หลวงน้ำทา เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว อยู่ในเขตแขวงบ่อแก้ว มีพื้นที่ติดประเทศจีน ผู้คนพูดภาษาลาว มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นมิตร
ฉันรู้สึกสบายใจเมื่อออกจากแผ่นดินไทยมาได้ ทิวทัศน์สองข้างทางมีทัศนียภาพที่อาจไม่แปลกตา แต่ก็ให้ความรู้สึกแปลกถิ่นทำให้ลืมความวุ่นวายในชีวิต และบ้านเมืองเราไปได้ โดยเฉพาะแววตาและรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของผู้คนนั้น ราวกับเป็นสิ่งชำระล้างความยุ่งเหยิงของเชือกที่พันอยู่ในหัวใจ คลายมันออก จนกลายเป็นหัวใจที่ว่างเปล่า คุยกับพี่ที่ไปด้วยกันว่าเราย้ายมาอยู่ลาวกันไหม ทำไมเรารู้สึกมีความสุขแบบนี้ เป็นความโล่ง แม้ว่าจะมีข่าวสารส่งมาทาง sms บ้าง เพราะโลกวันนี้ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารอีกต่อไป
ฉันซื้อเบอร์โทรศัพท์อีกเบอร์หนึ่งมาใช้ เพื่อจำกัดเบอร์โทรเข้า เนื่องจากค่ารับสายนาทีละ 33 บาท มีเศษอีกนิดหน่อย miss call ก็ถือว่าเป็นการรับสาย มนุษย์ผู้ประสานสิบทิศอย่างข้อยคงต้องจ่ายเงินอื้อหากยังใช้หมายเลขเดิม น้องผู้เดินทางไปต่างประเทศบ่อย แนะนำให้ใช้วิธีนี้ คือซื้อเบอร์ใหม่แล้วบอกแต่คนที่จำเป็นต้องบอกเท่านั้น เผื่อมีเรื่องฉุกเฉิน ค่าโทรกลับเมืองไทยนาทีละ 24 บาท ส่ง sms ครั้งละ 12 บาท (อันนี้ Dtac เจ้า) ส่วนระบบ One 2 Call นั้น รับ sms ได้อย่างเดียว True ก็ใช้ได้เช่นกัน
ภาษาลาวไม่ใช่ปัญหาของฉัน เพราะเป็นภาษาที่ฉันพูดมาตั้งแต่เกิด จึงสื่อสารกับผู้คนได้เป็นอย่างดี บางครั้งก็เสนอตัวเป็นล่ามจำเป็นเมื่อเห็นเพื่อนร่วมไทยด้วยกันโวยวายกับชาวลาวด้วยภาษาไทยกรุงเทพ ราวกับภาษาไทยเป็นภาษาที่ทุกคนเข้าใจ ลุงที่เฝ้าโรงแรมมองเขาด้วยสายตางุนงง เมื่อเห็นอารมณ์เกรี้ยวกราดของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (เขาไม่รู้หรอก) ที่ได้กุญแจห้องผิดและเข้าห้องตัวเองไม่ได้
ฉันมองด้วยความหงุดหงิด ในความเงียบที่กำลังรื่นรมย์กับเบียร์ลาวตรงหน้า ถูกทำลายด้วยพี่ไทยด้วยกัน ฉันพยายามบอกท่านให้ใช้ห้องนั้นไปก่อน เพราะก็มาคณะเดียวกัน เข้าไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายใจ ท่านก็ไม่ยอมเพราะกระเป๋าอยู่อีกห้องหนึ่ง ห้องไหนก็ไม่รู้ ก็ท่านรับกุญแจมาโดยไม่ดูไม่ถามนี่นา สี่ทุ่มเมืองลาวเขานอนกันหมดแล้ว คุณลุงเขาตื่นขึ้นมาให้ท่านโวยได้ก็บุญเท่าไรแล้ว
ท่านก็โวยว่า คุณลุงพูดไม่รู้เรื่องอีก ฉันเข้าไปแปลให้ ลุงก็ใจดีวิ่งออกไปหามอเตอร์ไซด์เพื่อไปตามกุญแจมาให้ท่าน
ท่ามกลางความสุขใจของฉันและคณะของฉันนั้น คนอื่น ๆ โดยเฉพาะข้าราชการจากเมืองบางกอกกลับมีคำถาม และความคิดที่ทำให้ต้องส่ายหน้าอยู่เรื่อย ๆ เช่น “ทำไมเขาจึงล้าหลังกว่าเรา” หรือ “ผมไม่อยากมาหรอก มาแบบนี้ จัดการได้แย่มาก (อันนี้บ่นผู้จัดการทัวร์)” ขณะที่ฉันนั้น ยอมรับในชะตากรรมตรงหน้าและที่จะเกิดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้าด้วยความสงบสุข ไม่มีห้องน้ำฉันก็ไม่ดื่มน้ำ อันนี้เป็นความทรมานของอูฐตัวใหญ่อย่างฉันมาก เพราะการอั้นฉี่นั้น เป็นอันตรายกับสุขภาพยิ่งนัก
เที่ยวไปบ่นไป เลียนแบบนายก (อิอิ) ตื่นเช้ามาเขาเลี้ยงข้าวต้ม ยำไข่เค็ม ปลาหมึกกรอบ ผักบุ้งไฟแดง และไข่เจียว ส่วนอาหารสองมื้อเมื่อวานก็เป็นอาหารไทย มีข้าวหอมมะลิหอมกรุ่น ฉันเริ่มอึ้งกับอาหารเช้าแบบไทย ๆ อีกมื้อหนึ่ง “อย่าเรื่องมาก” ฉันบอกตัวเอง
คณะทัวร์กลุ่มใหญ่ทำเมืองหลวงน้ำทาปั่นป่วนเพราะไม่เคยมีคนจำนวนถึง 150 คนมาทีเดียวในเวลาเดียวกัน ทำให้โรงแรมเต็มทั้งเมือง ร้านอาหารไทยของคนไทย ชื่อ เฮือนลาว ต้องขนวัตถุดิบข้างโขงมาจากเมืองไทย ทำให้ฉันได้กินกุ้งแช่แข็งที่เดินทางข้ามโขงมหานทีมาให้ได้ลิ้มรสความสดของทะเลไทยไกลถึงที่นี่
แต่ตอนนี้ฉันอยากกินตำลาว กับข้าวเหนียว!!
เมื่อคนอื่น ๆ เข้าห้องประชุมตามกำหนดการกันหมดแล้ว กำหนดการของฉันก็คือออกไปเก็บข้อมูลและถ่ายภาพให้ได้มากที่สุด เขาให้รถตู้ฉันมาหนึ่งคัน คนขับชื่อน้องศร หนุ่มน้อยหน้ามนผู้พูดจ๋อย ๆ บรรยายตลอดทาง ด้วยภาษาไทยปนลาว ขณะที่ฉันก็พูดภาษาลาวกับเขา เขาคงรำคาญสำเนียงแปลกแปร่งหูของฉันเต็มที
ไปดูรูปดีกว่า!
เมืองหลวงน้ำทา
ธนาคาร
ที่หย่อนจดหมาย
คนขายโชค (ล็อตเตอรี่)
การทาสีบ้าน
ดีไซน์บ้าน
สีฟ้ามีเยอะ