Skip to main content

2 กันยายน 2552


นั่งกินมะขามหวานเพลิน ๆ มะขามก็เปรี้ยวขมขึ้นมาทันที

เพื่อนโทรมาบอกว่า เธอไปที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้ยินเสียงตามสายที่ รพ.ขอบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กชาวเขาที่แม่มาคลอดตายที่โรงพยาบาล

แม่มาคลอดตายที่โรงพยาบาล แสดงว่าเธอตายระหว่างคลอด”

เพื่อนตอบว่าใช่

เด็กยังอยู่รอดปลอดภัย”

ใช่”

 

 

ฉันไม่ได้ถามว่าทำไมเธอถึงเสียชีวิตระหว่างคลอดเพราะถึงอย่างไรเธอก็ตายไปแล้ว ส่วนที่ยังเหลือคือลูกของเธอ เด็กที่กำพร้าแม่และสิ่งที่โรงพยาบาลรับผิดชอบคือประกาศรับบริจาคเงินช่วยเหลือ

พ่อของเด็กล่ะ พ่อมีหรือเปล่า”

น่าจะมี”เธอตอบ


ฉันเป็นคนไม่มีลูก ทุกครั้งที่เพื่อนหรือใครมาบอกเล่าเรื่องราวเด็ก เช่นเพื่อนเก่ามีลูกสามคนแล้ว และลูกคนที่สี่เกิดมาพร้อมกับที่พ่อเสียชีวิต หลานเพื่อนตั้งท้องในวัยเรียน พวกเขาเข้ามาจุดประกายให้ฉันอยู่เสมอ ในการตัดสินใจรับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกสักคน แต่ไม่เคยทำสำเร็จสักราย


อย่างเพื่อนที่สามีตายมีลูกสี่คนที่ต้องเลี้ยงดู ลูกคนเล็กอายุแค่เดือนเดียว ฉันก็ลังเลและเธอก็ลังเล เธอบอกฉันว่า ให้ฉันเลี้ยงลูกเธออย่างที่ป้าเลี้ยงหลาน นั่นหมายความว่า เธอยังเป็นแม่ตลอดไปและฉันเป็นป้า ซึ่งก็เป็นไปตามสูตรการเลี้ยงดูที่ต้องบอกความจริงแก่เด็กเพราะถ้าบอกตอนโตหรือเขามารู้ตอนโตเขาจะปรับตัวปรับใจยาก แต่ในที่สุดเธอก็เงียบไปและฉันก็ไม่ตามเรื่อง


รายต่อมาเป็นเด็กสาวพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารที่สามีฉันไปเล่นดนตรีร้องเพลงที่นั่น เด็กสาวเธอจะไปทำแท้ง ฉันบอกเธอว่า อย่าทำเลย ฉันจะรับเลี้ยงเด็กที่เกิดมา และจะดูแลเธอระหว่างตั้งครรภ์ด้วย โดยช่วยค่าห้องพักและอาหาร ฉันไม่มีเงินมากพอแต่พอจะอยู่กันได้ถ้าอยู่อย่างประหยัด และฉันมีเพื่อน ๆ ใจดีอยู่หลายคนที่ฉันเชื่อว่าพวกเขาพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจริงจังมาก เธอนั่งฟังนิ่งเฉยไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ฉันแอบคิดไปเองแล้วว่าเธอตกลง ฉันหาโรงพยาบาลให้เธอไปฝากครรภ์

 

วันหนึ่งในขณะที่ฉันนั่งฟังเพลงสบาย ๆ อยู่ในร้านอาหาร เธอเข้ามาบอกว่า “พี่หนูทำแท้งแล้ว” ฉันรู้สึกใจหายเล็กน้อยแต่ต้องยอมรับทางเลือกของเธอที่เธอเห็นว่าดีที่สุดแล้วในเวลานั้น


รายที่สองนี้ไม่ใช่เด็กสาวแล้วแต่ เป็นสาวใหญ่อายุสีสิบ ฉันไปเป็นเพื่อนเธอหาหมอเพื่อตรวจให้แน่ชัดว่าท้องแน่ ในระหว่างนั้น เธอมาพักผ่อนที่บ้าน นั่ง ๆ นอน ๆ ทำอาหารกิน เธอไม่เคยพูดเรื่องการทำแท้ง แต่พูดเสมอว่า เกิดแล้วจะยกให้พี่ และทุกครั้งที่เธอไปหาหมอ เธอก็จะโทร.มาบอกว่า “ลูกของพี่ทั้งสองสบายดีนะ”


ฉันไม่กล้าถามอะไรมากกว่านั้น เช่น ถามว่าพ่อเด็กเป็นใคร หรือเธอจะให้ลูกแก่ฉันจริงหรือ แต่ฉันก็แอบเตรียมพร้อมเอาไว้ บอกกับสามีว่า ถ้าเขาให้เราก็จะเลี้ยงไปตามสภาพ พอโตขึ้นเราก็ให้กินกล้วยน้ำว้า กล้วยราคาไม่แพง หรือไม่เราจะปลูกก็ได้ เรียนอนุบาลมันแพงไปเราก็สอนเอง ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะเข้าสังคมไม่เป็ นเรามีเพื่อนมากมายไปมาหาสู่ โตขึ้นเรียนโรงเรียนวัดใกล้ๆ แล้วให้เขาเรียนวิชาชีพที่เขาชอบที่สุดไว้เลี้ยงตัวเอง กว่าเราจะแก่ เขาก็ผ่านวัยรุ่นแล้ว มรดกคือหนังสือมากมาย

 

แล้วก็ไม่เป็นจริงเพราะว่า เมื่อเธอคลอดลูกออกมา เธอไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย เธอย้ายกลับไปบ้านเกิดในชนบทและเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง แต่ส่งรูปลูกสาวมาให้ดูเสมอ เล่าถึงเรื่องพัฒนาการของลูกเธอ ตอนนี้แกกำลังเรียนอนุบาลแล้ว

 

 

ข่าวผู้หญิงคลอดลูกแล้วตาย ทำให้ฉันคิดถึงเรื่องราวของเด็ก ๆ ที่ผ่านเข้ามาในใจ เพื่อนยังบอกต่อว่า เด็กเกิดใหม่คนนี้เป็นลูกชาวเขา และเธอคิดว่าถ้าเขาไม่ใช่ลูกชาวเขา ญาติพี่น้องของเขาคงจะร้องขอความกระจ่างว่าทำไมแม่ของเด็กตาย และโรงพยาบาลก็คงจะไม่ทำแค่ประกาศให้คนที่อยู่ในโรงพยาบาลช่วยกันบริจาคแต่อาจจะต้องคิดมากกว่านั้น

เธอยืนยันว่า การรับบริจาคหรือการรวบรวมเงินสักก้อนให้กับพ่อเด็กหรือผู้ดูแลเด็กต่อไปยังไม่เพียงพอเพื่อนฉันบอกว่า การบริจาคก็เป็นเรื่องดีแต่ว่าเขาน่าจะทำอะไรกันมากกว่าการบริจาคเพราะเด็กไม่ได้อยู่แค่ปีเดียว เงินบริจาคอาจจะหมดไปแค่เดือนเดียวปีเดียวแล้วแต่จำนวนเงิน แต่มันไม่ยั่งยืน เด็กจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร ควรจะคิดยาว ๆ ออกไป เช่นว่า การศึกษาของเขา สุขภาพของเขา ทั้งหมดที่ว่าด้วยคุณภาพชีวิตนั่นแหละ

 

ฉันเห็นจริงด้วยกับเธอ บริจาคอย่างเดียวไม่พอ ถ้าจะรับผิดชอบต้องคิดไกลกว่านั้นเพราะชีวิตเด็กคนหนึ่งที่ขาดแม่นั้นเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าการเปิดเสียงทั่วโรงพยาบาลขอรับบริจาคเงิน

 

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
มีคำกล่าวว่า "อาหารอายุสั้น คนกินอายุยืน อาหารอายุยืน คนกินอายุสั้น" แรกที่ฟังก็รู้สึกรำคาญคนพูดนิด ๆ เพราะเรากำลังกินอาหารอายุยืนแต่เราไม่อยากอายุสั้น สงสัยใช่ไหมคะว่าอาหารแบบไหนที่อายุยืน อาหารที่ปรุงแต่งมาเรียบร้อยแล้ว แช่ตู้ไว้ได้นานๆ นั่นคืออาหารอายุยืน กินกันได้นานๆ แช่ไว้ในตู้เย็น อาหารพวกนี้คนกินอายุสั้น แต่อาหารอายุสั้นก็พวกเห็ด ผักบุ้ง พวกเหล่านี้เป็นอาหารอายุสั้นอยู่ได้ไม่นาน แต่คนกินอายุยืน แต่เดี๋ยวนี้มีมะเขือเทศอายุยืนด้วยนะคะ เป็นพวกตัดต่อพันธุกรรมแบบให้ผิวแข็งไม่บอบช้ำในระหว่างขนส่ง
แพร จารุ
  1   เป็นนักเขียนมีความสุขไหม   วันหนึ่งฉันต้องตอบคำถามนี้ “เป็นนักเขียนมีความสุขไหม” ผู้ที่ถามคำถามนี้เป็นเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ ชั้นประถมปีที่ 5 ฉันรู้สึกดีใจที่มีเด็กถามเรื่องความสุขมากกว่าเรื่องรายได้
แพร จารุ
ฉันห่างกรุงเทพฯ มานานจริงๆ นานจนไปไหนไม่ถูก ก่อนฟ้าสางรถทัวร์จอดตรงหัวมุมถนน ฉันเดินตรงเข้าไปทางถนนข้าวสารตามพื้นถนนแฉะ หาที่นั่งรอหลานมารับแต่ก็หาไม่ได้ พื้นแฉะ ๆ ผู้คนกำลังล้างพื้นกันอยู่ จึงตัดสินใจ เดินออกจากถนนข้าวสารมุ่งตรงไปทางกองฉลากกินแบ่งรัฐบาล มีคนจรนอนห่มผ้าเก่า ๆ อยู่มากมาย ตามทางเดิน  
แพร จารุ
มีเพื่อนอย่างน้อยสองคนตกหล่นไปจากชีวิต ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราเขียนจดหมายคุยกันอยู่เสมอ ๆ ต่อมาฉันเลิกตอบจดหมายเพื่อนทั้งสองคน 
แพร จารุ
2 กันยายน 2552 นั่งกินมะขามหวานเพลิน ๆ มะขามก็เปรี้ยวขมขึ้นมาทันที เพื่อนโทรมาบอกว่า เธอไปที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้ยินเสียงตามสายที่ รพ.ขอบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กชาวเขาที่แม่มาคลอดตายที่โรงพยาบาล “แม่มาคลอดตายที่โรงพยาบาล แสดงว่าเธอตายระหว่างคลอด” เพื่อนตอบว่าใช่ “เด็กยังอยู่รอดปลอดภัย” “ใช่”    
แพร จารุ
"อะไรเอ่ยมันโผล่ขึ้นมาจากดิน" คำถามเล่น ๆ ของเด็ก ๆ สมัยก่อนเราจะตอบว่า ขอม เพราะเคยเรียนเรื่องพระร่วง  ตอนขอมดำดิน แต่ เดี๋ยวนี้ถ้าไปตอบว่า "ขอม" เด็กไม่เข้าใจ
แพร จารุ
1 วันก่อนไปท่ากาน (ท่ากานเป็นหมู่บ้านหนึ่ง ในอำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ ) พบเด็ก หญิงสองคน เอาก้านกล้วยมาแกว่งไปมากระโดดเล่นกัน ดูน่ารักดี เป็นการเล่นแบบหาของใกล้ตัวมาเล่นกัน
แพร จารุ
10 กันยายน 2552 น้องคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกว่า “มีเรื่องตลกเศร้ามาเล่าให้ฟัง” ฉันหัวเราะ ไม่อยากฟังเธอเล่าอะไรเลยเพราะกำลังเจ็บหูอย่างแรง กำลังจะไปหาหมอ แต่เธอรีบบอกก่อนว่า “พี่ยังไม่รู้ใช่ไหม ลุงหมื่นแกฝายพญาคำ กับพ่อหลวงสมบูรณ์ ผู้ช่วยแกฝาย เขาเซ็นยินยอมให้กรมชลประทานสร้างประตูระบายน้ำแล้ว”
แพร จารุ
   บก.สุชาติ สวัสดิ์ศรี เทียบเชิญฉันเขียนเรื่องสั้น ช่อการะเกด ฉบับเทียบเชิญนักเขียนเก่าที่เคยเขียนช่อการะเกด
แพร จารุ
เธอนิ่งเงียบหลังจากกินอาหารเสร็จ "เศร้าทำไม" ฉันถามเธอ "กำลังดูกระถางต้นไม้อยู่" เธอตอบไม่ตรงกับคำถาม ฉันมองไปที่กระถางต้นไม้ มีอะไรตายอยู่ในนั้นที่ทำให้เธอเศร้า หรือว่าเศร้าที่ต้องมากินอาหารใต้ที่เมืองเหนือทั้งที่เธอเพิ่งเดินทางมาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
แพร จารุ
 ผู้ชายคนหนึ่ง เลี้ยงปลวกเพื่อเอาปลวกไปเลี้ยงปลาดุก เขาบอกว่า เขาเฝ้ามองปลวกตัวอ้วน ๆ ที่ค่อยเติบโตขึ้น และเอาปลวกไปให้ปลาดุกกิน เขาอธิบายตัวเองว่าเป็นวิถีแห่งสัตว์โลก วิธีการใช้ชีวิตให้อยู่รอดฉันแค่สะดุดใจตรงที่เลี้ยงดูเขาไว้ก่อนแล้วค่อยจัดการ ฉันคิดว่า ถ้ามันกินกันเองตามวิถีชีวิตไม่เป็นไรฉันคิดถึงถ้อยคำหนึ่ง จำไม่ได้แล้วว่า ใครพูด "เขารัก...เหมือนคนเลี้ยงหมูรักหมูที่เลี้ยงไว้" นั่นหมายถึงรักและดูแลอย่างดีเพื่อเอาไว้ฆ่าและขาย
แพร จารุ
1  ฉันเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความตายครั้งแรกเมื่อพ่อตายจากไป ในวันที่แม่ พี่ ๆและ ญาติ ๆ ต่างช่วยกันจัดงานให้พ่อ ผู้หญิงเตรียมอาหาร ปอกหอมกระเทียม เด็ดก้านพริกขี้หนู หั่นตะไคร้ ผู้ชายเตรียมไม้ฟืนเพื่อทำอาหาร หุงข้าว ต้มแกง ต้องหุงข้าวด้วยกระทะใบใหญ่  ต้องทำอาหารจำนวนมากในเวลาหลายวัน เรามีญาติเยอะ มีเพื่อนบ้าน และคนรู้จักมากมาย เพราะเราไม่ได้มีพ่อที่ดีต่อลูกเท่านั้นแต่มีพ่อที่ดีต่อผู้อื่นด้วย