Skip to main content

 

 
กลับคืนสู่โลกความจริงอีกครั้ง..
ทั้งงามเหงา เศร้าเปล่าเปลี่ยว
และเลวร้าย!
 
 
มนุษย์
บอกว่าเกิดมาจากความรัก 
แท้จริงพกพาความเกลียดชังมาด้วย 
 
มนุษย์กระหายความรัก
อีกทั้งยังกระหายหิวความเกลียดชัง
และพร้อมยินดีทำลายชีวิตอื่นวิถีอื่นโดยไม่รู้ตัว 
 
หรือว่าแท้จริงแล้วมนุษย์
คือสัตว์ประหลาด
อันน่าสะพึงกลัว
 
ข้าเคยเกลียด
ผู้คน
และตนเอง
 
ข้ากลายเป็นลูกกระสุนไร้ค่า
ยิงเข้าไปในป่าของความเฉยเมย
และเย็นชา
 
 
วิถีข้า
เหงาเศร้า
เหมือนภาพขาวดำ
 
 
ใครหลายใครแบกชีวิต
ใครหลายคนปล่อยชีวิต
ใครบางคนวางชีวิต
 
 
มุดออกมาจากบาดแผล
ความปวดเจ็บ
เพียงเพื่อมาเรียนรู้ความบาปในโลก
 
 
เรา
ต่างหัวเราะ ร้องไห้
บนดาวดวงเศร้า
 
 
ใช่ โลกกำลังสอนข้า
ให้เรียนรู้ความจริง
และความเลวร้าย
 
 
หลังศึกสงครามข้างใน
ข้ากำลังทดสอบจิตใจ
ระหว่างมิตรภาพและความคิดต่าง
 
 
ข้าไม่รู้ว่าคนเราจะยอมรับความจริง
ความคิดต่างของกันและกัน
ได้นานเพียงใด
 
 
แต่นั่นละ มันคือฟากฝั่งวิถี
ที่ข้าต้องฝ่าข้ามไป
ท่ามกระแสมายาคติและความลวง
 
 
เธอฟังเพลงกาลเวลา
แล้วนั่งบ่นเสียดายเวลา
เพียงความคิดต่างเธอสูญเสียเพื่อนและน้องรักไปหลายคน
 
 
เธอบอกเธอยอมรับความคิดต่าง
หากใครหลายคนยอมรับมันไม่ได้
กลับยอมฉีกความรักและมิตรภาพทิ้งไปอย่างไร้ค่า
 
 
ข้ารับฟัง
ยิ้มรับและหัวเราะ
แล้วแอบร้องไห้ลำพัง
 
 
จริงสิมันคือบททดสอบ
ว่าหัวใจและจิตวิญญาณของมนุษย์
จะทนทานต่อคำเสียดเย้ยถากถางมากเพียงไหน
 
 
เพียงความเห็นต่าง
มนุษย์สามารถกระทำต่อกันได้
เพียงนี้เชียวหรือ
 
 
ข้ารู้ว่า
ระหว่างการเกลียดคนเพียงคนหนึ่ง
สามารถทำลายล้างชีวิตหลายชีวิตลงได้
 
และข้ารู้แล้วว่า
ระหว่างการรักคนคนหนึ่ง
ก็สามารถถูกครอบงำและทำลายล้างหลายชีวิตลงได้เช่นกัน
 
 
 
********************************************
 
 
 
 
 

บล็อกของ ภู เชียงดาว

ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
   
ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
  จู่ๆ คุณก็รู้สึกเหนื่อยเพลีย ข้างในเหมือนว่างโหวง ไม่สดชื่นรื่นรมย์เหมือนแต่ก่อน มือเท้าชา ร่างกายอ่อนแรง สมองมึนงง คิดโน่นลืมนี่อยู่อย่างนั้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่คุณก็หลีกหนีห่างจากเมืองอันสับสน ไกลจากผู้คนของความอึงอล มาอยู่ในหุบเขาสงบเงียบแบบนี้  
ภู เชียงดาว
  1.
ภู เชียงดาว
-1- หลังการเก็บเกี่ยวข้าว นวดข้าว ขนข้าวมาเก็บไว้ในหลอง(ยุ้งฉาง)ของชาวนา ไม่นาน ท้องทุ่งเบื้องล่างก็ดูเปิดโล่ง มองไปไกลๆ จะเห็นตอซังข้าว กับกองฟางสูงใหญ่กองอยู่ตรงนั้น ตรงโน้น กระนั้น ท้องทุ่งก็ไม่เคยหยุดนิ่ง มันมีชีวิต มีการเคลื่อนไหวอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เท่าที่เขาเฝ้าดู ในหน้าแล้ง หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว คนเลี้ยงวัวประจำหมู่บ้านคงมีความสุขกันถ้วนหน้า พวกเขารู้ดีว่าจะทำอย่างไงหลังจากชาวนาขนข้าวขึ้นหลองเสร็จเรียบร้อย คนเลี้ยงวัวจะรีบปล่อยฝูงวัวสีขาวสีแดงหลายสิบตัวลงไปในทุ่งโดยไม่ต้องบอกเจ้าของนา ไม่มีใครว่า ปล่อยให้มันเล็มยอดอ่อนจากตอซังข้าว บ้างก้มเคี้ยวเศษฟางข้าว…
ภู เชียงดาว
เกือบค่อนปีที่ข้าตัดสินใจหันหลังให้กับใบหน้าของเมืองใหญ่ มุดออกมาจากกล่องของความหยาบ แออัดและหมักหมม ถอยห่างออกมาจากความแปลก แยกออกมาจากความเปลี่ยน สลัดคราบมนุษย์เงินเดือน สลัดความเครียดที่สะสม สลัดทิ้งซึ่งพันธนาการ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน และความโลภ ที่นับวันยิ่งพอกพูนสุมหัวใจข้า - - กระชาก ขว้างทิ้งมันไว้ตรงนั้น อา,ทุกอย่างช่างหน่วงหนักและเหน็ดหน่าย - -ย้อนถามตัวตน ข้าระเหระหนเดินทางมาไกลและแบกรับสัมภาระมากเกินไปแล้ว !