ตีนฟ้ายกแล้ว แมวยังหลับใหลอยู่บนกองผ้าห่มอบอุ่น ใกล้เวลานัดสำหรับการออกไปดูโลกสีชมพูที่ได้ยินเสียงนักเดินทางต่างถิ่นกลับมาบอกเล่าเรื่องราวอยู่เสมอ
“ใกล้แค่นี้เอง” ฉันบอกเพื่อนร่วมทาง หลังจากชักชวนกันเมื่อคืน ว่าดอกพญาเสือโคร่งกำลังบานที่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน หลังดอยสุเทพนี่เอง
เราออกจากบ้านเจ็ดโมงเช้า แวะกาแฟวาวีร้านกาแฟสาขาถนนนิมนานเหมินท์ที่เปิดตั้งแต่เจ็ดโมง แต่ก็ต้องรอเครื่องร้อนอีกครู่หนึ่ง ออกจากถนนนิมมานฯ เข้าสู่ถนนห้วยแก้ว ถนนสายหลักของนักท่องเที่ยวที่ต้องขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ และยังเป็นถนนสายหลักในหัวใจของชาวเชียงใหม่ เนื่องจากดอยสุเทพเป็นศูนย์รวมความเคารพและศรัทธาของชาวเหนือ
ถึงดอยสุเทพ ถนนหน้าวัดยามเช้าดูสงบ เศษขยะสองข้างทางยังมีให้เห็น อบต.สุเทพ ผู้รับผิดชอบการเก็บขยะบนดอยยังคงทำงานหนักกับภาระการเก็บขยะจำนวนมาก ขณะภาคีคนฮักเชียงใหม่กำลังเริ่มรณรงค์ เรื่อง”เอาสิ่งใดขึ้นไป เอากลับลงมาด้วย” ปัญหาขยะยังคงเป็นเรื่องขยะที่แก้ไม่ตก
แสงแดดสาดมาที่วัด ที่สร้างตามคติหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ใครจะรู้บ้างว่าพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยสุเทพนั้นก็งามไม่แพ้ที่ไหน เมื่อยืนอยู่บนยอดดอย มองลงไปพื้นราบที่ตั้งของนครเชียงใหม่ยามเช้า หมอกเรี่ยบางเบา มีดวงตะวันโผล่ขึ้นที่ขอบฟ้าด้านหน้า
อยู่เชียงใหม่มา 20 ปี มองเห็นความงามและความเปลี่ยนไปของเมืองที่จะเละตุ้มเป๊ะยังไง ก็ยังเคารพสายตาที่มองเห็นความงามของผู้สร้างเมือง ภูเขา แผ่นดิน แม่น้ำ และผู้คน หลอมรวมกันเป็นเมืองเชียงใหม่
พ้นวัดดอยสุเทพ ผ่านหน้าพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เวียงวังที่ดูเงียบเศร้ากับการจากไปของสมเด็จพระพี่นางฯ ผ่านหน้าพระตำหนักไปทางดอยปุย เมื่อถึงทางแยกสู่ดอยปุยจะมีป้ายบอกบางเลี้ยวขวาไปบ้านม้งขุนช่างเคี่ยน ถนนช่วงนี้เล็กแคบมีต้นไม้ปกคลุมคล้ายเส้นทางไปอ.แม่แจ่ม แสงแดดลอดยอดไม้ลงมาเหมือนไฟจากดวงอาทิตย์ส่องลงบนโลกนี้ที่คือโรงละครแห่งชีวิต
ขับไปเรื่อย ๆ ผ่านสถานที่พักกางเต๊นท์ เลยไปอีกหน่อยจะเห็นภาพตรงหน้านี้!