจากนี้ไม้ทุกแผ่นในบ้านจะถูกขัดสีฉวีวรรณ กลายเป็นหญิงสาวผู้งดงาม และจะก้าวผ่านกาลเวลาไปข้างหน้าด้วยความรัก

4_08_01

4_08_02

4_08_03

4_08_04

4_08_05

4_08_06

4_08_07

4_08_08

4_08_09


บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
 http://am.fenixz.net/song/20/0201.htmlขอแนะนำเพลงของคุณจรัล มโนเพ็ชร อีกหนึ่งเพลงค่ะ เนื่องในวาระครบรอบวันจากไปของเขา 3 กันยายน 2544 เพลงนี้ชื่อเพลงสัญญา คุ้น ๆ ว่าเคยอ่านที่ไหนสักแห่งถ้าจำไม่ผิดคุณมานิด อัชวงศ์ ผู้จัดการส่วนตัวของคุณจรัล บอกว่า เพลงสัญญาคือภาค 2 ของเพลงรางวัลแด่คนช่างฝัน (ถ้าผิดขออภัยค่ะ) เป็นอีกบทเพลงหนึ่งที่ชอบอารมณ์เพลง และเนื้อหาที่อหังการ์ในความเหงา ปลอบใจ และให้กำลังใจผู้คน ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกว่าเสียงคุณจรัลมีสีฟ้า และกว้างเหมือนท้องฟ้า
โอ ไม้จัตวา
 แทบไม่ต้องเขียนอะไรกับเพลงบทนี้ ขุนเขายะเยือก ชื่อเดียวกับหนังสือเล่มหนึ่ง ผลงานการประพันธ์เพลง และขับร้องโดย นิด ลายสือ หนุ่มอุดร ผู้ขับขานเพลงในท่วงทำนองแปลกหูแต่เนื้อหาต้องหยุดฟัง และบังเอิญมีภาพถ่ายอยู่ชุดหนึ่ง ถ่ายที่แม่น้ำแยงซีเกียง เมื่อคราวไปเยือนเมืองลี่เจียงหลายปีก่อน จุดที่อยู่นี้อยู่ที่ความสูงประมาณ 5 พันเมตรจากระดับน้ำทะเล สูงกว่าดอยอินทนนท์หนึ่งเท่า เป็นแม่น้ำแยงซีเกียงช่วงต้น ๆ
โอ ไม้จัตวา
สำหรับเพลงนี้ฉันยกย่องประโยคนี้ ...“เขียวระบัดนุ่มราวไหมที่ทอคลุมไหล่ให้เธอ ห่มยามฟ้าเย็น” ชื่อเพลง แนวร้างทางเดิม ประพันธ์โดยคุณจรัล มโนเพ็ชร ขับร้องโดยคุณสุนทรี เวชานนท์ อยู่ในอัลบั้ม แด่หนุ่มสาวผู้ร้าวราน ฉันชอบเวอร์ชันที่เธอร้องปัจจุบันมากกว่าในซีดี เพราะมีความรู้สึกว่าเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ หลอมรวม และผ่านการตีความจนทำให้ได้อารมณ์ที่แตกต่าง      ยามตะวันลา เหม่อยืนมองฟ้าเรืองรอง น้ำเปี่ยมฝั่งสอง ใบไผ่ลอยล่องเป็นแพ หอมข้าวใหม่อวดรวงไว้รอเธอมาเกี่ยวดูแล อยู่เต็มท้องทุ่ง
โอ ไม้จัตวา
ฉันเริ่มต้นเพลงนี้ด้วยประโยคนี้ “ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน”  ***************************** ฝนพรำยามดึก ฉันขับรถบนถนนโล่ง เสียงเปียโนกับเสียงร้องเพลงทะเลใจในเวอร์ชันของป๊อด จากอัลบัม 25 ปี คาราบาว เพลงที่ฉันชอบมาแต่ไหนแต่ไร กับเพลงคนล่าฝัน ซึ่งฟังแล้วให้พลังกับชีวิต จนต้องขอบคุณคนเขียนเพลง แอ๊ด คาราบาว เสียงหยาดน้ำตาหยาดกลางคอนเสิร์ต 25 ปีคาราบาว ด้วยอานุภาพของดนตรี และพลังในการดึงอารมณ์คนฟังร่วมของป๊อด เพลงในเวอร์ชันเบาบางแต่เปี่ยมพลัง ร่วมกับเสียงคนทั้งอิมแพ็ค เมืองทองธานี ดึงความฝัน ความผูกพัน ฆ้อน ตะปู ในหัวใจออกมาตีกันวุ่น…
โอ ไม้จัตวา
ฉันได้ช่างไม้เป็นผู้หญิง โอ...ไม่อยากจะเชื่อสายตา หญิงสาวผู้เป็นคู่ชีวิตของคนทำบ้าน เธอช่างน่ามหัศจรรย์อะไรเช่นนี้ เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำงานแบบนี้ได้อย่างไร ภาพก๊อปปี้ไรท์เตอร์สาวในบริษัทโฆษณากลางกรุง ใส่รองเท้าส้นสูง แต่งหน้าทาปาก กับภาพผู้หญิงตรงหน้าที่มีรอยฝุ่นไม้เปื้อนตามใบหน้าและเส้นผมค่อย ๆ บรรจงโปว๊สี อุดรอยไม้ ค่อย ๆ ใช้กระดาษทรายน้ำขัดหยาบ แล้วปล่อยให้ฉันทาสี แล้วเธอก็รอจนแห้งแล้วขัดทรายน้ำละเอียดอีกรอบ งานไม้ฝีมือเธอนุ่มนวลราวมือของเธอ (หรือเปล่านะ) นุ่มราวผ้าที่รีดไว้อย่างดีดีกว่า แรกตอนเริ่มทำบ้านฉันออกแบบประตู และปรึกษาหลายคนรวมทั้งคนทำบ้าน ว่าจะใช้ไม้เก่าหรือไม้ใหม่…
โอ ไม้จัตวา
ฉันจะทาสีบ้านเอง ฉันบอกคนสร้างบ้านไว้ตั้งแต่แรก มีเสียงทัดทานจากแม่และพี่ชายว่าหาเงินง่ายกว่าไหม ทาสีบ้านเดี๋ยวก็ต้องไปเสียเงินค่านวด ไหนจะปวดหัว ปวดไหล่ แต่ฉันมีความสุขส่วนตัวกับการเล่นสี จึงไม่พูดอะไร และนับวันรอให้ทุกอย่างเรียบร้อย การทาสีบ้านเหมือนการออกกำลังกายอย่างหนัก เหงื่อที่ไหลท่วมตัวจนรับรู้ถึงสายน้ำที่กำลังเดินทางอยู่บนร่างกาย บางครั้งเหงื่อที่หน้าผากไหลเข้าตา แต่ไม่มีมือเช็ดเหงื่อเพราะเปื้อนสี ก่อนทาสีจริงต้องทาสีรองพื้นสองรอบ ก่อนทาสีรองพื้นช่างจะดูความเรียบร้อยว่าปูนมีรอยร้าวไหม ถ้ามีเขาใช้ wall putty วัสดุที่เป็นอะคลิลิคมาโปว๊ เพื่อสมานเนื้อปูน…
โอ ไม้จัตวา
คนสร้างบ้านให้ฉันเป็นเพื่อนของเพื่อนที่สร้างบ้านอยู่ในบริเวณเดียวกัน การเลือกคนสร้างบ้าน หรือผู้รับเหมา เป็นเรื่องชวนปวดหัว เนื่องจากร้อยเกือบทั้งร้อยของการสร้างบ้านล้วนมีปัญหากับผู้รับเหมา ไม่ว่าจะเรื่องรายละเอียด ความคิดเกี่ยวกับการใช้สอย ความงาม รวมไปถึงค่าใช้จ่าย หลายคนมีค่าใช้จ่ายบานปลายจากเหตุต่าง ๆ มีเสียงเตือนมากมายมาถึงฉันว่าผู้รับเหมามีเล่ห์กลในการทำให้เจ้าของบ้านต้องจ่ายเงินมากเกินความจำเป็น บางคนลดสเปควัสดุที่ใช้ ทำให้บ้านในฝัน กลายเป็นความจริงอันโหดร้ายในอนาคตได้ เราตัดสินใจลงเรือลำเดียวกับผู้สร้างบ้านผู้เป็นเพื่อนของเราคนนี้ เป็นความเชื่อใจแบบพนันหมดหน้าตัก…
โอ ไม้จัตวา
หลายปีก่อนเมื่อครั้งฉันยังเร่ร่อนเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำแล้วยังไม่รู้จะนอนไหนนั้น นึกแบบเด็กแนวก็รู้สึกถึงอิสรเสรีภาพอันหอมหวาน ในวันวัยเช่นนั้น ฉันมีความสุขกับการเดินทางไปมา ผู้หญิงคนหนึ่งกับรถคันหนึ่ง เป้หนึ่งใบ อุปกรณ์การยังชีพ และชุดทำงานพร้อม เมื่อว่างเว้นจากงานประจำ มีวันหยุดเมื่อไร หรือบางครั้งแค่มีเวลาสักครึ่งวันฉันก็โลดแล่นไปมาระหว่างเมืองแล้วเช้าก็บึ่งรถกลับมาทำงานทันเวลา บ่อยครั้งที่เตรียมการสอนที่หลังพวงมาลัย ช่วงเวลานิ่งเงียบระหว่างขับรถคนเดียวเป็นช่วงเวลาที่สมองคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างขับรถจึงเป็นเวลาเรียบเรียงหัวข้อและรายละเอียดที่จะไปพูดคุยกับเด็ก ๆ…
โอ ไม้จัตวา
หลังจากอยู่ในดงข้อมูลอันบ้าคลั่งที่ไหลมาเทมา มองไปข้างหน้าเห็นแต่สถานการณ์ที่ใส่กุญแจปิดตายอย่าง “เอารัฐบาลสมัครออกไป” แต่รัฐบาลสมัครไม่ออก  ถามว่าถ้าเอาออกไปแล้วจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อเลือกตั้งใหม่ยังไงก็แพ้อีก กุญแจลูกที่สองโยนออกมาบอกว่า “เปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองใหม่ จากหน้ามือซ้ายของประชาชนไปเป็นหลังเท้าขวาของอีกคน” ฟังจบแล้วก็รู้สึกว่าลูกกุญแจที่จะเปิดล็อคถูกโยนทิ้งลงทะเลความคิดอันกว้างใหญ่ *********************************
โอ ไม้จัตวา
หลวงน้ำทาเป็นเมืองที่มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นไทลื้อ ไทดำ ม้ง มูเซอ เย้า ฯลฯ ขณะตระเวนถ่ายรูปรอบ ๆ เมืองหลวงน้ำทาอยู่นั้น ทางคณะก็เปลี่ยนกำหนดการกะทันหันเนื่องจากคนเมืองบางกอกเกิดอาการสมาธิสั้น รู้สึกว่าไม่มีอะไรทำ จึงลดกำหนดการสัมมนากลุ่มในภาคบ่ายลง และพาเราไปเมืองสิงห์แทน น้องศรบอกว่าควรทำเช่นนี้เพราะระยะทางจากหลวงน้ำทาไปเมืองสิงห์นั้น แม้ว่าจะเพียง 60 กม. แต่ก็ใช้เวลาในการเดินทางถึงสองชั่วโมง เนื่องจากสภาพพื้นผิวถนนไม่ค่อยดีนัก “เข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ไปสองชั่วโมง กลับสองชั่วโมง ไม่มีห้องน้ำ”  อื้อหือแม่เจ้าประคุณรุนช่อง ทำไมเป็นทัวร์โหดแบบนี้…
โอ ไม้จัตวา
อาหารไทยสามมื้อที่ผ่านมา ทำให้ต้องสอดส่ายสายตาหาร้านส้มตำ ก็หาไม่มี บ้านเมืองหลวงน้ำทาสะอาด บรรยากาศเหมือนบ้านฉันเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว ร้านอาหารไม่ค่อยมี ตอนเที่ยงนักเรียนขี่จักรยานเป็นเส้นเป็นสายกลับมากินข้าวที่บ้าน เหมือนฉันตอนเด็กๆ เลย ฉันบอกน้องศร คนขับรถตู้ให้พาไปตลาด น้องศรไปในทันใด ตลาดเมืองหลวงน้ำทาใหญ่มาก ที่จอดรถก็กว้างกินเนื้อที่หลายไร่ แปลนของตลาดเป็นรูปตัวยู มีลานจอดรถอยู่ตรงกลาง มีร้านค้าขายเสื้อผ้าและของใช้ทั่วไปอยู่ด้านหน้า ส่วนด้านในขายอาหารต้องเดินลัดตึกไปด้านหลัง โอ้...นี่แหละที่ฉันต้องการ แม่ค้าขายอาหารสดนั่งเรียงราย อาหารอยู่ในตู้กระจกกันแมลงวันได้เป็นอย่างดี…
โอ ไม้จัตวา
หลวงน้ำทา เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว อยู่ในเขตแขวงบ่อแก้ว มีพื้นที่ติดประเทศจีน ผู้คนพูดภาษาลาว   มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นมิตร ฉันรู้สึกสบายใจเมื่อออกจากแผ่นดินไทยมาได้ ทิวทัศน์สองข้างทางมีทัศนียภาพที่อาจไม่แปลกตา แต่ก็ให้ความรู้สึกแปลกถิ่นทำให้ลืมความวุ่นวายในชีวิต และบ้านเมืองเราไปได้  โดยเฉพาะแววตาและรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของผู้คนนั้น ราวกับเป็นสิ่งชำระล้างความยุ่งเหยิงของเชือกที่พันอยู่ในหัวใจ คลายมันออก จนกลายเป็นหัวใจที่ว่างเปล่า คุยกับพี่ที่ไปด้วยกันว่าเราย้ายมาอยู่ลาวกันไหม ทำไมเรารู้สึกมีความสุขแบบนี้ เป็นความโล่ง แม้ว่าจะมีข่าวสารส่งมาทาง sms…