Skip to main content

แพรจารุ


 

          อยู่ที่ไหนก็กินอาหารที่นั่นแล้วชีวิตจะง่ายขึ้น อย่าพยายามหาของกินต่างถิ่น หรือของกินที่เราคุ้นเคย เพราะมันจะแพง พูดง่าย ๆ คือ มีอะไรก็กินอย่างนั้น และกินตามฤดูกาลเพราะของนอกฤดูกาลจะเกิดขึ้นมาเองไม่ได้ มันต้องใช้ความพยายามโดยคนและสารเคมีสารเร่งผลผลิต

           ช่วงหนึ่งฉันจำได้ว่า รู้สึกตัวเองเท่ที่ได้ซื้อผลไม้นอกฤดูกาลกิน คุยโวโอ้อวดดูเหนือกว่าผู้อื่น  แต่มาภายหลังรู้สึกตลกกับความคิดแบบนี้ ยิ่งมารู้ว่า ผลไม้พืชผักนอกฤดูกาล  ต้องใช้เคมีต้องใช้สารเร่ง คล้าย ๆ กับต้นไม้โดนขืนใจให้ออกลูกผล ต้นไม้ผลไม้จะไม่มีความสุขเพราะไม่ได้อยู่กันตามธรรมชาติ ก็รู้สึกเศร้าใจที่มีส่วนในการกระทำหรือสนับสนุนการกระทำนั้น

             เดือนที่ผ่านมา หลานสาวมาเที่ยวเชียงใหม่ ที่บ้านทุ่งเสี้ยว  ฉันบอกเธอว่ามีร้านอาหารใต้ที่นี่ เธอบอกว่าสนใจของกินเมือง ๆ มากกว่า(ของกินเหนือ ๆนั่นแหละ) โดยเฉพาะอาหารที่ไม่เคยได้กินมาก่อน  เช้านี้จึงนำเสนอน้ำผักให้เธอได้ลองกิน  

             น้ำผักมื้อนี้ไมได้ทำเองนะคะ เพราะการทำน้ำผักนั้นต้องใช้เวลาหลายวัน ไม่ใช่ทำเดี๋ยวนี้แล้วกินได้เลย ดังนั้นจึงไปที่ตลาดทุ่งเสี้ยวเป็นตลาดเช้าที่เช้ามากที่สุดเลยจริง ๆ  เพราะเขาจ่ายกันตั้งแต่เที่ยงคืนตีหนึ่งเป็นต้นไป เพราะเป็นตลาดขายส่ง

              บางครั้งมีเพื่อน ๆ อยู่ปาร์ตี้กันถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งก็จะชวนกันไปเดินตลาดเล่นเพลิน ๆ ไม่ต้องคิดถึงสุขภาพบ้างในบางช่วง เพราะมีขนมจีนน้ำเงี้ยวยามดึกที่ควันฉุยหอมกรุ่น ก๊วยจั๊บ ข้าวหลาม  ขนมทอด ข้าวเหนียวปิ้งให้เลือกกินแบบบันเทิง ๆ แม่ค้าจะมาทำขายแบบขายส่งมีแม่ค้ารายย่อยมารับไปขายอีกทีหนึ่ง อาหารปรุงใหม่ ๆ ของสดใหม่และถูกจะมีตอนนี้

          แต่ถ้ามา เจ็ดโมงเช้าถือว่าสายแล้วสำหรับตลาดนี้ ต้องซื้อมือสองแล้ว มือสองคือแม่ค้าที่รับมาอีกทีหนึ่ง  มาตลาดสายก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสียทีเดียวเพราะยังมีแม่ค้าที่มาสาย ๆ อยู่บ้าง ด้านข้างตลาดที่วางกับพื้นจะมีแม่ค้าแบบ”อุ๊ย”ที่เก็บของจากบ้านจากสวนมาขาย  อันนี้ไม่ผ่านคนกลางแน่นอน พวกผักแกงแค บะลิดไม้ หัวปลี หน่อส้ม แหนมเห็ด ผักกาดเมือง ผักบุ้งบ้าน ผักกินกับลาบ น้ำพริกน้ำแดง น้ำพริกน้ำปู๋ น้ำพริกน้ำผักก็อยู่ในส่วนนี้

            น้ำผักของอุ๊ย (คุณยาย) อาหารพวกนี้ส่วนใหญ่มีแต่คนระดับยายเท่านั้นที่ทำมาขาย ฉันเข้าใจว่า เด็กรุ่นใหม่ทำไม่เป็นแล้ว

            หลานสาวถามอย่างสนใจว่า ทำอย่างไร

              ยายใจดีรีบบอกว่าไปหาผักกาดมาก่อน ดีที่ยายไม่บอกให้ไปปลูกผักกาดเขียวหรือผักกวางตุ้งก่อน

               วิธีทำเมื่อได้ผักกาดมาแล้วล้างให้สะอาดแล้วเอามาต่ำจนแตกแหลกบีบน้ำออกแล้วแล้วเอาไปดองเกลือไว้สามวันจากนั้นยกขึ้นมาแล้วสับให้ละเอียดแล้วเอาไปต้มให้สุก แล้วก็ปรุงรส  ด้วย พริกแห้ง ข่า ย่างไฟให้หอมก่อน เพิ่มกระเทียมลงไปเล็กน้อย ต่ำให้ละเอียด เอาไปคลุกกับน้ำผัก หรือจะเอาน้ำผักมาใส่ครกตำเบา ๆ ในครกก็ได้แล้ว เหยาะผงชูรสลงไปนิดเหนึ่ง ใครไม่กินผงชูรสก็ไม่ต้องใส่แต่ของยายใส่นิดหนึ่งเพิ่มรสชาติ

              น้ำผักจะมรสเปรียวเค็มและเผ็ดรสชาติแบบนี้ทำให้เจริญอาหารดีนักแล

 

 

ปล.สูตรของอุ้ยเอามาดองก่อนสับแต่บางคนสับก่อนดองก็ได้เหมือนกันค่ะ

             

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
ถ้าฉันพูดว่า อย่าเอาดอกไม้มาให้ฉันถ้าเธอไม่ได้ปลูกเอง เธออย่าโกรธฉันนะ ฉันจะเล่าให้เธอฟัง วันหนึ่งก่อนฤดูฝน ฉันเดินทางไปหมู่บ้านหลังดอยอินทนนท์  ฉันพบผู้ชายคนหนึ่ง เขาพูดว่า"เอาดอกไม้ของฉันออกจากหน้าอกเธอ"หนุ่มใหญ่คนหนึ่งพูดขึ้น หญิงสาวมีสีหน้าแปลกใจคงสงสัยว่าเธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจ จึงไม่ยอมเอาดอกไม้ออกจากกระเป๋าเสื้อ "เอาออกเถอะ" เขายืนยันอีกครั้ง แต่หญิงสาวยังไม่ทำตาม ยังคงเอาดอกไม้เหน็บในกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอกต่อ ในที่สุดเขาก็บอกว่า " มันอันตราย ดอกไม้ฉันมีแต่ยา"
แพร จารุ
หมู่บ้านหายโรงเรียนร้าง เดือนก่อนฉันเดินทางไปที่หมู่บ้านหนึ่ง แถวเชียงดาว ไกลเข้าไปในป่า พบโรงเรียนร้างไม่มีเด็ก ไม่มีครู โรงเรียนถูกปิดเพราะไม่มีเด็กเรียน และไม่ใช่แค่โรงเรียนร้างเท่านั้น หมู่บ้านก็หายไปด้วย  ผู้ชายคนหนึ่งเล่าให้ฉันฟังว่าหมู่บ้านนี้ถูกซื้อไปแล้ว "จริงเหรอ เหมือนโฆษณาเลย โฆษณาอะไรนะ ที่ผู้ชายคนหนึ่งถามซื้อเกาะให้ผู้หญิง" ใครคนหนึ่งพูดขึ้น"ไม่ใช่แค่โฆษณาหรอก ละครโทรทัศน์ก็มีเหมือนกัน ชายหนุ่มคนหนึ่งเขาซื้อเกาะให้หญิงสาวเป็นของขวัญหากเธอแต่งงานกับเขา" ฉันบอกพวกเขา
แพร จารุ
แปลกใจใช่ไหมค่ะ ต้นไม้ใหญ่ อ่างเก็บน้ำและหมีแพนด้า  มันเกี่ยวกันอย่างไร  เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ  เดือนฉันก่อนไปศาลากลางมา  ที่หน้าศาลากลางมีคนมากมาย มีชาวบ้านมาประท้วงเรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำ 
แพร จารุ
ในขณะที่ผู้คนที่มาดูต้นไม้ ต่างตื่นเต้นกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ใหญ่ที่สุดที่นี่คือต้นจามจุรีหรือต้นก้ามปูที่สโมสรเชียงใหม่ยิมคานา เป็นสนามกอล์ฟเก่า เขาเล่ากันว่าต้นไม้นี้มีอายุมากกว่าร้อยปี ส่วนสูง 15 เมตร ผ่านการประกวดต้นไม้ใหญ่ที่ได้รับรางวัลของเทศบาลมาแล้ว
แพร จารุ
"ที่ซึ่งหนุ่มสาวหอบฝันมาทิ้ง" ฉันบอกเพื่อน ฟังดูน่าตกใจและดูจะเป็นคนใจร้ายไปสักหน่อย และหากว่าน้อง ๆ หนุ่มสาวที่นี่ได้ยินฉันพูดทำนองนี้ พวกเธออาจเสียกำลังใจ เพราะการเดินทางครั้งนี้เราพบหนุ่มสาวพวกที่ฉันคิดว่าเป็นพวก"หอบความฝัน"มากมายหลายคนทีเดียว
แพร จารุ
"ปายแบบเมื่อก่อนจะไม่กลับมาอีกแล้ว เรามาค้นหาคุณค่าใหม่กันเถอะ" เพื่อนคงรำคาญที่ฉันพร่ำเพ้อถึงความหลังครั้งก่อน (ฉันเขียนมาถึงตอนนี้เมื่อฉบับที่แล้ว )  เราได้เพื่อนใหม่ทันที เธอชื่อเนเน่ เธอบอกว่า เธอเดินทางมาที่นี่ปีละหลาย ๆ ครั้ง และแม้ปายจะเปลี่ยนไปอย่างไรเธอก็ยังชอบปาย เธอมาเพื่อหาที่นั่งอ่านหนังสือสบาย ๆ ช่วง เย็น ๆ ก็ออกเดินเล่นไปตามถนน เดินคุยกับคนโน้นคนนี้เพราะผู้คนส่วนมากเป็นมิตร
แพร จารุ
  1 ปาย เปลี่ยนไปมาก และที่ฉันไม่กล้าไปปายก็เพราะกลัวความเปลี่ยนแปลง กลัวจะเสียใจกับความเปลี่ยนแปลงก็เลยพยายามจะลืมปายทำเหมือนหนึ่งว่าไม่เคยมี ไม่เคยไป
แพร จารุ
"ป้าไฟไหม้ ไฟไหม้ " หลานสาวส่งเสียงอยู่หน้าบ้าน "ไฟไหม้ที่ไหน" ฉันถาม เดี๋ยวนี้อาการตื่นกลัวเรื่องไฟไหม้ป่าหลังบ้านลดลงไปแล้ว หากเป็นเมื่อสองปีก่อน ฉันจะกลัวมาก กลัวจนตัวสั่นและรีบโทรศัพท์ไปแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายทันที และบางครั้งก็ลงมือดับไฟเองก่อนที่รถดับเพลิงจะมา พร้อมกับบ่นด่าคนที่ทำไฟไหม้ คนที่มาเก็บของกินในสวนร้างแต่ไม่เคยสนใจหน้าแล้งยามที่ไม่ค่อยมีอะไรเก็บกิน และเจ้าของสวนที่ทิ้งสวนตัวเองไว้แล้วไม่มาดูแล  รวมถึงดับเพลิงที่มาช้าไม่ทันใจ
แพร จารุ
"อย่าลืมเอาถุงผ้าไปซื้อของ" ฉันเคยบอกใครต่อใครจนเขาเบื่อหน่ายกันแล้ว "อย่าเอาถุงพลาสติกเข้าบ้านถ้าไม่จำเป็น"และทุกครั้งที่ฉันเห็นถุงพลาสติกที่ใส่อาหารแล้ววางทิ้งไว้บนโต๊ะ ก็จะรู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีและรีบเก็บแต่ถุงพลาสติกก็ไม่เคยหมดไปจากบ้านฉัน มันวางอยู่ตรงโน้นตรงนี้เสมอ ๆ
แพร จารุ
ผู้ชายคนหนึ่งนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาขยันมาก นั่งทำงานทุกวัน เขามีเมียขี้คร้านกับหมาพุดเดิ้ลตัวเล็ก ๆ ที่ส่งเสียงเห่าแหลมเล็กทั้งวันทั้งคืน เสียงหมาเห่าดังมาก  แต่เขายังนั่งทำงานอย่างไม่สนใจ  เมียเขานอกจากขี้คร้านแล้วขี้รำคาญด้วย เธอจึงลุกขึ้นไปที่ประตูอย่างหงุดหงิดรำคาญใจเพราะเธอกำลังนอนอ่านหนังสืออย่างสำราญอยู่ ประตูบ้านยังไม่ปิด บ้านนี้ประตูจะไม่ปิดจนกว่าเจ้าของบ้านจะนอน  ลักษณะพิเศษคือเจ้าของบ้านไม่ชอบปิดประตู เปิดไว้ทั้งวันทั้งคืน
แพร จารุ
 หน้าร้อนใคร ๆ ก็ไม่อยากมาเชียงใหม่ อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวเลย คนที่อยู่เชียงใหม่ที่พอออกจากเมืองได้ก็จะพากันออกจากเมืองไปพักผ่อนที่อื่นฉันเป็นคนหนึ่งที่หนีออกจากเมืองเชียงใหม่ในช่วงหน้าร้อนเสมอ ให้เหตุผลกับตัวเองว่า ถือโอกาสกลับใต้ เป็นการกลับบ้านปีละครั้ง
แพร จารุ
“บ้านฉันไม่ได้อยู่ใกล้สถานบันเทิงเลยค่ะ แต่หนวกหูมากเหมือนกัน” ฉันบอกเพื่อนที่โทรศัพท์มาปรึกษาเรื่องที่บ้านของเธออยู่ใกล้สถานบันเทิง หลังจากที่ ฟังเธอบ่นปรับทุกข์ เรื่องเสียงเพลงหนวกหูจากสถานบันเทิง เธอเล่าว่าย้ายบ้านจากกรุงเทพฯ มาอยู่ต่างจังหวัดได้ไม่นาน ร้านอาหารคาราโอเกะก็มาเปิดข้างบ้าน