Skip to main content

บอกกับตัวเองและเพื่อน ๆ บ่อยครั้งว่า มาเชียงรายฉันมักหาทางไปแม่สาย เชียงแสน ขับรถเลียบแม่น้ำโขง แค่ย่างเข้าสู่แม่จันก็รู้สึกเหมือนกลับบ้าน สงสัยชาติก่อนฉันคงเคยเกิดแถวนี้ ความรู้สึกอิ่มสุขลึก ๆ ในใจเมื่อมองทุ่งหญ้าที่ขึ้นสองฝั่งโขง มองสายน้ำอันยิ่งใหญ่ตรงหน้า

 

อาจเป็นเพราะฉันมีเชื้อสายส่วนหนึ่งเป็นลาว ยายของย่าของฉันอพยพมาจากเมืองหลวงพระบางในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งประวัติศาสตร์บอกไว้ว่าในช่วงนั้นหลวงพระบางเมืองหลวงของลาวแตกลง มีการอพยพสองสาย สายหนึ่งลงใต้ อีกสายหนึ่งข้ามโขงลัดเลาะเทือกเขาเพชรบูรณ์เข้ามาทางจังหวัดเลย ด่านซ้าย และเพชรบูรณ์

 

ส่วนเลือดอีกฟากหนึ่งในกายฉันมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เส้นทางข้ามโขงด้วย R3a ในทริปนี้จึงเป็นการเดินทางที่มีความหมายกับชีวิต ราวกับได้หลุดเข้ามาในดินแดนอันเป็นอดีตของชีวิต

ลมแม่น้ำโขงให้ความรู้สึกราวลมทะเล แม่โขงมหานทีอันยิ่งใหญ่มีต้นกำเนิดที่ประเทศทิเบตตีนเขาหิมาลัย ไหลคู่กับมากับแม่น้ำสายสำคัญอีกสองสาย คือ แยงซีเกียงผ่านประเทศจีน และแม่น้ำสาละวินผ่านประเทศพม่า ส่วนแม่น้ำโขงไหลผ่านทิเบต จีน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ฉันนั่งเรือข้ามโขงที่อ.เชียงของ หลังจากทำใบผ่านแดนที่นี่แล้ว ฝั่งตรงข้ามคือ อ.ห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว จุดมุ่งหมายคือเมืองหลวงน้ำทา เมืองสำคัญที่ถนนสายนี้ผ่านก่อนเข้าสู่ประเทศจีน

 

ห้วยทรายเป็นเมืองที่มีบรรยากาศแบบเมืองท่องเที่ยว เพียงเดินขึ้นจากเรือก็พบกับภูมิประเทศแปลกตา กับเนินลาดขึ้น มีบ้านเรือนร้านค้าอยู่สองข้าง ไปจนจดถนนสายหลักของเมืองที่ลาดขนานไปกับแม่น้ำโขง บรรยากาศคล้ายข้ามเรือขึ้นเกาะ จุดพักนักท่องเที่ยว ร้านเบียร์ ร้านกาแฟ ร้านอาหารริมแม่น้ำโขง ร้านขายโปสการ์ด เรียงรายไปสองข้างทาง

 

ฉันรอรถตู้โดยสารที่มารับ ก่อนออกเดินทางด้วยเส้นทางห้วยทราย-หลวงน้ำทา บนถนน R3a ถนนที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นาน รอเพียงสะพานข้ามโขงที่อ.เชียงของเสร็จเท่านั้น ระยะทางระหว่างคุนหมิงถึงกรุงเทพก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และนิคมอุตสาหกรรมบนพื้นที่ 6,000 ไร่ที่ อ.เชียงของก็กำลังจะเกิดขึ้น

 

ระยะทางระหว่างห้วยทรายไปหลวงน้ำทา 180 กม. 90% เป็นถนนบนภูเขา สำหรับฉันแล้วไม่สูงและไม่ชันมาก เทียบกับถนนพันโค้งเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนแล้ว ที่นี่ยังเด็กนัก แต่สำหรับคนเมารถก็ต้องเตรียมยาแก้เมาติดตัว เพราะนับจากนาทีนี้เป็นต้นไป เราจะโลดแล่นไปบนเทือกเขาสูงที่ทอดยาว มุ่งหน้าสู่ตอนเหนือของประเทศลาว

 

เราใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงถึงเมืองหลวงน้ำทา มีจุดแวะพักกลางทางที่บ้านน้ำเกี้ยง มีสะพานชื่อน่ารักว่า ขัวน้ำฟ้า ขัว ใช้คำเดียวกับภาษาคำเมืองแปลว่าสะพาน ฉันยืนมองป้ายชื่อสะพานที่เบื้องหลังเป็นฟ้ากว้าง มีลำธารน้ำใสไหลทอดยาวมาจากภูเขาเบื้องหน้า โลกดูสงบสุข ร้านค้าขายของสำหรับนักท่องเที่ยวมีขนม น้ำ และเบียร์ไว้บริการ รวมถึงห้องน้ำสะอาดมาก ค่าบริการห้องน้ำในลาวคนละ 1,000 กีบ หรือประมาณสามบาทไทย หากไม่มีเงินกีบเขาก็รับเงินไทย แต่เริ่มต้นทุกอย่างที่แบ๊งค์ยี่สิบ

 

สองข้างทางบนถนนสายนี้เต็มไปด้วยร่องรอยการตัดไม้ จนน่าใจหายว่าอีกไม่นานประเทศลาวจะตกอยู่ในสภาพเดียวกับไทย คืออุณหภูมิสูงขึ้น อุทกภัยร้ายแรงมีมากขึ้น ภูเขาหัวโล้นมีให้เห็นตลอดสองข้างทาง

 

ถนนสายยาวไกลนี้เหมือนงูใหญ่เลื้อยนำพาความเจริญทางวัตถุไปหาผู้คน และดื่มกินธรรมชาติเป็นอาหารระหว่างทาง

 

ถึงทางแยกเข้าเมืองหลวงน้ำทา หากมีเวลาสักนิด ขับเลยไปอีก 65 .. มุ่งหน้าสู่เมืองบ่อเต็น เขตชายแดนลาว-จีน ที่ปัจจุบันรัฐบาลจีนเช่าพื้นที่ 20 ตร.กม. เป็นเวลา 99 ปี ที่บ่อเต็นจึงดูราวกับดินแดนจีน โทรศัพท์มือถือมีข้อความยินดีต้อนรับสู่ประเทศจีน ทั้งที่ยืนอยู่ในเขตลาว ขณะดีแทคส่งข้อความอวยพรให้เที่ยวสนุกและแจ้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินมาให้ ที่นี่มีคาสิโนที่เพิ่งสร้างเสร็จใหญ่โตหรูหราคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว มีร้านค้า อาคารแบบจีนสมัยใหม่ มีซูเปอร์มาเก็ตขายสินค้าจีนรับเงินกีบ หยวน และเงินบาท บรรยากาศ กลิ่น และการขับรถของผู้คนล้วนเป็นจีนทั้งสิ้น

 

เช้าจรดเย็นของวันนี้ดูราวกับเหยียบไปถึงสามแผ่นดิน ถนนสายนี้จะนำพาสิ่งใดมาถึงบ้านเราบ้างก็ต้องรอวันที่สะพานสร้างเสร็จ

 

มาดูรูปกันค่ะ

9_6_01
แม่โขงมหานที


9_6_02
บ้านห้วยทรายฝั่งตรงข้าม อ.เชียงของ


9_6_03
สต๊อคเบียร์ลาว


9_6_04
ร้านกาแฟที่ห้วยทราย


9_6_05
คนลาวใช้จานดาวเทียมเยอะมาก

 

9_6_06
เส้นทาง R3a


9_6_07
กำลังมุ่งหน้าไปหลวงน้ำทา


9_6_08
เขตจีนที่บ่อเต็น หน้าคาสิโน


9_6_09
คาสิโน

 

9_6_10
ขัวน้ำฟ้า ที่พักริมทาง

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
ไปปายมา เหมือนพูดคำฮิตยังไงไม่รู้ ฉันไปปายมาจริงๆ ถามว่าไปบ่อยไหม แปดปีมานี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่ไป แต่ละครั้งเว้นวรรคสี่ปี เพราะฉะนั้นฉันจึงเป็นความเปลี่ยนแปลงของปายค่อนข้างเยอะ
โอ ไม้จัตวา
 เจอคลิบวีดีโอนี้มานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสนำมาให้ชมสักที เขาชื่อ Paul Potts ผู้ร้องเพลง Nessun Dorma ในการประกวดร้องเพลง Britains Got Talent ของประเทศอังกฤษ ฉันชอบเข้าไปดูคลิ้บรายการนี้ เพราะจะเห็นผู้มีความสามารถทางการร้องเพลงมาร้องประกวดกันด้วยความสามารถอย่างแท้จริง อย่างเช่นสาวน้อย คอนนี่ ที่นำมาให้ชมสัปดาห์ที่แล้วก็เกิดจากรายการนี้ เขาไม่มีข้อจำกัดทางการตลาดในการประกวดร้องเพลง ไม่ต้องจัดฟัน ไม่ต้องหล่อ ไม่ต้องสวย ไม่ต้องมีคนจัดหาเสื้อผ้ามาให้ ขอเพียงมีหัวใจมาด้วยเท่านั้น
โอ ไม้จัตวา
   ขออนุญาตเปิดเพลงนี้อีกครั้ง Imagine จากเสียงร้องของสาวน้อยเสียงใส Connie Talbot นักร้องตัวน้อยผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบการประกวดร้องเพลง Britain's Got Talent ปี 2007 เสียงใส ๆ ของเธอร้องเพลง Somewhere over the rainbow ทำเอากรรมการนั่งน้ำตาไหลเป็นทาง
โอ ไม้จัตวา
  Pavarotti Last Performance "Nessun Dorma" @ Torino 2006
โอ ไม้จัตวา
  เพลงวาสิฏฐี  โดย มาโนช  พุฒตาล เมื่อวานนี้ฉันหยิบ วันที่ถอดหมวก ของเสกสรรค์  ประเสริฐกุล ขึ้นมาอ่าน (อีกรอบ) ต้องบอกก่อนว่าเป็นแฟนหนังสือของอาจารย์เสกสรรค์อย่างเหนียวแน่น ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเด็กภูหินร่องกร้า และซื้อ "ถนนหนังสือ" หน้าปกเสกสรรค์-จิระนันท์ มาอ่านด้วยความทึ่งกับหนุ่มสาวสมัยนั้น ความที่ประวัติศาสตร์ของเขาอยู่ใกล้บ้านเรา จึงยิ่งอ่านยิ่งอิน
โอ ไม้จัตวา
(เพลงปราสาทไหว บรรเลงพิณเปี๊ยะ โดย สมบูรณ์ กาวิชัย) ผู้ส่งเข้าประกวด: นางรัษฎาพร บริจินดาได้รับรางวัลจากการประกวดต้นไม้ใหญ่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ประจำปี 2549สถานที่ วัดเชียงมั่นเลขที่ 171 ถนนราชภาคินัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่อายุ ประมาณ 80 ปีความสูง ประมาณ 7 เมตรเส้นรอบวง 0.60 เมตร
โอ ไม้จัตวา
ขอยกคำกล่าวลาของคุณอุ๋มอิ๋ม วดีลดา เพียงศิริ "พี่บอกพี่ปุ๊ว่า พญาอินทรี ถึงเวลาต้องบิน" กับช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตพญาอินทรี ลุงปุ๊ครูแห่งการถ่ายภาพของฉัน
โอ ไม้จัตวา
 ป่วยค่ะท่านผู้ชม... อยู่บนโลกแท้ ๆ เหมือนอยู่ในน้ำลึก หายใจไม่ออก อากาศเป็นพิษ มันมาอีกแล้ว คราวนี้แสบจมูก แสบตา ไข้ขึ้น หวัดกินงอมแงม สยบยอมกับโลกใบนี้ หลับไปสองวันเต็ม ๆ วันนี้เจอคลิบของนักร้องคนโปรดอีกคน เคยมีซีดีเมื่อนานมาแล้วแต่แผ่นหายไป เธอชื่อ Jewel Kilcher ชาวอเมริกัน เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง เล่นกีต้าร์ นักแสดง และกวี ว้าว คนอะไรเนี่ย ฉันฟังเธอร้องครั้งแรกเมื่อครั้งอยู่ที่เมืองจีนคนเดียว เสียงเพลงของเธอเป็นเพื่อนในบรรยากาศเหงา ๆ หนาว ๆ เวิ้งว้างคนเดียวในโลกได้เป็นอย่างดี
โอ ไม้จัตวา
http://charyen.com/jukebox/play.php?id=30336  เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลงเก่า ๆ ของไทยกันบ้างค่ะ ชื่อเพลงดอกพะยอมยามยาก เสียงร้องของเพลิน พรหมแดน ซึ่งไม่คิดว่าจะมีเพลงแบบนี้ เพราะเพลงที่สร้างชื่อให้กับเพลิน พรหมแดนมักเป็นเพลงตลก ๆ เป็นเพลงร้องสลับพูด ตอนเด็ก ๆ ชอบฟังมากฟังไปหัวเราะไป คล้าย ๆ กับเพลงของวิฑูรย์ ใจพรหม ตอนนี้