Skip to main content

20080501 ถูกปิดงาน

20080501

20080501 (2)

มันจะเป็นอย่างนี้กี่ยุคสมัย
เมื่อชีวิตแรงงานไทยยังไหวว้าง
อีกกี่ครั้งกี่หนบนเส้นทาง
จักมองเห็นแสงสว่างกลางใจตน

นานนัก- -เนิ่นนานการต่อสู้
การดำรงคงอยู่ยังมัวหม่น
ผ่านกรำ กายาอย่างอดทน
เฝ้าฝึกฝน ทนหลายขายแรงงาน

ยังหยัดยืนฝืนสู้อยู่อย่างนี้
บางวิถีอยากกู่ร้องก้องขับขาน
ให้โลกได้รับรู้ในตำนาน
ว่านายทุน-รัฐบาลผลาญพร่าเรา!!

ใช่ ! นายทุนยังฉ้อฉลบนความทุกข์
รัฐนั้นคอยปลอบปลุกให้โง่เขลา
ยังหลอกลวงคนงานว่าจะบรรเทา
จะปัดเป่าให้ชีวิตที่เป็นธรรม

แท้จริงกลับกลายตระบัดสัตย์
เปลี่ยนเป็นการบีบรัดให้ตอกย้ำ
ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเฝ้ากระทำ
ใช้อำนาจมืดดำครอบงำคน

ค่าแรงขั้นต่ำ สองร้อยบาท
ยังมิอาจเติมเต็มได้สักหน
กลับจ้องห่วงหาประโยชน์ตน
กรรมกรเอ๋ยหวังหลุดพ้น จงเจ็บจำ!

เหมือนมองเห็นคนงานนั้นเป็นทาส
คอยข่มขู่ปรามาสให้ชอกช้ำ?
“อย่าฝืนเลยการเรียกร้อง อย่าฝืนทำ”
เป็นคำเตือนตอกย้ำ ให้จำนน

ถึงเวลาหรือยังพี่น้องข้า...
มวลประชาแรงงานทุกแห่งหน
มาทวงถามสิทธิความเป็นคน
มาจับมือพร้อมผจญ บนทางไท

ต้องเรียกร้องต่อสู้ให้กู่ก้อง
ให้โลกรู้เราทั้งผองไม่หวั่นไหว
จักยืนหยัดแม้เหนื่อยหนักสักเท่าใด
ขอเพียงใจเราเชื่อมั่นวันแห่งชัย

จักยืนหยัดแม้เหนื่อยหนักสักเท่าใด
ขอเพียงใจเราเชื่อมั่น วันคว้าชัย!!

ภาพประกอบจาก
www.prachatai.com และ www.workers-voice.org/adtusite/images/march.jpg

บล็อกของ ภู เชียงดาว

ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
   
ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
  จู่ๆ คุณก็รู้สึกเหนื่อยเพลีย ข้างในเหมือนว่างโหวง ไม่สดชื่นรื่นรมย์เหมือนแต่ก่อน มือเท้าชา ร่างกายอ่อนแรง สมองมึนงง คิดโน่นลืมนี่อยู่อย่างนั้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่คุณก็หลีกหนีห่างจากเมืองอันสับสน ไกลจากผู้คนของความอึงอล มาอยู่ในหุบเขาสงบเงียบแบบนี้  
ภู เชียงดาว
  1.
ภู เชียงดาว
-1- หลังการเก็บเกี่ยวข้าว นวดข้าว ขนข้าวมาเก็บไว้ในหลอง(ยุ้งฉาง)ของชาวนา ไม่นาน ท้องทุ่งเบื้องล่างก็ดูเปิดโล่ง มองไปไกลๆ จะเห็นตอซังข้าว กับกองฟางสูงใหญ่กองอยู่ตรงนั้น ตรงโน้น กระนั้น ท้องทุ่งก็ไม่เคยหยุดนิ่ง มันมีชีวิต มีการเคลื่อนไหวอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เท่าที่เขาเฝ้าดู ในหน้าแล้ง หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว คนเลี้ยงวัวประจำหมู่บ้านคงมีความสุขกันถ้วนหน้า พวกเขารู้ดีว่าจะทำอย่างไงหลังจากชาวนาขนข้าวขึ้นหลองเสร็จเรียบร้อย คนเลี้ยงวัวจะรีบปล่อยฝูงวัวสีขาวสีแดงหลายสิบตัวลงไปในทุ่งโดยไม่ต้องบอกเจ้าของนา ไม่มีใครว่า ปล่อยให้มันเล็มยอดอ่อนจากตอซังข้าว บ้างก้มเคี้ยวเศษฟางข้าว…
ภู เชียงดาว
เกือบค่อนปีที่ข้าตัดสินใจหันหลังให้กับใบหน้าของเมืองใหญ่ มุดออกมาจากกล่องของความหยาบ แออัดและหมักหมม ถอยห่างออกมาจากความแปลก แยกออกมาจากความเปลี่ยน สลัดคราบมนุษย์เงินเดือน สลัดความเครียดที่สะสม สลัดทิ้งซึ่งพันธนาการ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน และความโลภ ที่นับวันยิ่งพอกพูนสุมหัวใจข้า - - กระชาก ขว้างทิ้งมันไว้ตรงนั้น อา,ทุกอย่างช่างหน่วงหนักและเหน็ดหน่าย - -ย้อนถามตัวตน ข้าระเหระหนเดินทางมาไกลและแบกรับสัมภาระมากเกินไปแล้ว !