Skip to main content

วันนี้อากาศเย็น ปลายเดือนพฤศจิกายน 2550 เมืองเชียงใหม่เริ่มคึกคัก แต่ก็ยังดูเหงากว่าปีที่แล้ว ซึ่งงานพืชสวนโลกสร้างปรากฏการณ์คนไหลมาให้กับเมืองจนถนนทรุด เป็นฟองสบู่ฟองใหญ่ที่ดึงนักลงทุนท้องถิ่นรายย่อยให้เข้าไปลงทุนกับตัวล่อคือนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้ามาในเมือง

สะท้อนความอ่อนด้อยของประชาชน การขาดการศึกษาข้อมูลอย่างถ่องแท้ ทำให้หลงคำโน้มน้าวให้เกิดการลงทุนบริเวณหน้าสถานที่จัดงาน ขณะที่ปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสถานที่ ราคาค่าเข้าชม ทำให้เป็นตัวแบ่งระดับฐานะของนักท่องเที่ยว คือต้องมีเงินเท่านั้นจึงจะเข้าชมได้ ตั้งแต่เงินค่ารถมา ค่าเข้าชม และสถานที่อันกว้างใหญ่ไพศาลทำให้คนเข้าชมเหนื่อยหมดแรง เกินกว่าจะออกมาเดินช็อปปิ้งได้ เพราะแค่ทางเดินออกจากประตูก็เล่นเอาขาลาก และขาที่ลากมาขึ้นรถนั้นก็ผ่านร้านของที่ระลึกอันละลานตา พอถึงรถก็หมดแรงพอดี

ร้านอาหารไกลปืนเที่ยงแต่มีแรงดึงดูดพอ ก็รับนักท่องเที่ยวกันไม่หวาดไม่ไหว คนต่างถิ่นมาเชียงใหม่ก็ต้องการมาดู มาชม มาดื่มกิน และสูดกลิ่นความเป็นเชียงใหม่ วัฒนธรรมเชียงใหม่

ปีนี้เมืองเชียงใหม่ไม่มีแรงดึงดูดพอสำหรับนักท่องเที่ยว สวนราชพฤกษ์เปิดให้บริการอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ไร้งบพีอาร์ มีผู้ว่าไปตัดเค้กวันเกิดพืชสวนโลก ขณะเพื่อน ๆ ยังชวนกันไปลอยกระทงที่บ้านแม่เหียะใน หมู่บ้านตกสำรวจในเขต อ.เมือง ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้

เปิดสวนคราวนี้ป้านวล ป้าข้างบ้านไปเที่ยวก่อนเพื่อน บอกว่าขึ้นรถเมล์สาย 3 ที่หน้าปากซอย 15 บาท เอาน้ำใส่กระติกไปกิน ค่าเข้าชมไม่เสีย แต่เสียค่ารถนำชมสวน 20 บาท ป้านวลบอกก็ม่วนดี รู้สึกว่ามีที่สวย ๆ มีต้นไม้ที่เขียวแล้ว เพราะได้น้ำมาฝนหนึ่ง ชาวบ้านไปเที่ยวกันเยอะ เพราะรู้สึกว่าเป็นที่ของเราแล้ว

ยี่เป็ง หรือลอยกระทงรออยู่ในวันนี้วันพรุ่ง ดูจากยอดการจองโต๊ะ พบว่าคนมากระจุกอยู่ที่วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน มากที่สุด เนื่องจากเป็นวันเสาร์ และวันลอยกระทงไม่ใช่วันหยุดราชการ ตรงวันเสาร์ให้ก็ดีเท่าไรแล้ว ประกอบกับตรงกับวันประสาทปริญญาบัตรของบัณฑิตมหาวิทยาลัยพายัพ ผู้คนจำนวนมากแย่งจองโต๊ะอาหารตามร้านริมแม่น้ำ

แต่แปลกที่ปีนี้ฉันไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับบรรยากาศนี้สักเท่าไร อาจเพราะเหนื่อยมาทั้งปี จำได้ว่าลอยกระทงปีที่แล้วเม็ดเงินสะพัดระดับนักร้องออกเทปเปล่าก็ขายได้ ฉันทำรายได้จากการขายไฟเย็นและโคมลอยจำนวนมาก ทำงานสามเดือนมีเงินใช้หกเดือน

จริง ๆ แล้วฉันอยากให้เมืองเชียงใหม่เป็นเหมือนเมืองท่องเที่ยวในต่างประเทศ คือทำงานเฉพาะฤดูการท่องเที่ยว หรือ High Season เมื่อหมดฤดูกาล เข้าหน้าฝน เราก็หยุด เพราะคนก็ไม่มี และเรายังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หากใครค้าขายไม่เป็น หามาได้แล้วไม่เก็บไว้ใช้ยามหมดฤดูก็เป็นอันจบ ฤดูกาลอันเงียบเหงากำลังจะผ่านไป ความสดชื่นมาพร้อมกับลมหนาว เศรษฐกิจเริ่มหมุนเวียนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีจริต ผู้คนในเมืองเป็นพร็อบให้กับเมืองอย่างเป็นธรรมชาติ และโดยไม่มีสคริป ดู ๆ ไปบางทีก็เบื่อ

แต่บางทีเห็นดอกไม้บานยามเช้า ก็รู้สึกว่าเชียงใหม่ยังมีความน่ารักอยู่นะ.

picture

picture

picture

picture

picture

picture

picture

picture

picture

picture

picture

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
ได้มีโอกาสไปแอ่วเมืองน่านเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังจากไม่ได้ไปมาเป็นสิบปี ไปคราวนี้คนที่ไปด้วยก็แทบไม่เคยไปเลย มีเราคนเดียวที่มาบ่อยที่สุด กระนั้นก็นับได้ประมาณสี่ครั้ง ความที่เมืองน่านเป็นเมืองที่จะว่าไกลก็ไกล จะว่าไม่ไกลก็ไม่ไกลนัก ขับรถจากเชียงใหม่ 5 ชั่วโมงรวมเวลาพักรถกินกาแฟที่เด่นชัย ขับรถเส้นทางนี้ขอแนะนำร้านกาแฟสดเด่นชัย ตรงริมแม่น้ำ เชิงสะพานทางไปลำปาง กาแฟเค้าดีจริงๆ หรือหากใครดื่มกาแฟไม่ได้ ถ้าได้ผ่านไปที่อ.ร้องกวาง จ.แพร่ แวะตลาดสด มีร้านหนึ่งขายเมี่ยง ใช้อมตอนขับรถง่วง ๆ ได้ผลดี เพราะเมี่ยงเป็นใบชาชนิดหนึ่งมีคาเฟอีนเหมือนกัน เราชอบกินเมี่ยงเพราะไม่ขับปัสสาวะเหมือนกาแฟ  
โอ ไม้จัตวา
  รูปนี้ก็ต้องจับกล้องนิ่ง ๆ เพราะถ่ายท้องฟ้าตอนเย็น
โอ ไม้จัตวา
 คำถามเดิม ถ่ายยังไงให้ดีให้สวย คำตอบแบบกำปั้นทุบกล้องเลยคือ มองให้เห็นความงาม ซึ่งตรงนี้ขอเน้นย้ำว่า “ความงามเป็นเรื่องปัจเจก” เป็นเรื่องของใครของมัน กล้องก็ของเรา เราถ่ายเราก็เอาไปดู และชื่นชมอย่างน้อยก็กับตัวเอง คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างไม่ต้องสนใจ ถ้าเราเห็นว่างาม...ถ่ายเลย
โอ ไม้จัตวา
  หลายคนถามว่าถ่ายรูปอย่างไรให้สวย ช่วยสอนหน่อยได้ไหม ความที่ไม่ได้ร่ำเรียนเรื่องการถ่ายภาพมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เราสอนเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้เช่นกัน คำตอบที่บอกไปส่วนใหญ่จะบอกแบบโยนกล้องให้แล้วไปหาเอา
โอ ไม้จัตวา
  ไปกินปลาสะแงะมาแล้ว รสชาติและเนื้อคล้าย ๆ กับปลาคังน่ะ ร้านที่ไปกินเป็นร้านอาหารอร่อยด้วยรสมือคนปรุง ชื่อร้านน้องเบส ขอแนะนำ เป็นห้องแถวสองคูหา นอกจากปลาสะแงะที่น่าลิ้มรสแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้อีกเมนูหนึ่งของร้านนี้คือ เห็ดหอมทอดซีอิ้ว ที่มีน้ำจิ้มสีเขียวสูตรของร้านนี้โดยเฉพาะ อร่อยจริง ๆ
โอ ไม้จัตวา
ภาพจาก www.thailandoutdoor.com ไปปายคราวที่แล้ว ได้ยินชื่อปลาสะแงะในเมนูร้านอาหารร้านอร่อย (ร้านน้องเบส เห็ดหอมทอดอร่อยด้วยน้ำจิ้มสีเขียว) แต่ก็ไม่ได้กิน ถามใครก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นปลาอะไร ดียังไง ทำไมต้องปลาสะแงะ จนกระทั่งมาเจอข้อเขียนของคุณ’รงค์  วงษ์สวรรค์ ที่เคยเขียนไว้ถึงปลาชนิดหนึ่งชื่อปลาไหลหูดำ “ปลาไหลหูดำ  โอว  หี่  เหมา  ปรุงรสน้ำแดงกับเห็ดหอมและผักบุ้ง--เอ้งฉ่าย   ปลานี้อิมพอร์ทเข้ามาจากฮ่องกงราคาแพงและมีกินในฤดูเดือนเท่านั้น แต่บางคนบอกความลับว่า  พรานปลาแถบลุ่มน้ำตาปีภาคใต้นำมาส่งอย่างไม่เปิดเผยเพื่อการผดุงราคาเหนือกว่าปลาอื่น…
โอ ไม้จัตวา
http://blog.palungjit.com/uploads/s/saochiangmai/3152.mp3 เพลงน้องน้อยแพนด้า สำหรับดาวน์โหลดค่ะ แพนด้าไม่ใช่หมี แพนด้าคือแพนด้า
โอ ไม้จัตวา
  ความที่ปายเป็นเมืองโรแมนติก เมืองที่อยู่สบาย ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำเล็ก ๆ ไหลผ่าน เหมือนภาพในฝัน ในนิทานยังไงยังงั้น จึงมีผู้คนจำนวนหนึ่งย้ายนิวาสสถานมาอาศัยอยู่ที่ปาย บางคนมานอนอ่านหนังสือ พักผ่อน เช่าบ้านอยู่นาน ๆ เป็นจุดแวะพักในซอกมุมหนึ่งของโลก ก่อนจะออกเดินทางต่อไป  
โอ ไม้จัตวา
ดอกไม้ริมทาง ใครจะนึกบ้างว่าเมืองที่ “อะไรก็ปาย” ในพ.ศ.นี้ เคยเป็นดินแดนสำหรับเนรเทศผู้กระทำความผิดมาก่อน ย้อนหลังไปไกลเจ็ดร้อยกว่าปี เมื่อเริ่มสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในพ.ศ. 1839 ในสมัยราชวงศ์มังรายปกครองเชียงใหม่นี้ ปายก็เป็นเมืองหน้าด่านเมืองหนึ่งของเชียงใหม่ ในชื่อว่า “เมืองน้อย” ซึ่งปัจจุบันบ้านเมืองน้อย (อยู่ระหว่างปายกับอ.เวียงแหง) เป็นหมู่บ้านของชาวปกากญอ อยู่ต้น ๆ ของแม่น้ำปาย
โอ ไม้จัตวา
  ได้เวลาพารถคันน้อย ๆ ไปออกกำลังกายอีกแล้ว คราวนี้ไปแบบไม่รู้อะไรเลย บ้านวัดจันทร์ ฉันรู้จักในนามป่าสนวัดจันทร์ ความที่ชอบต้นสนสองใบ สามใบ และไม่เคยแยกออกสักทีว่าอย่างไหนสองใบ หรือสามใบ แต่ที่ชอบคือใบฝอย ๆ เวลามองไกล ๆ แล้วดูเป็นฟู่ ๆ สวยดี ใบสนไม่มีน้ำ ยามหน้าแล้งจึงยังเขียวอยู่เนื่องจากมีน้ำมันอยู่ข้างใน
โอ ไม้จัตวา
คนปาย
โอ ไม้จัตวา
ตื่นเช้ามาด้วยอาการแฮ้งค์ดาวแดงอย่างสุดชีวิต ความที่เคมีในร่างการเริ่มปฏิเสธดาวดาวสีแดงดวงนี้ ทำให้ชีวิตฉันง่ายขึ้นเมื่อต้องชะตากับลีโอ จนเพื่อนร่วมทางบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กินลีโอ