Skip to main content

วันเข้าพรรษาปีนี้ผมมีความตั้งใจกับตัวเองที่จะภาวนาให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นโดยการเจริญสติในรูปแบบอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความอดทน พากเพียรให้กับตัวเอง ในการมีสติสัมปชัญญะมากยิ่งขึ้นกว่าชีวิตปกติที่ผ่านมา
\\/--break--\>
 

ผมตั้งจิตอธิษฐานที่จะฝึกสติในช่วงกลางคืนโดยการถือวัตรปฏิบัติของพระธุดงค์ที่เรียกว่า "เนสัชชิก" คือการเจริญภาวนาในอิริยาบถเดิน ยืน นั่ง ตลอดคืน และจะหมั่นตามรู้จิตตัวเองให้ต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอให้การหายใจเป็นการตามรู้ลมหายใจ การเดินแต่ละก้าวเป็นการเดินจงกรม การเคลื่อนไหวมือในการทำงานเป็นการเจริญสติในรูปแบบการเคลื่อนไหวมือ

ก่อนวันเข้าพรรษาจะมาถึงผมหยุดงาน 5 วัน เพื่อที่จะเดินทางไปวัดป่าสุคะโต เพื่อไปฝึกตัวเองโดยผมตั้งใจว่า การเดินทางนี้หากเจออะไรที่ลำบากเป็นปัญหาก็ขอให้ได้เรียนรู้ธรรมะจากการเดินทางครั้งนี้ หากจะเจออะไรก็ถือว่าเป็นวิถีธรรมที่กำหนดให้ได้พบและเรียนและจะไม่คาดหวังตั้งใจสิ่งใดจากการเดินทางครั้งนี้ นอกจากการทำเหตุแห่งการเข้าถึงธรรมะด้วยการภาวนาก็พอแล้ว

การเดินทางครั้งนี้ ผมเริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังชัยภูมิ ด้วยการโบกรถยนต์ไป ในช่วงเดินทางจากกรุงเทพฯ นั้น ผมได้อาศัยรถของรุ่นพี่ที่รู้จักซึ่งเป็นคนอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เดินทางมาไปถึงปากช่องตอนค่ำ ก็ขอนอนพักค้างคืนที่บ้านของรุ่นพี่ และวันรุ่งขึ้นจึงเดินทางต่อไป โดยรุ่นพี่ได้ไปส่งผมที่ทางแยก อำเภอสีคิ้ว ซึ่งเป็นทางแยกไปจังหวัดชัยภูมิ

เมื่อมาถึงทางแยก ผมยืนรอรถยนต์ข้างๆ ทาง แดดส่องมาเผาตัวจนร้อนไปทั่ว ผมมีอากาศแสบๆ คันๆ แต่ก็ยืนรอเพื่อโบกรถและขออาศัยเพื่อไปยังจังหวัดชัยภูมิ ในร่างกายผมมีกระเป๋า ๒ ใบ คือเป้สะพายหลัง และกระเป๋าสะพายข้าง ผมใส่เสื้อในสีขาว เสื้อแขนยาวสีเหลืองอ่อน กลางเกงขาสั้น ยืนยื่นมือ โบกรถที่ผ่านมาคันแล้วคันเล่า ไม่มีคันไหนจอดให้เลย ตอนนั้นเห็นความเสียใจผุดขึ้น และก็เมื่อเห็นรถคันใหม่มาก็ดีใจที่มีรถผ่านมา แต่เมื่อเขาไม่รับก็เสียใจ สลับกันไป

เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง มีรถโดยสารประจำทางผ่านมาพอดี ผมไม่รู้ว่าเขาจะรับผู้โดยสารระหว่างทางหรือไม่ จึงตัดสินใจโบก สักพักรถบัสคันใหญ่ก็จอดและเปิดประตูรับผมขึ้นไปบนรถ พร้อมๆ กับเหงื่อที่เปียกชุ่มไปทั้งตัว

ผมขึ้นมาบนรถบัส ก็เห็นคนนั่งกันอยู่เต็มเบาะ ไม่มีที่นั่งว่างเหลือเลยสักที่ แม้แต่ทางเดินตรงกลาง ก็ยังมีคนนั่งเก้าอี้เสริมจนล้นมาถึงด้านหน้า ซึ่งก็เหลือที่ว่างนิดเดียวเท่านั้น ที่จะนั่งได้ สักพักพนักงานชายหน้าตาดุๆ ก็นำเก้าอี้มาให้ผม เพื่อใช้เป็นเบาะเสริมเพื่อใช้บนรถ ผมจึงหย่อนตัวลงที่เก้าอี้พลาสติกตัวสีแดง

เหงื่อไหลท่วมตัวจากแดดตอนที่ยืนรอรถยังไม่หาย นึกว่ามานั่งบนรถบัสแล้วจะเจอกับอากาศเย็น แต่กลับไม่เจอ เพราะคนบนรถเยอะมากๆ น่าจะร่วมร้อยได้ เพราะทุกที่เต็ม แถมด้านหลังยังมีคนนั่งและยืนสลับกันอีก แต่ก็ไม่เป็นไร ในใจคิดว่าดีกว่าไม่มีรถ เพราะไม่งั้นคงจะถึงวัดป่าสุคะโตดึกอย่างแน่นอน

รถบัสพาผู้โดยสารมากหน้าหลายตา หลายวัย หลายเพศ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดชัยภูมิ จนเมื่อรถมาจอดระหว่างทางที่สถานีอำเภอด่านขุนทด ก็มีผู้โดยสารจำนวนหนึ่งลงจากรถ เมื่อรถจอดกับที่ ผู้โดยสารจากด้านหลัง ค่อยๆ เดินออกมาจากทางเดินที่แสนจะแคบ เพราะมีคนขวางทางเดินด้วยเบาะเสริมจนมาถึงข้างหน้า ผมจึงค่อยๆ ขยับตัวมายังด้านขวา ฝั่งคนขับรถ เพื่อยืนให้ทางคนที่กำลังเดินออกมา

ผมยืนหันหน้าออกไปยังผู้คนที่อยู่ด้านหลังรถ มองผู้คนที่มีแววตาผ่านๆ หลายคนมามีแววตามีความหวัง ดีใจที่จะได้กลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงที่วันหยุดยาว บางคนคุยกันอย่างออกรสชาติ บางคนก็นั่งฟังเพลง บางคนก็นั่งเฉยๆ คนเดียว ผมยืนมองเขาเหล่านี้ด้วยชายตา เพื่อไม่ให้เขารู้ตัว จนคนผู้โดยสารคนสุดท้ายลงจากรถ ณ สถานีระหว่างทางนี้ ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม เพื่อรอให้คนอื่นๆ นั่งในที่ของตัวเองให้หมด

ทันใดนั้น รถก็ออกตัวโดยเคลื่อนไปทางซ้าย ทำให้ผมซึ่งยืนอยู่เฉยๆ ไม่มีที่จับพยุง ต้องไถลเอาหัวไปฟาดชนกับกระจกรถอย่างแรง ..... หัวผมได้รับการกระทบกระเทือน ทุกสายตาร่วมร้อยมองมายังผมคนเดียว ตอนนี้ในใจทำอะไรไม่ถูก นอกจากจะรู้สึกอายและเสียหน้า แต่เมื่อเห็นอาการมันเกิดขึ้นก็หัวเราะตัวเอง จากความไม่ระวังตัว ทำให้เจอเหตุการณ์แบบนี้ และเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เห็นตัวตนของตัวเองชัดขึ้น 

เห็นความอาย กลัวเสียฟอร์ม กลัวคนอื่นแซว สารพัดที่จิตใจทำงาน ฟุ้งออกมามากมาย เมื่อได้เห็นแล้วก็อดจะหัวเราะกับสภาวะเหล่านี้ไม่ได้ แต่ก็ทำหน้านิ่งเฉย และตามดูต่อไป เรื่อยๆ พร้อมกับนั่งลงที่นั่งเก้าอี้เสริมตัวเดิม รถก็ค่อยๆ เคลื่อนผ่านเส้นทางไปเรื่อยๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายปลายทางที่จังหวัดชัยภูมิ

จุดเริ่มต้นของการเดินทางก่อนเข้าพรรษานี้ ทำให้ผมเห็นว่าทุกข์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นคงเป็นธรรมะที่สอนใจเราอย่างดี เพราะเกิดจากการเผชิญกับทุกข์ด้วยตัวเอง ทั้งแดดร้อน และเหตุการณ์หน้าแตก ต่างๆ เหล่านี้ ขอให้การเดินทางครั้งนี้แม้จะเจอทุกข์ก็ขอให้ได้พบกับธรรมะ และหากเกิดปัญหาใดๆ ก็ขอให้ได้พบกับปัญญา เพื่อบอกสอนบางอย่างแก่ตัวเอง

 

บล็อกของ พันธกุมภา

พันธกุมภา
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบอยู่กับตัวเอง เพราะมีความรู้สึกไม่มั่นคง อีกทั้งยังคิดว่าเราควรที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ บ้าง ในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมต่างๆ ที่มีในความสัมพันธ์  แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมและเพื่อนๆ จำนวนหนึ่งที่ทำงานขับเคลื่อนทางสังคมในเรื่องชีวิตทางเพศได้เข้าร่วมภาวนา หรือ Retreat ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการภาวนาเพื่อติดตามเพื่อนๆ ที่ได้ภาวนาในรุ่นต่างๆ ก่อนหน้านี้ให้ได้พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยน ซึ่งกันและกันว่าใครเป็นอย่างไร มีสุข มีทุกข์อย่างไรบ้าง
พันธกุมภา
เมื่อมีเวลาตรวจดูสภาวะจิตใจของตัวเองในช่วงนี้แล้ว ก็เหมือนกับว่าผมได้พบกันสภาวธรรมต่างๆ ที่แปรเปลี่ยนไปหลายๆ ประการ มีเกิด มีดับ สลับกันไปในจิตแต่ละช่วงขณะ คือค่อยๆ รู้สึกตัวบ้างในบางครั้ง รู้ว่าเผลอ รู้ว่าหลง รู้ว่าประคอง ในอารมณ์ต่างๆ เช่น ความคิด ความโกรธ หรือแม้กระทั่งความอยาก
พันธกุมภา
ผมถามพี่ที่รู้จักกันท่านหนึ่งว่า "ที่คนทั่วไปไม่ค่อยปฏิบัติธรรมเพราะอะไร"และพี่ท่านนี้ก็ได้ตอบจากประสบการณ์ของตัวเอง ว่า เมื่อก่อนเค้าไม่สนใจ  เพราะเป็นเด็กจะไม่ค่อยมีความทุกข์ แต่พอโตขึ้นแล้วไม่สามารถหาคำตอบได้ในบางคำถาม แต่ธรรมะกลับตอบได้
พันธกุมภา
ถามสวัสดีค่ะเหนื่อยจัง  นอนน้อยเลยเบลอมีคำถามมาถามน้องอีกแล้วค่ะ  คือเมื่อคืนและเมื่อหลายคืนก่อน ดูละครสาปภูษา กับสุสานภูเตศวรสองเรื่องนี้มีความเหมือนกันอยู่อย่างคือ  ย้อนยุค  ทะลุมิติ  โดยมีเรื่องวิญญาณมาเกี่ยวข้องจู่ๆ ก็มีคนถามขึ้นมาว่า  เชื่อเรื่อง ชาตินี้ ชาติหน้า ไหมทำให้พี่คิดขึ้นมาว่า เออ แล้วมันจริงเหรอ เรื่องนี้น่ะไม่รู้สิคะ  ตามความคิดส่วนตัวคือ เชี่อค่ะเชื่อ เลยไม่อยากทำอะไรไม่ดีเลย  อยากสั่งสมความดี สร้างบุญเพราะเราเห็นว่ามันสุขตั้งแต่นาทีที่ทำวันก่อนอ่านหนังสือคุณ ดังตฤณ พี่คิดว่าตามแนวคิดคุณดังตฤณ  มันก็มีจริงสิคะ ชาตินี้…
พันธกุมภา
ต่อจากการตอบจดหมายเรื่องทุกข์ใจกับคนที่ไม่ชอบเรา1 ขอบคุณอย่างยิ่งค่ะอ่านแล้วรู้สึกน้ำตาจะไหล
พันธกุมภา
ช่วงที่ผ่านมา มีจดหมายจาก คุณ พรพรรณ เขียนจดหมายมาสอบถามผม 4 เรื่องดังนี้  1. การที่เราต้องอยู่ร่วมกับคนที่เขาไม่ชอบเรา หรือมีทัศนคติที่ขัดแย้งกัน  เราควรทำอย่างไร2. การแผ่เมตตา  ช่วยให้ทุกข์ที่เกิดขึ้นคลายลง ได้หรือไม่  และการแผ่เมตตามีคุณอย่างไร3. การไปปฏิบัติ  จะช่วยให้เกิดผลบุญถึงเจ้ากรรมนายเวรได้จริงหรือเปล่าคะ4. คุณน้องเต้าเชื่อเรื่องกรรม หรือไม่คะ ผมได้รับและตอบกลับดังนี้.................... สวัสดีครับ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้ผมได้แบ่งปันนะครับแต่...สภาวะของผมอาจเป็นคนอื่น…
พันธกุมภา
 คืนนี้ ดึกแล้วครับช่วงเวลาตีสามกว่าๆ ควรเป็นเวลาที่ผมจะได้นอนหลับอย่างสงบแต่ไม่รู้ทำไม? คืนนี้จึงเกิดความรู้สึกว่าอยากจะรวมเล่มบันทึก "ธรรมใจ ไดอารี่" นี้ให้เสร็จ
พันธกุมภา
ผมเขียนเรื่องนี้ตอนเพิ่งตื่น ตอนนี้ยังไม่ได้ล้างหน้า แปรงฟัน ตาก็ดูเบลอ ทำอะไรก็เบลอๆ อยู่นิดหนึ่ง ยังไม่ค่อยมีใจอยากจะทำอะไร ความขี้เกียจเป็นเพื่อนที่ไม่หนีไปไหน ยังคงยืนอยู่ข้างๆ กายผม ไม่อยากทำอะไรเลย แม้ว่าจะมีงานมากน้อยเพียงใด ผมอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงที่การอยู่เฉยๆ เพราะเวลาไม่ได้ทำอะไรก็ดีไปอีกอย่าง...บอกไม่ถูกครับ
พันธกุมภา
  ตอนนี้ผมพบว่าความอ่อนล้าทำให้เหนื่อยกับสิ่งกำลังทำอยู่ ไม่ว่างานจะสนุกเพียงใด แต่ถ้าอะไรหลายๆ อย่างเข้ามาในชีวิตจนไม่สามารถจัดการได้ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง วิธีการเรียงลำดับความสำคัญของงานเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการมีชีวิตที่สมดุลกัน
พันธกุมภา
แม่เพิ่งโทรมาถามผมว่าวันเกิดปีนี้จะทำอะไร? และเตือนว่าอย่าลืมไปทำบุญถวายพระ แถมยังบอกอีกว่าปีนี้ อยากให้ทำทานโดยการซื้อผ้าเช็ดตัวให้กับผู้เฒ่าผู้แก่และเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กๆ ในหมู่บ้าน ผมรู้สึกดีใจที่คุณแม่โทรมา เพราะอย่างน้อยแสดงว่าท่านจำวันเกิดของผมได้ แม้ว่าผมจะไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรกับวันเกิดเพราะมันก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งสำหรับผม แต่ที่ไหนได้วันนี้เป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณแม่ เพราะท่านได้ให้การเกิดผมมาลืมตาดูโลก
พันธกุมภา
ช่วงอาทิตย์กว่าที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่คนรอบข้างผมต้องเสียชีวิตไปมากกว่า 3 คน คนหนึ่งเสียชีวิตด้วยการยิงตัวตาย อีกคนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และคนสุดท้ายเสียชีวิตดูความชรา การจากไปของคนรู้จักเหล่านี้ แน่นอนว่านำมาซึ่งความเสียใจ ความเศร้าโศก และมันก็ทำให้ผมคิดถึง “ความตาย” อยู่ทุกๆ ขณะ เพราะความตายนี้เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราจริงๆ ซึ่งมันเป็นการบอกย้ำธรรมชาติของชีวิตว่าชีวิตทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง
พันธกุมภา
หลังจากวันที่เริ่มบันทึกมาจนถึงวันนี้ ก็ผ่านเลยมาหลายวันแล้ว มีเรื่องราวหลายๆ อย่างเกิดขึ้นในชีวิตแต่เท่าที่สำคัญและจำได้ดีคือ ช่วงวันที่ 5 - 15 มกราคม ที่ผ่านมา ผมและเพื่อนๆ ที่ทำงานสุขภาวะทางเพศประมาณ 20 คนได้เข้าอบรมภาวนาภายในและการเรียนรู้โครงสร้างทางสังคม ที่บ้านสวนธารทิพย์ ซึ่งมีพี่อวยพร เขื่อนแก้ว เป็นกระบวนกรหลัก