Skip to main content




เกิดมาไม่เคยนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์วันค่ำคืนรุ่งได้นานขนาดนี้ เริ่มตั้งแต่กลางดึกดูข่าวพันธมิตรยึดรัฐสภาก่อนหลับไปแล้วตื่นมาพบว่าตำรวจสลายการชุมนุมแต่เช้า ก็วนเวียนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ รู้สึกว่าการตามข่าวคราวใน พ
..นี้ต่างจากเมื่อคราวพฤษภาทมิฬที่ต้องหลบกฎอัยการศึกไปนั่งดื่มกับเพื่อนและเจ้าของร้านที่แอบเปิดบ้านให้เราดื่มกิน


ปีนี้เรากลายเป็นม็อบหน้าเอ็ม (MSN) และเปิดข่าว ดูทีวีทางอินเตอร์เน็ต ขณะที่แม่ยึดทีวีดูละคร และแอบมาตามข่าวกับเราเป็นระยะก่อนจากไปด้วยใจเต้นรัว บอกว่าใจไม่ดี ไม่รู้คนแก่ที่ม็อบเค้าอยู่กันได้ยังไง แม่ดูแค่นี้ก็ใจสั่นแล้ว ส่วนเราตอนนี้รู้สึกเมาคอมพิวเตอร์ ต้องเปลี่ยนช่องมาดูแอ๊ดบาวร้องทะเลใจอยู่ที่ช่อง 5


ย้ายไปเยี่ยมม็อบ ASTV ก็พบว่าเจ๊ปองพูดคำว่าคุณอะไรสักอย่างเป็นเภสัชกรบริจาคยาดมหมื่นหลอด แล้วสัญญาณก็หายไป น้องคอลัมน์ข้างๆ บอกว่า ดูอันนี้มา 5 รอบ ได้ห้าหมื่นหลอดแล้ว ส่วนฉัน 3 รอบ สามหมื่นรวมเป็นยาดม 8 หมื่นหลอด


รู้สึกเมาหัววิงเวียน ไปหาเพลงในยูธูปฟังคลี่คลายหัวหนักๆ ก่อนนอนดีกว่า เผื่อจะดีขึ้น เปิดไปเจอคลิ้บที่เอามาให้ดู ดูแล้วก็เอ้อดีจังโชคดีที่เจอคลิ้บนี้ในเวลานี้ ประธานาธิบดีบอริส เยลซิน มาเยือนอเมริกาในสมัยประธานาธิบดีบิล คลินตัน ตอนนั้นสื่ออเมริกันเรียกเยลซินว่า An Disaster as an President ขออนุญาตไม่แปลค่ะ เปิดดิคดูคำว่า Disaster แปลว่า หายนะ ภัยพิบัติ ความหมายในทางทำลายน่ะค่ะ ประมวลผลความหมายเองแล้วกันนะคะ


เยลซินรู้ตัวว่าถูกเรียกแบบนี้ พอมาเยือนอเมริกาก็อยากเอาคืนบ้าง สิ่งแรกที่พูดกับคลินตัน คือ บอกว่าคลินตันเป็น Disaster สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือคลินตันหัวเราะท้องคัดท้องแข็งอย่างที่เห็น


เราคลายเครียดไปเลย ดูภาพสองผู้นำประเทศมหาอำนาจที่เคยตีกันโลกแทบแตก วันหนึ่งมากอดคอกันเพราะโดนอีกฝ่ายซัดตรงๆ ด้วยคำพูดแรงๆ มีความเห็น 536 ความเห็นใต้คลิ้บนี้ เข้าไปอ่านไม่กี่หน้า ก็ขำดี บางคนบอกว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดสงครามเย็น บางคนบอกว่านี่เป็นว้อดก้าเอฟเฟค คลินตันไม่ควรดื่มมาก สมควรแล้วที่เยลซินบอกว่าเขาเป็น Disaster บางคนบอกว่านี่เป็น good politics บางคนบอกว่าทั้งสองประเทศใช้เงินกับงบประมาณทางทหารและอาวุธไปเยอะมากในช่วงสงครามเย็น ประธานาธิบดีของทั้งสองประเทศควรดูคลิ้บอันนี้ทุกเช้า!!


อยากเห็น good politics แบบนี้ในบ้านเรามั่งจัง

สองผู้นำด่ากันแล้วหัวเราะบ้าไปเลยแบบนี้


เฮ้อ! ฝันดีทุกท่าน

 
 
 
 
 
 



บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
ได้มีโอกาสไปแอ่วเมืองน่านเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังจากไม่ได้ไปมาเป็นสิบปี ไปคราวนี้คนที่ไปด้วยก็แทบไม่เคยไปเลย มีเราคนเดียวที่มาบ่อยที่สุด กระนั้นก็นับได้ประมาณสี่ครั้ง ความที่เมืองน่านเป็นเมืองที่จะว่าไกลก็ไกล จะว่าไม่ไกลก็ไม่ไกลนัก ขับรถจากเชียงใหม่ 5 ชั่วโมงรวมเวลาพักรถกินกาแฟที่เด่นชัย ขับรถเส้นทางนี้ขอแนะนำร้านกาแฟสดเด่นชัย ตรงริมแม่น้ำ เชิงสะพานทางไปลำปาง กาแฟเค้าดีจริงๆ หรือหากใครดื่มกาแฟไม่ได้ ถ้าได้ผ่านไปที่อ.ร้องกวาง จ.แพร่ แวะตลาดสด มีร้านหนึ่งขายเมี่ยง ใช้อมตอนขับรถง่วง ๆ ได้ผลดี เพราะเมี่ยงเป็นใบชาชนิดหนึ่งมีคาเฟอีนเหมือนกัน เราชอบกินเมี่ยงเพราะไม่ขับปัสสาวะเหมือนกาแฟ  
โอ ไม้จัตวา
  รูปนี้ก็ต้องจับกล้องนิ่ง ๆ เพราะถ่ายท้องฟ้าตอนเย็น
โอ ไม้จัตวา
 คำถามเดิม ถ่ายยังไงให้ดีให้สวย คำตอบแบบกำปั้นทุบกล้องเลยคือ มองให้เห็นความงาม ซึ่งตรงนี้ขอเน้นย้ำว่า “ความงามเป็นเรื่องปัจเจก” เป็นเรื่องของใครของมัน กล้องก็ของเรา เราถ่ายเราก็เอาไปดู และชื่นชมอย่างน้อยก็กับตัวเอง คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างไม่ต้องสนใจ ถ้าเราเห็นว่างาม...ถ่ายเลย
โอ ไม้จัตวา
  หลายคนถามว่าถ่ายรูปอย่างไรให้สวย ช่วยสอนหน่อยได้ไหม ความที่ไม่ได้ร่ำเรียนเรื่องการถ่ายภาพมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เราสอนเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้เช่นกัน คำตอบที่บอกไปส่วนใหญ่จะบอกแบบโยนกล้องให้แล้วไปหาเอา
โอ ไม้จัตวา
  ไปกินปลาสะแงะมาแล้ว รสชาติและเนื้อคล้าย ๆ กับปลาคังน่ะ ร้านที่ไปกินเป็นร้านอาหารอร่อยด้วยรสมือคนปรุง ชื่อร้านน้องเบส ขอแนะนำ เป็นห้องแถวสองคูหา นอกจากปลาสะแงะที่น่าลิ้มรสแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้อีกเมนูหนึ่งของร้านนี้คือ เห็ดหอมทอดซีอิ้ว ที่มีน้ำจิ้มสีเขียวสูตรของร้านนี้โดยเฉพาะ อร่อยจริง ๆ
โอ ไม้จัตวา
ภาพจาก www.thailandoutdoor.com ไปปายคราวที่แล้ว ได้ยินชื่อปลาสะแงะในเมนูร้านอาหารร้านอร่อย (ร้านน้องเบส เห็ดหอมทอดอร่อยด้วยน้ำจิ้มสีเขียว) แต่ก็ไม่ได้กิน ถามใครก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นปลาอะไร ดียังไง ทำไมต้องปลาสะแงะ จนกระทั่งมาเจอข้อเขียนของคุณ’รงค์  วงษ์สวรรค์ ที่เคยเขียนไว้ถึงปลาชนิดหนึ่งชื่อปลาไหลหูดำ “ปลาไหลหูดำ  โอว  หี่  เหมา  ปรุงรสน้ำแดงกับเห็ดหอมและผักบุ้ง--เอ้งฉ่าย   ปลานี้อิมพอร์ทเข้ามาจากฮ่องกงราคาแพงและมีกินในฤดูเดือนเท่านั้น แต่บางคนบอกความลับว่า  พรานปลาแถบลุ่มน้ำตาปีภาคใต้นำมาส่งอย่างไม่เปิดเผยเพื่อการผดุงราคาเหนือกว่าปลาอื่น…
โอ ไม้จัตวา
http://blog.palungjit.com/uploads/s/saochiangmai/3152.mp3 เพลงน้องน้อยแพนด้า สำหรับดาวน์โหลดค่ะ แพนด้าไม่ใช่หมี แพนด้าคือแพนด้า
โอ ไม้จัตวา
  ความที่ปายเป็นเมืองโรแมนติก เมืองที่อยู่สบาย ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำเล็ก ๆ ไหลผ่าน เหมือนภาพในฝัน ในนิทานยังไงยังงั้น จึงมีผู้คนจำนวนหนึ่งย้ายนิวาสสถานมาอาศัยอยู่ที่ปาย บางคนมานอนอ่านหนังสือ พักผ่อน เช่าบ้านอยู่นาน ๆ เป็นจุดแวะพักในซอกมุมหนึ่งของโลก ก่อนจะออกเดินทางต่อไป  
โอ ไม้จัตวา
ดอกไม้ริมทาง ใครจะนึกบ้างว่าเมืองที่ “อะไรก็ปาย” ในพ.ศ.นี้ เคยเป็นดินแดนสำหรับเนรเทศผู้กระทำความผิดมาก่อน ย้อนหลังไปไกลเจ็ดร้อยกว่าปี เมื่อเริ่มสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในพ.ศ. 1839 ในสมัยราชวงศ์มังรายปกครองเชียงใหม่นี้ ปายก็เป็นเมืองหน้าด่านเมืองหนึ่งของเชียงใหม่ ในชื่อว่า “เมืองน้อย” ซึ่งปัจจุบันบ้านเมืองน้อย (อยู่ระหว่างปายกับอ.เวียงแหง) เป็นหมู่บ้านของชาวปกากญอ อยู่ต้น ๆ ของแม่น้ำปาย
โอ ไม้จัตวา
  ได้เวลาพารถคันน้อย ๆ ไปออกกำลังกายอีกแล้ว คราวนี้ไปแบบไม่รู้อะไรเลย บ้านวัดจันทร์ ฉันรู้จักในนามป่าสนวัดจันทร์ ความที่ชอบต้นสนสองใบ สามใบ และไม่เคยแยกออกสักทีว่าอย่างไหนสองใบ หรือสามใบ แต่ที่ชอบคือใบฝอย ๆ เวลามองไกล ๆ แล้วดูเป็นฟู่ ๆ สวยดี ใบสนไม่มีน้ำ ยามหน้าแล้งจึงยังเขียวอยู่เนื่องจากมีน้ำมันอยู่ข้างใน
โอ ไม้จัตวา
คนปาย
โอ ไม้จัตวา
ตื่นเช้ามาด้วยอาการแฮ้งค์ดาวแดงอย่างสุดชีวิต ความที่เคมีในร่างการเริ่มปฏิเสธดาวดาวสีแดงดวงนี้ ทำให้ชีวิตฉันง่ายขึ้นเมื่อต้องชะตากับลีโอ จนเพื่อนร่วมทางบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กินลีโอ