Skip to main content

ผมถามพี่ที่รู้จักกันท่านหนึ่งว่า "ที่คนทั่วไปไม่ค่อยปฏิบัติธรรมเพราะอะไร"

และพี่ท่านนี้ก็ได้ตอบจากประสบการณ์ของตัวเอง ว่า เมื่อก่อนเค้าไม่สนใจ  เพราะเป็นเด็กจะไม่ค่อยมีความทุกข์ แต่พอโตขึ้นแล้วไม่สามารถหาคำตอบได้ในบางคำถาม แต่ธรรมะกลับตอบได้

พี่ท่านนี้จึงหันมาสนใจอ่านเรื่องธรรมะ และเขาก็บอกอีกว่า "แต่การทำให้ใครสนใจเข้าไปปฏิบัติธรรมอาจจะยากกว่า เพราะตามความเข้าใจของคนทั่วไป มองว่า  มันดูยาก อาจจะยุ่งยาก ไม่เหมือนเราไปเข้าโบสถ์ ในวันอาทิตย์ของฝรั่ง  ดูมันง่ายๆ ไม่มากพิธี"

และก็ได้เสริมไปว่า คนที่ไม่สนใจก็อาจจะไม่อยากไปเลย เพราะเขารู้สึกว่ามันไกลเขา

เมื่อได้ฟังก็เริ่มคล้อยตาม และก็นึกไปถึงว่า ทำไมตัวเองจึงได้สนใจในทางนี้...

สำหรับผมแล้ว, เรื่องการปฏิบัติธรรมเมื่อก่อนผมชอบ วัดเส้าหลินมากเลยอยากจะบวชเป็นพระอรหันต์จะได้มีวิชากังฟู จำได้ว่า ตอนจบ ป. 6 อยากขอแม่บวช แต่ที่บ้านไม่ให้บวช เพราะกลัวจะเป็นพระได้ไม่นาน
อีกอย่างที่วัดแถวๆ บ้านก็ไม่ได้มีสอนกังฟูเหมือนวัดเส้าหลินเท่าไหร่....เลยไม่ได้บวชเรียนเลย
 
แต่พอเรียนมัธยมต้นและปลาย ผมก็ทำกิจกรรม ทำงานในชุมชน ทำกลุ่มเยาวชน เล่นละคร รณรงค์เรื่องสิทธิเด็ก การป้องกันเอดส์ การป้องกันยาเสพติด ฯลฯ ก็สนุกไป ตามประสาเด็กๆ ได้ทำเพื่อชุมชนแล้วก็มีความสุขจริงๆ
 
ตอนนั้นผมคิดว่าการปฏิบัติธรรม ไม่ได้ย่างกายเข้ามาในชีวิตเลย คิดเพียงแต่ว่า ขอให้เราทำความดี เท่านี้ก็พอแล้ว เราไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำให้คนอื่นทุกข์ ทำให้เขามีความสุข เท่านี้ก็พอ
 
ตอนที่ผมทำงาน ผมจะไม่ค่อยมีชีวิตแบบวัยรุ่นเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้เที่ยว มีแฟน ก็เลยโดนคนอื่นๆ บอกว่า ให้มีชีวิตวัยรุ่นบ้างนะ นับจากนั้นก็ลองใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างที่เขาบอก คือก็เริ่มเที่ยว กินเหล้า สูบบุหรี่ มีแฟน ลองมาซะทุกอย่าง

แต่สุดท้ายก็คิดว่า ทำแล้วได้อะไรกัน เป็นวัยรุ่น ต้องทำแบบนี้เหรอ ทำไม เราไม่ทำเหมือนที่เราอยากเป็น
แล้วเรายังเอาใจไปไว้กับผู้ใหญ่คนอื่นๆ ว่าอยากให้เราเป็นแบบนั้น แบบนี้ พอเราเป็นเด็กทำกิจกรรมก็อยากให้เราได้เล่นเที่ยวแบบวัยรุ่นคนอื่นๆ

พอเราไปเที่ยวเล่น ก็หาว่าเราทำตัวไม่ดีอีก ....สับสนในหัวใจ ทำอะไรไม่ถูก.....
 
กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง ก็ทำงานไป อ่านหนังสือธรรมะ แล้วพอดีมีแฟนที่ปฏิบัติธรรมด้วย เขาพาไปนู้นนี้ ไปฟังธรรมบ่อยๆ แต่เราก็ไป แต่ไม่รู้ความหมาย มีครั้งหนึ่ง เขาอธิบายให้ผมฟัง แต่ผมไม่เข้าใจ เขาก็ด่าว่าผมโง่ T.T
 
ตอนนั้นเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ ว่าเราทำไมโง่เพียงนี้ เราคิดว่าเรารู้อะไรมากแล้ว แต่มีอีกหลายเรื่องที่ไม่รู้เลย
ความไม่รู้รี่มันทำให้เรา ยึดติดตัวตน คิดว่าตัวเองดีแล้ว พอแล้ว และมีทุกข์ก็ยึดทุกข์ มีสุขก็ยึดสุข
ช่วงหลังๆ ที่จะเลิกกับแฟน เขาเลยชวนให้ไปปฏิบัติธรรมของท่านโกเอ็นก้า ที่ จ.พิษณุโลก
ไป 10 วัน ......

กลับมา ชีวิตเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง เริ่มคิดว่าเราน่าจะเดินทางนี้ จิตตอนนั้นเหมือนเด็กกำพร้าที่ตามหาพ่อแม่มานาน เมื่อได้เจอก็ร้องไห้ ซึ้งใจ และมองเห็นความเป็นมนุษย์ที่ได้เกิดมาพบพระธรรม คำสอนต่างๆ
 
ภายหลังจากนั้นชีวิตจึงเริ่มเดินอย่างช้าๆ มาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็พบแล้วว่าตัวเองต้องการอะไร อยากปฏิบัติ เพื่อไม่เอาอะไร ... ขอแค่รู้กาย รู้ใจ มีสติอยู่กับปัจจุบัน ไม่หลงไปกับกิเลส ตัณหา อุปาทานต่างๆ ก็พอแล้ว

เหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาจึงเป็นปัจจัยนำให้ใจของผมได้เรียนรู้กายและใจ ฝึกสติตัวเอง และมีธรรมะ เกิดขึ้นในใจของตนอยู่อย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป.... ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

 

 

บล็อกของ พันธกุมภา

พันธกุมภา
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบอยู่กับตัวเอง เพราะมีความรู้สึกไม่มั่นคง อีกทั้งยังคิดว่าเราควรที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ บ้าง ในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมต่างๆ ที่มีในความสัมพันธ์  แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมและเพื่อนๆ จำนวนหนึ่งที่ทำงานขับเคลื่อนทางสังคมในเรื่องชีวิตทางเพศได้เข้าร่วมภาวนา หรือ Retreat ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการภาวนาเพื่อติดตามเพื่อนๆ ที่ได้ภาวนาในรุ่นต่างๆ ก่อนหน้านี้ให้ได้พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยน ซึ่งกันและกันว่าใครเป็นอย่างไร มีสุข มีทุกข์อย่างไรบ้าง
พันธกุมภา
เมื่อมีเวลาตรวจดูสภาวะจิตใจของตัวเองในช่วงนี้แล้ว ก็เหมือนกับว่าผมได้พบกันสภาวธรรมต่างๆ ที่แปรเปลี่ยนไปหลายๆ ประการ มีเกิด มีดับ สลับกันไปในจิตแต่ละช่วงขณะ คือค่อยๆ รู้สึกตัวบ้างในบางครั้ง รู้ว่าเผลอ รู้ว่าหลง รู้ว่าประคอง ในอารมณ์ต่างๆ เช่น ความคิด ความโกรธ หรือแม้กระทั่งความอยาก
พันธกุมภา
ผมถามพี่ที่รู้จักกันท่านหนึ่งว่า "ที่คนทั่วไปไม่ค่อยปฏิบัติธรรมเพราะอะไร"และพี่ท่านนี้ก็ได้ตอบจากประสบการณ์ของตัวเอง ว่า เมื่อก่อนเค้าไม่สนใจ  เพราะเป็นเด็กจะไม่ค่อยมีความทุกข์ แต่พอโตขึ้นแล้วไม่สามารถหาคำตอบได้ในบางคำถาม แต่ธรรมะกลับตอบได้
พันธกุมภา
ถามสวัสดีค่ะเหนื่อยจัง  นอนน้อยเลยเบลอมีคำถามมาถามน้องอีกแล้วค่ะ  คือเมื่อคืนและเมื่อหลายคืนก่อน ดูละครสาปภูษา กับสุสานภูเตศวรสองเรื่องนี้มีความเหมือนกันอยู่อย่างคือ  ย้อนยุค  ทะลุมิติ  โดยมีเรื่องวิญญาณมาเกี่ยวข้องจู่ๆ ก็มีคนถามขึ้นมาว่า  เชื่อเรื่อง ชาตินี้ ชาติหน้า ไหมทำให้พี่คิดขึ้นมาว่า เออ แล้วมันจริงเหรอ เรื่องนี้น่ะไม่รู้สิคะ  ตามความคิดส่วนตัวคือ เชี่อค่ะเชื่อ เลยไม่อยากทำอะไรไม่ดีเลย  อยากสั่งสมความดี สร้างบุญเพราะเราเห็นว่ามันสุขตั้งแต่นาทีที่ทำวันก่อนอ่านหนังสือคุณ ดังตฤณ พี่คิดว่าตามแนวคิดคุณดังตฤณ  มันก็มีจริงสิคะ ชาตินี้…
พันธกุมภา
ต่อจากการตอบจดหมายเรื่องทุกข์ใจกับคนที่ไม่ชอบเรา1 ขอบคุณอย่างยิ่งค่ะอ่านแล้วรู้สึกน้ำตาจะไหล
พันธกุมภา
ช่วงที่ผ่านมา มีจดหมายจาก คุณ พรพรรณ เขียนจดหมายมาสอบถามผม 4 เรื่องดังนี้  1. การที่เราต้องอยู่ร่วมกับคนที่เขาไม่ชอบเรา หรือมีทัศนคติที่ขัดแย้งกัน  เราควรทำอย่างไร2. การแผ่เมตตา  ช่วยให้ทุกข์ที่เกิดขึ้นคลายลง ได้หรือไม่  และการแผ่เมตตามีคุณอย่างไร3. การไปปฏิบัติ  จะช่วยให้เกิดผลบุญถึงเจ้ากรรมนายเวรได้จริงหรือเปล่าคะ4. คุณน้องเต้าเชื่อเรื่องกรรม หรือไม่คะ ผมได้รับและตอบกลับดังนี้.................... สวัสดีครับ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้ผมได้แบ่งปันนะครับแต่...สภาวะของผมอาจเป็นคนอื่น…
พันธกุมภา
 คืนนี้ ดึกแล้วครับช่วงเวลาตีสามกว่าๆ ควรเป็นเวลาที่ผมจะได้นอนหลับอย่างสงบแต่ไม่รู้ทำไม? คืนนี้จึงเกิดความรู้สึกว่าอยากจะรวมเล่มบันทึก "ธรรมใจ ไดอารี่" นี้ให้เสร็จ
พันธกุมภา
ผมเขียนเรื่องนี้ตอนเพิ่งตื่น ตอนนี้ยังไม่ได้ล้างหน้า แปรงฟัน ตาก็ดูเบลอ ทำอะไรก็เบลอๆ อยู่นิดหนึ่ง ยังไม่ค่อยมีใจอยากจะทำอะไร ความขี้เกียจเป็นเพื่อนที่ไม่หนีไปไหน ยังคงยืนอยู่ข้างๆ กายผม ไม่อยากทำอะไรเลย แม้ว่าจะมีงานมากน้อยเพียงใด ผมอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงที่การอยู่เฉยๆ เพราะเวลาไม่ได้ทำอะไรก็ดีไปอีกอย่าง...บอกไม่ถูกครับ
พันธกุมภา
  ตอนนี้ผมพบว่าความอ่อนล้าทำให้เหนื่อยกับสิ่งกำลังทำอยู่ ไม่ว่างานจะสนุกเพียงใด แต่ถ้าอะไรหลายๆ อย่างเข้ามาในชีวิตจนไม่สามารถจัดการได้ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง วิธีการเรียงลำดับความสำคัญของงานเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการมีชีวิตที่สมดุลกัน
พันธกุมภา
แม่เพิ่งโทรมาถามผมว่าวันเกิดปีนี้จะทำอะไร? และเตือนว่าอย่าลืมไปทำบุญถวายพระ แถมยังบอกอีกว่าปีนี้ อยากให้ทำทานโดยการซื้อผ้าเช็ดตัวให้กับผู้เฒ่าผู้แก่และเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กๆ ในหมู่บ้าน ผมรู้สึกดีใจที่คุณแม่โทรมา เพราะอย่างน้อยแสดงว่าท่านจำวันเกิดของผมได้ แม้ว่าผมจะไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรกับวันเกิดเพราะมันก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งสำหรับผม แต่ที่ไหนได้วันนี้เป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณแม่ เพราะท่านได้ให้การเกิดผมมาลืมตาดูโลก
พันธกุมภา
ช่วงอาทิตย์กว่าที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่คนรอบข้างผมต้องเสียชีวิตไปมากกว่า 3 คน คนหนึ่งเสียชีวิตด้วยการยิงตัวตาย อีกคนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และคนสุดท้ายเสียชีวิตดูความชรา การจากไปของคนรู้จักเหล่านี้ แน่นอนว่านำมาซึ่งความเสียใจ ความเศร้าโศก และมันก็ทำให้ผมคิดถึง “ความตาย” อยู่ทุกๆ ขณะ เพราะความตายนี้เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราจริงๆ ซึ่งมันเป็นการบอกย้ำธรรมชาติของชีวิตว่าชีวิตทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง
พันธกุมภา
หลังจากวันที่เริ่มบันทึกมาจนถึงวันนี้ ก็ผ่านเลยมาหลายวันแล้ว มีเรื่องราวหลายๆ อย่างเกิดขึ้นในชีวิตแต่เท่าที่สำคัญและจำได้ดีคือ ช่วงวันที่ 5 - 15 มกราคม ที่ผ่านมา ผมและเพื่อนๆ ที่ทำงานสุขภาวะทางเพศประมาณ 20 คนได้เข้าอบรมภาวนาภายในและการเรียนรู้โครงสร้างทางสังคม ที่บ้านสวนธารทิพย์ ซึ่งมีพี่อวยพร เขื่อนแก้ว เป็นกระบวนกรหลัก