Skip to main content

pic1
ที่มาภาพ  www.salweennews.org

pic2
ที่มาภาพ www.sarakadee.com

pic3
ที่มาภาพ www.salweennews.org

กอดกับความเย็นเยียบอยู่อย่างนั้น, กลางป่าเปลี่ยว
อ้อมอกอันบอบบางของเธอมิเคยอบอุ่น
อยู่กับความมืดดำในความรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง, ชีวิต
ความตายเหมือนมิเคยแยกจางห่างกันเลย
โอ. เด็กๆ  ตามแนวชายแดน
ยามใดหนาวฤดูลมแล้งแห้งโหมพัดเข้ามาสู่,
หัวใจเธอนั้นเหมือนจักรับรู้รสสัมผัสชีวิตวิถีที่จำต้องระเหเร่ร่อน
นั่น,คือสัญญาณความขัดแย้งอันเลวร้าย
ที่ซุกซ่อนอยู่ในหลืบเขารอการอุบัติ
เสียงแม่กระซิบบอกพวกเธอเบาๆ
เร็วเข้า, รีบกอบฝุ่นกลบกองฟืนไฟให้ดับมอด
แล้วรีบเร่งเดินทางไกลหนีไปให้ห่างจากแนวชายแดน
บทเพลงสงครามกวาดล้างชนเผ่ากำลังเริ่มต้น, อีกครั้ง
เหมือนดั่งบทเพลงเร่าร้อนที่ร่ำร้องไม่รู้จักจบ
ท่ามกลางเสียงลามเลียปะทุไหม้ของไฟป่า
ผสานเสียงห่ากระสุนปืน ระเบิดก้องในหุบเขา,
เปรี้ยง เปรี้ยง...ปัง ปัง !!!
กี่ชีวิตหมุนคว้างดั่งใบไม้ปลิดปลิวร่วง
แผ่นดินจึงสั่นสะเทือนไปทั่วสองฟากฝั่ง
ทำให้ฉันคิดถึงเธอ…
เด็กๆ ตามแนวชายแดน.

 

หมายเหตุ : บทกวีชิ้นนี้เขียนไว้นานแล้ว เมื่อครั้งยังทำงานอยู่ตามแนวชายแดนแถบ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ หยิบมาอ่านอีกครั้งๆ...เหตุการณ์เหล่านี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง.

บล็อกของ ภู เชียงดาว

ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
   
ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
  จู่ๆ คุณก็รู้สึกเหนื่อยเพลีย ข้างในเหมือนว่างโหวง ไม่สดชื่นรื่นรมย์เหมือนแต่ก่อน มือเท้าชา ร่างกายอ่อนแรง สมองมึนงง คิดโน่นลืมนี่อยู่อย่างนั้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่คุณก็หลีกหนีห่างจากเมืองอันสับสน ไกลจากผู้คนของความอึงอล มาอยู่ในหุบเขาสงบเงียบแบบนี้  
ภู เชียงดาว
  1.
ภู เชียงดาว
-1- หลังการเก็บเกี่ยวข้าว นวดข้าว ขนข้าวมาเก็บไว้ในหลอง(ยุ้งฉาง)ของชาวนา ไม่นาน ท้องทุ่งเบื้องล่างก็ดูเปิดโล่ง มองไปไกลๆ จะเห็นตอซังข้าว กับกองฟางสูงใหญ่กองอยู่ตรงนั้น ตรงโน้น กระนั้น ท้องทุ่งก็ไม่เคยหยุดนิ่ง มันมีชีวิต มีการเคลื่อนไหวอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เท่าที่เขาเฝ้าดู ในหน้าแล้ง หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว คนเลี้ยงวัวประจำหมู่บ้านคงมีความสุขกันถ้วนหน้า พวกเขารู้ดีว่าจะทำอย่างไงหลังจากชาวนาขนข้าวขึ้นหลองเสร็จเรียบร้อย คนเลี้ยงวัวจะรีบปล่อยฝูงวัวสีขาวสีแดงหลายสิบตัวลงไปในทุ่งโดยไม่ต้องบอกเจ้าของนา ไม่มีใครว่า ปล่อยให้มันเล็มยอดอ่อนจากตอซังข้าว บ้างก้มเคี้ยวเศษฟางข้าว…
ภู เชียงดาว
เกือบค่อนปีที่ข้าตัดสินใจหันหลังให้กับใบหน้าของเมืองใหญ่ มุดออกมาจากกล่องของความหยาบ แออัดและหมักหมม ถอยห่างออกมาจากความแปลก แยกออกมาจากความเปลี่ยน สลัดคราบมนุษย์เงินเดือน สลัดความเครียดที่สะสม สลัดทิ้งซึ่งพันธนาการ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน และความโลภ ที่นับวันยิ่งพอกพูนสุมหัวใจข้า - - กระชาก ขว้างทิ้งมันไว้ตรงนั้น อา,ทุกอย่างช่างหน่วงหนักและเหน็ดหน่าย - -ย้อนถามตัวตน ข้าระเหระหนเดินทางมาไกลและแบกรับสัมภาระมากเกินไปแล้ว !